สมุน พปช.เนื้อเต้น ปูดอีกม็อบมีเส้น โยงรัฐประหารรูปแบบใหม่

ลิ่วล้อ พปช.กระสับกระส่าย โผล่หน้าด่าพันธมิตรฯ สารพัด จี้รัฐบาลประ
กาศ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ยื่นดาบกองทัพปราบปรามผู้ชุมนุม ไม่หนำใจป้ายสีพันธมิตรฯ จับมือ ปชป. องค์กรอิสระ อดีต คมช.หวังโค่นระบอบทักษิณ ปูดอีกม็อบมีเส้นเตรียมรัฐประหารรูปแบบใหม่

วันนี้ (26 พ.ย.) ที่รัฐสภา กลุ่ มส.ส.พรรคพลังประชาชน ประกอบด้วย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน และนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม ได้ร่วมกับแถลงข่าว โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการคลัง ธนาคารและสถาบันการเงิน รู้สึกสลดหดหู่กับการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งสังคมโลกรับไม่ได้ ทำให้การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศเสียหายหนัก หากปล่อยให้ปิด 2-3 วันเศรษฐกิจของชาติย่อยยับแน่ รัฐบาลจะต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด ขณะที่ฝ่ายทหารก็อย่าเอาแต่พูด เพราะกินเงินเดือนประชาชน อย่าปกป้องคนผิด ซึ่งทหารจะอยู่เฉยลอยตัวอย่างนี้ไม่ได้ รวมถึงผู้นำฝ่ายค้านไม่ควรสร้างภาพ ที่ยังเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา เพราะวันนี้พฤติกรรมของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นยิ่งกว่ากบฏ จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติต้องร่วมกันดำเนินการกับคนกระทำผิด วันนี้ชัดเจนว่าใครกระทำชั่วต่อแผ่นดิน หากปล่อยไปบ้านเมืองก็เดินต่อไปไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเรียกร้องแบบนี้ให้ทหารออกมาปฏิวัติหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ต้องออกมารักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่ใช่เอาแต่พูดดูดี ติดหล่มอยู่อย่างนี้ เมื่อถามย้ำว่ารัฐบาลต้องประกาศ พ.ร.บ.ฉุกเฉินได้หรือยัง นายสุรพงษ์ กล่าวว่า แน่นอน วันนี้รัฐบาลต้องประกาศได้แล้ว เพื่อเคลียร์พันธมิตรฯ ออกมาจากสนามบินสุวรรณภูมิเร็วที่สุด ปล่อยให้สร้างความเสียหายอย่างนั้นไม่ได้

ด้าน นายสุทิน คลังแสง กล่าวว่า เราเฝ้าดูมาตลอดขณะนี้ถึงจุดสิ้นสุดความอดทนแล้ว วันนี้ไม่ต้องมาใคร่ครวญ สังคมไม่ต้องมาวินิจฉัย เพราะพันธมิตรฯ ชุมนุมไม่เป็นไปภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ เพราะมีอาวุธสงครามและอาวุธปืนเต็มที่ ไม่ต้องเสียเวลามาเจรจาหรือวิงวอนกันอีก เพราะไม่มีความหมาย เพราะพวกนั้นเป็นคนดิบ ที่อ้างว่ารักชาติบ้านเมือง วันนี้เห็นกันชัดเจน จึงขอเรียกร้องบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งคนที่อยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุน วันนี้คิดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร เห็นบ้านเมืองลุกเป็นไฟอย่างนี้ยังจะสนับสนุนอีกหรือไม่ โดยเฉพาะพวกนักวิชาการจะทบทวนตัวเองได้หรือยังว่าจะยังคงให้การสนับสนุนพันธมิตรต่อไปหรือไม่ องค์กรอิสระโดยเฉพาะคณะกรรมการสิทธิมนุษชน จะพิจารณาการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่ายืนอยู่บนหลักของนักสิทธิมนุษยชนหรือไม่ ตุลาการที่ถือเป็นที่พึ่งสุดท้ายของสังคม ซึ่งศาลปกครองเคยให้ความคุ้มครองกับเอเอสทีวีวันนี้จะมีการทบทวนหรือไม่ว่าการให้ความคุ้มครองนั้นได้สร้างประโยชน์หรือโทษมหันต์ให้แก่สังคม ซึ่งตนก็หวังว่าศาลปกครองจะเป็นที่พึ่งได้

นายสุทิน กล่าวต่อว่า สังคมมองอย่างไรกับกลุ่มบุคคลที่ถูกดำเนินคดีข้อหากบฏและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ศาลให้ประกันตัวไป แต่กลับมาทำพฤติกรรมซ้ำๆ และรุนแรงกว่ามูลแห่งคดีอีก ซึ่งศาลให้ประกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตรงนี้มีสำนึกต่อชาติบ้านเมืองอย่างไร จึงขอให้ศาลช่วยพิจารณาในเรื่องการประกันตัวของบรรดาแกนนำพันธมิตรฯ ด้วย สำหรับพรรคการเมืองที่อยู่เบื้องหลังและคอยให้การสนับสนุน ถึงแม้จะไม่ยอมรับวันนี้ถึงเวลาที่จะต้องทบทวนบทบาทตัวเองหรือไม่ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองวันนี้คิดอย่างไรกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งประธานองคมนตรีที่ก่อนหน้านี้กลุ่ม ส.ส.เคยไปขอพึ่งบารมี แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่าไม่ขอเกี่ยวข้องทางการเมือง อยากถามว่าจริงหรือไม่ที่จะไม่ยุ่ง วันนี้จะยังวางเฉยอีกหรือ พวกเราขอพึ่งบารมีของท่านอีกครั้ง ขอให้ทบทวนถือว่าให้ความเมตตาต่อลูกหลาน และคนไทยต่อไปในอนาคต วันนี้ตนไม่ทราบว่าผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เห็นประเทศเป็นอย่างนี้ไม่ทราบว่าเอาอะไรมาทำหัวใจ สติปัญญาและประสบการณ์ตลอดชีวิตของท่านที่บอกว่ารักชาติทำเพื่อประชาชน วันนี้คิดอะไรอยู่ ไม่สงสารบ้านเมืองและประชาชนหรือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ นายสุทินพูดด้วยเสียงสั่นเครือ และมีน้ำตาคลอเบ้า พร้อมกับกล่าวอีกว่า วันนี้เงื่อนไขความขัดแย้งในตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มันเลยไปแล้ว วันนี้ความขัดแย้งไม่ใช่เฉพาะกับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะถ้าเป็นแค่นั้นสถานการณ์มาไม่ได้ถึงขนาดนี้ เพราะกระบวนการยุติธรรมก็กำลังเดินหน้าอยู่ การอ้างเหตุโฟนอินเป็นเพียงข้ออ้าง แต่ข้อเท็จจริงผู้ใหญ่บางคนยังมีมิจฉาทิฐิ มีความโลภไม่หาย จนบ้านเมืองจะวายวอดอยู่แล้ว เราต้องหยุดความเสียหายของประเทศไว้ก่อน แล้วจะไปเจรจากันภายหลังนั่นถึงจะเรียกว่าผู้ใหญ่ วันนี้ใครจะอ้างหน้าที่ใดก็แล้วแต่ แต่ไม่สามารถลอยได้อีกต่อไป ที่ต้องเรียกร้องหาผู้หลักผู้ใหญ่ในวันนี้เพราะกฎหมายในบ้านเมืองบังคับใช้ไม่ได้แล้ว ไม่ทราบว่าเป็นเพราะมีอำนาจอื่นที่มีบารมีมากกว่าหรือไม่ วันนี้เราไม่ต้องมาพูดจาอ้อมค้อมกันอีกแล้ว

นายศุภชัย กล่าวว่า ฝากถึง ผบ.ทบ.และผบ.ตร.ที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีมีหนังสือบันทึกไปถึงบุคคลทั้งสองขอให้แก้ไขปัญหาการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งขอฝากทั้งคู่ว่าประชาชนที่รักสันติแทบจะทนไม่ได้แล้ว การที่ทหารบอกว่าจะปกป้องสถาบันและไม่ให้คนทั้งสองกลุ่มปะทะกันนั้นจะทำแค่นั้นหรือ พันธมิตรฯ ทำให้บ้านเมืองฉิบหายแล้วทหารและตำรวจจะต้องออกมาควบคุมสถานการณ์ทันที จะรอให้คนล้มตายก่อนแล้วค่อยออกมาปฏิวัติอย่างนั้นหรือ ประชาชนที่รักสันติพยายามอดทนไม่เติมเชื้อไฟ แต่วันนี้ชัดเจนแล้วว่าการชุมนุมนั้นปราศจากอาวุธจริงหรือไม่ การทำตามอำเภอใจแบบนี้คนอื่นจะทำตามไม่ได้หรือ ขอฝากถึงผู้หลักผู้ใหญ่ด้วยว่าจะมีความสุขบนซากปรักหักพังบนความย่อยยับของบ้านเมืองหรืออย่างไร

ขณะที่ นายสุนัย กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ข่าวค่อนข้างชัดแล้วว่ามีกลุ่มขบวนการที่จะทำรัฐประหารรูปแบบใหม่ เพื่อตั้งรัฐบาลแห่งชาติ วันนี้ทุกคนเข้าใจหมดแล้วว่าการที่พันธมิตรสร้างความปั่นป่วนแล้วรัฐบาลพยายามจะเข้าไปแก้ไข แต่ก็มีกลุ่มแนวร่วมไปจับมือกับองค์กรอิสระบางส่วนกดดัน ขัดขวางการปฏิบัติของรัฐบาล เพื่อจะบอกว่ารัฐบาลหมดอำนาจ โดยมีพรรคการเมือง องค์กร และบุคคลบางส่วนมาร่วมเคลื่อนไหวด้วย นี่คือการรัฐประหารรูปแบบใหม่ เพราะวันนี้ชัดเจนแล้วว่าพันธมิตรฯ พรรคประชาธิปัตย์ องค์กรอิสระบางส่วนและ คมช.แยกกันไม่ออก การที่รมว.มหาดไทยบอกว่าเป็นม็อบมีเส้น วันนี้พันธมิตรฯ กำลังทำหน้าที่เปิดโปงให้สังคมเห็นถึงคนที่อยู่เบื้องหลังว่าเป็นใคร