xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” เย้ยโฟนอิน “แม้ว” แค่นักโทษแอบโทร.หาญาติ จี้หยุดป่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์
“เทพไท” เย้ย “แม้ว” โฟนอินคร่ำครวญเหมือนนักโทษหนีคุกแล้วแอบโทรศพท์เข้ามาหาญาติให้สร้างความปั่นป่วนในชาติ ชี้คนส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญ แฉเจตนา “ม็อบเสื้อแดง” ต้องการป่วนช่วงประชุมอาเซียน ชี้พิรุธดีเอสไอคุ้ยเงิน 250 ล้าน ดิสเครดิต ปชป.จี้เปิดไอ้โม่งคนร้องเรียน

วันนี้ (16 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ส่วนตัวเห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ให้ความสนใจแล้วเพราะเป็นการคร่ำครวญถึงเรื่องของตนเองและเป็นเรื่องเดิมๆ เพราะมีสถานะภาพเป็นนักโทษหนีคุก ก็ไม่ต่างอะไรจากนักโทษที่หนีคุกแอบผู้คุมใช้โทรศัพท์โทร.หาญาติ ซึ่งการโฟนอินครั้งนี้ก็เป็นการส่งสัญญาณหลายอย่าง เช่น การส่งสัญญาณให้พรรคเพื่อไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ระบุเองว่าจะได้เห็นอะไรบางอย่างในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้งที่พรรคเพื่อไทยเองก็ไม่มีความพร้อมในการอภิปรายเพราะยังไม่มีเอกภาพในพรรค

นอกจากนี้ยังมีการส่งสัญญาณถึงมวลชนคนเสื้อแดงให้เคลื่อนไหวเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะที่จะนัดชุมนุมล้อมทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 24 ก.พ. ที่บอกว่าจะชุมนุมยืดเยื้อ ซึ่งตนคิดว่าเป็นการกดดันรัฐบาล สร้างความวุ่นวายและทำให้เห็นว่ารัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ มุ่งหวังทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลที่มีต่อคนในชาติและชาวต่างประเทศ

นอกจากนี้ นายเทพไทกล่าวอีกว่า ยังทำให้กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ไม่มั่นใจต่อสถานการณ์การเมืองภายในประเทศจะส่งผลกระทบต่อการประชุมอาเซียน ซัมมิทในปลายเดือนนี้ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้แกนนำเสื้อแดงยุติการเคลื่อนไหวในช่วงนี้ แม้จะมีสิทธิการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญก็ตาม แต่ขอให้ยุติการเคลื่อนไหวให้รักษาหน้าตาของประเทศชาติมากกว่ารักษาหน้าตาของรัฐบาล ซึ่งหลังการประชุมอาเซียนซัมมิต เสร็จแล้วค่อยเคลื่อนไหวชุมนุมกันเต็มที่ ไม่ควรดำเนินการเพื่อสนองตัญหาเพื่อคนคนเดียว โดยทำลายความน่าเชื่อถือของคนในชาติ

ถามว่า ขณะนี้มีกระแสจากพรรคเพื่อไทยที่จะชะลอการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติออกไปก่อน นายเทพไทตอบว่า การจะเสนอเรื่องใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นร่าง พ.ร.บ.แห่งชาติหรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ควรจะสร้างความสับสนให้ประชาชน ในพรรคเพื่อไทยเองควรที่จะมีการหารือภายในให้ได้มติพรรคออกมาไม่ใช่ใช้เสียงตบมือเป็นมติ ควรทำให้พรรคของตนเองมีเอกภาพ ไม่ใช่เสนอประเด็นการเมืองตามอารมณ์ของแต่ละคน เพราะไม่รู้ว่าแต่ละคนที่เสนอในแต่ละเรื่องเป็นอารมณ์ของแต่ละคนหรือไม่ ควรจะเป็นประเด็นของพรรคไม่ใช่ของรายบุคคลที่สร้างความสับสนให้สังคม

เมื่อถามว่า กรณีที่กรมสืบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับสอบสวนคดี 250 ล้านบาท นายเทพไท ตอบว่า กรณีนี้เริ่มจากบริษัท พีทีไอ ดำเนินธุรกิจไม่ชอบมาพากลเพราะเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีเรื่องการยักยอกเงินหรือไม่ แต่ทำไปทำมากลับมีเรื่องโยงมาถึงพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น ดีเอสไอเองน่าจะไปสอบที่บริษัท พีทีไอ ก่อนว่ามีการยักยอกเงินจริงหรือไม่ แต่ดีเอสไอกลับหันมาหยิบยกประเด็นรองขึ้นมาตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์แทนที่จะสอบประเด็นหลัก ตนจึงขอถามว่า เรื่องนี้จุดเริ่มต้น ใครเป็นโจทย์ผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้เปิดเผยเพื่อที่สังคมจะได้รู้ว่าดีเอสไอทำงานเพื่อสนองการเมือง ดิสเครดิสพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ส่วนตัวเองคิดว่า รมว.ยุติธรรม คงจะไปดูในรายละเอียดว่าใครเป็นผู้ที่เริ่มต้นยื่นร้องเรียนในกรณีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น