xs
xsm
sm
md
lg

คณะทำงานยุติธรรมภาคใต้ แถลงการณ์โวย กอ.รมน.ภาค 4 คุกคาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ” ออกแถลงการณ์โวย กอ.รมน.4 คุกคาม หลังหนังสือพิมพ์บางฉบับเสนอข่าวเตือนระวังนักสิทธิมนุษยชนตัวปลอม จ้องยุยง บิดเบือน จนถูกตรวจค้นสำนักงาน วอนเห็นใจทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ จี้ หากข้อมูลเป็นจริงให้เร่งหาตัวการ หวั่นกระทบความเชื่อมั่นชาวบ้านหลังลงพื้นที่มานาน

วันนี้ (8 ก.พ.) คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ (Working Group on Justice for Peace)ได้ออกแถลงการณ์ขอให้ยุติการคุกคาม และเคารพการทำงานของนักสิทธิมนุษยชน โดยแถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า จากการที่หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ฉบับวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2552 ได้ลงข่าวมีเนื้อหาอ้างถึงการที่ กอ.รมน.ภาค 4 รายงานว่าขณะนี้มีนักสิทธิมนุษยชนและนักศึกษาได้ทำงานลงพื้นที่เก็บข้อมูลกับชาวบ้านโดยตรง และยังได้เตือนว่า อาจมีผู้ก่อความไม่สงบปลอมตัวเป็นนักสิทธิมนุษยชน เพื่อยุยงและบิดเบือนข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนเกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐและคณะทำงานฯ

ซึ่งต่อมาในเช้าวันนี้ (8 ก.พ.) เวลาประมาณ 05.00 น.ได้มีเจ้าหน้าที่สนธิกำลังตำรวจ ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจ ปัตตานี ประมาณ 20 นาย นำโดย พ.ท.ประเวศ สุทธิประภา ได้ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก นำกำลังเข้าตรวจค้นสำนักงานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ตั้งอยู่ที่ 22/186 ถ.หนองจิก ต.รูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเอกสารและข้อมูลในคอมพิวเตอร์ โดยมีอาสาสมัครคณะทำงานฯ อำนวยความสะดวกในการตรวจค้น จนกระทั่งเวลาประมาณ 08.00 น.เจ้าหน้าที่จึงได้กลับออกไป ทราบว่า ในการตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายด้วยดี

ทั้งนี้ คณะทำงานมีความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในลักษณะเช่นนี้อาจก่อให้เกิดความเข้าใจในหมู่คนทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและประชาชนทั่วไป ว่า เป็นการคุกคามการทำงานของนักสิทธิมนุษยชนและการที่ กอ.รมน.ภาค 4 อ้างว่า อาจมีผู้ก่อความไม่สงบปลอมตัวเป็นนักสิทธิมนุษยชนนั้น เป็นการกล่าวอ้างที่อาจส่งผลต่อการลดทอนความน่าเชื่อถือในการทำงานของนักสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ให้ความไว้วางใจในการทำงานของนักสิทธิมนุษยชน และเห็นว่าเป็นช่องทางที่สำคัญช่องทางหนึ่งในการรับฟังปัญหาของชาวบ้าน อันเป็นการช่วยลดช่องว่างของความไม่วางใจระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชน

ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้จึงมีนัยยะสำคัญต่อการทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและความพยายามสร้างสันติภาพจากทุกฝ่าย คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ จึงมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล โดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารบก และท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ดังนี้ 1.ขอให้ยุติการกระทำใดที่อาจเป็นการคุกคามการทำงานของนักสิทธิมนุษยชน และขอให้เข้าใจและให้ความเคารพต่อบทบาทงานด้านสิทธิมนุษยชน ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิ โดยไม่เลือกปฏิบัติ

และ 2.หน่วยงานการข่าวของรัฐ โดยเฉพาะ กอ.รมน.ภาค 4 ควรมีความแม่นยำ และมีความน่าเชื่อถือ เพื่อมิให้เชื่อได้ว่าเป็นการการกลั่นแกล้ง และการใส่ร้ายป้ายสีองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนที่ทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ และยึดความถูกต้องชอบธรรมเป็นหลัก 3.หากพบว่ามีผู้ก่อความไม่สงบปลอมตัวเป็นนักสิทธิมนุษยชนดังเช่นคำกล่าวของ กอ.รมน.ภาค 4 คณะทำงานขอให้เจ้าหน้าที่ทำการสืบหาตัวผู้ก่อความไม่สงบที่ปลอมตัวเป็นนักสิทธิมนุษยชน มาดำเนินคดีและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว

4.รัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคง ต้องปฏิบัติตามกติกาสากลระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคีอยู่อย่างเคร่งครัด ดังที่รับรองไว้ใน มาตรา 82 วรรคแรก ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ด้วยความยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนนั้นไม่มีพรมแดน การคุกคามนักสิทธิมนุษยชนในที่ใดที่หนึ่งย่อมหมายถึงการคุกคามนักสิทธิมนุษยชนทั้งมวล
กำลังโหลดความคิดเห็น