โฆษกส่วนตัวนายกฯ เตือน เพื่อไทย อย่าสวนความรู้สึกประชาชน แนะให้ย้อนระลึกบทเรียนยุคหอกหัก เชื่อ เสนอ พ.ร.บ.ปรองดอง แค่เกมล่อให้พรรคร่วมงับเหยื่อ มั่นใจพรรคร่วมเสียงไม่แตก ชี้ ไม่ใช่เรื่อง ค้านทำประชามติผลาญงบเปล่าประโยชน์
วันนี้ (15 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีพรรคร่วมเห็นด้วยกับการเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ของพรรคเพื่อไทย ว่า การเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ เป็นเกมการเมือง โยนเหยื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลงับ เพื่อสร้างความแตกต่างทางความคิดในเรื่องนี้ของพรรคร่วมรัฐบาล ตนคิดว่า เป็นไปไม่ได้ วันนี้รัฐบาลยังเป็นปึกแผ่น ตนยืนยันว่า พรรคร่วมคงไม่ตกเป็นเหยื่ออย่างแน่นอน ท่าทีของรัฐมนตรีบางคนที่อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังมีความรู้สึกว่าเร็วเกินไปที่นำเรื่องนี้ขึ้นมาพูด ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็เห็นมีแต่ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย พูดเพียงคนเดียว นายประจักษ์ และ นายบุญจง ก็พูดไปอีกแนวหนึ่ง
“เรื่องนี้แต่ละพรรคยังไม่ตกผลึก ยังเป็นเรื่องที่โยนเข้ามาในวงสังคมให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ถึงที่สุดแล้วหากพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ก็จะได้รู้ว่าสังคมคิดอย่างไร การทำเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส.ส.ฝ่ายเดียว ต้องเป็นเรื่องขององค์กรภาคประชาชนในสังคมด้วย สังคมได้บทเรียนมาจากการที่รัฐบาลของ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ เสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนกลายเป็นประเด็นทางการเมือง วันนี้หากมีใครหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา ก็เหมือนเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ พรรคการเมืองทุกพรรคคงไม่อยากให้บ้านเมืองไปสู่ทางตัน ยกเว้นพรรคเพื่อไทยที่หมดสิ้นทุกอย่าง คิดต่อว่าหากสุดท้ายไปไม่รอด เพื่อยุบสภา ให้ตัวเองกลับมาได้อีก ส่วนอดีต 111 คน อาจจะมีบางคนที่สนับสนุนแนวคิดนี้ แต่เชื่อว่า ส่วนใหญ่ถ้าเห็นว่าบ้านเมืองเดินหน้าไปได้แล้วก็น่าจะเสียสละผลประโยชน์ของตัวเอง ก็น่าจะเสียสละเพื่อประโยชน์เพื่อประเทศชาติ”
เมื่อถามว่า จะให้มีการทำประชามติโดยรวมประเด็นการเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ และการแก้รัฐธรรมนูญ 50 หรือไม่ นายเทพไท กล่าวว่า คงไม่จำเป็น เพราะนายกฯ มีแนวคิดตั้งคณะกรรมการปฏิรการเมืองขึ้นมาแล้ว หากทำประชามติก็จะเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ โดยเฉพาะเศรษฐกิจในปัจจุบัน