ปธ.วิปฝ่ายค้าน จัดทีมอภิปรายซักร่าง พ.ร.บ.งบรายจ่าย พรุ่งนี้ แฉพิรุธพบงบท่องเที่ยวกระจุกตัวอยู่ภาคใต้ ลับฝีปากโชว์รัฐบาลขาดความจริงใจในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เชียนเช็กไม่ระบุชื่อล่วงหน้า ลั่นจำเป็นต้องนับยองค์ประชุมบ่อยครั้งในช่วงลงมติ
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายวิทยา บุรณะศิริ ประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2552 วาระที่ 2 และ 3 นั้น ทางฝ่ายค้านจะตั้งข้อสังเกตในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องความไม่มั่นใจในการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินคงคลัง งบกลาง งบกระทรวงศึกษาฯ งบกระทรวงต่างประเทศ และเรื่องเงิน 2,000 บาท ที่จ่ายให้กับผู้ประกันตน โดยฝ่ายค้านเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกมาโดยขาดการกลั่นกรองจากนายกฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และทีมเศรษฐกิจ และยังเห็นได้ว่า ในแต่ละกระทรวงยังคงมีการพิจารณาเรื่องงบประมาณอยู่ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลไม่มีความพร้อมในการดำเนินการ
เมื่อถามว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับว่า เป็นห่วงและเกรงว่าจะเกิดเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ นายวิทยา กล่าวว่า หากรัฐบาลมีความจริงใจในการใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องมีความชัดเจนมากกว่านี้ แต่รัฐบาลกับมาของบสภาไว้ก่อน แต่ตัวเองพึ่งมาหาช่องทางออก ทั้งที่จริงรัฐบาลต้องมีทางออกก่อนแล้วค่อยมาของบ นอกจากนี้ หากจัดเก็บรายได้ไม่ตรงเป้าแล้วจะทำอย่างไร แบบนี้ก็ถือว่าผิดกฎหมาย ตนจึงเห็นว่า รัฐบาลมีความบกพร่องค่อนข้างสูง อีกทั้งงบประมาณการท่องเที่ยวที่ได้ไปเยอะ แต่พบว่าไปกระจุกตัวอยู่ที่ภาคใต้อย่างเดียว รวมถึงงบประมาณของกรมชลประทาน ก็เป็นโครงการเฉพาะกิจเฉพาะเรื่องไม่ได้เป็นภาพรวม อีกทั้งเรื่องชุดนักเรียนฟรี ก็ยังมีปัญหา จึงเหมือนกับการเขียนเช็คเปิดไว้ไมได้ระบุผู้จ่าย แบบนี้ไม่ได้ เหมือนเป็นการตั้งงบทิ้ง ไม่มีรายละเอียด แบบนี้ไม่ได้ เพราะจะมีการกู้เงินจากต่างประเทศด้วย ซึ่งการอภิปรายงบครั้งนี้จะมีฝ่ายค้านอภิปรายทั้งสิ้น 30 คน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติม ในวาระที่ 2 และ 3 ฝ่ายค้านจะเล่นเกมนับองค์ประชุมหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ฝ่ายค้านเน้นเรื่องการแปรญัตติล้วนๆ ไม่เน้นเรื่องการนับองค์ประชุม แต่อย่างไรก็ตาม การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นการพิจารณารายมาตรา ซึ่งจะมีการโหวตลงคะแนนบ่อยครั้งอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ประธานจะต้องตรวจองค์ประชุมบ่อยครั้ง
เมื่อถามถึงร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นประเด็นถกเถียงกันระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาล ว่า เป็นร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเงินหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า จะขอดูท่าทีในเรื่องนี้ของรัฐบาลก่อน เพราะหลังตั้งคณะกรรมาธิการเสร็จแล้ว ก็ได้มีส่งให้นายกฯเซ็นรับรองภายใน 7 วัน ซึ่งในสัปดาห์นี้ก็จะครบกำหนด 7 วันแล้ว หากนายกฯยังไม่เซ็นรับรอง กรรมาธิการในส่วนของฝ่ายค้านก็จะถอนออกทั้งหมด
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลเตรียมจะมาต่อรองกับฝ่ายค้านในสัดส่วนของประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภา นายวิทยา กล่าวว่า ยังไม่แน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทยจะต้องหารือกับพรรคประชาธิปัตย์ก่อนว่าแบ่งสัดส่วนเท่าไหร่ แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เท่าไหร่ พรรคเพื่อไทยก็ต้องได้เท่านั้นคงไม่ต่างกัน ซึ่งเขาก็ต้องให้ความสำคัญกับเราบ้าง แต่อย่างไรก็ตามในส่วนประธานคณะกรรมาธิการก็ควรแบ่งให้เหมาะสม อย่างพรรคภูมิใจไทยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ไม่ควรให้ส.ส.ในพรรคมานั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการนั้นๆ เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่เป็นธรรม และจะไม่สามารถตรวจสอบได้
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายวิทยา บุรณะศิริ ประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2552 วาระที่ 2 และ 3 นั้น ทางฝ่ายค้านจะตั้งข้อสังเกตในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องความไม่มั่นใจในการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินคงคลัง งบกลาง งบกระทรวงศึกษาฯ งบกระทรวงต่างประเทศ และเรื่องเงิน 2,000 บาท ที่จ่ายให้กับผู้ประกันตน โดยฝ่ายค้านเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกมาโดยขาดการกลั่นกรองจากนายกฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และทีมเศรษฐกิจ และยังเห็นได้ว่า ในแต่ละกระทรวงยังคงมีการพิจารณาเรื่องงบประมาณอยู่ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลไม่มีความพร้อมในการดำเนินการ
เมื่อถามว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับว่า เป็นห่วงและเกรงว่าจะเกิดเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ นายวิทยา กล่าวว่า หากรัฐบาลมีความจริงใจในการใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องมีความชัดเจนมากกว่านี้ แต่รัฐบาลกับมาของบสภาไว้ก่อน แต่ตัวเองพึ่งมาหาช่องทางออก ทั้งที่จริงรัฐบาลต้องมีทางออกก่อนแล้วค่อยมาของบ นอกจากนี้ หากจัดเก็บรายได้ไม่ตรงเป้าแล้วจะทำอย่างไร แบบนี้ก็ถือว่าผิดกฎหมาย ตนจึงเห็นว่า รัฐบาลมีความบกพร่องค่อนข้างสูง อีกทั้งงบประมาณการท่องเที่ยวที่ได้ไปเยอะ แต่พบว่าไปกระจุกตัวอยู่ที่ภาคใต้อย่างเดียว รวมถึงงบประมาณของกรมชลประทาน ก็เป็นโครงการเฉพาะกิจเฉพาะเรื่องไม่ได้เป็นภาพรวม อีกทั้งเรื่องชุดนักเรียนฟรี ก็ยังมีปัญหา จึงเหมือนกับการเขียนเช็คเปิดไว้ไมได้ระบุผู้จ่าย แบบนี้ไม่ได้ เหมือนเป็นการตั้งงบทิ้ง ไม่มีรายละเอียด แบบนี้ไม่ได้ เพราะจะมีการกู้เงินจากต่างประเทศด้วย ซึ่งการอภิปรายงบครั้งนี้จะมีฝ่ายค้านอภิปรายทั้งสิ้น 30 คน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติม ในวาระที่ 2 และ 3 ฝ่ายค้านจะเล่นเกมนับองค์ประชุมหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ฝ่ายค้านเน้นเรื่องการแปรญัตติล้วนๆ ไม่เน้นเรื่องการนับองค์ประชุม แต่อย่างไรก็ตาม การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นการพิจารณารายมาตรา ซึ่งจะมีการโหวตลงคะแนนบ่อยครั้งอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ประธานจะต้องตรวจองค์ประชุมบ่อยครั้ง
เมื่อถามถึงร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นประเด็นถกเถียงกันระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาล ว่า เป็นร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเงินหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า จะขอดูท่าทีในเรื่องนี้ของรัฐบาลก่อน เพราะหลังตั้งคณะกรรมาธิการเสร็จแล้ว ก็ได้มีส่งให้นายกฯเซ็นรับรองภายใน 7 วัน ซึ่งในสัปดาห์นี้ก็จะครบกำหนด 7 วันแล้ว หากนายกฯยังไม่เซ็นรับรอง กรรมาธิการในส่วนของฝ่ายค้านก็จะถอนออกทั้งหมด
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลเตรียมจะมาต่อรองกับฝ่ายค้านในสัดส่วนของประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภา นายวิทยา กล่าวว่า ยังไม่แน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทยจะต้องหารือกับพรรคประชาธิปัตย์ก่อนว่าแบ่งสัดส่วนเท่าไหร่ แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เท่าไหร่ พรรคเพื่อไทยก็ต้องได้เท่านั้นคงไม่ต่างกัน ซึ่งเขาก็ต้องให้ความสำคัญกับเราบ้าง แต่อย่างไรก็ตามในส่วนประธานคณะกรรมาธิการก็ควรแบ่งให้เหมาะสม อย่างพรรคภูมิใจไทยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ไม่ควรให้ส.ส.ในพรรคมานั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการนั้นๆ เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่เป็นธรรม และจะไม่สามารถตรวจสอบได้