“พิภพ” จี้ “มาร์ค” เร่งสะสางลากคอ “ไอ้โม่ง” ลอบยิงบึ้มใส่ “พันธมิตรฯ” แนะ ปชป.ยกเครื่องทั้งพรรค หากต้องการเดินหน้าสู่ “การเมืองใหม่” ด้าน “ชัชวาลย์” แนะ “รัฐบาล” อย่าอ่อนแอ เตือนหากประมาท “น.ช.แม้ว” ต้องพ่ายแพ้ เพราะอำนาจเงิน หยัน “อดีตนายกฯ” ดิ้นสุดตัว เพราะชดใช้กรรมที่ก่อเอาไว้
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ออกอากาศทาง เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-23.00 น.วันที่ 27 มกราคม 2552 ซึ่งนางสาวกรองทอง เศรษฐสุทธิ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ พบกับการปราศรัยของนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตามติดด้วยนายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย อดีตคนเดือนตุลาฯ ร่วมรายการ
กรองทอง - สวัสดีคะ ขอต้อนรับพี่น้องทุกท่านเข้าสู่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประจำวันอังคารที่ 27 มกราคม 2552 วันนี้ยังอยู่กับ นุ๊ก กรองทอง เศรษฐสุทธิ์ นะคะ สวัสดีพี่น้องที่ห้องส่งด้วยนะคะ สวัสดีคะ ตอนนี้น่าจะยังไม่ช้าเกินไปที่จะบอกว่า ซินเจีย ยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ เมื่อวานนี้พี่น้องบางท่านถือโอกาสในการเที่ยวตรุษจีนมาเที่ยวที่นี่ วันนี้มีสมาชิกใหม่ด้วยที่มาในวันนี้ และยังคงเป็นบรรยากาศของการเมืองภาคประชาชน ที่เรายังคงมีข่าวสารต่างๆมาบอกต่อให้กับพี่น้องพันธมิตรฯ ผู้กล้าของทุกท่านที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนการเมืองใหม่ และเดินหน้าตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลด้วยกันตลอดไป
ก่อนอื่นก็คือเช่นเคย สำหรับพี่น้องพันธมิตรฯตามภูมิภาค ตามต่างจังหวัดที่อยากจะฝากข่าวประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของพี่น้องเอง สามารถที่จะติดต่อมากับทีมงานของเราได้ที่เบอร์ 0-2629-4433 นะคะ หรือว่าพี่น้องที่อยากจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น คิดถึงใครหลังจากเลิกเวที เลิกการชุมนุมไป พี่น้องที่อยู่ทางเหนือกลับเหนือ อยู่ทางใต้กลับใต้ แต่ว่าด้วยความสนิทสนม 193 วัน อยากจะพูดคุยติดต่อสื่อสารกันนะคะ ก็บอกผ่านมาทางหน้าจอเราได้คะ SMS นะคะ พิมพ์ N1 ข้อความ ส่งมาที่ 4850770 คะ ซึ่งก็เราก็จะพยายามนำข่าวประชาสัมพันธ์ของพี่น้องนะคะ ที่ยังคงขับเคลื่อนการเมืองของเรามาบอกให้ได้รับชมกันที่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนะคะ
มาเริ่มที่พี่น้องพันธมิตรฯ สตรีพิษณุโลกคะ ได้ฝากเงินสนับสนุนให้กับ ASTV นะคะ ฝากผ่านมาทาง คุณสมบูรณ์ ทองบุราณ เป็นจำนวนเงิน 4,000 บาทคะ ฝากขอบคุณพันธมิตรฯสตรีพิษณุโลกด้วย มือตบได้นะคะช่วงนี้ (เสียงมือตบ) ฟังจากเสียงมือตบแล้วในห้องส่งน่าจะมีอยู่ประมาณ 3,500 (หัวเราะ) ส่วนที่อยากจะประชาสัมพันธ์อีกงานนึงนะคะ เมื่อวานนี้ อ.สมเกียรติ ได้พูดเอาไว้ด้วย ก็คือ เรื่องของคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 2 ที่สระบุรี จะมีขึ้นในวันเสาร์นี้นะคะ 31 มกราคมนี้แล้ว อยากจะเอามาให้พี่น้องได้ทราบกำหนดการคร่าวๆ เพราะว่าต้องบอกว่าใครพลาดงานนี้นะคะ เสียใจไปอีกนานคะ มีบิ๊กเซอร์ไพรส์มากๆ แต่ว่าไม่สามารถบอกได้จริงๆ เพราะว่าอยากจะเก็บให้เป็นเซอร์ไพส์ใหญ่ของงานนี้
แล้วใครที่ไปร่วมงานของค่ำคืนของวันที่ 31 นะคะ ก็คงจะได้ร่วมสนุกสนานกันนะคะ ก็งานเวทีคอนเสิร์ตการเมืองใหม่ครั้งที่ 2 ที่สระบุรี จะมีขึ้นตั้งแต่เวลา 14.00-24.00 น.คราวที่แล้วตั้งแต่เช้าจรดเที่ยงคืน อันนี้มีเวลาให้พี่น้องได้เดินทางกันนิดนึง ได้เตรียมข้าวปลาอาหารกัน จะเริ่มตั้งแต่บ่าย 2 และทาง ASTV จะถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 15.00 น.ถึงเวลา 24.00 น.จัดขึ้นที่สนามกีฬา จ.สระบุรี ภายในงานจะพบกับแกนนำทั้งรุ่น 1 รุ่น 2 บวกกับพิธีกร วิทยากร ผู้ปราศรัยต่างๆ ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาที่จะมาร่วมกันให้ความรู้ภาคประชาชน และความรู้เกี่ยวกับการเมืองใหม่ต่อไป
ที่เด่นๆ ก็จะมี วงเสวนาผู้หญิงกับการเมืองภาคประชาชน ถ้าพูดถึงผู้หญิงกับการเมืองภาคประชาชนก็ต้องยกเวทีนี้ให้พี่ปอง อัญชลี นะคะ ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการในช่วงนี้ ส่วนเรื่องความสนุกสนาน เสียงเพลง ก็ยังมีเช่นเคย วงโฮป พี่ประทีป ขจัดพาล วงซูซู พี่เสก พี่ตั้ว ก็ไป วงดนตรี ก.ไก่ และดนตรีพันธมิตรฯ ของสระบุรี ก็จะมาร่วมในเวทีนี้ด้วย พี่เทียรี่ เทียนแห่งธรรมก็ไป แต่ไฮไลต์สำคัญพี่น้อง ช่วง 3 ทุ่มนะคะ บอกไม่ได้จริงๆ คะ เอาละคะ นอกจากนี้ มีดนตรีจาก อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ด้วย ช่วง 3 ทุ่ม บอกได้แค่ว่า คุณสนธิ จะมีรายการช่วง 3 ทุ่มโดยประมาณ ก็คิดว่าถ้าพี่น้องพลาดงานนี้เสียใจจริงๆ อยากบอก เพราะว่างานนี้หาดูไม่ได้บ่อยๆ
ส่วนพันธมิตรฯ สงขลา เตรียมจะจัดเดี่ยวไมโครโฟนในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่โรงยิมเนเซียม สนามกีฬาจิรนคร เทศบาลนครหาดใหญ่ จะเป็นการจัดเดี่ยวไมโครโฟน และเวทีการเมืองภาคประชาชน ต้องแจ้งว่าจากเดิมที่บอกว่าจะจัดที่ลานประวัติศาสตร์สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ก็บอกว่า ขอแจ้งเปลี่ยนสถานที่เป็นที่โรงยิมเนเซียม สนามกีฬาจิรนคร เทศบาลนครหาดใหญ่ เพราะว่าที่สนามกีฬานี้สามารถจะจุพี่น้องพันธมิตรฯ ได้กว่า 3,000 คน ซึ่งพี่น้องพันธมิตรฯ สงขลา บอกว่า ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเทศบาลนครหาดใหญ่ด้วย ภายในงานก็จะมีการเดี่ยวไมโครโฟนของพี่ปอง ในหัวข้อเรื่อง “จับตาการเมืองเก่า เกาเหลาการเมืองใหม่” และมีเวทีของพี่วีระ สมความคิด มาพูดเรื่อง “ค้นคนโกงภาคประชาชน ทำอย่างไร” ในภาคของดนตรีก็จะได้พบกับพี่หรั่ง และ คุณสุกัญญา มิเกล อันนี้ก็เป็นข่าวประชาสัมพันธ์ต่างๆ งานใกล้ๆนี้ ก็คือวันเสาร์นี้ สำหรับคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 2 ที่สระบุรี พลาดไม่ได้จริงๆ คะ
ส่วนข่าวคราวของเราในวันนี้ก็ยังคงขอพูดกันถึงเรื่องสภา วันนี้เป็นการประชุมร่วมรัฐสภาเป็นวันที่ 2 เพื่อจะพิจารณาถึงกรอบความร่วมมือที่เราเตรียมจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาเซียน ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทุกอย่างเพื่อจะเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ไม่ใช่ของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว เพราะการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนปีนี้เราเป็นเจ้าภาพ เลขาธิการอาเซียนก็เป็นคนไทย ที่สำคัญกฎบัตรอาเซียนเพิ่งจะมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนธันวาคม ดังนั้น จึงต้องมีการประชุมร่วมมือกันเพื่อจะพัฒนาภูมิภาคของเรา
แต่ว่าผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมดำเนินการไปไม่ถึง 10 นาที ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ หรือพี่น้องเราจะเรียกว่า “ตุ๊ดตู่” ก็ลุกขึ้นอภิปราย และจี้ให้รัฐมนตรีกษิต ภิรมย์ ตอบคำถามต่างๆ เพราะว่าเขาพยายามที่จะโจมตีรัฐมนตรีกษิต มาตั้งแต่เริ่มเข้ารับตำแหน่ง ในเรื่องความไม่สง่างาม ทั้งที่ไม่ว่าจะเป็นคุณวุฒิ วัยวุฒิ ความสามารถนั้น เหมาะสมที่สุดแล้วในตอนนี้ ความจริงใจเหมาะสมที่สุดในตอนนี้ เขาก็พยายามลุกขึ้นให้รัฐมนตรีกษิตชี้แจง ซึ่งเมื่อวานนี้ รัฐมนตรีกษิต ได้เดินทางไปกัมพูชา และได้พูดคุยถึงเรื่องของปราสาทพระวิหารด้วย
วันนี้ ท่านทูตกษิต ก็ได้กลับมาตามสัญญา และลุกขึ้นชี้แจงด้วย ตามข่าวพาดหัวข่าวว่า “กษิต ตบหน้าฝ่ายค้าน” ตบหน้านี้ต้องบอกว่าเป็นภาษาในเชิงข่าว ไม่ใช่ตบหน้าจริงๆ แบบที่เสื้อแดงเขาทำนะ เราไม่ทำแบบนั้นใช่ไหมคะพี่น้องคะ คือ ท่านกษิต ก็ได้ลุกขึ้น แล้วก็ได้ชี้แจงในประเด็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขอโทษสมาชิกด้วย ที่เมื่อวานนี้ไม่ได้มาร่วมประชุม เนื่องจากต้องไปภารกิจที่ประเทศกัมพูชา แล้วก็ประเด็นต่อมาก็คือเรื่องของการเข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งท่านรัฐมนตรีกษิต ก็บอกว่า ได้ทำงานเพื่อประเทศชาติมาตลอดชีวิต แล้วจากนี้เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิต ก็จะทำให้ความเป็นประชาธิปไตยในประเทศไทยสมบูรณ์แบบ
แล้วก็ได้พูดถึงว่าหลังจากที่เข้ารับตำแหน่งมา 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมานั้นได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นมิตรจิต มิตรใจจากประชาคมโลก สารจากการแสดงความยินดีของประเทศต่างๆ รวมไปถึงการได้พบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศต่างๆ นั่นก็เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าการมารับตำแหน่งของท่านรัฐมนตรีกษิต นั้น ไม่น่าจะเป็นประเด็นปัญหาอันใด ที่จะไม่สามารถนำพานโยบายของประเทศให้ทำงานอยู่ในกรอบของการแถลงนโยบายของรัฐบาลได้ ก็เหมือนกับว่าการได้รับสารแสดงความยินดีต่างๆ ท่านรัฐมนตรีกษิต บอกว่า นั่นคือการยอมรับจากต่างประเทศแล้ว
ส่วนประเด็นต่างๆ ที่ทางฝ่ายค้านเขาพยายามโจมตี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เคยโจมตีกับท่านรัฐมนตรีกษิต ว่า เคยมีปัญหากับสมเด็จฮุนเซ็น นะคะ ท่านรัฐมนตรีกษิต ก็ได้ชี้แจงเพราะว่าหลังจากที่ได้เดินทางไปประเทศกัมพูชาแล้ว ก็บอกว่าได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ได้มีการจัดพิธีต้อนรับสมบูรณ์แบบ พบกับบุคคลสำคัญ พบกับกษัตริย์ซีฮะมูนี สมเด็จมหาเดโชฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรี รวมไปถึงประธานสภาสูง และประธานสภาล่างของกัมพูชา ซึ่งก็ได้ร่วมหารือกันนานนับชั่วโมง
เพราะฉะนั้น ท่านรัฐมนตรีกษิต บอกว่า ท่านฮุนเซนไม่ได้พูดถึงเรื่องในอดีตเลย เพราะต่างชาติต่างก็มีอดีตของการต่อสู้เพื่อความชอบธรรมของตัวเอง เพื่อความเป็นประชาธิปไตยด้วยกันทั้งสิ้น ไม่มีใครสนใจอดีตนอกจากฝ่ายค้านในตอนนี้ ที่พยายามขุดคุ้ย แล้วก็พูดเรื่องเดิมๆ พอท่านรัฐมนตรีชี้แจงไปดังนี้แล้ว ตามรายงานข่าวเขาบอกว่า ตุ๊ดตู่เขาไม่พอใจคะ ตุ๊ดตู่ก็ยังคงชี้แจง แล้วก็ยังคงพูดอภิปรายพาดพิงถึงประเด็นเดิมๆ ที่ว่า ท่านรัฐมนตรีกษิตเคยดูหมิ่นกัมพูชา เคยดูหมิ่นสมเด็จฮุนเซ็น จนกระทั่งประทานชัยต้องกล่าวตำหนิ แล้วก็บอกให้ตุ๊ดตู่เลิกใส่ร้ายป้ายสีกันได้แล้วนะคะ อันนี้ก็เป็นบรรยากาศในสภา
นอกจากนี้ ช่วงของการดำเนินการประชุมไปนะคะ ก็ยังมีช่วงที่เกิดสภาวะตึงเครียดขึ้นมาก็คือ ส.ส.สัดส่วนของพรรคเพื่อไทย นายสุนัย จุลพงศธร ยังคงได้ลุกขึ้นมากล่าวหา คุณบุญยอด สุขถิ่นไทย ว่า เป็นผู้สื่อข่าวเผด็จการ เพราะว่าได้เคยทำการประท้วง ได้เคยขึ้นเวทีหลังจากการปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน ซึ่ง คุณบุญยอด ก็ได้โต้กลับคุณสุนัยไปว่า คุณสุนัยคุณก็เป็นสุนัขรับใช้สมุนทรราชเช่นกัน มือตบได้คะ (เสียงมือตบ) อันนี้ก็เป็นบรรยากาศในสภานะคะ ที่เราเอามาเล่าให้พี่น้องฟังนะคะ คือต้องบอกว่าการประชุมรัฐสภา การประชุมของสภาผู้แทนราษฎร ก็เป็นการทำหน้าที่ตามที่ได้รับเงินค่าจ้างจากประชาชน ที่เป็นภาษีของพวกเรา ทำให้ในการพิจารณากลั่นกรองกฎหมาย
และที่สำคัญ ในตอนนี้วาระสำคัญ ก็คือ การเตรียมการประชุมอาเซียน แต่ทุกอย่างมันกลับสะดุด กลับมีเกมการป่วนในสภาอยู่ทุกวัน ให้เราได้มาเล่าทุกวัน อันนี้ละคะพี่น้องที่เราอยากจะให้พวกเราช่วยกันจับตาดู เพราะว่าพรรคฝ่ายค้านยังไม่มีหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านเลย และการเสนอให้นับองค์ประชุม แน่นอนเป็นสิ่งที่ ส.ส.ฝ่ายค้านสามารถจะทำได้ แต่มันอยู่ที่เจตนาคะ เจตนานั้นต้องการที่จะให้นับเพื่ออะไร เพื่อป่วน เพื่อขัดแข้งขัดขา เพื่อให้การทำงานดำเนินต่อไปไม่ได้ ใช่หรือไม่ อันนี้อยากจะให้พี่น้องช่วยกันดูว่าเกมเขามีทั้งเกมในสภา นอกสภาก็มี เสื้อแดงก็มี เราจะได้มาเล่าให้ฟังในช่วงต่อไป
ส่วนตอนนี้พบกับการปราศรัยในช่วงแรกจากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอเชิญพี่น้องพบกับ คุณพิภพ ธงไชย คะ สวัสดีคะ
พิภพ - สวัสดีครับ พันธมิตรฯที่อยู่ในห้องส่ง และที่รับฟังอยู่ที่ ASTV ทั้งในประเทศ และต่างประเทศทั่วโลก ที่ทราบว่ามีทาง FM ด้วย บางทีพูดไปแล้วก็ขึ้นเลขบัญชี หรือข้อความอะไร ทางผู้ที่ฟังทาง FM โทรมาหาผมว่า ไม่ทราบว่าขึ้นข้อความอะไร ก็เลยอาจจะต้องพูดช้าๆเพื่อให้ทางพันธมิตรฯ ที่ฟังทาง FM ฟังถนัดด้วย
ครับวันนี้ผมจะพูด 2 เรื่องนะครับ เรื่องของทางการเมือง และการเมืองใหม่ คงพูดอะไรไม่ได้ยาวมากนัก พูดพอเป็นประเด็นให้เอาไปคิด สังเคราะห์กัน วิเคราะห์วิจารณ์การเมืองอย่างไร หรือการเมืองใหม่ที่เราจะทำจะไปอย่างไร แต่ก็ต้องถือโอกาส เนื่องจากผมทำงานเกี่ยวกับผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต ก็ต้องมารายงานให้ทราบเป็นระยะ วันนี้ผมได้รับโทรศัพท์จากคุณหมอเกรียงศักดิ์ จากสงขลา ก็บอกว่ามีผู้บาดเจ็บ ที่วิ่งไปหาคุณหมอถึงสงขลาให้ช่วยในเรื่องเอกสาร หลักฐานบางอย่างที่จะต้องนำไปใช้ในการยื่นกับกระทรวงพัฒนาฯ เกี่ยวกับการได้รับความช่วยเหลือ
ซึ่ง คุณหมอเกรียงศักดิ์ ทราบมาว่า จะหมดในวันที่ 30 มกราคม ซึ่งได้เคยปรึกษากับ อ.สมเกียรติ และพูดดังๆ ผ่านสื่อ ว่ารัฐบาลควรจะเลื่อนเวลาไป สักเดือนกุมภาพันธ์ และควรจะเพิ่มงบประมาณ เพิ่มเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บในทุกเหตุการณ์ ไม่ใช่เฉพาะเหตุการณ์ 7 ตุลา หรือก่อนเหตุการณ์ รวมทั้งประชาชนไม่ว่าเสื้อเหลือง เสื้อแดง ซึ่งเป็นเหยื่อทางการเมืองล้มเหลว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวไว้ แน่นอนในทำผิดในทางคดีอาญา หรือก่อให้เกิดบาดเจ็บโดยบุคคล รัฐบาลจะต้องเอาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยกตัวอย่างเช่น วันนี้ผมเอง และพันธมิตรฯ จำนวนมากอยากรู้ว่าใครเป็นคนยิงเอ็ม 79 เข้ามาที่ทำเนียบ
ผมว่าอันนี้รัฐบาลนิ่งเฉยไม่ได้ รัฐบาลต้องกลับไปดูคดีเก่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหายตัวไปของทนายสมชาย นีละไพจิตร ก็ดี คดีเพชรซาอุก็ดี หรือคดีอื่นๆ ก็ดี ผมคิดว่าคดี หรือการก่ออาชญากรรมโดยกลุ่มอันธพาล ซึ่งสงสัยกันว่าจะเป็นอันธพาลในเครื่องแบบ หรือเป็นโจรในเครื่องแบบ ที่ยิงเอ็ม 79 ไปในหมู่ของประชาชนที่ชุมนุมอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล โหดร้ายมาก ลูกระเบิดทำให้คนเสียชีวิต และทำให้คนบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ผมคิดว่าอันนี้รัฐบาลต้องสะสางเก็บไว้ไม่ได้ เพราะผมเองอยากจะรู้ว่าใครเป็นคนกำหนด ใครเป็นคนสั่งการ นอกจากเหตุการณ์วันที่ 7 ที่เห็นอย่างชัดเจน อันนี้ผมก็ทราบมาว่ารัฐบาลคงจะดำเนินการกันต่อไป รวมทั้ง ปปช. เพราะข้อมูลจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนก็ชัดเจน
ครับ ในเรื่องการก่ออาชญากรรมทางการเมืองเนี้ย เป็นเรื่องใหญ่ สำหรับระหว่างประเทศ รัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยจะต้องสะสางคดี เรียกคดีทางการเมือง ในประวัติศาสตร์ไทยของพวกเราเนี้ยมีคดีอาชญากรรมทางการเมืองมาตั้งแต่สมัย จอมพลป.พิบูล สงคราม ตั้งแต่ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ มาถึงสมัยจอมพลสฤษดิ์ มาจนถึง จอมพลถนอม กิตติขจร ในเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ระหว่าง 14 ตุลาฯ ถึง 6 ตุลาฯ แล้วก็หลังจากเหตุการณ์ 16 ตุลาฯ การยิงกันกลางเมืองช่วง14 ตุลาฯ ถึง 6 ตุลาฯ ยังมีการกระทำกันอยู่เสมอๆ เช่นลอบยิงเลขาธิการพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย จนป่านนี้ก็ยังจับผู้ที่ยิงไม่ได้ นั่นคือเหตุการณ์สดๆ ร้อนๆ ในการฆาตกรรมทางการเมืองเมื่อตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม เป็นต้นมา หรือก่อนหน้านั้น รวมทั้งการยิงระเบิด M79 เนี้ย
ผมคิดว่ารัฐบาลมีภาระหน้าที่จะต้องสะสางคดีพวกนี้ให้ออกชัดเจน เหมือนกับที่รัฐบาลคิดไปสะสางคดีการเมือง กรณี คุณสมชาย นีละไพจิตร อย่างนี้เป็นต้นนะครับ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะสงบไม่ได้นะครับ การต่อสู้ทางการเมืองก็กลายเป็นการต่อสู้ซึ่งมีเลือด มีเนื้อของประชาชนล้มตายไป โดยที่ประชาชนที่มาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนนะครับ นี่พูดอย่างกลางๆ เนี้ย ย่อมมีสิทธิ์ที่จะแสดงสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่ทุกฝ่ายไม่มีสิทธิ์จะไปทำลายคนอื่น ในกรณีที่มีการทำร้ายกันที่เชียงใหม่ก็ดี หรือที่อื่นก็ดี อันนี้ไม่มีสิทธิ์ แล้วพันธมิตรฯ เราก็พูดได้เต็มปากว่า เราไม่เคยไปทำร้ายใคร เราชุมนุมกันอย่างสงบ และสันติ มีแต่คนมาทำร้ายเรา และเราก็เพียงแต่ป้องกันตัว
เพราะฉะนั้นอันนี้รัฐบาลจะต้องทำ ครับเพราะฉะนั้นจึงบอกว่ารัฐบาลน่าจะมีนโยบายเรื่องนี้เพิ่มอีกหน่อย เป็นการสมานไมตรีกันของคนในชาติ นั่นก็คือเพิ่มงบประมาณช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ นอกจากจะต้องสะสางคดีแล้ว ในเหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ในช่วงที่การเมืองล้มเหลวนะครับ จะต้องทำ ในต่างประเทศนี่เขาย้อนไปถึง10-20 ปี ก็ต้องเอามานะครับ 30 ปี ก็ต้องเอามา ว่าใครที่ก่อฆาตกรรมทางการเมืองให้กับประชาชน หรือผู้บริสุทธิ์ หรือแม้แต่นักการเมืองฝีปากกล้านะครับ ฉะนั้นก็หวังว่าคุณอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นนักเรียนนอกและมีความคิดที่ก้าวหน้าน่าจะสะสางเรื่องนี้ เพราะประธานาธิบดี บารัค โอบามา ก็ยังสะสาง ในกิจกรรมของประธานาธิบดีบุชทำ ที่เอาผู้ที่ต้องสงสัยไปขังคุกที่นอกพื้นที่อเมริกา ทำให้มีการละเมิดสิทธิมุนษยชนอย่างรุนแรงนะครับ ก็สั่งปิดคุกอันนั้นเลย อันนี้ก็ฝากไว้
ทีนี้ คุณหมอเกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา ท่านก็มีจิตเมตตาก็โทรบอกกับผมว่า จะมาพบและตรวจผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ ที่รัฐบาลเขาขอให้ไปยื่นหลักฐานบางอย่าง แล้วอาจจะขาดหลักฐานซึ่งแพทย์จะรับรอง ท่านยินดีมาในเช้าวันศุกร์ ตั้งแต่ 09.00 น. เป็นต้นไป ของวันศุกร์ที่ 29 มกราคมนี้ ที่บ้านเจ้าพระยา นะครับ ผมขอย้ำนะครับ ในวันศุกร์ที่ 29 มกราคมนี้ ท่านจะอยู่จนถึงค่ำเลย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บแล้วก็ขาดหลักฐานบางอย่าง ที่จะไปยื่นให้กับฝ่ายรัฐบาลหรือว่ากระทรวงพัฒนาสังคมมาได้ มาพบคุณหมอได้ แล้วคุณหมอจะให้นำหลักฐานเท่าที่มีมากที่สุด ให้นำมา คุณหมอจะตรวจอาการว่า โดนแก๊สน้ำตาอย่างไร แล้วก็โดนสะเก็ดระเบิดอย่างไร
ซึ่งคุณหมอก็ชำนาญการ เพราะคุณหมออยู่ประจำกับเราที่ทำเนียบนะครับ 193 วัน ก็จะดูว่ามีบาดเจ็บ มีลักษณะแผลที่เกิดโดยการระเบิดแก๊สน้ำตานะครับ แล้วโดนสะเก็ดระเบิดจากแก๊สน้ำตาในการยิงอย่างโหดร้ายนะครับ ตำรวจก็คงต้องยอมรับนะครับ ว่าวันนั้นยิงอย่างโหดร้ายจริงๆ ท่านจะต้องสู้เพื่อสิทธิอะไรของท่าน ท่านก็ต่อสู้ไป แต่ท่านไม่สามารถเปลี่ยนเหตุการณ์ในวันที่ 7 ตุลาฯได้ คุณหมอจะตรวจแล้วก็ให้คำรับรอง เพื่อให้ใช้ไปยื่นกลับกระทรวงพัฒนาสังคมนะครับ มาพบกับคุณหมอได้นะครับ วันศุกร์ที่ 29 มกราคม ได้ ตั้งแต่ 09.00 น.เป็นต้นไปนะครับ อันนี้ก็แจ้งให้ทราบ คุณหมอเกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา จะลงมาเองเลยนะครับ เพราะเห็นใจบางคนไปถึงนู้นแน่ หาดใหญ่ ก็อันนี้ก็เรียน
สำหรับในการจ่ายเมื่อมีการเปลี่ยนบัญชี จากบัญชีชื่อผมสำหรับผู้บาดเจ็บ แล้วก็สำหรับผู้เสียชีวิต เราได้ย้ายบัญชีมาที่มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน แล้วก็สะสางบัญชีกันพึ่งเสร็จ อาทิตย์นี้ผมจะเริ่มเขียนเช็คนะครับ สำหรับคนที่ยังจะต้องดูแลรักษา และยังได้ไม่ครบตามเกณฑ์ ผมจะเริ่มเขียนเช็คตั้งแต่อาทิตย์นี้ ก็จะนัดมารับเช็ควันที่ 2 นะครับ สำหรับผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ต่างๆ นี่เป็นส่วนของกองทุนของเรานะครับ ที่ยังมีสะตุ้งสตางค์เหลืออยู่นะครับ แต่ผมจะนับเป็นรายบุคคล เช็ค ฉบับไหนๆ เขียนเสร็จแล้ว เพราะในช่วงระหว่างต้นเดือนนี้เผอิญผมต้องไปต่างประเทศ แต่ว่าเจ้าหน้าที่ของผม ซึ่งผมจะเซ็นเช็คทิ้งไว้ให้ในชื่อคนต่างตามเกณฑ์เนี้ย ก็มาเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ก็จะได้จ่ายเช็คนะครับ สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ครบตามเกณฑ์นะครับ ยังต้องดูแลรักษาสำหรับผู้บาดเจ็บและผู้พิการ อันนี้ก็แจ้งให้ทราบตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป จะเริ่มออกเช็คและจะเขียนเช็คให้ตั้งแต่สัปดาห์นี้นะครับ
สำหรับบัญชีออมทรัพย์ที่จะใช้บริจาค เพื่อบาดเจ็บและเสียชีวิต ก็ชื่อบัญชีนะครับ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินเพื่อช่วยเหลือพันธมิตรฯผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เลขบัญชีก็ 008-24447-8 ธ.กสิกรไทย สาขาบางลำภู เป็นบัญชีออมทรัพย์ ก็บริจาคได้ ครับผมก็ได้ไปเยี่ยมคุณรุ่งทิวา คุณเสถียร คุณแจ๊ค คุณรุ่งทิวาก็ยังไม่รู้สึกตัวนะครับ ก็จับมือแล้วเธอก็กระพริบตา แล้วผมก็บอกว่าผมมาเยี่ยมแล้วก็บอกขอให้สู้เพื่อชีวิต และให้อยู่ได้ ก็ยังนอนอยู่ที่ รพ.จุฬานะครับอันนี้ก็ยังไม่รู้สึกตัว คุณเสถียร ทับมะลิผล ก็ยังไม่รู้สึกตัวที่โดนตรงสะพานมัฆวาน อันนี้จะให้สหภาพรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต คุณสิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพ ดูแล โดยเราจะให้สตางค์ไปตามเกณฑ์ อันนี้ก็สำหรับขั้นโคม่า ก็จะให้ถึง 1 ล้าน
ตอนนี้ยังให้ไปไม่ครบ เพราะกำลังจัดการเรื่องคนที่ดูแลคุณเสถียร เพราะมีอาการยังไม่รู้สึกตัว แต่ไปอยู่บ้าน ไปเยี่ยมคุณแจ๊ค ก็อยู่ที่โรงพยาบาลจุฬา คุณแจ๊คก็จิตใจดี เตรียมตัวจะไปอยู่ชุมพร มีโอกาสก็ไปเยี่ยมกัน คนที่อยู่โรงพยาบาลก็มีไม่กี่คน อีกคนอยู่ที่โรงพยาบาลพหล จริงๆออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว แต่ขาเปราะหน่อยก็หักอีก เลยอยู่ที่โรงพยาบาลพหล ชื่อดรีม อันนี้ก็ไปเยี่ยมกันได้ มีอะไรก็โทรศัพท์ถึงเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่เบอร์ 0-2814-3021 แฟกซ์ 0-2814-0369
เราจะปรับเกณฑ์ที่เรากำหนดให้ 8 อย่าง ใครที่เคยอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ถูกต้อง เราก็จะปรับเพื่อจะให้ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้น ดูทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ผู้จัดการ ว่าได้ช่วยเหลือใครไปบ้าง คนไหนขาดเราก็จะเติมตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ เป็นต้น ก็ต้องขอบคุณพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ยังส่งเงินบริจาคมาสม่ำเสมอทั้งที่อาจจะอยู่ในขั้นที่น่าจะพอแล้ว แต่กองทุนอันหนึ่ง และส่วนหนึ่งที่ยังไม่พอแน่ๆ คือกองทุนสู้คดี เพราะคดีนี้จะยืดเยื้ออีกนาน แล้วคนโดนคดีก็เป็นสิบ ทนายก็ทำงานกันหนัก คดีขึ้นกับหลายศาล ก็อยากให้บริจาคผ่านกองทุนสู้คดีเพิ่มเติมด้วย
สำหรับผู้บาดเจ็บถ้าขาดเหลือผมก็จะมาชวนให้บริจาค แต่ที่ขาดแน่คือกองทุนสู้คดี ที่ขาดหนักคือ ASTV รายจ่ายเยอะ ก็ต้องบริจาคกัน ถ้าเราไม่มี ASTV ก็ไม่มีเสียงของเราที่จะบอกความจริง ความดีความงาม ให้กับประชาชนทั้งประเทศเพื่อสู้ความเป็นธรรม นี่ก็เป็นกิจกรรมที่ผมจะต้องถือว่าเป็นภาระต้องเเจ้งเสมอ
สำหรับเรื่องการบ้านการเมือง เรื่องการเมืองใหม่ผมก็ได้พบพี่น้องพันธมิตรฯ หลายคนที่โทรศัพท์มาว่า เรื่องการเมืองใหม่จะเอาอย่างไรกัน จะเคลื่อนกันอย่างไร อย่างที่เราเคยพูดกันอยู่บ่อยๆ ว่าเปลี่ยนขั้วทางการเมืองมันจะเกิดการเมืองใหม่หรือไม่ เราได้คนใหม่มา คือคุณอภิสิทธิ์ แต่ในคนใหม่ที่เป็นผู้นำเป็นนายกรัฐมนตรี ก็พะรุงพะรังไปด้วยนักการเมืองเก่า รวมทั้งพรรคการเมืองที่มาร่วมด้วย แม้แต่ในพรรคประชาธิปัตย์ก็มีการเมืองรุ่นเก่าอยู่ไม่น้อย ก็เป็นอุปสรรคในการที่จะทำการเมืองใหม่
แต่เราก็ต้องพยายามให้กำลังใจ ผลักดันให้คุณอภิสิทธิ์ ทำการเมืองใหม่ให้ได้ เพราะโลกมันเปลี่ยนครับ เพราะมันมีวิกฤตใหญ่ทางเศรษฐกิจ และวิกฤตทางการเมืองก็เป็นวิกฤตใหญ่ สหรัฐฯ เปลี่ยนอย่างที่เราทราบกันแล้ว จีนยังขยับเปลี่ยนตัวไม่ทัน ตอนนี้โรงงานก็ปิดกันเรียกว่าเป็นพัน เป็นหมื่น ในเมืองไทยก็ทยอยปิดกันทุกวัน วิกฤตเศรษฐกิจที่มันโถมมา มันต้องการวิธีคิดใหม่ที่ออกจากกรอบเดิมที่ใช้ทุนนิยมเป็นตัวกำหนด และเป็นทุนนิยมที่เราใช้เสมอว่า "สามานย์" เอาเปรียบเกินไป ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำลายสิทธิมนุษยชน ค้ากำไร หลอกลวง ไม่มีธรรมาภิบาล ก็ล้มกันระเนระนาดไม่รอด
ที่จริงอเมริกาเกือบจะเปลี่ยนเมื่อ 8 ปีที่แล้ว คุณอัล กอร์ น่าจะได้เป็นประธานาธิบดี ที่เป็นนักต่อสู้เรื่องสิ่งแวดล้อม ก็จะเปลี่ยนวิกฤตทางการเมืองอเมริกาใหม่ แต่เนื่องจากคะแนนสูสี ก็เป็นที่สงสัยว่า อาจจะมีการโกงเลือกตั้งรัฐฟลอริดา ทำให้ประธานาธิบดีบุช ในที่สุดศาลก็ตัดสินว่า ไม่มีปัญหา บุชได้เป็น บุชก็ดำเนินการเมืองแบบเก่า แต่มาวันนี้ ผมว่าเปลี่ยน บารัก โอบามา วันนี้บ้านเราก็เปลี่ยน ได้คุณอภิสิทธิ์ แต่ไม่ได้มาในฐานะแบบบารัก โอบามา ซึ่งประชาชนพร้อมใจกันเปลี่ยน คุณอภิสิทธิ์ มาโดยการเมืองเก่า ยังสืบเนื่องอยู่กับการเมืองเก่าอยู่ ได้เป็นรัฐบาลโดยไม่มีการเลือกตั้งใหม่ ก็ไม่แน่ใจว่ามีการเลือกตั้งใหม่คนไทยพร้อมจะเปลี่ยนจริงๆ หรือเปล่า เลือกคุณอภิสิทธิ์มาโดยการเทคะแนน แต่ประชาชนก็บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องปรับนะ ถ้าจะทำการเมืองใหม่ ต้องปรับทั้งพรรค
อันนี้ก็เป็นเรื่องการเมืองใหม่ แล้วเรื่องของเราละ รัฐบาล นักการเมืองทำ ก็อาจจะฝันลมๆแล้งๆ ผมคิดว่าเราจะต้องเริ่มต้นกัน วันนี้ผมอยากจะพูดเรื่องนี้ ก็คือ เราเริ่มต้นด้วยการเป็นพันธมิตรฯ สนใจเรื่องการเมือง เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น มีเครือข่ายทั่วประเทศตอนนี้ทุกจังหวัด แต่ทำเรื่องเดียว คือ เรื่องการเมืองกับการทุจริต คอร์รัปชั่น การตรวจสอบ ผมเสนออย่างนี้ การเมืองใหม่ไม่ใช่มีเรื่องการเมือง การทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างเดียว มันมีเรื่องสิ่งแวดล้อม มันมีเรื่องการศึกษา ขบวนการทุจริต มีเรื่องเศรษฐกิจ ธุรกิจ มีเรื่องศิลปวัฒนธรรม
เพราะฉะนั้นในจังหวัดต่างๆ ที่มีเครือข่ายพันธมิตรฯ ก็ใหญ่ที่ดำเนินงานทางการเมืองมา 193 วัน รวมกลุ่ม ขยายกลุ่ม เป็นเครือข่ายต่างๆ เพิ่มขึ้นทุกจังหวัดได้ไหม เช่นใครที่สนใจสิ่งแวดล้อมร่วมทำเรื่องสิ่งแวดล้อม การเมืองใหม่ก็มีเรื่องสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมกับการพัฒนาจะทำอย่างไร เราจะดูแลทรัพยากรธรรมชาติอย่างไร การศึกษา ปฏิรูปการศึกษาที่พูดกันมาก ผมเป็นคนพูดมากที่สุดในเวทีพันธมิตรฯ แต่ยังไม่ลงลึกพอ ต้องเครือข่ายปฏิรูปศึกษาได้ไหม อย่าไปหวังปฏิรูปในกระทรวงศึกษานะ ปฏิรูปการศึกษาแบบประชาชนทำการศึกษาในแนวทางใหม่เอง เป็นต้น หรือขบวนการยุติธรรม เครือข่ายติดตามดูกระบวนการยุติธรรมในจังหวัดของตัว ทำให้เกิดโลกาภิวัตน์ในจังหวัดของตัวไหม ถูกกลืนจากตะวันตก
ทุกเครือข่ายต่างๆ จะเกิดขึ้น นอกจากนั้น มีคนโทรศัพท์ถึงผม เป็นคนเชียงใหม่ และเป็นคนที่ทำเกี่ยวกับบ้าน ธุรกิจ ที่จริงเป็นหมอ แต่สนใจ ก็บอกกับผมว่า การที่โลตัส แมคโคร บิ๊กซี เป็นตลาดใหญ่มาก และไปทำลายโชห่วยต่างๆ ซึ่งมาร่วมกับเราเยอะ พอเป็นตลาดใหญ่ก็ถือโอกาสกดราคา พืชผักที่คนบนดอย เชียงใหม่ เขาขนผักลงมาแล้ว ผลไม้ลงมาแล้ว ถ้าขายไม่ได้ก็เน่า ก็เลยถูกกดราคาจากโลตัส กดราคาจนต่ำสุด แต่พอเข้าไปในโลตัสขายแพงกว่าที่เขาซื้อมาถึง ซื้อ 10 ขาย 40 นักธุรกิจที่เป็นพันธมิตรฯ ของเราทำเครือข่ายนี้เป็นพ่อค้าคนกลางที่ทำให้เกิดความเป็นธรรมได้ไหม ซึ่งจะช่วย ถ้าทำเป็นใหญ่โตมากทำให้โลตัสต้องปรับตัว ไม่ให้กดราคาของเกษตรกร
อันนี้ก็ทำกันได้ เพราะเรามีนักธุรกิจเยอะแยะ เรามีนักธุรกิจที่เก่งๆ ทิ้งธุรกิจมาชุมนุมที่ 193 วัน โดยไม่ดูแลธุรกิจของตัวเอง เฝ้าดูแลแต่อาคารสถานที่ไม่ให้ใครเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล แต่แน่นอนก็มีมิจฉาชีพแอบเข้าไปบ้าง ซึ่งเราทราบดีแล้ว ผมคิดว่าในเครือข่ายตรงนี้มันเกิดได้ไหม เครือข่ายธุรกิจ เครือข่ายทางเศรษฐกิจ ทำให้เป็นจริงเป็นจัง ขณะเดียวกันก็ศึกษาทางการเมืองไปด้วย อันนี้ก็อยากจะฝากไว้ เหลือเวลาอีกนิดหน่อย
ในเรื่องการเมืองใหม่ ประเด็นของผมคือเครือข่ายขยายเครือข่าย ขยายประเด็น ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำการเมืองใหม่ แล้วที่จะต้องศึกษากันมากก็คือรัฐธรรมนูญ ตอนนี้คุณอภิสิทธิ์ ได้พูดที่สถาบันพระปกเกล้า เมื่อวานนี้ ผมก็ทราบดีว่าคุณอภิสิทธิ์ก็ไม่กล้าที่จะพูดว่าแก้รัฐธรรมนูญ เพราะกลัวจะตกเป็นเหยื่อของฝ่ายนักการเมืองคุณทักษิณ ที่จ้องจะแก้หลายมาตรา มาตรา 190 เห็นชัด ผมรู้ว่าคุณอภิสิทธิ์ไม่กล้า แต่สุดท้ายการทำการเมืองใหม่มันต้องดูทั้งระบบ ว่าเราจะปรับปรุงอะไร เรื่องนี้ก็ต้องเตรียมตัวศึกษาไว้ เครือข่ายทางการเมืองทำได้เลย ผู้ที่ชอบคอการเมือง ผู้ที่ชอบทางธุรกิจ เศรษฐกิจ ทำได้เลยว่า การเมืองใหม่ ธุรกิจใหม่ เศรษฐกิจใหม่ ทุนใหม่ที่สะอาดควรจะทำอย่างไร ปฏิบัติการจริง ช่วยเหลือเกษตรกรจริง ผมย้ำมาหลายครั้งแล้วว่า คนเราเป็นชนชั้นกลางที่มารวมกลุ่มกันมากที่สุดเป็นคนเมือง จะต้องเข้าใจ ไปช่วยเหลือคนจน อาจจะต้องเสียสละบ้าง
สุดท้ายประเด็นที่อยากจะกล่าวถึง คือ ต้องชมรัฐบาล ในขณะเดียวกันก็ต้องสงสัยไปด้วย ว่าการเสนอภาษีที่ดิน ไปพร้อมกับภาษีอาคาร พร้อมภาษีมรดก พร้อมกัน 3 อัน ประเด็นมันแตก และมีข้อสงสัยเยอะ ผมอยากให้รัฐบาลมีจุดยืนเลยว่า เริ่มต้นที่ภาษีที่ดินก่อนได้ไหม ว่าภาษีที่ดินจะต้องยืนยันว่า เพื่อให้เกิดการปฏิรูปที่ดิน และกระจายที่ดินให้เป็นไปประโยชน์ โดยใช้ระบบภาษีจากอ่อนไปหาแข็ง จากอ่อนไปหาเข้ม ผมคิดว่าชนชั้นกลางมาร่วมชุมนุมพันธมิตรฯ จะเข้าใจได้ดีว่า ถ้าเราได้จัดการที่ดิน และปฏิรูปที่ดิน ให้เกิดการกระจาย และถือครองที่ดิน
เราสร้างการเมืองใหม่ไม่ได้ เพราะหลายประเทศเขาได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าญี่ปุ่น หรือจีน ก็ดี แต่การปฏิรูปที่ดินต้องมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม ไม่ใช่เพื่อหาภาษีที่ดินมาจ่าย เพราะรัฐบาลขาดงบแล้ว อย่างนี้เป็นต้น ก็ฝากไว้สำหรับรัฐบาล เรื่องภาษีที่ดิน ภาษีอาคาร ภาษีมรดกมาปนกัน มันจะทำให้ไม่ได้สักอย่าง 2.รัฐบาลต้องทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างจริงๆจังๆ ในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดินที่ไปใช้ระบบภาษี จากอ่อนไปหาเข้ม เขาทำกันอย่างไร และชนชั้นกลางหรือคนที่มีที่ดิน เขาเริ่มจะมีความรู้สึกเสียสละอย่างไร เราจะนำพาประเทศไปสู่สังคมสวัสดิการ และชุมชนสวัสดิการขึ้นมาในอนาคต
เพราะฉะนั้นการกระจายความเป็นธรรมของการถือครองที่ดิน ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเมืองใหม่ และถ้าประชาธิปัตย์จริงใจในเรื่องนี้ ก็น่าจะทำความเข้าใจ เรียกว่าเต็มที่ในสิ่งต่างๆ ระดมนักวิชาการมาคุยในเรื่องนี้ เอาประชาชน เจ้าของที่ดินมาดูว่า เราพร้อมที่จะปฏิรูปที่ดินโดยใช้ระบบภาษี จากอ่อนไปหาเข้มได้อย่างไร โดยเอาเรื่องความเป็นธรรมของทุกภาคของสังคมเป็นที่ตั้ง ผมก็มี 2 - 3 เรื่องที่มาเรียนพ่อแม่พี่น้องในวันนี้ เป็นประเด็นที่ให้ช่วยกันคิด ภาษีมรดก อาจจะเป็นเรื่องที่มีข้อสงสัยกันมาก ว่าไปแล้วไม่ใช่เป็นของใหม่ มีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กรุงศรีอยุธยา ศึกษาประวัติศาสตร์แล้วมาดูว่าปัจจุบันทำได้อย่างไร เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับสังคม ความเป็นธรรมเป็นพื้นฐานของการเมืองใหม่ ร่วมกันสร้างการเมืองใหม่ ที่เราได้ยอมเสียสละชีวิต เสียสละร่างกาย และบาดเจ็บ ต้องให้ได้การเมืองใหม่ในชั่วชีวิตเราให้ได้ครับ ขอขอบคุณครับ
ช่วงที่ 2
กรองทอง - ต้อนรับกลับเข้าสู่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยช่วงที่ 2 นะคะ ต้องขอแก้ไขข้อมูลคะคุณพิภพแจ้งมานะคะ ที่พูดไว้เมื่อสักครู่นี้ที่ว่าคุณหมอเกรียงศักดิ์ที่จะมาตรวจผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ นะคะ ขอแจ้งวัน เวลาอีกซักครึ่งหนึ่งก็คือวันพฤหัสที่ 29 มกราคมนะคะ เป็นวันพฤหัสฯไม่ใช่วันศุกร์นะคะ วันพฤหัสฯที่ 29 มกราคม ที่อาคารบ้านเจ้าพระยา ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไปคะ ก็ขอแก้ไขข้อมูลเมื่อสักครู่นี้นะคะ สำหรับพี่น้องวีรชนของเราที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ สำหรับวันที่ 29 มกราคมนี้ ก็มาพบกันได้ที่อาคารบ้านเจ้าพระยานะคะ ตามหลักฐานที่ทางด้านของคุณพิภพได้แจ้งไว้เมื่อสักครู่นี้นะคะ
ก่อนที่จะเข้าสู่การปราศรัยของท่านต่อไปนะคะ ขอแจ้งเรื่องของการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่อุกอาจ แล้วก็เป็นการกระทำที่เข้าขั้นอันธพาลป่วนเมืองเข้าไปทุกทีแล้ว ล่าสุดทางด้านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีการออกแถลงการณ์นะคะโดยอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศาสตราจารย์พงษ์ศักดิ์ อังกสิทธิ์ ได้มีการออกแถลงการณ์ประณามการกระทำดังกล่าวที่มีการบุกรุกสถานที่ราชการทำลายทรัพย์สิน ทำร้ายร่างกายของผู้บริหารของมหาวิทยาลัย บอกว่าเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ไม่สามารถยอมรับได้
ทั้งนี้อยากจะขอเรียกร้องให้ผู้นำ ผู้ที่ทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และต้องไม่ยอมให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ผู้สื่อข่าวได้ถามท่านอธิการบดีด้วยว่า แล้วจะมีการดำเนินการอย่างไร ท่านอธิการบดีบอกว่าเรื่องของการแจ้งความขณะนี้อยู่ในระหว่างการประเมินความเสียหาย แล้วก็จะมีการปรึกษากับฝ่ายกฎหมายเพื่อที่จะดำเนินการในส่วนนี้นะคะว่า จะเข้าแจ้งความเมื่อไหร่นั้นก็ยังต้องรอทางที่ปรึกษากฎหมาย และก็เรื่องของการประเมินความเสียหายต่างๆ ด้วย คือประเด็นของ อ.เพ็ญสุวรรณ นาคะปรีชา อาจารย์ที่ถูกตบหน้านะคะ
อาจารย์ที่ประเมินคุณค่าทางจิตใจของเสื้อแดงนั้นสูงเกินไป เพราะอาจารย์บอกว่าที่เข้าไปเจรจาก็คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงแล้วจะทำให้เรื่องดูนุ่มนวลลง ดูเหตุการณ์ที่ตึงเครียดนั้นจะดูอ่อนลงได้ แต่ปรากฏว่าอาจารย์ถูกตบหน้าคะ ซึ่งอาจารย์ก็บอกว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ก็ทราบว่าวิทยุชุมชนบางแห่งได้มีการออกอากาศ ให้ข้อมูลบิดเบือนว่าตนเองที่ถูกตบหน้านั้นเป็นเพราะไปแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว และทำร้ายร่างกายพวกเสื้อแดงก่อน ซึ่งไม่เป็นความจริง อาจารย์บอกว่านอกจากนี้นะคะยังมีวิทยุชุมชนบางแห่งออกอากาศว่าจะไปเผาบ้านพักของอาจารย์ด้วย แล้วก็อย่างไรก็ตามอาจารย์ก็เลยบอกว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ส่งกำลังให้มาคุ้มครองมาดูแลที่บ้านพักเพิ่มเป็นพิเศษแล้วนะคะ อันนี้คือความเคลื่อนไหวคนเสื้อแดง
ส่วนอีกเรื่องนี้ที่อยากจะแจ้งให้พี่น้องทราบก็คือ รายงานจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์บอกว่าขณะนี้มีการหยุดปฏิเสธการกระจายจำหน่ายหนังสือดิ อีโคโนมิคส์ ที่จำหน่ายในประเทศไทยนะคะ ซึ่งการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน เพราะอะไรมีคนตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่าหนังสือดิ อีโคโนมิคส์นะคะ ในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมานั้น เป็นนิตยสารต่างประเทศฉบับหนึ่งที่มักจะเสนอข่าวการเคลื่อนไหวภาคประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มที่อยู่ตรงข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ในลักษณะเชิงลบมาโดยตลอด อยู่หลายครั้งด้วย และหลายครั้งเป็นข้อมูลที่บิดเบือนและผิดพลาด
เดือนธันวาคมนิตยสารเล่มนี้ได้ถูกระงับการจำหน่ายในประเทศไทยมาแล้ว เพราะว่ามีบทความตอนนึงที่มีการเผยแพร่บทความที่ชื่อเรื่องว่า เดอะ คิงส์ แอนด์ เด็ม ซึ่งเป็นบทความที่มีการบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการเมืองของประเทศไทย และมีการพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนล่าสุดคือเล่มมกราคมนี้นะคะ ก็มีการเผยแพร่บทความที่วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกฏหมายการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะว่าก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวออสเตรเลียนั้น ถูกศาลไทยตัดสินจำคุก เนื่องจากว่ามีการเขียนบทความพาดพิงสถาบันเบื้องสูงของไทย ก็เลยเป็นเหตุให้ทั้ง 2 เดือน
นิตยสารเล่มนี้ทั้งเดือนธันวาฯ และมกราฯ นั้น มีการถูกแบนแล้วก็ห้ามจำหน่ายในประเทศไทยนะคะ แล้วก็สอดรับกับเรื่องของการตั้งข้อสังเกต จากรองเลขาธิการนายกฝ่ายการเมืองคือ อาจารย์ปณิธาน วัฒนายากร ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการรายงานข่าวในช่วงนี้ โดยเฉพาะสื่อต่างประเทศที่มีการพูดคุยถึงเรื่องของโรฮิงยาส์ที่หลบเข้ามา แล้วก็แน่นอนว่ามีเจตนาเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของทหารไทย เพราะมีการรายงานข่าว อาจารย์บอกว่ามีการรายงานข่าวหลายอย่างที่เป็นข้อมูลที่ผิดพลาดอยู่หลายจุดด้วยกัน และทำลายความน่าเชื่อถือของทหารไทย
ก็เลยอยากจะเอามาให้พี่น้องได้ประมวลดูว่า สถานการณ์ตอนนี้ที่เกิดขึ้นดูจะมีความสอดรับ ดูจะมีความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน เกมป่วนในสภาดำเนินไป เกมของอันธพาลเสื้อแดงดำเนินไป นอกประเทศมีความพยายามที่จะทำลายความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์ของประเทศไทยมีการเดินทางยื่นหนังสือของเหล่าผู้ที่มีคดีหมิ่นต่อสถานฑูตต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจักรภพ วีระก็ดี ทุกอย่างมันดูสอดรับกันและปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน และรับใช้ใคร แน่นอนนักโทษชายที่หนีคุกอยู่ต่างแดนนะคะ เพราะฉะนั้นก็เลยบอกว่าเขาก็เลยตั้งข้อสังเกตว่าทุกอย่าง สถานการณ์ตอนนี้มันเป็นขบวนการหรือเปล่า โดยเฉพาะเรื่องของการใช้สื่อต่างประเทศ โลกล้อมประเทศ เพราะฉะนั้นเดี๋ยววันนี้ เราจะได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ในช่วงสนทนาด้วย ขอให้พี่น้องติดตามอย่าพลาดนะคะวันนี้
ส่วนผู้ปราศรัยช่วงต่อไปคะ ช่วงที่ 2 นะคะ ขอเชิญพี่น้องตบมือต้อนรับด้วยความคิดถึงดังๆให้กับคุณชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัยคะ สวัสดีคะ เชิญคะ
ชัชวาลย์ - สวัสดีครับ เฮ้อ คิดถึงจริงๆ ทั้งพ่อแม่พี่น้องที่นี่ ที่อยู่ทางบ้าน อยู่ต่างประเทศ ก็ขอบคุณมากได้รับ ส.ค.ส. หรือว่าการ์ดปีใหม่เนี้ยเยอะ โดยเฉพาะเมื่อกี้เดินเข้ามาก็ได้จากทางพันธมิตรฯบางแคส่งมาให้ แล้วก็คุณมนูญกฤต รูปขจร พี่มนูญกฤต ส่งมาให้ แล้วก็มาจากฟอร์ลิด้า แอลเอ ครับ ก็ขอขอบคุณมากจริงๆ เพราะว่าได้ทราบจากเพื่อนๆที่อเมริกาว่าอยากให้ผมออกตอนตี 3 จะได้ดูกัน ผมบอกว่าตี 3 พอดีผมฝันถึงพวกคุณมากกว่าที่จะมาพูดนะครับ ก็เป็นลักษณะพิเศษของผมว่าอยากจะขอให้พ่อแม่พี่น้องนักรบประชาชนของพระราชาพระราชินี สู้ไม่สู้ (สู้สู้) สู้ไม่สู้ (สู้สู้) สู้ไม่สู้ (สู้สู้) ไม่มีคำว่าไม่สู้พวกเรานะครับ ฝนตก แดดออก น้ำท่วม นั่งสู้กันไม่ถอยนะครับ เพราะฉะนั้นตอนนี้เนี้ยบรรยากาศหลายอย่างในปีใหม่เนี้ย ผมคิดว่ามีหลายเรื่องที่เราต้องคุยกัน
เรื่องที่ผมอยากจะพูดเนี้ย ผมไม่อยากชกกับคนตัวเล็กๆไม่ว่าจะเป็นสุนัย หรือไอ้หัวขวด หัวอะไรก็ตาม ไอ้พวกนั้นเสียเวลา พวกนี้มันเป็นเหมือนหุ่น เขาไขลานให้สู้ หมดลานมันก็หยุด สู้กับทักษิณดีกว่าพ่อแม่พี่น้อง เพราะไอหมอนี่มันอยู่ข้างหลัง เอาเงินไปไขลานไอหุ่นพวกนี้ให้เดิน ที่สำคัญพ่อแม่พี่น้องทักษิณได้ให้สัมภาษณ์ในช่วงนี้ใช้โฟนอิน โฟนเอ้าท์ โฟนสารพัดของมัน โฟนเข้ามาอุตะลุต เพราะอะไรดิ้นรนสุดชีวิตพ่อแม่พี่น้อง เงินถูกอายัดทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย เสียทั้งไปซื้อหุ้นน้ำมัน เสียเงินไปอีกเป็นแสนล้าน เพราะฉะนั้นเนี้ยเงินของทักษิณบางคนบอกว่าตอนนี้เงินไม่มาจากเมืองนอกแล้ว แต่เงินจะออกจากเมืองไทย
จากคนที่เขาว่าหย่ากัน คนที่หย่ากันเนี้ยพ่อแม่พี่น้อง คนอยู่ข้างตัวและเป็นเสนาธิการให้เขาก็หนีไม่พ้นหมอพรหมมินต์ แล้วก็เจ้าอ้วนนะครับ 2 คนเนี้ย หัวขวดอีกหัวขวด 2 หัวขวดที่อยู่ข้างตัวคุณหญิงอ้อ แต่ไม่เป็นไร คุณหญิงอ้อตอนนี้กลบดานอยู่ คุณทักษิณออกหน้าถือหอก ถือดาบ ไปร่วมกับทางวีระแล้วก็ไอตุ๊ดตู่ ตามด้วยเจ้าใสเกื้ออีกคนนึง ก็คือเจ้าณัฐวุฒิ พ่อแม่พี่น้องทักษิณเนี้ยได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ในญี่ปุ่น อาซาฮีชิมบุน หนังสือพิมพ์อันนี้ได้สัมภาษณ์คุณทักษิณถึงรัฐบาลใหม่เนี้ยว่าคิดอย่างไร ทักษิณพูดเลยไม่มีคำว่าอ้อมค้อม ไม่มีคำว่าปกปิด
พูดตรงๆ เลยว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์เนี้ยเกิดขึ้นมาได้ เพราะอะไร 1. คนชั้นสูง 2. คณะองคมนตรี 3. ศาล 4. ทหาร 5. สนธิ บัง 6. สนธิ ลิ้ม นี่คือกลุ่มที่ทำให้เกิดรัฐบาลใหม่นี้ โดยเขามองว่าพวกนี้ทั้งหมดประสานงานทำกันเป็นระบบ จริงไม่จริงพ่อแม่พี่น้องเรารู้ พวกเราต่อสู้โดยพวกเราเอง เพราะเราเห็นว่าทักษิณและขบวนการของคุณทักษิณจาบจ้วงสถาบัน แล้วสิ่งเหล่านี้ไม่ปฏิเสธ ใครปฏิเสธแทนทักษิณไม่มีใครออกหน้ามาปฏิเสธเลยพ่อแม่พี่น้อง สิ่งที่ผมอยากชี้ให้เห็นว่าจริง ทักษิณได้ให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์อันเดียวกันนี่แหละว่า เขาเนี้ยถ้ายังเล่นการเมืองต่อไป คนที่กลัวเขาก็คือคณะองคมนตรี แล้วพวกทหาร เพราะเขาจะยกเลิกคณะองคมนตรี
ชัดเจนพ่อแม่พี่น้อง พ่อแม่พี่น้องจะเห็นนะว่ารัฐธรรมนูญที่หมอเหวงยื่นเข้าไปแล้วเขาเตรียมจะแก้ ถ้าพันธมิตรฯไม่ออกวันนี้ ไม่มีองคมนตรีแล้ว ไม่มีแล้วถ้ารัฐธรรมนูญนั้นผ่าน องคมนตรีหมด นอกจากนั้นพ่อแม่พี่น้องครับ มีนักวิชาการของกลุ่มพวกเขาเสนอออกมาว่า สิ่งที่จะไม่มีในประเทศนี้หรือที่เขาพูดว่ารัฐใหม่ ประเทศไทยใหม่ ก็คือไม่มีอะไร 1. ไม่มีองคมนตรี ไม่มีสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ไม่มีมาตรา 8 ซึ่งเป็นมาตราที่พระมหากษัตริย์ละเมิดมิได้ ถูกยกทิ้งเลยก็คือ ละเมิดพระมหากษัตริย์ได้เลย จะทำอะไรก็ได้หมดเลย มาตรา 112 เป็นมาตราความผิดอาญาในการที่จะหมิ่นประมาท หรือหมิ่นพระบรมเดชานุภาพยกออกอีก ไม่มีเหลือเลยนะครับ
เพราะฉะนั้นนี่คือสิ่งน่ากลัวที่เขาเสนอมาอย่างเป็นระบบ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตอนนี้นักข่าวต่างประเทศพยายามจ้องเจาะตลอดว่าเมื่อไหร่จะยกเลิก 112 ในประเทศนักวิชาการ นักศึกษาบางส่วน นักวิชาการมีชื่อเสียงเลยเคลื่อนไหวเรื่องนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน หรืออาจารย์ในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เช่นธรรมศาสตร์ บางคน หรือจุฬา บางคน เสนอให้ยกเลิกมาตราที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ยกทิ้งไปเลย หมิ่นกันให้เต็มที่ได้เลย นี่คือสิ่งที่ดำเนินการอย่างเป็นขบวนการ
แล้วรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ได้บอกมาว่า ตอนนี้เว็บหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จาบจ้วงสถาบัน เป็นหมื่นเว็บเลย แล้วสามารถปิดได้แค่พันเว็บเท่านั้นเอง ในกระทรวงไอซีที มีคนดูแลเว็บหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือหมิ่นราชวงศ์แค่คนเดียว เป็นไปได้ไง ประเทศไทยเกิดเหตุอย่างนี้ขึ้น ทุกคนกำลังจะทำอะไรกัน ทุกคนในที่นี้ไม่ใช่ประชาชนส่วนใหญ่ แต่เป็นคนแค่กลุ่มเดียวเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นผมว่าคุณอานันท์ ปันยารชุน ท่านพูดดีมาก ในการให้สัมภาษณ์กับบีบีซี ซึ่งพยายามจะให้ยกเลิก 12 เหมือนกัน นักข่าวคนนั้น คุณอานันท์ บอกในหลวงท่านไม่ได้ติดหรอกมาตราอะไร พระองค์ท่านไม่ลงมายุ่งอยู่แล้ว แต่ประชาชนคนไทยต่างหากที่ไม่ยอม
พ่อแม่พี่น้องเคยเห็นไหม หนังในอังกฤษที่เขาสร้างกัน ควีนอลิซาเบธเปิดก้นเลย ยอมไหมละ เว็บหมิ่นพระบรมเดชานุภาพบางเว็บ นำราชวงศ์บางคนไปทำเป็นภาพนู้ดก็ยังมีเลย ทำได้ไง ผมถึงบอกว่า ขบวนการอันนี้ควรจะต้องจับมาแล้วบอกว่า มึงยอมรับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเปล่า ถ้าไม่ยอมรับ มึงก็ไปอยู่ประเทศที่เขาไม่มีพระมหากษัตริย์ แต่ประเทศนี้คนไทยอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเราชอบ เทิดทูนพระองค์ท่าน มึงจะมาเปลี่ยนซี้ซั้วไม่ได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่พันธมิตรฯ ออกมาต่อสู้ ถ้าไม่ออกมาต่อสู้ รัฐธรรมนูญไม่มี สถาบันจะอ่อนแอ จนกระทั่งไม่เหลืออะไร
ในกลุ่มนักวิชาการเขามีการเสนอด้วยว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ หรือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นั้นพระองค์จะต้องไม่ทำอะไร และทำอะไรไม่ได้ด้วย ก็คืออยู่เฉยๆ ไม่มีพระราชอำนาจ ไม่มีอะไรเลย ผมถึงบอกว่าการต่อสู้ครั้งนี้ผมไม่อยากรบกับไอ้พวกตัวเล็ก ถ้าไม่มีเงินส่งให้ไอ้พวกทำเว็บหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไอ้พวกนี้มันจะทำไหม ไม่มีเงินให้ไอ้พวกเสื้อแดง มันจะออกมาทำอย่างนี้ไหม ไม่มีเงินให้ไอ้สามเกลอหัวขวด มันจะออกมาสู้แบบนี้ไหม ไม่หรอกพี่แม่พี่น้อง คนแบบนี้ผมรู้จัก เงินไม่มามันเดินไม่เป็น ผมอยากจะฝากพ่อแม่พี่น้องว่า ที่ต้องพูดถึงคุณทักษิณ เพราะเขาได้พูดอีกหลายเรื่อง
ในกลุ่มของคุณทักษิณเขาบอกว่า ทุนนิยมดีกว่าศักดินาล้าหลัง แต่เขาไม่พูดว่าทุนนิยมมันสามานย์แบบทักษิณ ใครเขาก็ไม่เอา ทุนนิยมผูกขาดเอาเปรียบ เอาแต่ได้ในประเทศยุโรปแบบนี้เขาก็ไม่ให้อยู่ ในยุโรปในอเมริกา ทุนกับคนชั้นกลาง กับชนชั้นล่างเขาอยู่กันได้ เขารู้ว่ากำไรแบบพอเพียง กำไรแบบคุณอยู่ได้ชั้นอยู่ได้ ก็จะทำให้สังคมอยู่อย่างยาวนาน และกำลังซื้อไม่ขาดหายไป แต่ไม่ใช่ทุนผูกขาด แล้วเอาแต่พวกไม่กี่คน ลแวคนอื่นตายหมด เพราะฉะนั้นเขาจะไม่พูดเลย พูดสั้นๆว่าทุนนิยมดีกว่าศักดินาล้าหลัง เขาจะตัดคำว่าไอ้สามานย์ หรือผูกขาดทิ้งออกไป เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้อง ถ้าเราไปอ่านเอกสารของคนเหล่านี้ เขาจะไม่พูดว่าประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เขาจะใช้คำว่าประชาธิปไตยมหาชน ก็คือเขาไม่สนใจสถาบัน ผมพูดแบบตรงไปตรงมา แล้วสู้กันได้ตลอดเวลาไม่ต้องห่วง
พ่อแม่พี่น้องครับ อดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งของพวกเขา ได้ให้สัมภาษณ์ในปี 49 เป็นภาษาอังกฤษ ได้ปาฐกถาออกมา แล้วในวันที่ 23 เมษายน วันที่ 20 พฤษภาคม ปี 2550 เขาประกาศว่าเขารับไม่ได้ในระบบศักดินาปัจจุบัน แล้วเขาบอกว่าจะทำสงครามประชาชน ถ้าทำในประเทศนี้ไม่ได้เขาก็จะไปตั้งรัฐไทยใหม่ที่ข้างนอก เขาไม่มีปกปิดเลยนะเดี๋ยวนี้ แต่ไม่มีใครทำอะไรเขาเลย วันนี้เขาโดนข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ตำรวจทำอะไรอยู่ พ่อแม่พี่น้องการต่อสู้แต่นี้ไป เขาไม่ปิดบังอีกแล้ว เขาไปแจกแถลงการณ์ แจกใบปลิวถึงบนศาลากลางจังหวัดเชียงรายเลย ผู้ว่าฯ ถือไปอ่าน แต่ไม่ดำเนินการอะไรทั้งสิ้น
อีสานนี่เต็มหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นซีดี หรือใบปลิว และถ้าพูดตรงๆพี่น้องตำรวจไม่ใช่คนโง่ ตำรวจคือหูตาที่สำคัญของรัฐบาล แต่วันนี้รัฐบาลนี้อย่าไปคิดเลยว่าจะแก้ปัญหาเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในเว็บ อย่าไปคิดทำอะไรเลย แค่คุณจัดการกับตำรวจที่ไม่ทำหน้าที่ ไม่จงรักภักดีปล่อยให้เกิดเหตุอย่างนี้ คุณยังไม่เปลี่ยน อย่างนี้โยกย้ายเลย แล้วคุณจะทำอะไร อย่านะ รัฐบาลนี้อย่าอ่อนแอ คุณอย่าประมาทคุณทักษิณ คุณทักษิณ เขากลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ภายใต้ระบอบรัฐสภา ที่ใช้เงินซื้อ ส.ส. ซื้อประชาชนได้ เงินเป็นพระเจ้า เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าคุณอยู่ในอำนาจรัฐวันนี้ ประชาธิปัตย์เคยอยู่ในอำนาจรัฐ และก็แพ้ทักษิณมาแล้ว ทำไมจะแพ้อีกไม่ได้
แล้วเนวิน ไม่มีทางที่จะรักคุณอภิสิทธิ์ แบบสนิทกอดคอตายไปด้วยกัน ไม่มีทาง เขาเลือกตั้งใหม่อาจจะไปร่วมกับทักษิณก็ได้ ขออย่างเดียว 1.ให้กระทรวงสำคัญ ถ้าได้มากเขาก็เอาทหารบางคนขึ้นเป็นนายกฯ นี่คือการเมืองแบบเก่า แต่สถาบันกระทบกระเทือนอย่างสาหัสเลย ผมอยากจะฝากว่าใครก็ตามที่รับผิดชอบเรื่องความมั่นคงคุณอย่าประมาท แล้วคุณอย่าทำเป็นเล่น ทุนนิยมไม่เคยปราณีใครเลย กำไรเขาถือว่าสูงสุด เขาคุมอำนาจรัฐได้เข้มเเข็งเท่าไหร่ เขาจะตัดตอนคู่เเข่งเขา ไม่ว่าจะเป็นใครทั้งนั้น เพราะฉะนั้นนี่คือทุนนิยม ไม่มีคำว่าเมตตาปราณี โดยเฉพาะทุนนิยมผูกขาด เขาถือว่าเติบโตได้ด้วยการผูกขาด เพราะฉะนั้นคู่แข่งถูกฆ่าตายหมด ผมฝากตรงนี้ไว้นะครับ
รัฐมนตรีคนนั้นเขาใช้ลักษณะนี้เลย เขาบอกว่าคุณทักษิณ จะเป็นผูเปลี่ยนแปลงประเทศไทยเหมือนคุณปรีดี พนมยงค์ เคยกระทำมา คุณปรีดี พนมยงค์ ทำไม่ถึงที่สุด จึงเกิดสถานการณ์ เขาใช้คำว่าศักดินายังคุมประเทศไทยอยู่ ทักษิณเป็นความหวังของรัฐมนตรีคนนั้น แล้วเขายังอยู่สบาย ยังสบาย ยังกำลังทำสถาบันเสื้อแดง รัฐบาลไทยใหม่จะเกิดโดยน้ำมือคนเสื้อแดง นี่คือคำประกาศของเขา ไม่มีคำว่าปกปิดกันอีกแล้ว เพราะฉะนั้นฝ่ายคุณทักษิณทำไมเขารบชนะเมื่อในอดีต ใช้เงินอย่างเดียว คุณทักษิณถึงลูกถึงคนมากกว่าประชาธิปัตย์ ทักษิณถ้าใครทำให้ชั้น มึงทำให้กูเอาไปเลยอะไร เอาเงินไหม ตำแหน่งไหม เอาประโยชน์ไหม ทำแล้วได้เลย
แต่ประชาธิปัตย์ใครทำให้ประชาธิปัตย์ ข้าราชการจะรู้เลยว่าทำให้ประชาธิปัตย์มันเสี่ยงจริงๆ เพราะมึงไม่รู้จะเอาอย่างไร ไม่เคยชัดเจน เพราะฉะนั้นนักต่อสู้ หรือข้าราชการ เขาจะไม่ค่อยกล้าออกมาสู้ให้ประชาธิปัตย์แบบตายเป็นตาย ไม่มี ดูอย่างพันธมิตรฯ เห็นไหม พ่อแม่พี่น้องดู ขอบคุณเนวิน เนวินมีบุญคุณกับเรา แต่พันธมิตรฯ ไม่มี แล้วมึงได้อย่างไร คุณเป็นรัฐบาลวันนี้ เป็นนายกฯวันนี้ เป็นอะไรวันนี้ มึงเกิดจากกระบอกไม้ไผ่หรืออย่างไร พันธมิตรฯ ไม่สู้ไม่เกิดนะ เราไม่ได้ทวงบุญคุณ เราขอให้คุณเข้มแข็งในการต่อสู้ให้คุณทักษิณ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมือง และสถาบัน เราขอแค่นี้เอง ขอมากไปหรือเปล่า ประชาธิปัตย์
พ่อแม่พี่น้องครับ ผมอยากจะบอกว่าคุณทักษิณได้พูดอยู่คำหนึ่ง เมื่อวันที่เขาโฟนอินครั้งล่าสุด เขาบอกว่าเขาขอความเป็นธรรมกับครอบครัว แล้วเขาจะสู้ในนรก หรือบนสวรรค์ แม้ว่าเขาตาย เขาก็จะสู้ มึงไม่ต้องสู้ชาติไหน ในชาตินี้แหละ ในนรกเนี่ย มึงไม่ต้องไปสู้กับยมบาลหรอก เขาเตรียมต้นงิ้วให้มึงปีนแล้ว มันไม่มีหรอกสู้กับยมบาล เขาสั่งให้ปีนต้นงิ้วมึงก็ต้องปีน เขาสั่งให้ไปแช่ในกระทะทองแดง มึงก็ต้องแช่ เขาเอาตะกั่วร้อนๆราดใส่คอมึงก็ต้องกลืนเข้าไป ไม่มีใครเขาให้มึงสู้ในนรก สวรรค์ไม่มีลิเดีย วะ นางฟ้าไม่มีใครหน้าเหมือนลิเดียเลย เขาไม่ให้มึงขึ้นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณทักษิณ ต้องต่อสู้ขอความเป็นธรรม
ผมจะบอกให้ว่าใคร ขอกับใครแล้วใครทำให้ทักษิณลำบากอยู่ในวันนี้ รวมทั้งลูกๆและครอบครัวด้วย ทักษิณฟังเอาไว้เลย คนที่ทำให้ทักษิณ และครอบครัวลำบาก เป็นนักโทษชาย ชื่อทักษิณ นามสกุล ชินวัตร ชื่อเหมือนมึงเลย เพราะว่าทักษิณนั่นแหละ คุณทักษิณ คุณเองเป็นคนทำสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ คุณทำสิ่งไม่ถูกต้องไม่ดีไม่งามให้กับบ้านเมือง คุณทำสิ่งไม่ถูกต้องให้กับตัวคุณเอง แล้วคุณมาขอความเป็นธรรมอะไร ผมซิ ประชาชนต้องขอความเป็นธรรมคุณ เพราะว่าผมต้องเดือดร้อนก็เพราะมึงนั่นแหละ
เพราะฉะนั้นวันนี้ทักษิณอย่าไปสู้กับยมบาล ไม่ต้องไปสู้บนสวรรค์ มึงสู้กับตัวมึงเองก่อน เพราะอะไร คุณยังไม่เห็นเลยว่าคุณทำผิด คุณยังไม่รู้เลยว่า สิ่งที่คุณทำมันได้สร้างให้ประเทศนี้เกิดความล่มจม คุณไม่รู้เลยว่าสิ่งที่คุณทำทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศนี้ เกิดเสื้อเหลือง เกิดเสื้อแดงก็เพราะมึงนั่นแหละ แล้วมึงจะไปโทษใคร อย่าไปโทษชนชั้นสูง อย่าไปโทษคณะองคมนตรี อย่าไปโทษศาลเขาเลย แล้วก็อย่าไปโทษทหารอีกด้วย แล้วมึงอย่าเสือกมาโทษพันธมิตรฯ เพราะกูเหนื่อยก็เพราะมึง โทษตัวคุณเอง ความน่ากลัวที่สุดของมนุษย์อยู่ตรงไหน อยู่ที่มองตัวเองไม่ออก ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ และเป็นคนทำให้ตัวเองลำบาก แล้วเป็นคนทำร้ายลูกเมีย
ถ้าตราบใดถ้าคุณทักษิณมองตัวเองไม่ออก ไม่รู้ว่าตัวเองผิด ไม่รู้ว่าตัวเองพลาด คุณทักทิณจะไปรบกับใครหรอ คุณไม่มีวันชนะ เพราะคุณยังไม่รู้ตัวคุณ คุณกลายเป็นคนที่คิดว่าคุณเนี้ย เป็นเทพเจ้าแห่งความถูกต้องอยู่คนเดียวในประเทศไทย เฮ้ย แล้วเอ็งจะไปมีพวกได้ไงวะ ใครจะไปทำงานกับคุณ ผมทำงานกับผู้ใหญ่มาหลายคนพ่อแม่พี่น้อง พล.อ.ชาติชาย เวลาแกผิด เวลาแกพลาดแกกลับมาพูดเลย วันนี้อั้วผิดเรื่องนี้ มันทำให้คนทำงานมีความรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ช่วยทำให้ดี พ่อแม่พี่น้องนี่คือมนุษย์ ถ้าหาว่าตัวเองค้นตัวเองไม่พบแล้วอันตรายที่สุด จึงเกิดความละโมบไม่รู้จักพอ หนทางจะเป็นรัฐบุรุษไม่เอา เอาเป็นโมฆะบุรุษ จนกลายเป็นทรราชไปเลย
สุดท้าย ผมอยากจะฝากไปถึงคุณทักษิณว่า คุณอยู่ในประเทศที่ไม่มีกะลา และไม่มีกะโหลกที่จะให้คุณตักน้ำเพื่อให้คุณชะโงกดูเงาตัวคุณเอง ไม่เป็นไร คุณไปยืนหน้ากระจก แล้วตั้งสติให้ดี ย้อนกลับไปมองชีวิตตัวเองสักทีหนึ่งว่า ในอดีตคุณเกิดมาอย่างไร คุณเกิดมาในประเทศนี้ และครอบครัวคุณ คุณรวยในประเทศนี้นะ แล้วคุณอยู่ข้างนอกทำผิดยังไม่รู้เลย คุณกลับมาทำร้ายประเทศไทย ผมขอฝากไปยังญาติพี่น้องคุณทักษิณ และลูกสมุนคุณทักษิณทุกคน ถ้าเจอเขาบอกว่าผมรู้จักกับเขา
แล้วฝากด้วย เลิกได้แล้ว หยุดสักทีกับการกล่าวหาคนอื่นว่าผิด กลับไปดูตัวเองแล้วคุณจะโชคดี มีโอกาส มีชีวิตอยู่จนกระทั่งอายุขัยควรจะหมด แต่ถ้าคุณไม่รู้ตัวคุณเอง แล้วเที่ยวด่าคนอื่น กล่าวร้ายคนอื่น ให้ร้ายต่อชนชั้นสูง โดยเฉพาะสถาบันเบื้องบน ผมบอกให้คุณทักษิณ ชีวิตนี้คุณจะเจออภิมหาอัปมงคล จนคุณตายไม่ดีเลย ผมจะบอกให้ ผมขอฝากไว้ว่า อยากเห็นคุณทักษิณตายดีๆ ตายอย่างสมอายุขัยที่ควรจะตาย ไม่ใช่ตายก่อนวัยอันสมควร ก็ฝากเพียงเท่านี้ และก็ขอพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้านดูแลสุขภาพตัวเองท่ามกลางอากาศที่เปลี่ยนแปลง
เพื่อนๆ ที่อยู่ในอเมริกายังไงเดือนมีนาคม คงจะไปเจอกันที่นั่นนะครับ และสิ่งสุดท้ายฝากพวกเราดูแลชาว ASTV ด้วย เพราะว่าถ้าไม่มี ASTV ไม่มีวันนี้ ไม่มี ASTV พวกเราก็ไม่ได้เจอหน้ากัน ไม่มี ASTV ไม่มีคนของ ASTV ที่ต่อสู้กันไม่กลัวอันตรายและลำบากยากเข็ญ พวกเราไม่มีความสุขเท่าวันนี้ และก็ขอฝากเคารพต่อวีรชนผู้เสียชีวิต และเพื่อนพันธมิตรฯ ที่บาดเจ็บพิการ รวมทั้งยังเจ็บกันอยู่ในวันนี้ว่า ขอให้เข้มแข็ง แล้วเรายังจะสู้ต่อไปให้ได้การเมืองใหม่ สวัสดี