“พ.ต.อ.อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา” อดีตนายตำรวจหมอดูชื่อดัง ระบุดาวของตำรวจเป็นดาวพุธ เป็นดาวที่เปลี่ยนแปลงง่ายอยู่ไม่ยืด ใครเป็นใหญ่ต้องมีอาถรรพณ์ “พัชรวาท” ดวงเป็น ผบ.ตร.มีปัญหายุ่งยากและอุปสรรคมากมายที่ต้องฝ่าฟัน ขณะที่ดวง “เพรียวพันธ์” ได้เป็น ผบ.ตร.หรือไม่ ขึ้นอยู่กับอำนาจของ “ทักษิณ”
สืบเนื่องจากหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่ "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นให้สอบสวนเอาผิด “นายสมัคร สุนทรเวช” นายกรัฐมนตรี ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 และกฎหมายอื่นๆ เพื่อดำเนินคดีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 275 และ 276 กรณีปลดออกจากตำแหน่ง สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง จนถึงการสั่งให้ออกจากราชการ ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถือว่าเป็นการปล้นตำแหน่ง เพื่อพวกพ้อง เลือกปฏิบัติอุ้ม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการ ผบ.ตร.ให้พ้นผิดวินัยร้ายแรง กรณีเอกชนร้องถูกกีดกันไม่ให้ประมูลงานของ ตร.ทั้งที่หลักฐานมัดแน่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กลับเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง ตามที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้พูดไว้จริงหรือ? และทำไม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีแต่เรื่องวุ่นวาย ไม่รู้จบสิ้น ใคร? คือตัวปัญหา....
ประกอบกับหากย้อนนับวัน เดือน ปี... พบว่า เพียงช่วงระยะเวลาแค่ประมาณปีครึ่ง ตำแหน่ง ผบ.ตร.แห่งกรมปทุมวัน มีอันเป็นไปถูกสับเปลี่ยนถึง 3 คนแล้ว ซึ่งดูจะไม่มีความมั่นคงเอาเสียเลย อีกทั้งการทำงานของตำรวจก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนเป็นอย่างมาก จากเหตุข่าวฉาวออกมาไม่ขาดระยะ ดังนั้น ทีมข่าวอาชญากรรม จึงเห็นว่าน่าจะตรวจดูดวงชะตาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติกันสักหน่อยเพื่อหาสาเหตุของความผิดปกติที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นความเชื่อส่วนบุคคลก็ตามที....
พ.ต.อ.อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา อดีตนายตำรวจหมอดูชื่อดัง เพื่อนร่วมรุ่นนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่น 02 ปี 2506 รุ่นเดียวกับนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายประสพสุข บุญเดช ประธาน ส.ว. และนายร้อยอบรม (นรอ.) รุ่น 5 รุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ส่วนการดูดวงที่การันตีความสามารถก็คือการทายว่านายสมัคร สุนทรเวช จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี 2538 สมัยที่นายสมัครยังว่างงานเพราะเพิ่งลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคประชากรไทย และยังไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.
สำหรับดวงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.อรรถวิโรจน์ บอกว่า ดาวของตำรวจเป็นดาวพุธ เป็นดาวที่เปลี่ยนแปลงง่ายอยู่ไม่ยืด ใครเป็นใหญ่ต้องมีอาถรรพ์ เป็นดาวผู้รับใช้บ้านเมือง ช่วงนี้จะพบว่าดาวอยู่ในตำแหน่งเสื่อ ตกวินาศดวงเมืองอยู่กับดาวศุกร์ อีกทั้งยังมีคู่ธาตุเป็นราหูด้วยทำให้ตำรวจมีทั้งเรื่องดีและร้ายเข้ามาอยู่เรื่อยๆ แต่ช่วงร้ายมักจะสะสมมาอยู่เสมอ
การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.4 มาประดิษฐานไว้ด้านหน้าเพื่อเป็นการแก้เคล็ดเพราะถือเป็นดาว 4 แฉก หรือดาวพุธ อยู่เบื้องหลังดวงเมืองก็ช่วยให้เบาบางลงได้บ้าง แต่เมื่อตำรวจจะเป็นใหญ่ส่วนใหญ่ก็มักอยู่ไม่ครบเทอม หรือไม่ยืด
การแก้ต้องอาศัยดวงของทหาร หรือการเมืองซึ่งเป็นดาวอังคารเป็นดาวนำหน้าดวงเมือง ต้องมีทหารหรือการเมืองเป็นตัวนำตำรวจต้องอยู่เบื้องหลัง แต่การเปลี่ยนแปลงของตำรวจก็ดีเพราะเป็นตำแหน่งที่มีการแย่งชิงกันมากคนอยากเป็นมาก เพราะมีผลประโยชน์มหาศาล แต่การแก้เคล็ด ตำรวจจึงต้องลดอำนาจลง ด้วยการกระจายแบ่งเบาลงไปในระดับต่างๆ เช่นผู้บัญชาการ ไม่ควรรวมอำนาจไว้ที่ ผบ.ตร.เพียงคนเดียวแพราะทำให้เกิดการแก่งแย่ง
ส่วนตำแหน่งที่ตั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นก็ขัดกับหลักฮวงจุ้ย เพราะตั้งอยู่หน้าวัด (วัดปทุมวนาราม) เพราะทำให้พลังงานลดลง ทำให้มีการเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำอยู่บ่อยๆ และอยู่ไม่สงบ ถูกแทงข้างหลังอยู่ตลอด อย่างไรก็ตาม ดวงของตำรวจก็ยังมีดวงของการเมืองที่หนุนอยู่ หากรัฐบาลยู่ครบเทอมตำรวจก็อยู่ครบเทอมเช่นกัน
สำหรับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รรท.ผบ.ตร.ที่จะก้าวขึ้นเป็น ผบ.ตร.แทน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.ที่ถูกพิษการเมืองเล่นงานนั้น พ.ต.อ.อรรถวิโรจน์ บอกว่า ดวงการเป็น ผบ.ตร.ของ พล.ต.อ.พัชรวาท นั้นมีปัญหายุ่งยากและอุปสรรคมากมายที่ต้องฝ่าฟัน ต้องใช้ความพนยายามและสามารถอย่างมากที่จะทำให้ตนเองอยู่จนครบเทอม แต่ก็อย่างที่บอกว่าดวงของตำรวจมีดวงทางการเมืองสนับสนุนถ้าหากการเมืองนิ่งไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้อยู่ในตำแหน่งได้จนถึงเกษียณ
พ.ต.อ.อรรถวิโรจน์ ยังกล่าวทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจถึงการกลับเข้ามาทำงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ว่าจะก้าวขึ้นสู่ถึงตำแหน่ง ผบ.ตร.หรือไม่นั้น การเมืองการยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุน เพราะตราบใดหากรัฐบาลในชุดปัจจุบัน หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง(ทักษิณ ชินวัตร) ยังมีอำนาจก็น่าจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร.ได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้แม้จะเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล แต่การทำนายดวงชะตาก็ไม่ได้อาศัยการคาดเดาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังอาศัยหลักตรรกะซึ่งก็ตรงกับความเป็นจริงหลายประการก็อยากให้นายตำรวจหลายๆ ท่านพิจารณาไว้เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงานของตำรวจต่อไป เพื่อทำหน้าที่ดูแลประชาชน หรือ พวกคุณ.. คุณ.. ท่าน.. ท่าน..จะปล่อยให้ สตช.เป็นไปตามเวรตามกรรม และเข้าสู่ยุคมืด! ยุคผู้นำไร้คุณธรรม อย่างที่ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” ได้พูดไว้...
สืบเนื่องจากหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่ "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นให้สอบสวนเอาผิด “นายสมัคร สุนทรเวช” นายกรัฐมนตรี ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 และกฎหมายอื่นๆ เพื่อดำเนินคดีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 275 และ 276 กรณีปลดออกจากตำแหน่ง สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง จนถึงการสั่งให้ออกจากราชการ ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถือว่าเป็นการปล้นตำแหน่ง เพื่อพวกพ้อง เลือกปฏิบัติอุ้ม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการ ผบ.ตร.ให้พ้นผิดวินัยร้ายแรง กรณีเอกชนร้องถูกกีดกันไม่ให้ประมูลงานของ ตร.ทั้งที่หลักฐานมัดแน่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กลับเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง ตามที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้พูดไว้จริงหรือ? และทำไม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีแต่เรื่องวุ่นวาย ไม่รู้จบสิ้น ใคร? คือตัวปัญหา....
ประกอบกับหากย้อนนับวัน เดือน ปี... พบว่า เพียงช่วงระยะเวลาแค่ประมาณปีครึ่ง ตำแหน่ง ผบ.ตร.แห่งกรมปทุมวัน มีอันเป็นไปถูกสับเปลี่ยนถึง 3 คนแล้ว ซึ่งดูจะไม่มีความมั่นคงเอาเสียเลย อีกทั้งการทำงานของตำรวจก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนเป็นอย่างมาก จากเหตุข่าวฉาวออกมาไม่ขาดระยะ ดังนั้น ทีมข่าวอาชญากรรม จึงเห็นว่าน่าจะตรวจดูดวงชะตาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติกันสักหน่อยเพื่อหาสาเหตุของความผิดปกติที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นความเชื่อส่วนบุคคลก็ตามที....
พ.ต.อ.อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา อดีตนายตำรวจหมอดูชื่อดัง เพื่อนร่วมรุ่นนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่น 02 ปี 2506 รุ่นเดียวกับนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายประสพสุข บุญเดช ประธาน ส.ว. และนายร้อยอบรม (นรอ.) รุ่น 5 รุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ส่วนการดูดวงที่การันตีความสามารถก็คือการทายว่านายสมัคร สุนทรเวช จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี 2538 สมัยที่นายสมัครยังว่างงานเพราะเพิ่งลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคประชากรไทย และยังไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.
สำหรับดวงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.อรรถวิโรจน์ บอกว่า ดาวของตำรวจเป็นดาวพุธ เป็นดาวที่เปลี่ยนแปลงง่ายอยู่ไม่ยืด ใครเป็นใหญ่ต้องมีอาถรรพ์ เป็นดาวผู้รับใช้บ้านเมือง ช่วงนี้จะพบว่าดาวอยู่ในตำแหน่งเสื่อ ตกวินาศดวงเมืองอยู่กับดาวศุกร์ อีกทั้งยังมีคู่ธาตุเป็นราหูด้วยทำให้ตำรวจมีทั้งเรื่องดีและร้ายเข้ามาอยู่เรื่อยๆ แต่ช่วงร้ายมักจะสะสมมาอยู่เสมอ
การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.4 มาประดิษฐานไว้ด้านหน้าเพื่อเป็นการแก้เคล็ดเพราะถือเป็นดาว 4 แฉก หรือดาวพุธ อยู่เบื้องหลังดวงเมืองก็ช่วยให้เบาบางลงได้บ้าง แต่เมื่อตำรวจจะเป็นใหญ่ส่วนใหญ่ก็มักอยู่ไม่ครบเทอม หรือไม่ยืด
การแก้ต้องอาศัยดวงของทหาร หรือการเมืองซึ่งเป็นดาวอังคารเป็นดาวนำหน้าดวงเมือง ต้องมีทหารหรือการเมืองเป็นตัวนำตำรวจต้องอยู่เบื้องหลัง แต่การเปลี่ยนแปลงของตำรวจก็ดีเพราะเป็นตำแหน่งที่มีการแย่งชิงกันมากคนอยากเป็นมาก เพราะมีผลประโยชน์มหาศาล แต่การแก้เคล็ด ตำรวจจึงต้องลดอำนาจลง ด้วยการกระจายแบ่งเบาลงไปในระดับต่างๆ เช่นผู้บัญชาการ ไม่ควรรวมอำนาจไว้ที่ ผบ.ตร.เพียงคนเดียวแพราะทำให้เกิดการแก่งแย่ง
ส่วนตำแหน่งที่ตั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นก็ขัดกับหลักฮวงจุ้ย เพราะตั้งอยู่หน้าวัด (วัดปทุมวนาราม) เพราะทำให้พลังงานลดลง ทำให้มีการเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำอยู่บ่อยๆ และอยู่ไม่สงบ ถูกแทงข้างหลังอยู่ตลอด อย่างไรก็ตาม ดวงของตำรวจก็ยังมีดวงของการเมืองที่หนุนอยู่ หากรัฐบาลยู่ครบเทอมตำรวจก็อยู่ครบเทอมเช่นกัน
สำหรับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รรท.ผบ.ตร.ที่จะก้าวขึ้นเป็น ผบ.ตร.แทน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.ที่ถูกพิษการเมืองเล่นงานนั้น พ.ต.อ.อรรถวิโรจน์ บอกว่า ดวงการเป็น ผบ.ตร.ของ พล.ต.อ.พัชรวาท นั้นมีปัญหายุ่งยากและอุปสรรคมากมายที่ต้องฝ่าฟัน ต้องใช้ความพนยายามและสามารถอย่างมากที่จะทำให้ตนเองอยู่จนครบเทอม แต่ก็อย่างที่บอกว่าดวงของตำรวจมีดวงทางการเมืองสนับสนุนถ้าหากการเมืองนิ่งไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้อยู่ในตำแหน่งได้จนถึงเกษียณ
พ.ต.อ.อรรถวิโรจน์ ยังกล่าวทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจถึงการกลับเข้ามาทำงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ว่าจะก้าวขึ้นสู่ถึงตำแหน่ง ผบ.ตร.หรือไม่นั้น การเมืองการยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุน เพราะตราบใดหากรัฐบาลในชุดปัจจุบัน หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง(ทักษิณ ชินวัตร) ยังมีอำนาจก็น่าจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร.ได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้แม้จะเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล แต่การทำนายดวงชะตาก็ไม่ได้อาศัยการคาดเดาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังอาศัยหลักตรรกะซึ่งก็ตรงกับความเป็นจริงหลายประการก็อยากให้นายตำรวจหลายๆ ท่านพิจารณาไว้เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงานของตำรวจต่อไป เพื่อทำหน้าที่ดูแลประชาชน หรือ พวกคุณ.. คุณ.. ท่าน.. ท่าน..จะปล่อยให้ สตช.เป็นไปตามเวรตามกรรม และเข้าสู่ยุคมืด! ยุคผู้นำไร้คุณธรรม อย่างที่ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” ได้พูดไว้...