xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ฟุ้ง นำบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ นักธุรกิจโลกจ้องขยายลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“อภิสิทธิ์” เผยผลสำเร็จในการเดินทางประชุมผู้นำเศรษฐกิจ เมืองดาวอส ยันได้รับเกียรติเป็นหนึ่งในผู้ร่วมอภิปราย ชี้ ปัญหาภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและด้านอาหาร ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก การันตีในเวทีโลกสถานการณ์บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว นักธุรกิจชั้นนำรับปากเข้ามาขยายการลงทุน พร้อมขอบคุณ “ส.ส.-ส.ว.” ผ่านกรอบอาเซียน

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์"

วันนี้ (1 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 09.00 น. ในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกอภิสิทธิ์” ครั้งที่3 ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(NBT)และวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย นำเสียงสัมภาษณ์ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ได้บันทึกที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับประเทศไทยมาออกอากาศ

ย้ำขอแรงทูตช่วยชี้แจงสถานการณ์ชาติ

ซึ่งในรายการส่วนใหญ่นายอภิสิทธิ์ ได้เล่าถึงการเดินทางไปประชุมWorld Economic Forum (WEF) ครั้งที่ 39 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 30 มกราคม ถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า ก่อนที่จะเดินทางไปเมืองดาวอส ตนลงเครื่องที่เมืองซูริค และได้เชิญเอกอัคราชทูตและกงสุลใหญ่ที่มาอยู่ที่ยุโรปและบางส่วนจากแอฟริกาเหนือมาร่วมประชุมกัน เพื่อที่จะให้ท่านทูตและท่านกงสุลใหญเหล่านี้ได้รับรู้รับทราบถึงการทำงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา จะได้สามารถชี้แจงกับมิตรประเทศของเราทั้งในยุโรปและแอฟริกาเหนือให้มีความเข้าใจว่าประเทศไทยกำลังเดินหน้าข้างหน้าแล้วก็แก้ไขปัญหาต่างๆอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์วันนี้ซึ่งถือว่ากลับมาสู่ภาวะปกติ และมีรัฐบาลที่สามารถเดินหน้าทำงานผลักดันนโยบายการแก้ไขปัญหาต่างๆได้ เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็ได้มีโอกาสได้ทำความเข้าใจ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ท่านทูตและกงสุลใหญ่ก็ได้สะท้อนให้ได้รับทราบในส่วนของการติดตามข่าวสารของบรรดามิตรประเทศของเรา ก็ได้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกที่เกิดขึ้น แต่ว่าข้อมูลที่ได้มีการแลกเปลี่ยนกันในการประชุมก็คงจะเป็นประโยชน์ในการทำงานของท่านทูตและกสุลใหญ่ต่อไป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เหตุผลที่ตนตัดสินใจมาร่วมประชุมที่เมืองดาวอสครั้งนี้ก็ต้องการที่จะ หนึ่งก็คือต้องการที่จะมาทำความเข้าใจกับผู้นำ ทั้งรัฐและเอกชนทั่วโลกถึงการทำงานของรัฐบาลไทย รวมถึงความก้าวหน้าเรื่องของการแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศไทย โดยที่จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้นในมิตรประเทศต่างๆ และยังเป็นโอกาสที่ดีที่ได้พบบุคคลชั้นนำที่มีความสำคัญในหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นในวงการของภาครัฐเอง ผู้นำทางธุรกิจ ที่จะเป็นโอกาสในการเชิญชวนให้เข้ามาลงทุนและร่วมมือกับเราในการสร้างโอกาสสร้างรายได้ให้ประชาชน ในส่วนของวงการสื่อสารมวลชน เพื่อที่จะให้เกิดความเข้าใจที่ดี เกิดความรับรู้รับทราบแนวคิดของรัฐบาลไทยด้วย

“เวลาที่อยู่ที่นี่(ดาวอส)20กว่าชั่วโมงผมก็ได้เรียกว่าทำงานเกือบจะเต็มเวลา ยกเว้นช่วงที่ได้นอนพักตอนกลางคืนเท่านั้นเอง เพียงคืนเดียว”นายกรัฐมนตรี กล่าว

เผยถกนอกรอบ20ชาติ ปธน.อังกฤษร่วมวง

จากนั้นนายกฯได้เล่าถึงบรรยากาศและเนื้อหาของการประชุมว่า ได้ร่วมประชุมอย่างไม่เป็นทางการของหัวหน้ารัฐบาลกว่า 20 ประเทศ โดยมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนในเรื่องของการแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ และตนได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของเราที่เคยผ่านปัญหานี้มา โดยตนได้เน้นย้ำเรื่องของการแก้ปัญหาต่างๆของแต่ละประเทศต้องไม่นำไปสู่การปิดกั้นหรือโอกาสทางการค้า การลงทุน ที่ข้องกับเรา ก็มีผู้นำของเอเชีย อเมริกาเหนือ แอฟริกาก็ได้แสดงความคิดเห็นไปในทำนองเดียวกัน ซึ่งน่ายินดีกว่าประธานาธิบดีอังกฤษที่ร่วมประชุมด้วยก็ยอมรับว่าประเด็นนี้มีความสำคัญและยืนยันว่าการแก้ปัญหาต่างๆของประเทศที่ประสบกับวิกฤติขณะนี้ซึ่งจะมีการประชุมในกลุ่มประเทศที่เป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือG20 ในเดือนเม.ย.จะได้นำข้อสังเกตต่างๆที่หลายประเทศได้สะท้อนไป และจะให้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ต่อไป

ชูประเด็นปล่อยสินเชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายกฯ กล่าวว่า ขณะเดียวกันได้รับเชิญให้เป็นหนึ่งในผู้อภิปรายในหัวข้อเกี่ยวกับการฟื้นเศรษฐกิจโลก ก็ได้เน้นย้ำในประเด็นที่ได้เรียกร้องต่อที่ประชุมอย่างไม่เป็นทางการ รวมไปถึงการพูดถึงการดูแลเรื่องปัญหาสภาพคล่องโดยรวม ทั้งในโลกและในบรรดาประเทศต่าง ๆ เพราะว่าขณะนี้ความห่วงใยของหลายประเทศที่เขาแก้ปัญหาเศรษฐกิจของเขา เขามุ่งไปที่ภาคธนาคาร แต่ว่าการแก้ปัญหาภาคธนาคารให้ไม่ล้มหรือยืนอยู่ได้ หรือประกอบธุรกิจต่อไปนี้มันไม่พอ มันมีความจำเป็นว่าในที่สุดแล้วนี้ธุรกิจดี ๆ ธุรกิจที่ต้องเดินต่อไปนี้ ได้รับการดูแลในเรื่องของเงินกู้ ในเรื่องของสินเชื่อด้วย ก็ไม่ต้องการให้เขาลืมตรงนี้ และขณะเดียวกันทุกประเทศก็ต้องมีบทบาทในการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ เหมือนกับที่ทางรัฐบาลไทยทำอยู่ และจริง ๆ ว่าไปแล้วรัฐบาลทั่วโลกก็กำลังดำเนินการ

เตรียมบินเยือนญี่ปุ่นคิวต่อไป

อย่างไรก็ตามในช่วงของการประชุมครั้งนี้ก็มีข่าวดี เพราะว่าท่านนายกฯ ญี่ปุ่นก็ได้เดินทางมาและได้ประกาศว่าญี่ปุ่นเองก็จะมีการสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของโลก ซึ่งในสัปดาห์หน้าหลังจากที่ปฏิบัติภารกิจในช่วงต้นสัปดาห์เรียบร้อยแล้ว ก็จะเดินทางไปที่ญี่ปุ่น นอกจากจะไปพบกับนักลงทุนแล้วก็จะได้มีโอกาสพบปะหารือกับท่านนายกฯ ญี่ปุ่น ซึ่งก็คงจะได้ไปดูในรายละเอียดต่อไปว่ามาตรการที่ญี่ปุ่นจะดำเนินการนั้น เราจะสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง

ชี้องค์กรท่องเที่ยวโลกพร้อมหนุนศักยภาพไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากการได้ประชุมกับอภิปรายในหัวข้อนี้แล้ว ตนยังได้รับเชิญให้เป็นผู้กล่าวนำหรือการร่วมอภิปรายในอีก 2 หัวข้อใหญ่ หัวข้อแรกก็คือเรื่องของธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งในธุรกิจการท่องเที่ยวนั้น ผู้ที่มาร่วมฟังก็เป็นผู้ประกอบการโรงแรม หรือธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวรายใหญ่ของโลก ตนก็ได้ยืนยันถึงความสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยวที่มีต่อเศรษฐกิจไทยในแง่ของการสร้างงานสร้างรายได้ และได้ตรวจสอบดู ที่พบว่าขณะนี้การท่องเที่ยวของเราลดลงไปประมาณร้อยละ 20 ในช่วงประมาณ 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา ก็ปรากฏว่าตัวเลขของการเดินทางของคนทั่วโลกไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็ลดลงประมาณร้อยละ 20 จริง ๆ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นประเด็นที่ทำให้เรามองเห็นว่าปัญหาตรงนี้ก็เป็นปัญหาของโลก

นายกฯ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามจากโอกาสที่ได้พูดถึงจุดแข็งของประเทศไทยในการเป็นสถานที่ที่สามารถท่องเที่ยวได้ในหลายต่อหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือนอกเหนือจากการมีวัฒนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติแล้วนี้ ก็จะมีธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นที่เกี่ยวข้องกับการประชุมสัมมนา ซึ่งยังมีศักยภาพอีกมาก ก็เป็นที่น่ายินดีว่ามีผู้บริหารขององค์กรซึ่งดูแลในเรื่องของการท่องเที่ยวของโลกร่วมอยู่ด้วย ก็อยากจะให้การสนับสนุนประเทศไทย และจะได้มีการพูดคุยกับทางรัฐบาลต่อไปว่า อาจจะทำเหมือนกับเป็นรายงานให้ประชาชนทั่วโลกได้รับทราบว่าประเทศไทยได้แก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จากปัญหาทางการเมืองหรือปัญหาอื่น ๆ เมื่อปีที่แล้ว และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่ดึงดูดให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็จะได้มีการประสานงานต่อไป และเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในการฟื้นธุรกิจการท่องเที่ยวต่อไป

แก้วิกฤติอาหารต้องไม่บิดเบือนตลาด พร้อมขอเทคโนโลยีช่วยภาคเกษตรไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า อีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับเชิญให้เป็นผู้ร่วมอภิปรายก็คือปัญหาในเรื่องวิกฤตอาหาร ซึ่งเช่นเดียวกันก็เป็นโอกาสดีที่ได้พูดถึงศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญ ๆ และเป็นประเทศที่ยังไม่ได้ประสบกับปัญหานี้ แต่ว่ากลับจะมีโอกาสจากสภาพการณ์ที่ความต้องการของโลกในเรื่องของอาหารมีสูงอย่างต่อเนื่อง ตรงนี้ข้อเรียกร้องสำคัญที่ตนได้ถ่ายทอดไปก็คือปัญหาของการบิดเบือนตลาด และการปิดกั้นตลาดในหลาย ๆ ประเทศซึ่งมีผลสำคัญต่อแรงจูงใจในเรื่องของเศรษฐกิจโลกที่ทำให้การผลิตอาหารมันน้อยกว่าที่ควรจะเป็น และรวมไปถึงการที่เราควรจะมีโอกาสในการได้รับการสนับสนุนในเรื่องของเทคโนโลยี หรืออาจจะเป็นในเรื่องของทุน เพื่อที่จะให้ทำให้เราสามารถปรับปรุงในเรื่องของผลผลิตทางการเกษตรได้ ตรงนี้ในส่วนของการเข้าร่วมประชุม การได้พูดคุยอภิปรายสัมมนานี้ก็เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ทั้งในภาคการเกษตรของเรา ทั้งในภาคการท่องเที่ยวและในแง่ของเศรษฐกิจโดยรวม

ถกฟิลิปปินส์ แย้มแผนทำสต๊อกข้าวอาเซียน

นายกฯ เล่าอีกว่า ได้มีโอกาสพบปะกับผู้นำจากภาครัฐของหลายประเทศ มีการหารือกับท่านประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ซึ่งก็ได้เดินทางมาร่วมในการประชุมครั้งนี้ด้วย ก็ได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศทั้งสอง และความพยายามที่จะผลักดันให้อาเซียนมีความก้าวหน้าต่อไป โดยเฉพาะก็ได้พูดคุยถึงความร่วมมือกันในเรื่องของมาตรการทางการเงินการคลังเพื่อดูแลภูมิภาคนี้ รวมไปถึงเรื่องของมาตรการเกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางอาหาร ที่ตนก็ได้พูดถึงการที่เราขณะนี้มีสต๊อกข้าวอยู่ และน่าจะถูกนำไปใช้ให้เป็นเหมือนกับเป็นสต๊อกสำรองไว้ เวลาเกิดภาวการณ์ขาดแคลนอาหารสำหรับอาเซียน ซึ่งถ้าเราผลักดันเรื่องนี้ได้ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการที่จะช่วยดึงข้าวออกจากตลาดไปส่วนหนึ่ง และจะมีผลทำให้ราคาข้าวดีขึ้น

เผยพบนายกฯปากีฯ-เกาหลี-รมต.อินเดีย ชื่นมื่น

นอกจากนี้ได้มีโอกาสพบปะกับทางท่านนายกฯ ของทางปากีสถาน มีการพูดคุยเช่นเดียวกันถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และได้ถือโอกาสขอบคุณเขาที่ได้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือทำให้กลุ่มประเทศมุสลิมได้มีความเข้าใจต่อสถานการณ์ปัญหาในภาคใต้ของเรา ซึ่งก็คิดว่าเป็นประโยชน์ ได้มีโอกาสแนะนำตัว นอกจากนั้นได้มีโอกาสเฝ้าฯ ท่านดยุค ออฟ ยอร์ค หรือเจ้าชายแอนดรูว์ ซึ่งพระองค์ท่านก็ทรงสนับสนุนในเรื่องของความสัมพันธ์ของอังกฤษกับไทย แล้วก็มีความเป็นไปได้สูงว่าท่านจะเสด็จฯ เยือนประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า มีโอกาสร่วมรับประทานอาหารเย็นกับท่านนายกรัฐมนตรีเกาหลี ซึ่งก็เช่นเดียวกันก็อยู่ในภาวะที่กำลังแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศของทางเกาหลีเอง และก็ได้พูดถึงการที่ทางเกาหลีก็จะเดินหน้าในการที่จะมาลงนามในเรื่องของข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับอาเซียน ได้มีโอกาสพบปะทักทายกับท่านนายกรัฐมนตรีอังกฤษหลังจากที่ได้ประชุมร่วมกันในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ นอกจากนั้นก็ยังมีรัฐมนตรีจากทางอินเดีย ซึ่งเป็นรัฐมนตรีการค้ามายืนยันว่า แม้ว่าเราจัดประชุมอาเซียนในช่วงกุมภาพันธ์นี้ เป็นการประชุมในระหว่าง 10 ประเทศ แต่ว่าพร้อมและยินดีที่จะมาลงนามในข้อตกลงเขตการค้าเสรี ระหว่างอาเซียนกับอินเดีย ซึ่งทั้งหมดนี้คิดว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการขยายความร่วมมือทางการค้า การลงทุน เช่นเดียวกันครับ จุดมุ่งหมายเหมือนเดิมคือว่า ต้องการมาทำงานเพื่อให้พี่น้องของเราได้มีโอกาสทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยความร่วมมือจากบรรดามิตรประเทศของเรา

ยืนยันไฟเขียวให้นักลงทุนเข้ามา

นายกฯ กล่าวถึง เวลาในส่วนที่สามของการอยู่ที่ดาวอสนี้ใช้ในการพบปะกับนักธุรกิจว่า น่ายินดีมากว่ามีทั้งนักธุรกิจในภาคการผลิตที่อยากจะยังมาลงทุนในประเทศไทยหรือมาการขยายการลงทุนในประเทศไทย เพราะว่าหลายคนก็มีธุรกิจอยู่ที่นี่แล้ว ผ่านเข้ามาสอบถามพูดคุยถึงสถานการณ์และก็ยืนยันว่ายังมีความตั้งใจในการที่จะขยายหรือมาลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น และก็รวมไปถึงนักธุรกิจที่มาลงทุนทางด้านการเงินในตลาดหลักทรัพย์ ก็ได้มาแสดงความจำนงเช่นเดียวกัน ว่าต้องการที่จะมาลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งนะครับในการสร้างโอกาสให้กับคนของเรา

เผยผู้นำระดับโลกเตรียมเยือนไทยมิ.ย.

นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า น่ายินดีด้วยก็คือว่าในส่วนของผู้จัดเวทีเศรษฐกิจโลกนี้ก็ได้ตัดสินใจว่า ในทุก ๆ ปีซึ่งเขาจะมีการมาประชุมในลักษณะที่ย่อยลงมาในระดับภูมิภาค คือที่เอเชียตะวันออกและปีนี้เขาจะไปประชุมที่เกาหลี แต่ว่าในการมาประชุมที่เกาหลีนี้เขาได้เสนอว่า เขาจะพาผู้บริหารชั้นนำของธุรกิจของโลกที่จะเดินทางมาที่เกาหลี มาแวะที่ประเทศไทย เพื่อที่จะมาพบปะพูดคุยกับรัฐบาลไทย และมาดูลู่ทางในเรื่องของการลงทุน ก็คิดว่าคงไม่มีปัญหา คงจะสามารถจัดให้เกิดขึ้นได้ประมาณกลางเดือนมิถุนายน และเขาก็บอกว่าถ้านักลงทุนต่าง ๆ เข้ามาและมีความสนใจมากขึ้น ดีไม่ดีปีหน้าเวทีที่มาจัดที่เอเชียตะวันออกก็อาจจะมาจัดที่กรุงเทพฯ ซึ่งก็จะเป็นโอกาสดีเช่นเดียวกันที่เราจะได้ต้อนรับทั้งผู้นำของประเทศต่าง ๆ และนักลงทุนจากหลายภูมิภาค ซึ่งเป็นนักลงทุนชั้นนำ นักธุรกิจชั้นนำ

คุยกับสื่อโลกแล้วสร้างความเชื่อมั่นได้

นายกฯกล่าวอีกว่า ส่วนสุดท้ายที่ได้ใช้เวลาที่ดาวอสก็คือการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ ซึ่งก็มีหลากหลายมากครับ ทั้งโทรทัศน์ก็มี ทั้งของ BBC ทั้งของ Bloomberg ทั้งของ Reuters ไปจนถึงการที่พบปะกับหนังสือพิมพ์ชั้นนำของโลก ก็เป็นโอกาสดีอีกครั้งหนึ่งที่ได้อธิบายถึงความเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปในทางบวกของประเทศไทยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะมาสร้างความเชื่อมั่นและให้ชาวโลกได้เข้าใจเราและมีความมั่นใจในเรา ซึ่งทั้งหมดก็จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่พี่น้องประชาชนกำลังประสบอยู่ในขณะนี้

เผยโคฟี่-บิลล์เกตต์ ร่วมว่งเชื่อเป็นโอกาสไทย

นายกฯ กล่าวในตอนท้ายว่า นอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาทั้งหมด ในช่วงของการประชุม ในช่วงการอภิปราย ก็ยังได้ร่วมเวทีกับบุคคลสำคัญ ๆ อีกเช่น นายโคฟี อันนัน ซึ่งเป็นอดีตเลขาธิการสหประชาชาติ บิลล์ เกตต์ ซึ่งปัจจุบันมาทำงานทางด้านมูลนิธิ แต่เดิมก็คือเจ้าของและผู้บริหารของบริษัท Microsoft และอีกหลายต่อหลายท่าน ทั้งหมดนี้คิดว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการที่จะแสวงหาโอกาสให้กับประเทศไทย และพี่น้องประชาชนคนไทยต่อไป

“อภิสิทธิ์” ขอบคุณ ส.ส.-ส.ว.

ในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกอภิสิทธิ์” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งถึงการประชุมสภาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็น 4วันที่มีความสำคัญมากกับการทำงานของรัฐบาล เพราะว่าในสองวันแรกทางที่ประชุมร่วมของรัฐสภาได้ผ่านร่างหนังสือสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการที่จะลงนามในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่เราจะเป็นเจ้าภาพในปลายเดือนก.พ. ซึ่งทั้งหมดมี 41 ฉบับซึ่งทางรัฐบาลก็ได้ความเห็นชอบแต่บางฉบับที่ยังไม่ต้องลงนาม แต่จะมีการลงนามในปลายปีนี้ทางสภาก็ได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา

“ผมก็ถือโอกาสนี้ขอบคุณทั้งเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและท่านสมาชิกวุฒิสภา ที่ได้ให้ความกรุณาเห็นชอบและผ่านหนังสือสัญญาเหล่านี้ ทำให้มีความพร้อมอย่างเต็มที่แล้วในขณะนี้ที่จะได้มีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในปายเดือนก.พ. ”นายกฯ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการประชุมสภาเพื่อพิจารณากฎหมายงบประมาณเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ2552ว่า ส่วนหนึ่งเป็นมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีงบประมาณเพิ่มเติม 1 แสนกว่าล้านซึ่งประกอบไปด้วยโครงการสำคัญอย่างที่ตนเคยเล่าให้ทราบไปแล้ว ทั้งมาตรการที่เกี่ยวข้องกับคนว่างงาน มาตรการช่วยเหลือคนมีรายได้น้อย2,000 บาท การเรียนฟรี15ปี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่อายุเกิน60ปีที่ยังไม่มีหลักประกันด้านรายได้ และยังมีโครงการอื่นอีกจำนวนหนึ่ง

“ก็ถือโอกาสนี้ขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านกฎหมายนี้ในวาระที่หนึ่ง แล้วก็เป็นการพิจารณาในวาระที่สองที่สามและการพิจารณาของวุฒิสภา ถ้าหากเราพิจารณาเสร็จได้ภายในเดือนหน้า เงินงบประมาณในโครงการเหล่านี้ก็จะสามารถออกสู่ประชาชนได้ในเดือนมี.ค. ซึ่งจะมีส่วนสำคัญมากการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน”นายกฯ กล่าว

“อภิสิทธิ์” เผย นำปัญหากองทุนกู้ยืมเรียนเข้าพิจารณาในครม.อังคารนี้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกอภิสิทธิ์”ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันอังคารที่3 ก.พ.นี้ว่า ครม.มีมาตรการสำคัญคือเรื่องของการแก้ปัญหากองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)ที่ตนเคยเล่าไปเล่าแล้วว่าจะมีทั้งการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการเพื่อให้เงินกองทุนไปถึงมือลูกหลานของเราที่กู้ยืมเรียนเร็วขึ้น และยังมีในส่วนของการเพิ่มวงเงินเข้าไป ซึ่งตนเชื่อว่าจะทำให้ทั้งมีประสิทธิภาพและการครอบคลุมดีขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น