xs
xsm
sm
md
lg

ลากไส้ “เสื้อแดง” ชุมนุมใหญ่ หวังฉีกหน้า “มาร์ค” เตือนอย่าประมาทพิษสง “แม้ว”!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สำราญ” ลากไส้ “กลุ่มเสื้อแดง” เดินเกมชุมนุมใหญ่ 31 ม.ค.นี้ คาด “ม็อบ” เคลื่อนพลยึดทำเนียบ หวังฉีกหน้า-ดิสเครดิต “อภิสิทธิ์” ที่กำลังโชว์กึ๋นนำประเทศไทยออกจากวิกฤต-สร้างความมั่นใจต่อ “ต่างชาติ” ด้าน “นพ.เกรียงศักดิ์” เตือนอย่าประมาท “นช.แม้ว” ชี้ ไม่หมดพิษสง-ยังหาช่องป่วนประเทศตลอดเวลา ฝันเห็น “นายกฯ” มาจาก ปชช.โดยตรง เชื่อมีความสง่างาม-สามารถเลือก ครม.ที่เป็นคนดีเข้าบริหารประเทศ

รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ออกอากาศทาง เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-23.00 น.วันที่ 29 มกราคม 2552 ซึ่งนางสาวเมธาวดี เบญจราชจารุนันท์ เป็นผู้ดำเนินรายการ พบกับการปราศรัยของนายสำราญ รอดเพชร แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่น 2 ตามติดด้วย นพ.เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา จากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมรายการ

เมธาวดี - สวัสดีคะ พบกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนะคะ วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม 2552 วันนี้อยู่กับแอร์ เมธาวดี เบญจราชจารุนันท์ พร้อมๆ กับพี่น้องที่อยู่ในห้องส่งทุกๆ ท่าน สวัสดีคะ (เสียงมือตบ) เหมือนเช่นเคยนะคะ ช่วงนี้เราก็มีข่าวฝากประชาสัมพันธ์ซึ่งพี่น้องที่อยากจะฝากข่าวประชาสัมพันธ์การเคลื่อนไหวในส่วนต่างๆ ก็สามารถที่จะฝากข่าวประชาสัมพันธ์มาได้ที่ทางสถานีได้ที่ 02 629 4433 หรือพี่น้องจะส่ง SMS มาที่หน้าจอ พิมพ์ N1 ข้อความ ส่งมาที่ 4850770 หลังจากที่เราได้มีการประชาสัมพันธ์ซึ่งวันเสาร์ที่จะถึงนี้จะมีการจัดคอนเสิร์ตครั้งที่ 2 กันแล้วที่สระบุรี

แต่ว่าในพื้นที่ที่ จ.บุรีรัมย์ ได้รับการเปิดเผยจากภรรยาของสารวัตรจ๊าบ คือ คุณพี่เพ็ญพิมล ใสงาม ได้บอกมาว่า วันที่ 31 มกราคมนี้ คือ วันเสาร์ที่บริเวณลานวัฒนธรรม เทศบาลบุรีรัมย์ ตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึงเที่ยงคืน ก็จะมีงานเตรียมทำบุญอุทิศส่วนกุศล เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 วัน การจากไปของสารวัตรจ๊าบ ซึ่งในช่วงเช้าจะมีการจัดการประกอบพิธีสงฆ์ ส่วนในช่วงบ่ายจะมีการเปิดเวทีเสวนาเรื่องการเมืองใหม่ และการเมืองภาคประชาชนคะน่าสนใจมาก เพราะว่าจะมีแกนนำพันธมิตรฯจากกรุงเทพฯไปร่วมด้วนนะคะ ซึ่งก็จะประกอบไปด้วย คุณชัยวัฒน์ สินสุ่วงศ์ คุณการุณ ใสงาม คุณสมบูรณ์ ทองบุราณนะคะ คุณสุชาติ ศรีสังข์ แล้วก็ พี่พิเชฐ พัฒนโชติ พร้อมกันนี้ จะมีพิธีเปิดสถานีวิทยุชุมชนคลื่น FM 94.5 เมธีเรดิโอ ด้วยคะ

ส่วนการแสดงดนตรีนะคะจะมีศิลปินพันธมิตรฯไปร่วมงานอย่างคับคั่ง อย่างเช่น คุณประทีป ขจัดพาล คุณจุ๋ม ด่านเกวียน คุณแหลม ผู้จัดกวนนะคะ แล้วภายในงานยังมีการแจกเสื้อ หนังสือ แผ่นซีดีประวัติของสารวัตรจ๊าบ ให้กับผู้ที่มาร่วมงานนี้ด้วย นอกจากนั้นยังมีการนำข้าวสารหอมมะลิจากอำเภอประโคนชัยมาจำหน่ายให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ซึ่งรายได้ทั้งหมดนะคะก็จะมอบให้กับสถานีโทรทัศน์ ASTV คะ แล้วก็ให้พี่น้องเครือข่ายพันธมิตรฯที่ได้รับบาดเจ็บ พิการ ในการร่วมต่อสู้กับพี่น้องพันธมิตรฯ 193 วัน ที่ผ่านมานะคะ

นอกจากนี้ คุณเพ็ญพิมล ภรรยาของสารวัตรจ๊าบนะคะได้บอกว่า ตอนนี้การเตรียมสถานที่และสิ่งของนั้นเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ยืนยันว่ากำหนดการจัดงานคือ 31 มกราคมนี้นะคะ ไม่มีการเลื่อนอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าเปลี่ยนสถานที่จากสถานที่เดิมที่จะจัดที่บ้านสวนเมธีนะคะ มาเป็นที่บริเวณลานวัฒนธรรม เทศบาลเมือง เธอจึงฝากเชิญชวนพี่นอ้งพันธมิตรฯ ในบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียงให้ไปร่วมงานนี้ด้วย

ส่วนอีกหนึ่งข่าวประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องพันธมิตรฯ สุราษฎร์ธานี ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ พี่น้องพันธมิตรฯสุราษฎร์ธานี จะมีการทัวร์สัญจรไปจัดเสวนาเรื่องของการเมืองใหม่เวลาบ่ายโมงตรง จะทัวร์สัญจรไปที่บ้านนาสาร ที่ศาลาประชาคม เวลาบ่ายโมง ในวันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เชิญพี่น้องพันธมิตรฯ ที่สุราษฎร์ฯไปร่วมในงานนี้ด้วยคะ

ก่อนที่จะเราไปรับฟังการปราศรัย วันนี้ คุณแอ้ม สโรชา พรอุดมศักดิ์ ได้เดินทางไปสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ทำเนียบรัฐบาล จากสถานีโทรทัศน์ TOC และก็มีการสัมภาษณ์ทิ้งท้ายไว้เป็นภาษาไทย น่าสนใจทีเดียว ถามถึงเรื่องความเชื่อมั่นของพรรคร่วมรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ และท่านนายกฯยังฝากข้อความทิ้งท้ายมาถึงพี่น้องพันธมิตรฯด้วย มาถึง ASTV ด้วย อยากฟังกันแล้วใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นช่วงนี้เราไปฟังการสัมภาษณ์ของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คะ

(VTR สัมภาษณ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี)

สโรชา - ตอนแรกที่เราเห็นภาพ หลายๆ ภาพที่ออกมา แล้วก็มีคนบอกว่าทำใจกับสถานการณ์ที่จะต้องเป็นในการจัดตั้งรัฐบาล หลายกลุ่มหลายก้อนที่เข้ามาร่วม คุณอภิสิทธิ์ ยังเชื่อมั่นอยู่หรือเปล่า ว่า กลุ่มก้อนพรรคต่างๆ ที่มาร่วมกับคุณอภิสิทธิ์ในครั้งนี้ ยังคงอยู่กับคุณอภิสิทธิ์ต่อไป ในระยะยาว

อภิสิทธิ์ - ผมว่าความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่า เขาอยู่กับผมหรือไม่ แต่ว่าเขากับผมยังยืนยันว่าที่มาร่วมกันครั้งนี้เพื่ออะไร ถ้าเกิดว่ายังเป็นการยืนยันเป้าหมายเดิมว่าเราต้องการที่จะพาประเทศพ้นจากวิกฤตให้ได้ ผมว่านั่นสำคัญที่สุด ส่วนเขาจะอยู่กับผมหรือไม่ อย่างไรก็ต้องดูว่าในที่สุด ผมหรือเขาได้ทำงานนี้จริงหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ทำงานนี้ด้วยกันก็ไม่ควรจะอยู่ด้วยกัน

สโรชา - ยังเชื่อมั่นถึงความสามารถในการบริหารจัดการภายในได้

อภิสิทธิ์ - มันก็เป็นความรับผิดชอบของผมในเบื้องต้นครับ ในฐานะผู้นำรัฐบาลนะครับ และในช่วง 1 เดือนแรกที่ผ่านมา ผมก็คิดว่าทุกอย่างก็เป็นไปได้ดีพอสมควร

สโรชา - มีอะไรจะฝากไปถึงคนดู ASTV บ้างคะ

อภิสิทธิ์ - ก็คงจะฝากไปยังท่านผู้ชมทุกท่านนะครับว่า สิ่งที่หลายคนต้องการในเรื่องของความถูกต้องในเรื่องของความเป็นธรรม ในเรื่องของการที่จะทำให้บ้านเมืองของเราเดินไปข้างหน้า มีการพัฒนา ก็เป็นเป้าหมายของผม บางเรื่องต้องใช้เวลาแต่หลายๆ เรื่องเนี้ยผมก็ได้เดินหน้าทำไปมาก ขอยืนยันว่าผมมีเจตนารมย์อย่างแน่วแน่ที่จะทำสิ่งเหล่านี้ครับ

สโรชา - คะ ขอบพระคุณคะ

เมธาวดี - ค่ะ นั่นก็คือ การสัมภาษณ์ของคุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ ซึ่งสัมภาษณ์ท่านนายกฯเอาไว้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานะคะ แล้วก็ได้มีการออกอากาศไปแล้ว ทางช่อง TOC คะ แล้วก็เมื่อซักครู่ก็เป็นการสัมภาษณ์ทิ้งท้าย โดยการถามคำถามเป็นภาษาไทยฝากมาถึงพี่น้องพันธมิตรฯนะค แล้วก็ท่านผู้ชมที่รับชมทาง ASTV คะ

ช่วงนี้นะคะ เราจะไปรับฟังการปราศรัยจากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้จะพบกับแกนนำรุ่นที่ 2 นะคะ ซึ่งเดี๋ยวเราคงจะได้พบกับแกนนำรุ่นที่ 2 นะคะ วันนี้พี่น้องหลายคนในห้องส่งก็คงกำลังสงสัยกันอยู่ใช่ไหมคะ แกนนำรุ่นที่ 2 มีตั้งหลายท่านนะคะ แล้ววันนี้จะเป็นใครแต่บอกได้แน่ๆเลยว่า เขาคนนี้ขึ้นเวทีทีไรนะคะ พี่น้องทุกคนเนี้ยก็จับจ้องไปว่าวันนี้จะมีอะไรมาบอกพี่น้อง และตอนนี้เขาอยู่กับเราแล้วนะคะ ปรบมือต้อนรับแกนนำพันธมิตรฯรุ่น 2 คุณสำราญ รอดเพชร คะ สวัสดีคะ

สำราญ - ก็ต้องกราบขออภัยนะครับ ไม่ค่อยสบายแต่ว่าโดนบังคับขู่เข็ญมานะครับ โดยความเต็มใจ เพราะทราบว่าสัปดาห์หน้าเขาจะเลิกปราศรัยในห้องส่งนี้แล้วนะครับ จะปราศรัยเฉพาะวันศุกร์ใช่ไหมครับคุณแอร์ครับ แล้วก็รายการปกตินะครับ คนในข่าวก็จะกลับคืนมาเลิก 4 ทุ่ม แล้วก็วันศุกร์ก็จะมีการปราศรัยด้านนอกนะครับ

ก็กราบสวัสดีพี่น้องทางบ้าน ท่านผู้ฟัง FM 97.75 ด้วยนะครับ พี่น้องที่อเมริกาด้วย แล้วก็พี่น้องในห้องส่งนักรบมือตบนะครับ พี่น้องเอ๊ยยยยยยยย (เอ๊ยยยย) ยังทำเป็นอยู่หรอ พี่น้องเอ๊ยยยยยยยย (เอ๊ยยยย) โอ้โหเป็นจริงๆนะครับ คุณแอร์เขินเลยเห็นไหม พี่น้องเอ๊ยยยยยยยย (เอ๊ยยยย) คุณแอร์ทำไม่เป็นแล้ว พี่น้องยังทำคล่องอยู่เลยนะครับ

ก็วันนี้ปุ๊บปั๊บนิดหน่อยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมา พูดจากใจถึงใจเป็นกลอนสดแล้วกันนะครับ ไอที่ถือๆมาก็คือผมนี่ถ้าไม่ถือปากกา ไม่ถือกระดาษซักแผ่นเนี้ย พูดไม่ออกนะครับ ดังนั้นบางครั้งไม่มีปากกาก็เอาโทรศัพท์มาถือเล่นอยู่นะครับ พี่น้องคงเห็น ก็จริงๆ แล้วก็คิดถึงทุกท่าน เมื่อคืนไปงานที่มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่ดุสิตธานี ก็ได้เจอพี่น้องหลายคนนะครับ ก็ทางนู้นเขาจัดงานเข้ากองทุนด้านศิลปะ ด้านการศึกษานะครับ ก็ผมก็ไปร่วมงาน แต่ว่าอยู่ได้ไม่จบนะครับ ก็เลยไม่ได้ไปคาราวะ พล.อ.เปรม หลังจากนั้นก็ตอนสี่ทุ่มกว่าๆก็ไปร่วมงานเลี้ยงของพี่น้องนะครับ ก็แม่ยกเขาเลี้ยงกัน งานเลี้ยงยังมีแอบจัดกันเยอะเลย เท่าที่รู้ๆ เนี้ยนะครับ คือคิดถึงกันนะหลายๆ คนดูแล้วคิดถึงกัน บางคนอยากเจอคนนู้น อยากพบคนนี้นะครับ ก็เลยมีการจัดงานกัน

เมื่อคืนแม่ยก คุณสุริยะใส กตะศิลา จัดงานที่หลังสวนนะครับ คือชอบคุณสุริยะใสมากแต่ว่าก็ไม่วายที่จะคิดถึง อ.เจิมศักดิ์ คิดถึงประพันธ์ คิดถึงสำราญ คิดถึงคนนั้นคนนี้ พิภพ ธงไชย ก็ไปนะครับ หลายคนก็ไป น้องจอย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค ก็ไปนะครับ ก็เลยพึ่งรู้ว่าน้องจอยนั้นไปแสดงหนังแล้วที่ช่อง 7 นะครับ ละคร ขออภัยน้องจอยจำชื่อเรื่องไม่ได้เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาเล่าให้ฟัง เห็นว่าลงเลือกตั้งด้วยนะในหนังเนี้ยครับ จอย ศิริลักษณ์ ลงเลือกตั้ง เป็นผู้ใหญ่บ้าน เอ๊ะเรื่องอะไรหนอเดี๋ยวจำไม่ได้ เดี๋ยวให้คุณแอร์ช่วยพูดเสริมพี่หน่อยตอนใกล้จบรายการนะครับ ก็ทุกคนก็คิดถึงกันอย่างนี้ ก็มีการพูดจาแลกเปลี่ยนข่าวสารกันบ้างนะครับ กระตุ้นเตือนกันบ้าง แสดงความรักความผูกพันธ์กันบ้างก็แล้วแต่นะครับ คือ งานเลี้ยงยังไม่เลิกราว่าไปแล้วนะครับ นี่คือพี่น้องพันธมิตรฯในขอบข่ายทั่วประเทศ ก็นั่นคือเมื่อวานนะครับ นี่พูดไปเรื่อยเปื่อยนะวันนี้ ตามสบายๆ นะครับ

จริงๆ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเนี้ย ข่าวสาร การบ้านการเมืองเนี้ยนะครับ จุดโฟกัสก็อยู่ที่ นี่ใช้ศัพท์เดียวกับคุณเฉลิมนะ เฉลิมมีศัพท์ใหม่โฟกัสนะครับ จุดโฟกัสของสถานการณ์ก็อยู่ที่รัฐสภา เพราะมีกรอบการตกลงกับอาเซียน ซึ่งเราจะต้องประชุมซัมมิทอาเซียนครั้งที่ 14 หรือครั้งที่เท่าไหร่ไม่ทราบ ที่หัวหินวันที่ 27 กุมภาฯ เดือนหน้านะครับ ทีนี้ร่างความตกลงหลายฉบับ 34 ฉบับจะต้องผ่าน เอ่อ 43 ฉบับนะครับ จะต้องผ่านรัฐสภานะครับ ซึ่งก็ได้ประชุมกัน 2 วันกว่าๆ ก็ผ่านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีบางร่าง บางฉบับก็ไปตั้งกรรมาธิการขึ้นมา ศึกษามาเพิ่มเติม หรือมาตั้งข้อสังเกตก็แล้วแต่ ใช้เวลานิดหน่อยนะครับ แล้วตามด้วยเมื่อวานร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมรายปี 2552 116,000 ล้านบาทนะครับ ก็เข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร สภาเดียวนะครับ ก็อภิปรายกันไปเรียบร้อยแล้ว ผ่านไปแล้ว เมื่อวานตอนตีหนึ่ง

คืนนี้ จริงๆ ก็คือ วันนี้ แต่เราถือว่าเป็นเมื่อวานตีหนึ่งนะครับ พี่น้องหลายคนก็คงได้รับชมรับฟัง แล้วใครที่เฝ้าหน้าจอทีวีรับชมการถ่ายทอดสดนะครับ ก็คงจะได้เห็นว่านี่คือประเทศไทย นี่คือการเมืองไทยมันก็เป็นเช่นนี้นะครับ บางคนบอกว่าเป็นการเมืองเก่า บางคนบอกว่าเป็นชีวิตจริงนะครับ บางคนก็บอกว่าโอ๊ยดูไม่ได้ต้องรีบปิดนะครับ บางคนบอกว่าทนฟังๆนะครับ บางคนก็บอกว่าเอาใจช่วย คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นะครับ เอาใจแช่งคุณจตุพร คุณเฉลิม ก็แล้วแต่นะครับ (เสียงมือตบ)

แต่ว่าพูดอย่างเป็นธรรมคุณเฉลิมก็ทำการบ้านมาใช้ได้เมื่อวานนะ พูดถึงงบประมาณ ก็คือ ทำมาเป็นปึกเลยนะครับ แต่ว่าคนที่ทำการบ้านมากกว่าแล้วพูดตรงมากกว่าก็คือคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ถือว่าใช้ได้ คุณเฉลิมก็เก่ง คือตั้งโจทย์ ตั้งประเด็นให้นายกฯ เอ่อต้องเงี้ยหูฟังไม่ฟังไม่ได้นะครับ ก็ดีนะครับ แต่ว่าในสิ่งที่เน่าๆก็มีเยอะนะครับ การประท้วงครั้งแล้วครั้งเล่า นับองค์ประชุมกันแบบพร่ำเพรื่อกันแบบไร้เหตุผลนะครับ ว่างๆไม่รู้จะทำอะไรก็ยกมือท่านประธานขอนับองค์ประชุมนะครับ ไอ้กดปุ่มเฉยๆ ก็ไม่เอา ขอให้ขานชื่อ นี่คือ ประเทศไทย ส.ส.ไทยนะครับ

แล้วก็ต้องบอกว่านี่คือ การเมืองเก่า แล้วจะมีการเมืองใหม่ไหม เราก็ตอบยากเหมือนกันในนาทีนี้ แต่รู้แต่ว่าทุกคนโดยเฉพาะ 5 แกนนำ โดยเฉพาะพี่น้องแกนนำในแต่ละจังหวัดก็ยังถวิลหา โหยหา อยากไปให้ถึงคำว่าการเมืองใหม่ ซึ่งแน่นอน ชั่วข้ามคืนทำไม่ได้ ผมเคยพูดที่ชลบุรีแล้วว่า บางทีเราก็ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าต้องกินข้าวทีละคำ มันต้องเติมเต็มพื้นที่การเมืองใหม่ๆ ชลบุรียึดพื้นที่กลับมาได้จากการเมืองเก่า หรืออิทธิพลเก่า

ขณะเดียวกัน ก็ยังสร้างการเมืองใหม่ไม่ได้ แต่ก็ยึดพื้นที่มาได้ ตรงนู้นต้องยึดให้ได้ ตรงนี้ต้องยึดให้ได้ แล้วค่อยๆ กินพื้นที่ไป กินข้าวทีละคำ ถ้าไม่อย่างนั้นก็ต้องม้วนเดียวจบเลย อย่างที่คนบางคนอยากได้ ประเทศไทยบางคนบอกว่า ต้องซาดิตส์หน่อย ต้องฆ่ากันให้ตายสักพันศพ 500 ศพ 200 ศพ มันถึงจะล้าง สร้างระบบขึ้นมาใหม่ ซึ่งผมอย่างไรก็ตามพี่น้องครับ ผมรับไม่ได้ถ้าอย่างนั้น ถ้าคนไทยต้องฆ่ากันอีกเพื่อล้างระบอบ สร้างระบบใหม่ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร สู้ให้มันสุกงอมโดยธรรมชาติจะดีที่สุด แต่ว่าเราจะนอนรอให้ผลไม้สุก รอให้มันหล่นมาเองก็ไม่ได้ ต้องต่อสู้อย่างนี้ ก่อนนายกฯ จะออกไป 2 คน ใช้เวลาถึง 193 วัน การเมืองเปลี่ยนขั้วนิดเดียว จากสมชาย เป็นอภิสิทธิ์ เห็นไหม มันต้องลงทุนกันขนาดนี้ นี่คือประเทศไทย เราโชคร้ายมาก

อย่างที่ผมเคยมาพูดตรงนี้แหละ ว่า เราล้มตายก็มาก บาดเจ็บก็มาก ใช้เวลาก็ยาวนานเกินเหตุ โชคร้าย สุดท้ายไปชุมนุมสุวรรณภูมิหวังว่า 3 วันม้วนเดียวจบของท่านมหาจำลอง ที่ไหนได้ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ แถมให้อีก 5 วัน เราไม่อยากได้ของแถม จนบัดนี้เรื่องของการชุมนุมที่สนามบินก็ยังกลายเป็นโจทก์ของสังคม พี่น้องฟังการถ่ายทอดประชุมสภาจะเห็นว่าพันธมิตรฯ 2 คำก็พันธมิตรฯ และก็ปิดสนามบิน เราคือตกเป็นจำเลยของสังคม โดนข้อกล่าวหาจากฝ่ายค้าน จากเฉลิม สุนัย จากใครต่อใคร อันนี้คือเขาพยายามตอกย้ำในสิ่งเหล่านี้ จริงๆเรื่องนี้เราชี้แจงกันมายาวนานแล้ว จริงๆ อ.สมเกียรติ ก็ลุกขึ้นพูดเมื่อวาน พี่น้องปรบมือให้ อ.สมเกียรติ อีกทีได้ไหมครับ (เสียงมือตบ)

คือ อ.สมเกียรติ บอกเลย สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน และบอกว่าเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วย แถมตำแหน่ง ส.ส.เขตไหนครับ แกนนำเนี่ยครับ แล้วก็ได้ชี้แจงเรื่องการชุมนุมที่สนามบิน ซึ่งเขาพยายามใส่ร้าย โดยเฉพาะท่านทูตกษิต ภิรมย์ เขาจะใช้เงื่อนไขเรียกว่า แกนนำเป็นผู้ปราศรัยที่สนามบินสุวรรณภูมิ รัฐมนตรีต่างประเทศแบบนี้ อับอายไปทั่วโลก คุณจะไปสร้างความเชื่อมั่นให้โลกได้อย่างไร ก็คุณเป็นคนยึดสนามบิน สุดท้ายท่านทูตกษิตเอย ใครต่อใครเอย ผมว่าสอบผ่านหมดนะ แต่จะทำให้เขาเชื่อ เลิกพูดไม่ได้หรอกครับ ต้องทำใจ แล้วอย่าไปรำคาญ เพราะ

วันนี้ผมเจอหลายคน บอกว่ารำคาญคุณสำราญ ไม่จัดการคนพวกนี้ซะที จะให้ผมจัดการอะไรเหรอ ผมก็ได้แต่ชี้แจงอย่างนี้ และเราต้องอดทน ก็เขาต้องพูดอย่างนี้ 31 นี้เขาต้องเคลื่อนไหว คือเราก็ต้องยอมรับว่าการชุมนุมที่ถูกมองว่าเป็นการยึดสนามบิน มันก็ต้องมีผลกระทบ เราก็รู้ว่าต้องเกิดผลกระทบบ้าง แต่เพื่อยุติการชุมนุม ยุติความสูญเสียของประเทศ ยุติความคาราคาซัง ประเมินกันตอนโน้นนะครับ บอกว่าไม่เกิน 3 วัน หรือ 4 วัน ต้องจบ แต่สุดท้ายก็ไปถึง 6 วันกว่าพี่น้อง ซึ่งก็ต้องกระทบบ้าง แต่ว่าถ้าไม่ไปอย่างนั้น การเมืองจะไปอีกแบบหนึ่ง ผมไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น อนาธิปไตยจะเกิดขึ้นก็ได้ พี่น้องที่ทำเนียบอาจจะลุกฮือขึ้นมาก็ได้ พล.ต.จำลอง เริ่มจะคุมไม่อยู่แล้ววันนั้น พี่น้องก็รู้ หลายคนคงทราบ การ์ดเขาทนไม่ได้แล้ว ที่จะให้พี่น้องของเราล้มตายวันละศพ 2 ศพที่ทำเนียบ เขาจะจับอาวุธขึ้นมาแล้ว

ดังนั้น มาตรการการไปชุมนุมที่สุวรรณภูมิ คือ มาตรการที่จำเป็นจริงๆ ไม่มีใครอยากให้เกิด ไม่มีใครอยากให้เสียหายหรอกครับ เราก็ต้องยอมรับผลกระทบตรงนี้ ผมพูดแบบ ต้องยอมรับตัวเองด้วยว่า มันก็ต้องมีผลกระทบอยู่บ้าง เพราะโลกยังไม่เข้าใจเราก็มีอยู่นะครับ อีก 180 -190 ประเทศ เราไม่ได้อยู่ในอวกาศประเทศเดียว เราอยู่บนโลก ดังนั้นเมื่อวานก็เลยออก พ.ร.บ.ที่หนังสือพิมพ์เรียกว่า ป้องกันการยึดสนามบิน พ.ร.บ.ว่าด้วยความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พ.ศ......

ผมก็วิเคราะห์ได้ว่า คุณอภิสิทธิ์ ถือร่างนี้ ตอนนี้อยู่สวิตเซอร์แลนด์ ไปประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม ซึ่งเป็นอะไรที่ใหญ่มากการประชุมนี้ เพื่ออย่างนี้ก็เป็นใบเสร็จ หรือหลักฐาน จะถูกจะผิดแต่ผมว่าก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ไม่เสียอะไร เพราะถ้าโลกถามว่า สนามบินของคุณยังปลอดภัยหรือเปล่า คุณมีมาตรการป้องกันไม่ให้ คุณสุริยะใส มาชุมนุมอีก จะทำอย่างไร อย่างน้อยก็ได้มีประเทศของ I ของข้า กำลังออกกฎหมายอย่างนี้ คือมันอธิบายกับชาวโลกได้บ้าง พี่น้องครับ ผมก็เห็นใจผู้นำรัฐบาลนะครับ จริงๆ ถ้าจะแก้ให้ตรงเหตุต้องแก้กันตรงอื่นนะครับ ซึ่งไม่มีเวลาพูดตรงนี้ แต่ก็เอาละ เราก็พอรับได้ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ปรับแค่ 500-10,000 บาท แม่ยกบอกสบาย ชุมนุมให้เข็ดเลย 10,000 บาท (เสียงมือตบ) และให้พนักงานการท่าฯ ซึ่งเป็นพนักงาน เจ้าหน้าที่จับได้เลย จับแล้วส่งตำรวจภายใน 24 ชั่วโมง ไปทดสอบดูไหมครับกฎหมายนี้ ผมกลัวพวกเสื้อแดงจะไปฉลองกฎหมายฉบับนี้ พูดเล่นนะครับ

คุณอภิสิทธิ์ ก็ไปที่เมืองดาวอส ที่สวิตเซอร์แลนด์ สำคัญมาก การประชุมตรงนี้ คือ ต้องไปแสดงกึ๋นทางเศรษฐกิจ ทางความเข้าใจพลวัตของโลก คุณจะกอบบ้านกู้เมืองอย่างไร คุรอภิสิทธิ์ไม่เพียงพกแต่ตำแหน่งนายกฯคนที่ 27 ของประเทศไทยเท่านั้น ยังพกตำแหน่งประธานกลุ่มอาเซียนอีก ดังนั้นต้องมีวิสัยทัศน์คือแสดงกึ๋น ถ้าพี่น้องเกลียดก็แช่งให้สอบตกกันเลย ถ้าพี่น้องรักก็เชียร์ให้สอบผ่าน เพื่อเป็นหน้าเป็นตากับประเทศไทย แต่สิ่งที่น่าขมขื่น น่าจับตา คือมุมมองของผม ผมขับรถมาก็นั่งคิด ทำไมเสื้อแดงต้องเอาวันที่ 31 ในการชุมนุมที่สนามหลวง และมีเค้าลางว่าอาจจะเคลื่อนไหววนไปที่ทำเนียบรัฐบาล หรือที่ไหนสักแห่ง เลียนแบบน้องแอร์เลย วันที่ 31 ซึ่งตามสายข่าวบอกว่าคนเป็นหมื่นแน่เลยละ ถึงแม้ตอนนี้เหนือ อีสาน รวมกันแล้วได้สัก 3,000-4,000 คนไม่เกิน

แต่กำลังหลักสุดท้ายก็จะอยู่ตรงนี้แหละ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี รังสิต ขนเกณฑ์กันมาก็แล้วแต่ เพื่อสำแดงกำลังในวันที่ 31 ซึ่งพันธมิตรฯ จัดงานใหญ่ที่สระบุรี คอนเสิร์ตพันธมิตรฯกำลังเต้นรูดเสากัน (เสียงมือตบ) แหม คุณแอน คุณแอ้มกำลังเต้นรูดเสากันสนุกนะ แต่ว่าเสื้อแดงเผลอเคลื่อนพบไปทำเนียบ หรือกองบัญชาการตำรวจนครบาลในค่ำคืนวันที่ 31 ขณะที่นายกฯอภิสิทธิ์ อยู่ที่ดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ กำลังแสดงกึ๋นให้ชาวโลกเห็นว่าประเทศไทยกำลังจะออกจากวิกฤตแล้วอย่างไร ข้อเท็จจริงของการเมืองไทยเป็นอย่างไร มันกำลังเข้าที่เข้าทางได้อย่างไร ผมกำลังบอกพี่น้องอย่างนี้ เป็นข้อสังเกต ผิดถูกก็ผมรับผิดชอบ พี่น้องนำไปคิดต่อ นี่คือขบวนการที่พยายามดิสเครดิต และฉีกหน้า และยับยั้งความสำเร็จของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ขณะที่ อภิสิทธิ์ กำลังพูด โอ้โห ฝรั่งพูดน้ำไหลไฟดับอยู่ที่ดาวอส ประเทศไทยจะออกจากวิกฤตอย่างไร กำลังดีวันดีคืน แต่ที่สนามหลวง หรือที่ทำเนียบ หรือมาบ้านพระอาทิตย์ กลำงตุ้บตั้บกันอยู่ CNN BBC สำนักข่าวต่างประเทศต้องตีข่าว ถูกไหมครับ อภิสิทธิ์ บอกว่าประเทศไทยกำลังน่าเชื่อมั่นอยู่ ตอนนี้ปัญหาความเชื่อมั่นเป็นปัญหาหลักของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำมาค้าขายระหว่างประเทศ ความเชื่อมั่นคือสิ่งสำคัญมาก อย่าว่าแต่ระหว่างประเทศเลย แม้กรทั่งในประเทศก็เถอะ ขณะที่ไปพูดดิบดี สมมติพูดดีนะ มีกึ๋นสุดๆเลย ดีมากที่ดาวอส แต่ที่กรุงเทพฯ เสื้อแดงกำลังฮึ่มๆๆ ฆ่ามันๆ ดันเข้าไปๆ สมมติอย่างนี้นะครับ อะไรจะเกิดขึ้น

ผมนึกว่ามันตรงกันพอดีเลย แล้วพันธมิตรฯ ก็กำลังเต้นกันที่สระบุรี นี่คือเป็นข้อสังเกต ประเทศนี้ยังต้องเหนื่อยกันอีกมาก คุณอภิสิทธิ์ พี่น้องเห็นไหมครับ ก็ผมพูดถึงท่านเยอะนิดนึงนะครับวันนี้นะ เพราะว่าอยากให้กำลังใจนิดนึง แต่ว่าเราบางสิ่งบางอย่างเราก็ต้องเตือน อันไหนที่ท่านไม่รักษากฎเหล็ก 9 ข้อเนี้ย เราก็ต้องกระตุกสติของท่าน ว่าเคยประกาศเอาไว้ กฎเหล็ก 9 ข้อเนี้ย ธรรมาภิบาลของการเมืองเป็นอย่างไร เราก็ต้องท้วงติงท่าน แต่ตอนนี้คือเราจะเห็นร่องรอยความแก่มาเยือนแล้วใช่ไหมครับ 44 ปีนะครับ ชักจะเลยหน้าโอบามาไปแล้วใช่ไหม แต่ว่าเขาผิวดำเท่านั้นเอง

คุณอภิสิทธิ์ ผิดขาวก็เลยดูมีน้ำมีนวลมากกว่านะครับ แต่ว่าคนที่แก่เห็นชัดๆเลยนะครับ คุณกรณ์ จาติกวณิช ไม่เชื่อเดี๋ยวดูซิครับ โอ้โหหน้าผากมันวาบแต่ละวันนะครับ คือคงจะเครียดนะครับ อันนี้เราเข้าใจ นี่คือประเด็นที่ผมอยากชี้ว่า นี่ภารกิจของเราเลยก็ยังไม่จบนะครับ เสื้อแดงก็ยังคงเคลื่อนพล ส่วนเขาจะสัมฤทธิ์ผลมากน้อยขนาดไหน ผมก็ไม่ทราบ แต่ผมเชื่อว่าโดยกระแสอารมณ์ ความรู้สึกของสังคมเนี้ย เขาก็เบื่อกันนะครับ แล้วสำคัญอย่างยิ่งนะครับ อยู่ที่ว่าพวกคุณมีความชอบธรรมหรือไม่ พวกเราเนี้ยเคลื่อนไหวไม่ใช่เพื่อให้อภิสิทธิ์เป็นนายกฯใช่ไหมพี่น้อง 193 วัน เราอยากสร้างการเมืองใหม่ เราอยากหยุดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราอยากหยุดการหมิ่นสถาบันนะครับ

วันนี้ คุณพีระพันธุ์ แถลงแล้ว รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ปิดไปแล้ว 2,000 เว็บ เหลืออีก 4,000 เว็บ เห็นไหมครับร้ายกาจมาก ตั้งคณะกรรมการเป็น 10 ชุด ขึ้นมาทำงาน เราเคลื่อนไหวไม่ใช่เพื่อให้คุณจำลองเป็นนายกฯ สนธิเป็นนายกฯ ไม่ใช่ แต่เราเคลื่อนไหวอย่างที่เราเรียนมาแล้ว แต่พวกเขาเคลื่อนไหวเพื่ออะไร เพื่อให้ระบอบทักษิณยังคงอยู่ เพื่อให้ระบอบทักษิณได้มีรัฐบาลที่เป็นตัวของตัวเองนะครับ นายกฯจะชื่ออะไรก็แล้วแต่ แต่เขาคนนั้นต้องเป็นรัฐบาลนอมินี รัฐบาลหุ่นเชิดนะครับ รัฐบาลหน้าเหลี่ยม แต่จะชื่ออะไรก็ได้นะครับ นี่คือความต่างกัน

ดังนั้น จุดชี้ขาด ก็คือ ความชอบธรรมนะครับ พวกเขาความชอบธรรมไม่มี สังคมก็ไม่ต้อนรับ ถ้าเขาเคลื่อนไหววันที่ 31 นะครับ ผมเชื่อว่าบางทีก็จะมีการยั่วยุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเนี้ย ทำอะไรที่รุนแรง เขาจะได้เป็นข้ออ้าง อันนี้เราก็ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่อีกนะครับ คืออย่าได้เผลอไปทุบหัวมันเด็ดขาดนะครับ เลือดหยดเดียวนี่มันก็จะขยายเอาน้ำมาผสมให้เป็นร้อยล้านหยด พวกนี้นะครับ มันต้องขยายผลขยายแผลแน่นอน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงต้องระมัดระวัง แต่ขณะเดียวกันจะอ่อนปวกเปียกก็ไม่ได้นะครับ ต้องวางแผน ซึ่งตอนนี้ผมคิดว่าเขาวางแผนกันหมดแล้ว

ฟังสุ้มเสียงของฝ่ายการเมืองที่ให้สัมภาษณ์ ไม่ว่าคุณสุเทพก็ดี เสธ.หนั่น ก็ดีนะครับ ก็คงจะมีการเตรียมพร้อม ต้องใช้ไม้นุ่มแต่หนักแน่นนะครับ แล้วก็ต้องมีเส้นตายอะไรบ้างนะครับ นี่คือสภาพการของการเมืองไทยที่กำลังเกิดขึ้น แล้วก็สะท้อนว่าเราก็คงยังต้องเฝ้ามอง จับตามอง พร้อมๆกับเรียกร้องและกดดันบ้าง ในสิ่งที่สมควรและไม่สมควร ตามเหตุและผลนะครับ เพราะว่าจุดยืนของพันธมิตรก็คือยังให้โอกาสคุณอภิสิทธิ์ ให้โอกาสรัฐบาลนะครับ แต่ว่าในจุดไหนที่มันเป็นแผล หรือมันเน่าเราก็ต้องเรียกร้องว่าคุณอภิสิทธิ์คุณก็ต้องแสดง อ้าวแสดงหน่อยซิกฎเหล็ก 9 ข้อ เป็นอย่างไรนะครับ ปลากระป๋องเน่าหรือยัง ไปแจกเงินตรงนั้นเป็นยังไงนะครับ อันนี้ว่ากันไปตามข้อเท็จจริงนะครับ ผมเชื่อว่านี่ก็เป็นแรงกดดันต่อรัฐบาลด้วย แล้วก็เราก็ได้แสดงหน้าที่ว่าเราไม่ได้ละเลยต่อความถูกต้อง

ในช่วงท้ายนะครับเหลือ 3นาที 2 นาที ก็ผมก็ชื่นชมอยู่ในหลายจังหวัดนะครับ พี่น้องหลายคนก็โทรศัพท์มาถาม บางคนก็เขียนจดหมาย ส่งอีเมล์มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การเมืองใหม่ของเราอยู่ที่ไหน นี่คือ คำถามที่ฟังทีไรผมก็สะดุ้งทุกที บางทีตอบยากมากนะ แต่ว่าพันธมิตรฯ 5 แกนนำ เขาก็คงต้องคิดอย่างเคร่งเครียด เจอหน้าคุณพิภพเมื่อตอนเช้าก็เครียด จะเอาอย่างไรกันดีหนอ ก็มีภารกิจหลายด้านแต่ว่าก่อนที่จะบอกว่าเอาอย่างไรกันดีหนอเนี้ย สำคัญว่าจะยังเอากันไหม ทุกคนก็พร้อมที่จะเดินหน้านะครับ มีหลายจังหวัดได้ถักทอ ได้ก่อความเคลื่อนไหวซึ่งผมเห็นด้วยนะครับ

บางทีเราไม่ต้องมาฟัง 5 แกนนำอะไรมาก ในพื้นที่ที่เราทำได้เรามีแกนนำอยู่แล้ว อย่างสงขลา หาดใหญ่นี่ เคลื่อนไหวเรื่องน้ำประปาใช่ไหมครับ การแปรรูป การขายน้ำอะไรต่างๆนี่ อันไหนถ้ามันถูกต้องลุยไปเลย เช่นเดียวกันที่ประจวบคีรีขันธ์พันธมิตรฯในนามชื่ออื่นก็ได้ แต่ว่ารู้กันอยู่ว่าเป็นพันธมิตรฯนั่นแหละ ก็ไปเคลื่อนไหวเรื่องบ่อกำจัดขยะที่ป่าชายเลน ที่จะรุกป่าชายเลนอย่างนี้นะครับ คือถ้าอันไหนที่มันถูกต้อง ส่วนกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกอง บก.ของ ASTV เนี้ย ก็จะเป็นส่วนเสริม จะไม่รีรอลังเลเลย เห็นไหมส่งคนไปทำสกู๊ปทำรายงานพิเศษเลยว่า ไอที่ประจวบฯเป็นอย่างไร ที่มาของไอโรงงานกำจัดขยะ หรือบ่อ ทำไมต้องไปกินพื้นที่ป่าชายเลน ทำให้ระบบนิเวศน์วิทยาสูญเสีย เสียหาย ที่สงขลาเป็นอย่างไรเรื่องของประปาภูมิภาคอย่างนี้เป็นต้นนะครับ

ดังนั้น ก็อยากให้พี่น้อง รวมตัวประคับประคองรักษาความรักนะครับ ทักทอความรักกันให้ได้เป็นเบื้องต้นก่อนนะครับ มันถึงจะก่อรูปเป็นพลัง อย่างดีที่สุดก็คือเราต้องรักษาพลังอันนี้ไว้นะครับ อย่าให้มันเลือนหายไป เพราะถ้ามันเลือนหายไปน่าเสียดายมาก อีกร้อยปี พันชาติเนี้ย จะเกิดขึ้นแบบ 25 พ.ค.จนถึง 3 ธ.ค.เนี้ยนะครับ ปี 51 ปีที่แล้วเนี้ย ยาก หรือแม้กระทั่งวันนี้ ผมว่าจะไม่เกิดขึ้นมาอีกแล้วนะครับ แล้วถ้าถามผมว่าคุณสำราญเอาอีกรอบไหม 193 วัน เที่ยวหน้าไม่ต้อง 193 วันหรอกครับ เอาครึ่ง เอาสองหาร หรือ 170 เอาซัก 70 วันพอ เอาไหม ผมว่าผมไม่เอาแล้ว ผมไม่ไหวแล้วนะครับ แต่พร้อมจะสู้ไหม พร้อมที่จะเคียงบ่อเคียงไหล่กันไหม ถ้ามันเกิดสถานการณ์จำเป็น เราก็ยินดีนะครับ

นี่ก็คือ ความในใจที่อยากจะพูดถึงพ่อแม่พี่น้อง แล้วก็ท่านผู้ฟัง ท่านผู้ชม พี่น้องที่อเมริกา ที่แคนาดา ที่ญี่ปุ่น ที่ไหนก็ตามนะครับ แล้วก็ทุกทิศทั่วไทยพี่น้องพันธมิตรฯนะครับ แล้วก็วันเสาร์นี้คงได้เจอกันที่สระบุรีนะครับ ผมก็จะไปด้วย ก็หวังว่าข้อสังเกตของผมนะครับ วันที่ 31 ก็ควรจะขีดเส้นใต้เอาไว้หน่อย แต่เราก็ไม่ต้องตกอกตกใจมากเกินไป สุดท้ายก็ยังเชื่อว่าบ้านเมืองก็เป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์นะครับ ถ้าใครที่คิดไม่ดีต่อบ้านต่อเมือง เที่ยวเอาบ้านเมืองยกให้พ่อคนเดียว ยกให้นายหน้าเหลี่ยมคนเดียว อย่างไม่มีความชอบธรรม ทำไม่ได้หรอกครับ จะเรียกร้องให้ท่านทูตกษิต ภิรมย์ ลาออก อย่างนั้นอย่างนี้ให้ยุบสภา เอาทีเอ็งทำไมไม่ยุบละตอนนู้น อยู่กันตั้งนายกฯ 2 คน ไม่เห็นยุบซักที พออภิสิทธิ์มาจะให้ยุบสภาได้อย่างไรนะครับ อย่างนี้เป็นต้นนะครับ ข้อเรียกร้องนั้นฟังไม่ขึ้น

ดังนั้น ขอให้พี่น้องมีกำลังใจนะครับ ก็จะร่วมกันเคียงบ่าเคียงไหล่กันต่อไปนะครับ วันนี้ก็สดๆนะครับ ไม่ได้มีโพยมานะครับ ก็จากใจถึงใจ แล้วก็ถือเป็นการวิเคราะห์ข่าวภาคดึกก็แล้วกัน แล้วพรุ่งนี้เช้า 9 โมง ก็พบกันใหม่นะครับ ขอบพระคุณแล้วก็สวัสดีครับ พี่น้องเอ๊ยยยยยยยยย (เอ๊ยยยย) สวัสดีนะครับ ขอบพระคุณครับ

ช่วงที่ 2

เมธาวดี - ยังคงอยู่กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนะคะ ก่อนที่เราจะไปรับฟังการปราศรัยจากผู้ปราศรัยอีกท่านหนึ่งนะคะ เรามาดูสถานการณ์ข่าวที่น่าสนใจวันนี้ก่อน เรื่องการแก้ไขปัญหาชนกลุ่มน้อยโรฮิงยา ในวันนี้ก็มีความคืบหน้าออกมาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คุณกษิต ภิรมย์ ซึ่งได้เสนอ 3 แนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ วันนี้ นายเลมอน เอฮอล ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคประจำประเทศไทย หรือ UNHCR และผู้ประสานงานระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ได้เดินทางเข้าพบ หารือกับนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถึงกรณีของการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายนานกว่า 1 ชั่วโมง

นายเลมอน ได้แสดงความกังวลต่อปัญหาผู้อพยพ และต้องการให้รัฐบาลได้สอบสวนการควบคุมตัวผู้อพยพนี้โดยเร็ว และมีความโปร่งใส เนื่องจากลกุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ทางการพม่าไม่เคยให้การยอมรับ และอยู่ในสถานะที่ลำบากในพม่า จึงควรได้รับการปกป้องไม่ให้ละเมิดสิทธิมนุษยชน และเห็นควรว่ามีแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก นอกจากนี้ นายเลมอน ยังต้องการให้ชาวโรฮิงยา ที่ถูกควบคุมตัวโดยทางการไทยด้วย

นายกษิต ภิรมย์ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในเรื่องของแนวทางการแก้ปัญหาของไทย จะมี 3 แนวทางด้วยกัน แนวทางแรกจะเป็นความร่วมมือระหว่างไทยกับ UNHCR แนวทางที่ 2 คือ รัฐบาลไทยจะร่วมกับ UNHCR และประเทศในภูมิภาค ส่วนแนวทางที่ 3 รัฐบาลไทยจะร่วมกับ UNHCR และประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งจะมีไทย และUNHCR และจะมีการประชุมเพื่อกำหนดกรอบในการช่วยเหลือ รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาผู้อพยพชาวโรฮิงยาในประเทศไทย รวมทั้งให้ทางผู้แทน UNHCR เข้าพบชาวโรฮิงยาอีกด้วย ส่วนที่ 2 ก็จะร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยประเทศที่เกี่ยวข้อง ทั้งพม่า อินโดนีเซีย มาเลเซีย และบังกลาเทศจะมาร่วมหารือกันในประเด็นนี้ร่วมกัน

ในขณะนี้ผู้แทนถาวรของแต่ละประเทศกำลังหารือกันเพื่อหาทางช่วยเหลือปัญหานี้ สำหรับแนวทางสุดท้าย ไทยเองก็จะเป็นประธานในการประชุมความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในเดือนกรกฎาคมนี้ รวมทั้งจะนำเข้าหารือในการประชุมอาเซียนซัมมิท ซึ่งจะจัดขึ้นที่หัวหิน 27-28 กุมภาพันธ์ และ 1 มีนาคมนี้ด้วย โดยในการหารือในอาเซียนก็จะเป็นการหาทางออกร่วมกันในการแก้ไขปัญหาโรฮิงยา ยั่นคือความคืบหน้าล่าสุดที่เกิดขึ้น

ส่วนในช่วงต่อไปที่จะมีการฟังการปราศรัย วันนี้แอบแง้มบอกได้เล็กน้อย ว่าผู้ปราศรัยของเราในวันนี้เป็นคุณหมอ วันนี้ท่านได้เดินทางมาที่บ้านเจ้าพระยา เดี๋ยวคงจะได้ให้ท่านมาพูดคุย และเล่าให้พี่น้องรับฟังกันว่า วันนี้ท่านได้มาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ 7 ตุลาคมอย่างไรกันบ้าง และท่านคงจะมีข้อความที่จะได้พูดถึงพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ได้รับชมในรายการน้อยอยู่ ช่วงนี้ท่านพร้รอมแล้วนะคะ ปรบมือต้อนรับ นายแพทย์เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา จากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สวัสดีคะ

นพ.เกรียงศักดิ์ - สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรฯ ทั้งที่ห้องส่ง และที่กำลังรับชมอยู่ที่บ้านนะครับ วันนี้ผมรู้สึกดีใจที่ได้มาพบกับชาวพันธมิตรฯอีกครั้งหนึ่ง รู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก และภูมิใจที่ได้มาทำหน้าที่ที่เป็นประโยชน์ให้กับชาวพันธมิตรฯ อีกครั้ง ซึ่งที่มาที่ไปในการที่ผมได้ขึ้นมาก็สืบเนื่องมาจากว่า พ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรฯ ที่ได้รับบาดเจ็บหลายท่าน ได้อุตส่าห์เดินทางไปหาผมถึงที่หาดใหญ่ เพื่อที่จะมาเขียนใบรับรองแพทย์ จะได้รับค่าเยียวยาจากกระทรวงพัฒนาสังคม บางท่านเดินทางจากกรุงเทพฯ บางท่านก็มาจากต่างจังหวัด สุราษฎร์ฯ บ้าง ระนองบ้าง ชุมพรบ้าง

ผมก็เลยคิดว่า ถ้าแบบนี้แทนที่ว่าจะให้พ่อแม่พี่น้องเดินทางมาหาผม ผมขึ้นมากรุงเทพฯ และให้พ่อแม่พี่น้องมาหาผมทีเดียวเลยมันจะดีกว่า สะดวกกว่าไหว ซึ่งจะทำให้ประหยัด และรวดเร็วด้วย และไม่ต้องเดินทางหลายต่อ เพราะเข้าไปหาผมที่สงขลา เขาก็ต้องขึ้นมาที่กรุงเทพฯ เพื่อมาเอาใบรับรองแพทย์มาส่งที่กรมพัฒนาสังคมฯ อีกครั้งหนึ่ง ผมก็เลยตัดสินใจว่า เราขึ้นมาคนเดียวจะทำให้คนอื่นสบาย และสะดวกขึ้นมาอีกเยอะ ก็ได้เรียนปรึกษาอาจารย์พิภพ ก็โอเค ตกลง และก็ได้มีการนัดแนะมาว่า วันนี้เราจะเขียนให้ทั้งวัน ถ้าวันนี้ไม่หมด พรุ่งนี้อีกครึ่งวันเราก็ยินดีที่จะมาเขียนให้ เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องที่ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลชัดเจน อย่างลืมนะครับ พรุ่งนี้ยังอีกครึ่งวัน 9 โมงถึงเที่ยง ผมจะอยู่ที่ ASTV เพื่อมาเขียนใบรับรองแพทย์ให้กับทางพันธมิตรฯที่ได้รับบาดเจ็บทุกคนเลยครับ

ขณะที่ผมขึ้นมาตรงนี้ก็มีผู้ใหญ่ และแพทย์รุ่นพี่ได้ให้ข้อคิด และทำนองเตือนว่า หมอ ใบรับรองที่ท่านเขียนนั้น ระวังอาจจะโดนเล่นงานในการฟ้องใบรับรองแพทย์เท็จได้ อาจจะโดนเรื่องจริยธรรม ที่หมดสิทธิ์ประกอบวิชาชีพได้ และก็อาจจะโดนเล่นอาญาได้ เพราะเงินที่ไปเบิกเป็นเงินจากงบประมาณ ซึ่งตอนแรกผมก็คิดว่า มีส่วน แต่คิดอีกที ถ้าคิดว่าสิ่งที่เขียนไปสักร้อยคน มีคนไม่ดีสัก 4-5 คน มาทำลักษณะแบบนี้ ผมคิดว่าเราคงต้องจำเป็นตัดสินใจทำเพื่อให้คนอีก 90 กว่าคน ได้รับผลดี ขณะที่คนไม่กี่คนที่จะมาป่วน เราคงต้องตัดสินใจกล้าทำครับ (เสียงมือตบ) และโดยเฉพาะความเสี่ยงตรงนี้นั้น เมื่อเทียบกับ 5 แกนนำพันธมิตรฯ โดยเฉพาะคุณสนธิ ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง ผมแค่มาเขียนใบรับรองแพทย์ แล้วอาจจะโดนคนอื่นมา เรียกว่าเล่นงานผมทีหลังนั้น

ผมคิดว่าความเสี่ยงของผมนั้น ไม่ถึง 1 ใน 100 ของ 5 แกนนำเลย เพราะฉะนั้นสิ่งนี้ผมจึงคิดว่าเราต้องตัดสินใจขึ้นมาเพื่อจะทำหน้าที่ในการที่จะทำให้ชาวพันธมิตรฯ ทุกคนจะได้มีกำลังใจในการร่วมกันต่อสู้ เพื่อประเทศชาติต่อไปครับ (เสียงมือตบ) และยิ่งเมือ่เทียบกับวีรชนพันธมิตรฯ ทั้ง 10 ท่าน ที่ได้อุตส่าห์มาต่อสู้ และเสียชีวิตไปแล้ว ผมเลยคิดว่าความเสี่ยงของผมไม่ได้ 1 ในล้าน ของวีรชนทั้ง 10 ท่าน อีก 20 กว่าคนที่พิการ 700 กว่าคนที่บาดเจ็บ ผมก็แค่เป็นหมอที่มาดูแลรักษาพี่น้องพันธมิตรฯที่ได้รับบาดเจ็บ โชคอาจจะดี พระอาจจะคุ้มครอง เลยระเบิดไม่ได้ลงตรงที่ผมพอดี ก็ทำให้ผมได้มีหน้าที่จะช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ครับ (เสียงมือตบ)

พ่อแม่พี่น้องครับ 193 วันที่เราได้ร่วมกันต่อสู้ 10 ชีวิตของวีรชนที่ต้องจากเราไป 20 กว่าพันธมิตรฯ ที่ต้องบาดเจ็บ พิการ อีก 700 กว่าชีวิตที่ต้องรับบาดเจ็บ รวมทั้งหน้าที่การงานที่พ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรฯ ต้องเสียสละ บางคนก็เป็นชาวไร่ชาวนา ทิ้งสวนทิ้งไร่ ทิ้งสวนยาง บางคนก็เป็นอาจารย์ บางคนก็เป็นพนักงานบริษัท บางคนก็ต้องถูกไล่ออก บางคนเป็นหมอ พยาบาล เภสัช ได้เสียสละกันมากมายที่มาต่อสู้ 193 วันที่ผ่านมานั้น คำถามคือว่า เราชนะแล้วหรือยัง คำตอบก็คือว่า ชนะบางส่วน แต่ส่วนสำคัญยังไม่ได้เลย พ่อแม่พี่น้องคงจำได้นะครับว่า วัตถุประสงค์ของการที่เรามาชุมนุมกัน ร่วมกันต่อสู้ครั้งนี้ ใน 193 วัน

จำได้ไหมครับ 1.เราต่อสู้เพื่ออะไรครับ ขับไล่รัฐบาลทรราช ตัวแทนของทักษิณใช่ไหมครับ ข้อที่ 2.โค่นล้มระบอบทักษิณ และข้อที่ 3.สำคัญที่สุดก็คือ สร้างการเมืองใหม่ ขณะนี้เป็นไงครับ ข้อที่ 1.ขับไล่รัฐบาลทรราช ตัวแทนทักษิณ เราทำสำเร็จหรือยังครับ ทำสำเร็จแล้วใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นหุ่นเชิดของทักษิณ สมัคร หรือหุ่นเชิดของสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เราขับไล่ไปได้ ข้อที่ 2.โค่นล้มระบอบทักษิณ คำถามคือว่า เราโค่นล้มสำเร็จหรือยัง ผมบอกได้คำเดียวว่า เราทำได้แค่ 50 % เพราะทุกวันนี้นักโทษชายทักษิณก็ยังเป็นไงครับ ระเหเร่ร่อน สามารถที่จะเข้ามาป่วนประเทศไทยได้อย่างทุกวี่ทุกวัน และรวมทั้งทรัพย์สินที่มีอยู่ 300,000 กว่าล้าน เราก็ยังไม่แน่ใจว่าเรายึดคืนมาได้สักกี่บาท

ผมขอใช้คำว่ากี่บาทนะครับ 76,000 ล้านบาท ที่ถูกอายัดไว้ ตอนนี้ก็ยังคงเป็นคาราคาซังอยู่ อังกฤษที่บอกว่ามีการแช่เเข็งเอาไว้อีกแสนกว่าล้าน ก็ยังคาราคาซังอยู่ ส่วนเงินที่ทักษิณมีอยู่ในต่างประเทศที่ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆอีกแสนกว่าล้าน ตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ บอกได้คำเดียวว่า ข้อที่ 2.เป้าหมายที่เราบอกว่าโค่นล้มระบอบทักษิณ ขณะนี้หลายคนบอกว่าทักษิณหมดพิษสงแล้ว ผมบอกได้คำเดียวว่า อย่าเพิ่งตายใจ อย่าเพิ่งปล่อย คิดว่างานนี้ทักษิณก็คงหมดพิษสง อย่าเพิ่งตายใจเป็นอันขาด แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือการเมืองใหม่ที่เราต้องการอย่างมากๆ เราอยากจะหนีพ้นจากการเมืองน้ำเน่า ที่ประเทศไทยของเราตั้งแต่ปี พ.ศ.2475

จนถึงวันนี้ เป็นไงครับ 77 ปีแล้ว การเมืองของเราเป็นไงครับ ยังวนเวียนอยู่ในวังวนน้ำเน่า บางคนก็ใช้คำศัพท์ว่า วงจรอุบาทว์ ซึ่งเป็นศัพท์ทางรัฐศาสตร์ มาจากภาษาอังกฤษใช้คำว่า vicious cycle นะครับ vicious คืออุบาทว์ cycle คือวงจร วงจรอุบาทว์เป็นไงครับ ก็คือ นายทุนลงทุนในการตั้งพรรคการเมือง แล้วลงทุนซื้อส.ส. ส.ส.ก็ไปลงทุนซื้อประชาชนได้มาเป็น ส.ส.ก็เอาตำแหน่ง ส.ส. มาต่อรองในการที่จัดตั้งรัฐบาลเพื่อต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี เมื่อได้รัฐมนตรีก็จัดการเอาตำแหน่งหน้าที่นั้นไปโกงกินคอรัปชั่น เพื่อคืนกลับไปเป็นทุนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป บวกกับกำไรให้กับนายทุน แล้วมันก็วนเวียนอยู่อย่างนี้นะครับ นายทุนซื้อพรรค พรรคซื้อส.ส. ส.ส.ซื้อประชาชน พอได้มาเป็น ส.ส. ก็เอาตำแหน่ง ส.ส.ไปต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี พอได้เป็นรัฐมนตรีก็ไปโกงไปกินอีก แล้วการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ท่านผู้ชมครับสิ่งที่ผมพูดนึกภาพออกไหมครับ เหตุการณ์เกิดขึ้นใหม่ๆหยกๆสดๆร้อนๆเลยในเดือนที่ผ่านมาในฟอร์มรัฐบาลใช่ไหมครับ แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งบางคนว่าเป็นพรรคน้ำดี แต่ก็จำยอมที่จะทำเช่นนี้ เอาพรรคการเมืองซึ่งเคยถูกพรรคประชาธิปัตย์เอง จับในการเรียกว่าอภิปรายในสภา บางคนก็ถึงกับถูกเล่นงานกำลังจะเข้าคุก มีคดีอยู่ แต่ก็ต้องจำยอมเอาพรรคการเมืองนั้น เข้ามาผสมเพื่อที่จะฟอร์มเป็นรัฐบาล แล้วตัวเองจะได้มีอำนาจยอมสละแม้กระทั่งตำแหน่งสำคัญๆ ของการบริหารประเทศให้กับพรรคการเมืองกลุ่มนั้น กลุ่มนี้ ก๊วนนั้น ก๊วนนี้ เห็นยังครับ นี่คือยังเป็นการเมืองน้ำเน่า เราอุตส่าห์สู้มา 193 วัน เป็นไงครับ เราต้องการที่จะหนีให้พ้นวังวนน้ำเน่า แต่เป็นไงครับ เรากลับมากลับสู่ที่เดิม กลับมาสู่วังเวียนน้ำเน่า วังวนน้ำเน่าเหมือนเดิม

ฉะนั้นสิ่งที่เราดีใจว่าเราสู้มาแล้วประสบความสำเร็จ บอกได้คำเดียวนะครับว่า สำเร็จก็คือข้อที่หนึ่งนั่นเอง คือขับไล่รัฐบาลตัวแทนทรราชทักษิณเท่านั้น โค่นล้มระบอบทักษิณผมบอกว่าทำได้แค่ครึ่งนึง ส่วนการเมืองใหม่เรายังไม่ได้เริ่มต้นเลย ยังไม่ได้เริ่มต้นเลย ขณะที่บ้านเมืองเรายังอยู่ในวังวนการเมืองน้ำเน่า แต่อีกขณะนึงในอีกประเทศซีกโลกหนึ่ง คือประเทศสหรัฐอเมริกาเขาก็มีการคัดเลือกผู้นำขึ้นมาใหม่ พร้อมๆกับเราหลังจากเราไม่กี่สัปดาห์ แต่สังเกตไหมว่าผู้นำของเขา ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศอย่างมีความสง่า ผ่าเผย มีศักดิ์ศรี และมีภาวะความเป็นผู้นำ เขาสามารถที่จะเลือกฟอร์มทีมรัฐบาล ทีมผู้บริหารได้เป็นอย่างดี แต่ละคนที่เขาเลือกขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง หรือกระทรวงการต่างประเทศเป็นอย่างไรครับ

ไม่ใช่ประเทศเขาเท่านั้นที่เขาชื่นชมยินดี คนทั่วโลกก็ชื่นชมยินดีพอที่จะมองเห็นความหวังแห่งการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ในประเทศอเมริกาแต่ยังเปลี่ยนแปลงเรื่องของสังคมทั่วโลกด้วย นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในอีกโลกหนึ่ง ที่ผมพูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีเหมือนกับสหรัฐฯ เราสามารถที่จะสร้างให้ผู้นำนายกฯของเรามีภาวะความเป็นผู้นำเหมือนของเขา โดยไม่ต้องเป็นการเลือกประธานาธิบดี คำถามก็คือว่าเราเลือกนายกฯโดยตรงจากประชาชน เหมือนกับประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ได้หรือ เราเลือกเสร็จแล้ว ต้องนำรายชื่อผู้ที่รับเลือกตั้งนำทูลเกล้าเพื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้เป็นนายกฯ แทนที่จะให้ ส.ส.มาเลือกนายกฯ เราทำไมเราไม่เลือกนายกฯโดยตรงเอง

เห็นยังครับ ถ้าเราสามารถเลือกได้โดยตรงแบบนี้เห็นไหมครับว่า นายกฯที่เราเลือกได้เขาก็จะมีศักดิ์ศรี มีภาวะความเป็นผู้นำได้เป็นอย่างดีทีเดียว ในการที่จะขึ้นมาบริหารประเทศชาติใช่ไหมครับ ใกล้ๆกับตัวเราจะสังเกตพบนะครับว่าเราก็มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ใช่ไหมครับ พร้อมๆกันเลย สังเกตไหมครับว่าผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ได้ขึ้นเป็นผู้นำนั้น เขามีความสง่างาม มีศักดิ์ศรี พูดไปแล้วนะครับว่า ผมยังคิดว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ขึ้นเป็นผู้ว่าฯ กทม. มีความสง่างามมากกว่านายกฯ อภิสิทธิ์เสียอีก เพราะผู้ว่า กทม. คนนี้ไม่ต้องเกรงกลัว เกรงใจใคร ไม่ต้องไปเอางูเห่า งูจงอาง เขาจึงได้เป็นผู้ว่าฯใช่ไหมครับ

ขณะที่นายกฯ อภิสิทธิ์ เป็นอย่างไรครับ จำเป็นต้องไปเอางูจงอาง งูเห่า ไม่รู้มาจากสวนสัตว์ไหน เพื่อที่จะมาผสมพันธุ์กันจึงจะได้เป็นรัฐบาลเห็นไหมครับ และสิ่งที่สำคัญที่สุดสังเกตได้ครับว่าผู้ว่าฯ กทม.เขาสามารถที่จะเลือกรองผู้ว่าฯ ที่จะมาบริหารบ้านเมือง เลือกคนดีคนเก่งเข้ามาบริหารบ้านเมือง แต่ของเราเป็นไงครับ นายกฯ มีสิทธิ์ไหม ไม่มีสิทธิ์เลย แม้กระทั่งพรรคตัวเองยังไม่มีสิทธิ์เลย ยังเกิดปัญหาขึ้นมาอีก ต้องมีปัญหาในการที่ว่านายทุนมีการ โทษทีนะครับ มีการยัดไส้เข้ามา ซึ่งจะจริงเท็จอย่างไรผมก็ไม่ทาบตามข่าวที่ปรากฏ ไม่ต้องพูดถึงพรรคอื่น เป็นไงครับ จะเอาภรรยากี่คน คนไหนมาเป็นรัฐมนตรีแทนตัวเองที่ถูกยุบพรรคไปแล้ว หมด ไม่สามารถจะทำหน้าที่การเมืองได้ ก็ยังสามารถเอาภรรยามาเป็นตัวแทนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีได้ นี่คือความอนาถของบ้านเมืองเรา

และแบบนี้ถามว่าบ้านเมืองเราเมื่อไหร่เราจะพัฒนาหลุดพ้นจากวังวนน้ำเน่าสักที มันคงต้องถึงเวลาแล้วครับ ที่พี่น้องพันธมิตรฯ จะต้องมาช่วยกันเปลี่ยน ต้องเปลี่ยนการเมืองของเราใหม่ เราสามารถโค่นล้ม ไล่รัฐบาลทรราชทักษิณ โค่นล้มระบอบทักษิณ เราทำได้ แต่ถามว่าแล้วทำไมเราจะเปลี่ยนการเมืองใหม่ ทำไมเราทำไม่ได้ใช่ไหมครับ ถ้าพวกเราร่วมมือร่วมใจกัน ผมเชื่อว่าการเมืองใหม่จะเกิดขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะผมอยากจะฝันเห็นนายกฯ ที่ขึ้นมาอย่างสง่าผ่าเผย มีศักดิ์ศรี สามารถที่จะเลือกเฟ้นคณะรัฐมนตรีที่เป็นคนดีคนเก่งเข้ามาบริหารบ้านเมืองได้ โดยไม่ต้องไปเกรงกลัวอิทธิพลของกลุ่มก๊วน ส.ส.นั้น ส.ส.นี้ที่จะมาต่อรองตำแหน่ง หรือแม้กระทั่งตัวนายทุนที่จะมาต่อรองตำแหน่ง

เราอยากจะเห็นนายกฯ สามารถที่จะเลือกผู้บริหารเข้ามา และผู้บริหารแต่ละกระทรวง กรม กรอง เราอยากจะเห็นให้มีการตรวจสอบจากรัฐสภาได้ด้วย ซึ่งถ้าทำได้เช่นนี้ ผมเชื่อเหลือเกินว่าวันหนึ่งบ้านเมืองของเราบ้านเมืองคงจะก้าวหน้าพัฒนาไม่แพ้หลายๆประเทศในทวีปเอเชียด้วยกัน แน่นอนนะครับ ซึ่งตรงนี้ผมอยากจะให้พี่น้องพันธมิตรฯ การต่อสู้ของเรายังไม่จบสิ้น เรายังต้องต่อสู้กันอีกเพื่อประเทศชาติของเราจะได้มีการเมืองใหม่ เพื่อประเทศชาติของเราจะได้มีการพัฒนาอย่างมั่นคงและถาวะ

ท้ายที่สุดนี้ ผมก็ขอวิงวอนว่า การเปลี่ยนการเมืองใหม่ ชาวพันธมิตรฯ อย่างเดียวคงไม่สามารถเปลี่ยนได้ ผมอยากจะวิงวอนว่าพ่อแม่พี่น้อง ไม่ว่าท่านจะสวมเสื้อสีแดง สีเหลือง แต่พวกเราสวมหัวใจสีเดียวกัน คือสีธงไตรรงค์ ไม่ว่าท่านจะอยู่จังหวัดสีแดง จังหวัดสีเหลือง เราต่างก็อยู่ในจังหวัดเดียวกัน คือ จังหวัดประเทศไทย ซึ่งมีองค์พระมหากษัตริย์เป็นองค์ประมุขคนเดียวกัน จึงอยากจะวิงวอนให้มาหลอมดวงใจดวงเดียวกันเพื่อมาเปลี่ยนการเมืองใหม่ของเราเพื่อสร้างประเทศชาติของเราให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนถาวรต่อไป ขอบคุณครับ








กำลังโหลดความคิดเห็น