พรรคเพื่อไทย เรียงหน้าชำแหละข่าวรัฐบาลเตรียมกู้เงินต่างประเทศเพิ่ม 2.7 แสนล้านบาท หวั่นซ้ำรอยไอเอ็มเอ จี้ นายกฯพูดความจริง ตอกมาตรการเศรษฐกิจล้มเหลว ขึ้นภาษีสรรพาสามิตน้ำมัน ส่งผลกระทบต่อประชาชนต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่ม
วันนี้ (1 ก.พ.) นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะทีมเศรษฐกิจของพรรค กล่าวเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้จับจ่ายใช้สอย เนื่องจากขณะนี้ตัวเลขทางเศรษฐกิจส่อเค้าไม่ค่อยดี ทั้งการขาดดุลการคลัง และขาดดุลบัญชีเดินสะพัด อีกทั้งกระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุม ครม.ในวันที่ 3 ก.พ.เพื่อกู้เงินทั้งในและต่างประเทศเพิ่มอีก 2.7 แสนล้านบาท และเงินคงคลังลดวูบลงเหลือเพียง 5.2 หมื่นล้านบาท เหลือเพียงพอแค่จ่ายเงินเดือนข้าราชการแค่เดือนครึ่ง จึงขอให้นายกฯออกมาพูดความจริง เพราะประชาชนเป็นห่วงที่รัฐบาลกำลังจะไปสร้างหนี้ให้กับประเทศเหมือนที่เคยทำไว้ในคราววิกฤตเศรษฐกิจ ปี 2540 ส่วนกรณีที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเพิ่มนั้น ประชาชนฝากถามนายกฯ ว่า ได้ยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันแล้วหรือยัง แล้วเหตุใดน้ำมันในตลาดโลกลดลง แต่น้ำมันในประเทศแพงขึ้น หรือว่าแผนปฏิบัติการเร่งด่วน 99 วันของพรรคประชาธิปัตย์ทำไม่ได้จริง ที่ระบุว่า จะยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน แบบนี้สร้างความสับสนให้ประชาชน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงปัญหาเรื่องเงินคงคลัง ว่า จากข้อมูลที่ระบุว่า มีเงินคงคลังเหลือเพียง 5.2 หมื่นล้านบาท แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลชุดนี้ดำเนินนโยบายอย่างประมาท ไม่ตรวจสอบรายได้การจัดเก็บภาษีของรัฐบาล นอกจากนี้ยังระบุว่าจะกู้เงินเพิ่มอีก 2.7 แสนล้านบาท ซึ่งถือเป็นการก่อหนี้ให้กับคนไทยทั้งประเทศ เพื่อตอบสนองนโยบายตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ไม่ว่าจะเป็นการแจกเงินคนละ 2 พันบาท ซึ่งไม่เกิดประโยชน์กับการกระตุ้นเศรษฐกิจเลย
นอกจากนี้ การขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ซึ่งทำให้ประชาชนต้องจ่ายราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกลิตรละ 1.50 บาท ก็มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลง นอกจากนี้ ยังเป็นมาตรการที่ออกมาไร้การรองรับ หรือตรวจสอบการกักตุนน้ำมัน นอกจากนี้ยังขอเรียกร้องรัฐบาลประชาธิปัตย์ให้ดูแลกวดขันขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน ที่ลักลอบเข้าประเทศไทยแถบฝั่งทะเลอันดามัน ฝั่งอ่าวไทย รวมทั้งชายแดนด้านติดกับมาเลเซีย จึงอยากเรียกร้องให้ประชาธิปัตย์อย่าลูบหน้าปะจมูก