xs
xsm
sm
md
lg

ตีสองหน้า เล่นสองบท ชิงปัดพ้นตัว!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยงยุทธ ติยะไพรัช
ช่างบังเอิญเหลือเกินสำหรับการออกมาแถลงข่าวอย่างเอะอะโครมครามอีกครั้งของ “ยุทธ ตู้เย็น” หรือ ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนที่เคยถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิพากษาว่ามีความผิดฐานทุจริตเลือกตั้ง และนำไปสู่การยุบพรรคพร้อมกับพวกอีกยกเข่งตามมา

ล่าสุด ยุทธ ออกมาโวยวายทำนองว่าตัวเองถูกกลั่นแกล้ง ถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดี “ชิปปิ้งหมู” หรือ กรเทพ วิริยะ พยานปากสำคัญในคดีเลี่ยงภาษีนำเข้าอุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคมของบริษัทชินแซทเทิลไลท์ของตระกูลชินวัตร ที่ถูกสังหารโหด ที่รอยต่อ อ.แม่จัน กับ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2546

ขณะเดียวกันจู่ๆ ก็มีการเปิดเทปอ้างว่าจากกล้องวงจรปิดเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2549 ฉายภาพให้เห็นว่า ตนเองถูกทหาร คมช.บุกเข้าค้นบ้านหลังการรัฐประหาร 1 วัน

เอาสองกรณีมารวมกันแล้วสรุปว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองอย่างไม่เป็นธรรม หน้าตาเฉย

ทั้งที่หากแยกเรื่องออกจากกันมันก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง และเกิดขึ้นคนละเหตุการณ์ ต่างกรรมต่างวาระ

เพราะกรณีถูกทหารบุกเข้าค้นบ้านเมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน ต่อเนื่องมาถึงวันที่ 20 กันยายน 2549 ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากในยุคนั้นใครๆ ย่อมรู้ว่า ยงยุทธ เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในยุครัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ย่อมต้องถูกควบคุมตัว ถูกตามประกบเหมือนอีกหลายคน เช่น พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และ เนวิน ชิดชอบ เป็นต้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก สังคมรับรู้ไปแล้ว

ขณะที่คดีชิปปิ้งหมู ที่เพิ่งถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่โดยคำสั่งของนายกรัฐมนตรีและมอบหมายให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบ

อย่างไรก็ดี หากมองในแง่พิรุธ มันก็เห็นอะไรบางอย่าง ทั้งการสืบค้นหาหลักฐานก็เริ่มเดินหน้าอย่างจริงจัง นายตำรวจมือดีที่เคยทำคดีสำคัญหลายคน ก็ถูกสับเปลี่ยนย้ายเข้าพื้นที่

เริ่มเห็นสัญญาณว่ามีโอกาสปิดคดีได้อีก หลังจากก่อนหน้านี้สามารถตามจับผู้ต้องหาลอบยิงสามีรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติสแตมฟอร์ด ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส จนสามารถสรุปสำนวนกันไปแล้ว

มีรายงานว่า คดีฆ่าชิปปิ้งหมูเริ่มได้เค้า“คนชักใย” อยู่เบื้องหลังเป็นระดับ “รองบิ๊กโม่ง” หากโชคดีอาจสาวต่อไปถึง “ซุปเปอร์บิ๊กโม่ง” ก็เป็นได้ เพราะลงมืออย่างย่ามใจ เพราะมั่นใจว่า “นายใหญ่” คุ้มกบาลได้ อีกทั้งยังเชื่อว่าอำนาจไม่มีวันเปลี่ยนมือ

ทำให้ทิ้งร่องรอยให้ดมกลิ่นตามหลังได้ไม่ยากนัก ที่สำคัญ “ฟ้าเปิด” อย่างที่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธานี ในฐานะหัวหน้าทีมรับผิดชอบคดีสำคัญเคยกล่าวเอาไว้

แม้ว่า การออกมาแถลงข่าวอย่างครึกโครมของ ยงยุทธ คราวนี้จะไม่อาจสรุปได้ว่า เกี่ยวข้องกับคดีสังหารชิปปิ้งหมู ได้อย่างไร แต่ช่วยไม่ได้ที่จะต้องถูกย้อนศรกลับไปว่า “กินปูนร้อนท้อง” แทนที่จะรอให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินต่อไปตามปกติ

ถ้าบริสุทธิ์ก็ควรให้ความร่วมมือ แต่เมื่อโวยวายกันตั้งแต่ต้นมือแบบนี้ ก็ย่อมถูกมองแบบตั้งข้อสงสัย

อย่างไรก็ดี เพื่อให้เห็นภาพมาปะติดปะต่อกันเมื่อครั้งที่ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตรวจสอบคดีทุจริตเลือกตั้งที่จังหวัดเชียงรายก่อนหน้านี้ ยุทธ คนเดียวกันนี่แหละออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวในสำนักงานกกต.กันเลยทีเดียว กล่าวหาพยาน กล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีว่ามีอคติ สร้างหลักฐานเท็จ ตั้งธงเพื่อเอาผิด

แต่ในที่สุด กกต.ก็ไม่ได้ให้น้ำหนัก และสรุปว่ามีความผิดให้ใบแดงพร้อมส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งชี้ขาด และผลก็ออกมาเหมือนเดิม แม้ว่าอีกด้านหนึ่งจะพยายามแสดงให้สังคมเห็นว่า ตัวเองมีสปิริตด้วยการหยุดการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเอาไว้ชั่วคราว แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น

เพราะเมื่อศาลพิพากษาออกมาว่ามีความผิด เชื่อหลักฐานว่าทุจริตเลือกตั้ง ทุกอย่างก็จบเห่ พังกันทั้งขบวนดังที่เห็น

ดังนั้น การโผล่หน้าออกมากล่าวหาว่าถูกใส่ร้าย ถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อหวังผลทางการเมือง ในคดีฆ่าชิปปิ้งหมู จะซ้ำรอยเหมือนกับคดีทุจริตเลือกตั้งที่เชียงรายหรือไม่ อีกไม่นานก็น่าจะมีผลสรุปออกมาให้เห็นกันแล้ว!!
กำลังโหลดความคิดเห็น