อดีตผู้การมือปราบ ยันสู้ถึงที่สุดเหตุโดนเซียนพระลูบคมสับเปลี่ยนหลวงพ่อแดง ลั่นมีหลักฐานชัดเอาผิดอาญาได้แน่
จากกรณี พล.ต.ต.ณพรรษ หรือวิชัย เย็นสุดใจ อายุ 62 ปี อดีต ผบก.ทล.ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายสหทรรศน์ ชัยมงคล และนายธนัท มาระตะ หุ้นส่วนศูนย์เช่าพระเครื่อง “พรทวี” ชั้น 3 พันธุ์ทิพย์พลาซา ถ.งามวงศ์วาน อ.เมือง นนทบุรี เหตุถูกสับเปลี่ยนเหรียญทองคำรูปหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี นั้น
วันนี้ (25 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ณพรรษ หรือวิชัย เย็นสุดใจ อดีต ผบก.ทล. กล่าวว่า จากเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้ไม่ไว้วางใจกับศูนย์พระเครื่องที่มีขนาดใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากมองว่าคงมีคนถูกหลอก ถูกต้มตุ๋นเช่นตนเองอีกมากแต่ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาแจ้งความดำเนินคดี ดังนั้น ตนจึงอยากจะขอแฉพฤติกรรมแก๊งนักต้มตุ๋นให้รับรู้กันไปเลยว่ามีพฤติกรรมเช่นไร
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตนได้เข้าแจ้งความไปแล้วได้มีการเรียกสอบพยานฝ่ายตน 2 ปาก แต่ในทางของผู้ถูกกล่าวหาไม่ขอให้รายละเอียดแต่ขอสู้กันในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งคดีนี้เป็นคดีอาญายอมความกันไม่ได้
“ผมไม่เสียดายพระหรอก แต่ศักดิ์ศรีของเราก็ต้องมีมาหลอกลวงกันง่ายๆ ได้ไง เพราะความไว้วางใจจึงทำให้ขบวนการพวกนี้ทำกับผมได้ ผมมีหลักฐานรูปถ่ายพระหลวงพ่อแดงองค์จริงซึ่งเป็นองค์เดิมที่มีตำหนิ และแตกต่างจากองค์ที่ถูกสับเปลี่ยน ซึ่งเชื่อมั่นว่าสามารถเอาผิดในคดีอาญากับพวกที่สับเปลี่ยนพระผมได้ ผมปฏิบัติหน้าที่มาไม่เคยเจอแบบนี้ จึงอยากให้ประชาชนที่ถูกหลอกลวงไม่ต้องอาย ให้ออกมาแจ้งความเอาผิดกับคนที่ทำผิดกฎหมาย และให้รู้กันไปทั่วเลยว่า ศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดยังทำกับผมได้ ใครก็ตามอย่าไปหลงเชื่อ” พล.ต.ต.ณพรรษ กล่าว
พล.ต.ต.ณพรรษ กล่าวต่อไปว่า อยากขอเตือนให้ประชาชนที่ไปประกวดพระเครื่องระมัดระวัง เกรงอาจถูกสับเปลี่ยนพระ ซึ่งจะไปโทษใครก็ไม่ได้ เอาผิดใครก็ไม่ได้ ซึ่งถึงแม้ว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาจะไม่ให้การในชั้นสอบสวน ขอสู้กันในชั้นศาล ตนก็มั่นใจว่าพระของตนเองถูกสับเปลี่ยน
อดีตผู้การมือปราบ โดนเซียนพระลูบคมเปลี่ยนหลวงพ่อแดง
จากกรณี พล.ต.ต.ณพรรษ หรือวิชัย เย็นสุดใจ อายุ 62 ปี อดีต ผบก.ทล.ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายสหทรรศน์ ชัยมงคล และนายธนัท มาระตะ หุ้นส่วนศูนย์เช่าพระเครื่อง “พรทวี” ชั้น 3 พันธุ์ทิพย์พลาซา ถ.งามวงศ์วาน อ.เมือง นนทบุรี เหตุถูกสับเปลี่ยนเหรียญทองคำรูปหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี นั้น
วันนี้ (25 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ณพรรษ หรือวิชัย เย็นสุดใจ อดีต ผบก.ทล. กล่าวว่า จากเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้ไม่ไว้วางใจกับศูนย์พระเครื่องที่มีขนาดใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากมองว่าคงมีคนถูกหลอก ถูกต้มตุ๋นเช่นตนเองอีกมากแต่ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาแจ้งความดำเนินคดี ดังนั้น ตนจึงอยากจะขอแฉพฤติกรรมแก๊งนักต้มตุ๋นให้รับรู้กันไปเลยว่ามีพฤติกรรมเช่นไร
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตนได้เข้าแจ้งความไปแล้วได้มีการเรียกสอบพยานฝ่ายตน 2 ปาก แต่ในทางของผู้ถูกกล่าวหาไม่ขอให้รายละเอียดแต่ขอสู้กันในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งคดีนี้เป็นคดีอาญายอมความกันไม่ได้
“ผมไม่เสียดายพระหรอก แต่ศักดิ์ศรีของเราก็ต้องมีมาหลอกลวงกันง่ายๆ ได้ไง เพราะความไว้วางใจจึงทำให้ขบวนการพวกนี้ทำกับผมได้ ผมมีหลักฐานรูปถ่ายพระหลวงพ่อแดงองค์จริงซึ่งเป็นองค์เดิมที่มีตำหนิ และแตกต่างจากองค์ที่ถูกสับเปลี่ยน ซึ่งเชื่อมั่นว่าสามารถเอาผิดในคดีอาญากับพวกที่สับเปลี่ยนพระผมได้ ผมปฏิบัติหน้าที่มาไม่เคยเจอแบบนี้ จึงอยากให้ประชาชนที่ถูกหลอกลวงไม่ต้องอาย ให้ออกมาแจ้งความเอาผิดกับคนที่ทำผิดกฎหมาย และให้รู้กันไปทั่วเลยว่า ศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดยังทำกับผมได้ ใครก็ตามอย่าไปหลงเชื่อ” พล.ต.ต.ณพรรษ กล่าว
พล.ต.ต.ณพรรษ กล่าวต่อไปว่า อยากขอเตือนให้ประชาชนที่ไปประกวดพระเครื่องระมัดระวัง เกรงอาจถูกสับเปลี่ยนพระ ซึ่งจะไปโทษใครก็ไม่ได้ เอาผิดใครก็ไม่ได้ ซึ่งถึงแม้ว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาจะไม่ให้การในชั้นสอบสวน ขอสู้กันในชั้นศาล ตนก็มั่นใจว่าพระของตนเองถูกสับเปลี่ยน
อดีตผู้การมือปราบ โดนเซียนพระลูบคมเปลี่ยนหลวงพ่อแดง
