“มาลีรัตน์” ปลุกชาวเชียงใหม่ ต้านม็อบถ่อย “สมเกียรติ” ฮึ่มไล่ “ผู้ว่าฯ ลพบุรี” จองเวร “พันธมิตรฯ”

“มาลีรัตน์” กระตุกจิตสำนึก “ชาวเชียงใหม่” ให้รักจังหวัดของตัวเอง แนะลุกฮือรวมตัวกันต่อต้าน “ม็อบเสื้อแดง” สุดถ่อย ด้าน “สมเกียรติ” สุดเดือด แฉ “ผู้ว่าฯ ลพบุรี” ร่อนหนังสือถึง ก.ศึกษาฯ ให้สั่งย้าย “ผอ.โรงเรียนพิบูลย์วิทยาลัย” เหตุเพราะไม่พอใจที่ยอมให้ “พันธมิตรฯ” ใช้สถานที่จัดงานชุมนุม ฮึ่มหากมีคำสั่งย้าย พร้อมเคลื่อนทัพขับไล่พ้นตำแหน่งทันที กร้าวจัดการ “รัฐมนตรี” หากยังดื้อดึงยกเลิก “ดอนเมือง” วอน “แนวร่วมพันมิตรฯ” รวมใจบุกอุดร ลบรอยคราบน้ำตา 14 ก.พ.นี้

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" 

รายการ“พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ออกอากาศทาง เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-23.00 น.วันที่ 26 มกราคม 2552 นางสาวกรองทอง เศรษฐสุทธิ์ ดำเนินรายการ พบกับการปราศรัยของนางมาลีรัตน์ แก้วก่า แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 ตามด้วยนายสมเกียรติ พงษไพบูลย์ แกนนำรุ่นที่ 1 ก่อนคั่นรายการด้วยเพลงของ“เลิศ ฅนเดินทาง” และปิดท้ายด้วยช่วงสนทนาประเด็น“โฟนอินแม้วเรียกร้องความเป็นธรรมจากใคร”โดยมี นพ.บูรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ร่วมรายการ

กรองทอง - สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันจันทร์ที่ 26 มกราคม 2552 วันนี้พบกับดิฉัน กรองทอง เศรษฐสุทธิ์ และต้องขอซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ พี่น้องพันธมิตรฯ ลูกจีนรักชาติทุกๆ คนนะคะ วันนี้ก็วันแรกปีใหม่ของชาวจีน ของชาวไทยเชื้อสายจีน วันนี้พี่น้องพันธมิตรฯ ที่นี่ก็เลยถือโอกาส วันนี้ถือว่าเป็นวันเที่ยว เลยใช้โอกาสนี้มาเที่ยวที่นี่เลยไม่ใกล้ไม่ไกลมาเที่ยวกันที่นี่ เป็นการเบิกฤกษ์วันแรกของชาวจีนของปีนี้ มีป้ายด้วย แปลเป็นไทยว่ายังไงดีคะ ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้แต๊ะอั๋งพันธมิตรโจ่ยๆ ฮ่วยต๊า ซึ่งพี่น้องพันธมิตรของเราผู้หญิงเยอะ สวยๆทั้งนั้นด้วย ทั้ง ส.ส.และก็ ส.ว.วันนี้ก็มากันด้วยเต็มห้องส่งเรา ก็ขอให้ทุกท่านเฮงๆ นะคะ สำหรับตรุษจีน สำหรับปีใหม่ปีนี้

ก่อนที่เข้าเรื่องราวของเราในวันนี้นะคะ ก็เช่นเคยสำหรับพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ชมอยู่ทางบ้าน อยากจะส่งความสุข ส่งอั่งเปาก็ได้นะคะ อยากจะส่งความสุขถึงกันถึงพี่น้องด้วยกัน รวมทั้งแสดงความคิดเห็น ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ต่างๆ ก็โทร.มาที่ทางทีมงานของเรานะคะ เบอร์ 02-629-4433 คะ หรือจะแสดงความคิดเห็นผ่านทางหน้าจอ ASTV นะคะ ก็พิมพ์ N1 พร้อมด้วยข้อความ ส่งมาที่ 4850770 คะ ก็มาส่งความสุขกัน ใครอยากจะแลกเปลี่ยนข่าวสาร เนื่องในวันดีๆ แบบนี้นะคะ ก็เรียนเชิญกันได้

แล้วก็วันเสาร์ที่ 31 มกราคมนี้ นะคะ มีงานประชาสัมพันธ์คะ เป็นงานบุญที่ทางครอบครัวใสงาม ครอบครัวชาติมนตรี และก็เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวพันธมิตรบุรีรัมย์นะคะ ก็ฝากประชาสัมพันธ์มาคะ จะมีการทำบุญใหญ่ให้กับสารวัตรจ๊าบ อีกหนึ่งวีรชน วีรบุรุษผู้กล้านะคะ ที่เสียชีวิตไปในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม ก็จะมีการทำบุญกันในวาระที่สารวัตรจ๊าบ การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้เชื่อมั่น และศรัทธาต่อแนวคิดการเมืองใหม่ เสียชีวิตมามากกว่า 100 วันแล้ว ก็จะถือฤกษ์ในวันที่ 31 มกราคมนี้ ทำบุญ ก็เลยอยากจะชวนพี่น้องพันธมิตรฯ ทั่วประเทศมาร่วมงาน

ภายในงานนะคะ มี 6 กิจกรรมหลักๆ ด้วยกัน ที่ทางครอบครัวของครอบครัวใสงาม และก็ครอบครัวชาติมนตรีได้ฝากมานะคะ ก็จะมีการทำบุญอัฐิของสารวัตรจ๊าบ มีพิธีรำลึก และคารวะวีรชนแห่งการเมืองใหม่ด้วย แล้วที่สำคัญจะมีการเปิดสถานีวิทยุชุมชนเพื่อการเมืองใหม่ มีเสวนาย่อยเรื่องของการเมืองใหม่นะคะ แล้วก็แน่นอนความสนุกสนาน ความบันเทิง ก็ยังคงมีอยู่ จะมีเปิดเวทีย่อยของพันธมิตรฯด้วย ก็มีการร่วมร้องรำทำเพลง ที่แน่ๆ ที่เจอกันแน่ๆนะคะ ประทีป ขจัดพาล จุ๋ม ด่านเกวียน แหลม ผู้จัดกวนคะ ก็เวลาจะเริ่มตั้งแต่ 08.30 น.ไปจนถึง 24.00 น.นะคะ ที่เวทีลานวัฒนบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ สำหรับรายละเอียดคะ สอบถามได้ที่คุณเพ็ญภิมล ใสงาม เบอร์ 044-620-330 เบอร์มือถือนะคะ 085-416-4041 คะ ก็เป็นอีกงานหนึ่งที่พี่น้องเราร่วมใจพร้อมเพรียงกัน งานนี้สำหรับวีรชนผู้กล้าของเราด้วย

ส่วนบรรยากาศวันนี้ เรามาเริ่มกันที่เรื่องดีๆ นะคะ เรื่องของบรรยากาศตรุษจีนกันก่อนนะคะ เป็นเมื่อวานวันไหว้ วันนี้วันเที่ยวคะ ก็เรียกว่า ประชาชนพี่น้องลูกจีนรักชาติ และก็พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนก็คึกคัก ที่เยาวราชเขาก็บอกกันว่าคึกคัก และก็เยาวราชเขาก็จะมีงานตรุษจีนเยาวราช เป็นเทศกาลคะ ชื่อว่า ตรุษจีนไชน่าทาวน์เยาวราช จะมีขึ้นตั้งแต่ 26-27 มกราคมนี้นะคะ ที่บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ถ.เยาวราช ก็จะมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดนิทรรศการ การแสดงกายกรรม และก็ศิลปวัฒนธรรมของจีนนะคะ รวมไปถึงจะมีศิลปิน นักร้อง นักแสดง จากค่ายต่างๆ นะคะ มาร่วมงานในเยาวราชครั้งนี้ด้วย อันนี้ก็ถือว่าเป็นศูนย์กลางเป็นไชน่าทาวน์ของบ้านเราเลย

เวลาตรุษจีน ทุกคนก็จะมุ่งกันไปที่เยาวราชนะคะ เรื่องของการทำบุญที่วัดมังกรกมลาวาศด้วย และก็เทศกาลต่างๆด้วยนะคะ ส่วนการไปเที่ยวคะ วันนี้วันเที่ยวเขาก็มีรายงานเหมือนกัน ผู้สื่อข่าวเขาก็ได้ตามเขาก็บอกบรรยากาศการท่องเที่ยวปีนี้ ดูจะไม่ค่อยคึกคักนะคะ มีการไปสำรวจอย่างที่บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย ที่จะสามารถข้ามไปที่ประเทศลาวได้ เขาก็บอกว่าน้อยกว่าทุกปีคะปีนี้ รวมถึงที่พิษณุโลกด้วยนะคะ ก็การท่องเที่ยวก็ดูจะน้อยลง ก็คาดว่า ประชาชนระวังในเรื่องของการใช้จ่าย เรื่องของการเดินทางมากขึ้น แล้วก็แน่นอนเรื่องของฤกษ์ดีแบบนี้ก็จะมีการขอพรไหว้พระ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่วนมากแล้วนอกจะจะขอเรื่องสุขภาพร่างกาย ที่สำรวจส่วนใหญ่ขอให้ประเทศชาติของเราดำเนินไปด้วยความปรองดองสมานฉันท์ และความสงบ ความสุขสักทีนึง เป็นพรที่ทุกคนอยากให้เกิดขึ้น

ส่วนวันนี้อีกเรื่องหนึ่งที่สร้างความตื่นตาตื่นใจตื่นเต้นได้ไม่น้อย ก็คือ การเกิดสุริยุปราคา ถึงแม้ว่าที่บ้านเราจะไม่เห็นเต็มดวง คือ สุริยุปราคาครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นวงแหวน ที่บ้านเราเห็นได้ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 4 โมงเย็น แต่ที่เห็นชัดเจนที่สุดจะเป็นช่วงเวลา 16.52 น.จากนั้นเป็นภาพค่อยๆ เคลื่อนออก บ้านเราพอเห็นได้ถึงแม้จะไม่เต็มดวง ไม่ชัด แต่อย่างน้อยถือว่าเป็นวันดีๆ เป็นฤกษ์ดีๆ ถือว่าผิดแปลกไปจากทุกวัน ก็สร้างความตื่นเต้นในวันดีๆ เทศกาลแบบนี้อีกเรื่องหนึ่ง

มาต่อกันที่ความเคลื่อนไหวด้านการเมือง ความสงบ ความสุข ความสนุกสนานเทศกาลผ่านไปแล้ว ประเด็นต่างๆ ที่ยังมีให้ได้ติดตามในวันนี้ เช่น วันนี้มีการประชุมร่วมของรัฐสภา หลักๆ เป็นเรื่องของการพิจารณาความเห็นชอบเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับความร่วมมือในกรอบอาเซียนที่เรากำลังจะเป็นเจ้าภาพในการประชุมอาเซียน ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แม้ว่าตามที่ผู้สื่อข่าวรายงาน ในช่วงเช้าจะมีการพุ่งเป้าโจมตีไปที่ท่านรัฐมนตรีกษิตก็ตาม แต่วันนี้การประชุมก็ผ่านไปได้ด้วยดี เริ่มแรกนายกฯ มีการชี้แจงถึงความสำคัญของการประชุมอาเซียนครั้งนี้

เลยอยากจะบอกเล่าให้พี่น้องฟังก่อนว่าเพราะอะไรเราถึงจะต้องร่วมมือกัน อย่างที่ทางรัฐบาลเองก็บอกว่า การจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในครั้งนี้ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว ไม่ใช่หน้าที่ของประชาธิปัตย์ ไม่ใช่หน้าที่ของใคร แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน นายกฯ เลยออกมาชี้แจงในการประชุมวันนี้ บอกว่าเหตุผล 3 ประการที่เกี่ยวข้องกับการประชุมครั้งนี้ และมีความสำคัญอย่างไร ข้อแรกคือ กฎบัตรของอาเซียนนั้นมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนธันวาคม คือเพิ่งจะมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนธันวาคมนี่เอง เพราะฉะนั้นการประชุมครั้งนี้จะเป็นช่วงที่เราได้มาร่วมมือกันเดินหน้านำแผนงาน กฎกติกาต่างๆ ให้ดำเนินไปภายในกรอบของกฎบัตรอาเซียน

ความสำคัญข้อที่ 2.คือ ครั้งนี้ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน ซึ่งจะนานกว่าระยะ วาระปกติที่เขาจะเป็นประธานกัน 1 ปี แต่สำหรับประเทศไทยนั้นจะดำรงตำแหน่ง 1 ปีครึ่ง ไปจนถึงเดือนธันวาคมปีนี้ และข้อที่ 3.คือ การเป็นประธานอาเซียนครั้งนี้ ผนวกกับเลขาธิการอาเซียนก็เป็นคนไทยด้วย คือ คุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลยทำให้ครั้งนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของคนไทยทุกคนที่จะต้องดำเนินการอาเซียนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ส่วนเรื่องที่มีการโจมตี และมุ่งเป้าอภิปรายไปที่รัฐมนตรีกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพราะว่าในวันนี้ท่านไม่ได้เข้าร่วมประชุมเพราะติดภารกิจในการเยือนประเทศกัมพูชา ฝ่ายค้านพยายามจะพูดถึงเรื่องนี้ นายกฯ ได้ชี้แจงว่า ท่านรัฐมนตรีกษิต ได้ตอบรับที่จะไปประชุมหารือ ไปเยือนประเทศกัมพูชาก่อนที่จะมีการกำหนดการประชุมในช่วงของวันที่ 26 และ 27 คือวันนี้ วันพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องของการหลีกเลี่ยงไม่รับผิดชอบในการเข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด นายกฯ บอกว่า ในคืนนี้รัฐมนตรีกษิต จะเดินทางกลับมา และเชื่อมั่นว่า ในวันพรุ่งนี้ท่านจะเดินทางมาร่วมประชุมที่รัฐสภาด้วย เพราะฉะนั้นถ้าฝ่ายค้านหรือใครก็ตาม มีประเด็นอะไรที่ยังติดข้อง ค้างคาใจอยู่ เชื่อมั่นว่าพรุ่งนี้ท่านรัฐมนตรีกษิต จะสามารถมาชี้แจงได้แน่นอน

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการเข้าหารือของท่านรัฐมนตรีกษิต ที่ไปเยือนประเทศกัมพูชา วันนี้มีการเข้าร่วมหารือกับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นั่นก็คือ นายฮอร์ นัม ฮง หลักๆ ก็คือ เรื่องของกรณีปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นเรื่องที่พี่น้องของเราไม่ลืม และยังคงที่จะจับตาดูถึงเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งวันนี้ได้มีการหารือกัน โดยหลักๆ พูดถึงปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อพิพาทเรื่องเขาพระวิหาร บอกว่า ที่ประชุมจะมีการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 2 และ 4 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อหารือปัญหาดังกล่าว

อีกปัญหาหนึ่ง คือ ปัญหาการปักปันเขตแดน ที่ประชุมได้หารือและสรุปออกมาว่า คณะกรรมการเขตแดนจะเร่งปักปันหลักเขตแดนที่เหลืออีก 23 หลัก ส่วนปัญหาอีกอย่างคือเรื่องของการปรับกำลังพล บอกว่า ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเข้าพบและหารือร่วมกับ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา อันนี้เป็นเรื่องของความคืบหน้าการหารือแก้ไขกรณีพิพาทเขาพระวิหารที่วันนี้ท่านรัฐมนตรีกษิต ได้เดินทางไปเยือนกัมพูชา เป็นผลงานที่รวดเร็วทันใจพี่น้องมาก รับรองว่าครั้งนี้เราน่าจะฝากความหวังเอาไว้ได้กับท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ส่วนตอนนี้ค่ะ เสียงปรบมือต้อนรับมาแล้วนะคะ เราจะเข้าสู่ช่วงของการปราศรัย ขอเชิญพี่น้องพบกับแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 คุณมาลีรัตน์ แก้วก่า สวัสดีค่ะ

มาลีรัตน์ - วันนี้ใจหาย ตอนที่ไปแต่งหน้า มาอยู่ที่นี่เขาต้องแต่งหน้าให้ ไม่เหมือนอยู่ที่เวที ช่างแต่งหน้าถามว่า พี่ติ๊กมาเป็นแขกรับเชิญในรายการหรือเป็นพิธีกร เราก็ตกใจเอ๊ะทำไมมาถามว่า จะต้องไปเป็นพิธีกรในรายการ น้องเขาบอกว่า พี่แอนกับพี่แอ้มยังไม่มา ใจหายวาบเลย นึกว่าจะต้องเป็นพิธีกรซะแล้ว แต่มีน้องนกมาค่ะ

สวัสดีท่านผู้ชมที่อยู่ในห้องส่ง ท่านผู้ชมที่อยู่ทางบ้านและที่อยู่ต่างประเทศ วันนี้มีหลายเรื่องที่อยากจะเล่า ก่อนอื่นคงจะต้องเล่าเรื่องที่ไปมาแล้วกัน ดิฉันไปพะงันมานะคะ ไปลพบุรีมา จากชลบุรีก็ไปที่พะงัน ปรากฏว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตดิฉันใครก็อาจไม่เชื่อ เพิ่งไปสมุยครั้งแรก ไปเกาะเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต เพราะว่าเกาะไปตอนเด็กมากๆ อายุประมาณ 15 ปี ไปที่เกาะล้าน ไปโรยอังคารของคุณป้า พี่น้องสมุยตื่นเต้นใหญ่เลยว่ามาลีรัตน์ไม่เคยมาเกาะ ดิฉันตื่นเต้นยิ่งกว่า ที่น่าอายคือ เราไปเจอฝรั่งนั่งพูดภาษาอังกฤษ ก็ถามว่า เขาเคยมาประเทศไทยกี่ครั้งแล้ว แล้วเคยมาสมุยกี่ครั้ง ก็ถามง่ายๆ ประโยคที่ถามง่ายก็ถามได้ ปรากฏว่าเจอแหม่มคนแรก แหม่มบอกว่า เป็นครั้งแรกในชีวิตเขาแต่เขาอยากมามานานแล้ว ดิฉันก็เลยบอกว่า ดิฉันก็เป็นครั้งแรกด้วยในฐานะคนไทย หัวเราะกันยกใหญ่ นี่คนแรก

พอจะลงจากรถ คือ จากเครื่องบินของบางกอกแอร์เวย์สเราก็ลงไปนั่งรถ พอนั่งรถก็เจอฝรั่งผู้ชายคนหนึ่งอายุพอสมควร รุ่นราวคราวเดียวกับดิฉัน ก็ถามเขา พอลงจากรถปุ๊บเข้าห้องน้ำ น้องๆ ก็ถามว่า พี่คุยอะไรกันหัวเราะเสียงดังมากเลย มันจะไม่เสียงดังได้ยังไงพี่น้อง จะเล่าให้ฟังว่า ถามฝรั่งว่า เขามาสมุยกี่ครั้งแล้ว เขาบอกเขามาสมุยติดต่อกัน 15 ปี ปีละ 1 ครั้ง ดิฉันเลยบอกว่า ดิฉันเป็นคนไทยแต่ดิฉันเพิ่งมาเป็นครั้งแรกเขาเลยบอกว่า ยูเหมือนกับเซ็กซ์กันไวท์ฉันเลย คือเมียคนที่ 2 ของเขาที่เขาพามาด้วย เพิ่งมาสมุยเป็นครั้งแรก ก็เลยหัวเราะเสียงดัง เราก็อายเขานิดว่าเราคนไทยแต่เพิ่งมาสมุยเป็นครั้งแรก ก็เลยเชิญชวนพี่น้องซะเลย

ในขณะเดียวกัน ก็บอกพี่น้องทางเชียงใหม่ด้วยว่า พันธมิตรฯ ทางเชียงใหม่อยากให้เราไปเชียงใหม่อยู่แล้วหละ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบที่เกิดกับคุณสุเทพ ไปรุกรานกันแม้กระทั่งในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดิฉันว่าพันธมิตรฯ เราไม่กล้าใส่เสื้อเหลืองไปเชียงใหม่ เราก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น นักท่องเที่ยวจะแห่ไปลงปักษ์ใต้ซะหมด เลยบอกชาวปักษ์ใต้ ชาวสมุย ชาวพะงัน บอกว่า ต้องแข่งกัน เราต้องเอาสิ่งดีๆ ของบ้านเราขายให้ชาวต่างชาติ เชียงใหม่เคยเป็นดินแดนที่มีอารยธรรมงดงาม เป็นเมืองที่คนเนี้ยอยู่กันร่มเย็นเป็นสุขแล้วก็ชีวิตของคนเชียงใหม่เนี้ย น่ารัก นุ่มนวลนะคะ อย่าให้พี่น้องของเราที่อยู่ที่เชียงใหม่เนี้ย ผิดหวังกับการกระทำของกลุ่มคนไม่กี่คน

อาจจะถึงเวลาที่คนเชียงใหม่ที่แท้จริง ที่ยังรักชาติ รักบ้านเกิดเมืองนอน อาจจะต้องลุกขึ้นมาคุยกันแล้วละคะ ว่าท่านจะต้องทำอย่างไรกับเชียงใหม่ จะให้เกิดเหตุการณ์ที่เหมือนกับไปทำร้ายคนอื่น ไปทำลายชื่อเสียงของจังหวัด และคนเชียงใหม่ อีกต่อไปหรือไม่นะคะ จะต้องคิดคะ สร้างสรรค์นะคะ ว่าจะทำอย่างไร จะไม่ให้คนเหล่านี้เนี้ยสามารถที่จะผงาดขึ้นมาได้ อันนี้ก็คือเรื่องแรกที่จะเล่า ในขณะเดียวกันก็อยากจะคือภาพอื่นๆ ของพะงันเนี้ย คิดว่าพี่สมศักดิ์ แล้วก็ท่านอ.พิภพ ที่ไปมาเนี้ย คงจะเล่าให้พี่น้องฟังแล้วว่า เราก็ประทับใจมากนะคะ เพราะว่าเกาะพะงันเนี้ยมีประชากรประมาณหมื่นคน แต่มาชุมนุมเนี้ย มาฟังคอนเสิร์ตปราศรัยนะคะเกือบหมดเกาะเลยคะพี่น้อง อันนี้ก็ชื่นชมนะคะ อันนี้ก็เลยมาเล่าสู่กันฟังแบบนี้ละ

ส่วนไปที่ลพบุรีก็ไปเจอเหตุการณ์ คือ จริงๆ ดิฉันไม่ได้ถูกเชิญนะคะพี่น้อง ขายหน้าตัวเองไหมเนี้ย แต่ว่าอย่างนี้คะจริงๆ แล้วไม่เชิญก็อยากไปทุกที่ แต่เกรงว่าเวลาไปแล้วเจ้าภาพจะกังวลใจว่าจะต้องจัดเวลาให้เราขึ้นพูด ก็เลยหลีกเลี่ยงไม่ไปนะคะ ถ้าใครไม่เชิญตรงก็ดิฉันก็จะไม่ไป ลพบุรีทนไม่ไหว ที่ทนไม่ไหวไม่ใช่อย่างอื่นคะ ข่าวใบปลิวนั่นละ ใบปลิวบอกว่าพี่น้องลพบุรีโดนพวก นปช.เนี้ยแจกใบปลิวบอกว่าใครจัดวันนี้เนี้ยจะไม่ปลอดภัย ก็มีจริงๆเขาก็ไปขว้างไข่ใส่นะคะ ก็กลุ่มคนกลุ่มน้อยเหลือเกิน แล้วก็มีผู้ว่าราชการจังหวัดเนี้ยแอบหนุนหลังอยู่ ไปขู่อีก

ซึ่งอันนี้เนี้ย อ.สมเกียรติ เนี้ยก็เล่าไปแล้วก็จะไม่เล่าซ้ำ แต่อยากจะบอกว่าที่ดิฉันตัดสินใจไปลพบุรีเนี้ย เพราะว่าก็ห่วงแบบเหมือนหลายๆคนห่วงเนี้ยแหละ ก็หลายคนไปแล้วแตะมือกันเลยคะ ทั้งมือ ทั้งมือตบนะคะ ไปให้กำลังใจพี่น้องลพบุรี ดิฉันไปถึงก็บอกว่าไม่ต้องพูดก็ได้นะ เพราะว่าขอมาให้กำลังใจ มาให้เห็นหน้ากัน เขาบอกไม่ได้หรอก มาแล้วต้องขึ้นเวที ก็ไปเบียดเวลาเขาอีก ก็ขึ้นก็ได้แต่ก็ใช้เวลาน้อย เพราะฉะนั้นอันนี้ก็อยากจะบอกว่ากำลังใจที่มีให้กันเนี้ย จริงๆ มันอาจจะเหมือนกับเราไปเจอไม่ผิดจากเดิม สาระเท่านั้น เนื้อหาเท่านั้นที่ต่างไป แต่สิ่งที่สาระที่เราต่างเนี้ยละสำคัญ เป็นการตอกย้ำว่าพวกเราพันธมิตรฯ นะคะ จะรุกการเมืองใหม่ต่อไป

แล้วในลพบุรีเนี้ยเหมือน อ.สมเกียรติ เล่านะคะ คนที่ไม่เคยเปิดตัวเลยว่าเป็นพันธมิตรฯ เปิดตัวรอบนั้นแล้วโดนสารพัดโดนเนี้ย ได้เงินบริจาคสำหรับค่าใช้จ่ายในจังหวัด 200,000 แล้วจะเหลือตามมาสมทบให้ที่นี่อีก ให้ ASTV อีก 120,000 รวมแล้ว 320,000 สำหรับวันนั้น แต่เขาจะตามมาอีกนะคะ เห็นว่าจะตามมาอีก 50,000 ให้กับ ASTV แต่ขอเคลียร์ค่าใช้จ่ายบางส่วนที่ยังไม่ได้จ่ายก่อน อันนี้ขนาดโดนคุกคาม เงินอาจจะไม่ใช่ตัวหลัก แต่สำคัญก็คือพลังของเรา

ก็เลยจะไปถึงสถานการณ์วันนี้ว่าเป็นอย่างไร ในด้านสถานการณ์อยากจะคุยไป 3 ด้าน ด้านแรกจะเป็นรัฐบาล สถานการณ์รัฐบาลวันนี้ พวกเราหายใจทั่วท้องไหมพี่น้อง ไม่ทั่วท้อง โอ๊ยลุ้นเอาใจช่วยจะเป็นจะตาย ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น อาทิตย์ที่แล้วหวุดหวิด วันแรกเลยเปิดประชุมสภา 21 มกราคม หวุดหวิดสภาจะล่ม เจอวันที่ 22 ประมาทไปหน่อยเดียวล่มจริงๆ วันนี้อีก นึกว่าจะแก้ตัวสำเร็จ ก่อนมาถึงวันนี้ เมื่อวานมีการเลี้ยงโดยพรรคประชาธิปัตย์เป็นเจ้าภาพใหญ่ กะคนเต็มที่นั่ง ไปถึงแค่ประมาณเกินครึ่งมาหน่อยๆ ก็ใจหายใจคว่ำแล้วหละ ดิฉันก็อู๊ยจะรอดมั๊ย วันนี้ประชุมรัฐสภา เกือบๆ เกือบได้กับเกือบตก ดิฉันมักจะเป็นเกือบได้ นึกออกไหมคะเวลาลง ส.ส.เกือบได้ทุกครั้ง ลง 7 ครั้งเกือบได้ซะ 5 ครั้ง เกือบตก 2 ครั้ง อันนี้ก็เกือบ แต่ว่ารอดไปได้ เกือบไม่รอด

เพราะฉะนั้นวันนี้ดิฉันก็ลุ้นเอาไงดี เลื่อนเวลาก็แล้วอะไรก็แล้วมันไปไหนหมดหนอ ส.ส. ส.ว. เป็น ส.ส.ไม่อยากไปประชุม เป็น ส.ว.ไม่อยากไปประชุม ออกมาเลยคนอื่นเขาจะได้มีที่นั่งไปทำงานให้กับพี่น้องประชาชน เงินเดือนคุณ 104,300 บาท ประมาณนี้ หักภาษีแล้วเหลือประมาณ 97,000 ประมาณนี้ เพราะเคยรับมาก่อน มีผู้เชี่ยวชาญ 1 คน 20,000 บาท ผู้ช่วย หรือเขาเรียกว่า ผู้ปฏิบัติงานประจำตน ส.ส. และ ส.ว.อีก 5 คน ก็ได้แถมอีก 70,000 เป็น 170,000 บาท ทำไม่ไหวออกน่ะ ให้คนอื่นเขาไปทำ เพราะฉะนั้นสถานการณ์รัฐสภาของรัฐบาลน่าห่วง หวุดหวิด

ฉะนั้น เตือนกันไว้ตั้งแต่วินาทีนี้ คงจะจำได้ ดิฉันพูดตอนเป็นรัฐบาลใหม่ๆ บอกว่าประชาธิปัตย์มีปัญหาเรื่องการทำงานเป็นทีม คนเก่งเยอะ เยอะมาก คนเก่งคนดีด้วยมีเยอะ แต่คนเก่งคนดีเหล่านี้ไม่ทำงานเป็นทีม คำว่าทำงานเป็นทีม คุณอย่าปล่อยให้รัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่ทำงาน คุณเป็น ส.ส.คุณเป็นสมาชิกพรรค คุณจะต้องมาช่วยเขาคิด การประชาสัมพันธ์จะทำอย่างไร นั่งมองซินายกฯ ออกรายการจะทำอย่างไรถึงจะดี นายกฯ ไปนู้นไปนี่จะทำอย่างไร รัฐสภาจะทำอะไรต้องช่วยกันคิด อันนี้ก็คือเรื่องการทำงานเป็นทีม เตือนแล้วเตือนอีก วันนี้ขอเตือนอีก 1 ครั้ง ขณะที่ทำงานมาได้เกือบ 1 เดือน ว่า อย่าละการทำงานเป็นทีม ไม่งั้นคุณไม่รอดแน่ นี่ก็คือ รัฐสภา

มาพูดถึงในส่วนของการบริหาร ก็คือ คณะรัฐมนตรีเป็นอย่างไร เรารู้แล้ว คณะรัฐมนตรีก็ใครจะรอดบ้าง อาจจะรอดเยอะ แต่จะไม่รอดดิฉันเห็นๆ 2 คน ใครจะว่าอย่างไรไม่รู้ แต่ดิฉันหวาดเสียวแล้ว บอกเบาะแส นปช. คุณอย่าไปมัวปลดท่านทูตกษิตอยู่ ท่านรัฐมนตรีกษิต ภิรมย์ เขาไม่มีความผิดอะไร ก็แค่เคยมาชุมนุมกับพันธมิตรฯ แล้วจะปลดเขา เขาบริหารราชการ เขาทำนโยบาย เขาไปเจรจากับฮอร์ นัม ฮง เขาเอา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปด้วย แล้วเขาไปเจรจากับรัฐมนตรีกลาโหมของกัมพูชา ทิศทางถูกแล้ว การปักปันเขตแดน

ที่เราเคยพูดบนเวทีเหล่านี้ ท่านทูตเดินเรื่องเลย แล้วเราเคยพูดว่า การที่ไม่ให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกแต่ฝ่ายเดียวถึงจะถูกต้อง วันนี้ท่านทูตกษิต ท่านเดินหน้าไม่ให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว ส่วนจะลงเลยอย่างไร ขึ้นทะเบียนร่วมไหม หรือจะมีการเจรจาอย่างไรเดี๋ยวว่ากัน อันนี้คือการเดินหน้าของท่านทูตกษิต ก็เลยบอก จ้องแต่จะปลดท่านทูตกษิต ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มรักประชาธิปไตยสองแควพิษณุโลก หรือกลุ่มอื่นๆ บอกจะเข้าชื่อ แน่จริงเข้าชื่อปลด บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ให้ดิฉันหน่อยซิคะ เดี๋ยวจะเฉลย

ถ้าไม่เอาใจช่วยเต็มเหนี่ยวดิฉันจะยื่นซะเอง เพราะอะไร การที่ท่านรัฐมนตรี บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ บอกก่อนไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ เลยกับดิฉัน และไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณบุญจงทำอะไร ตัวรัฐมนตรีเองอาจจะไม่ได้ทำเอง แต่เขาบอกว่าภริยาเป็นคนทำ มันจะสาวถึงสามีรึเปล่าไม่ทราบ แต่บังเอิญเรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะพี่น้อง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มีท่านรัฐมนตรีชื่อ วิฑูรย์ นามบุตร เขาก็เร่งแจกเงิน เร่งมอบเงินให้กับผู้ที่บาดเจ็บ ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทั้งพันธมิตรฯ หรือ นปช.ก็ตาม ที่โดน ได้หมด

ในขณะเดียวกัน ตำรวจด้วยจากเหตุการณ์ 7 ตุลา เริ่มจาก 7 ตุลาแล้วก็เหตุการณ์นั้นนี่ในการชุมนุม ต่อจากนั้นจะมีโครงการที่กระทรวงต้องจ่ายเบี้ยยังชีพ หรือสงเคราะห์ผู้สูงอายุ 500 บาทต่อคน ใครที่อยากจะได้ให้ไปลงทะเบียนไว้ก่อน อย่าลืมไปลงทะเบียนนะคะที่เทศบาล หรืออำเภอ ทะเบียนบ้านอยู่ตรงไหนก็ไปตรงนั้น ปรากฏว่า คุณบุญจง ก็ปรารถนาดี หรือภริยาปรารถนาดีก็ไม่ทราบ ข้าราชการก็ไปแจก ไปมอบเงินให้กับผู้สูงอายุ ภริยาคุณบุญจงก็ปรารถนาดีต่อสามี ขณะที่เขาไปแจกเงินกันตัวเองก็ไปแจกนามบัตร แล้วดันไปแจกที่บ้านท่านรัฐมนตรี ก็เลยแจกนามบัตร เบอร์โทรศัพท์อะไรพร้อมให้กับผู้สูงอายุที่มารับเบี้ยยังชีพ

แค่นี้มันผิดอะไรถ้ามันไม่เคยมีกฤษฎีกาตีความไว้ก่อนจะไม่เป็นไร บังเอิญกฤษฎีกาเคยตีความไว้ เรื่องของ กทม.ส.ก.ของ กทม.เขาตีความไว้ว่า การแจกนามบัตรไปพร้อมกับสิ่งของ หรือเงิน หรืออะไรก็ตาม ถือเป็นเจตนา เจตนาอะไร ไปดูรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 266 เขียนไว้ว่า ส.ส. ส.ว. และอนุโลมให้กับรัฐมนตรีด้วย นายกรัฐมนตรี บุคคลเหล่านี้ทำอะไรไม่ได้ ห้ามไปแทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำ สมมุติ เขาต้องไปแจกของ เป็นหน้าที่นายอำเภอ เป็นหน้าที่ของข้าราชการกระทรวง พม.ไปแจกของ ตัวเองไปยุ่ง ส.ใส่เกือกไปช่วย ผิดค่ะ เพราะฉะนั้นอันนี้มันเป็นเรื่องที่ต้องดูว่าเป็นอย่างไร เพราะมันเป็นรัฐธรรมนูญที่คุณต้องใส่ใจ

อีกอันหนึ่งไปก้าวก่ายการย้ายก็ไม่ได้ อันนี้เข้าข่ายว่า การปฏิบัติราชการของข้าราชการ สมมุติไปตรวจงานได้ไม่เป็นไร แต่อย่าไปสั่งการ ขุดลอกคลองนี้หรอไม่ดีกรอก ไปคลองนั้นดีกว่า อย่างนี้โดนเลยถ้ามีบันทึก ถ้ามีลายลักษณ์อักษร มีหลักฐาน เป็นเทปก็ได้ อะไรก็ได้ ยุ่งนะคะ เพราะฉะนั้นจะเป็นผู้บริการยุคนี้ต้องอ่านรัฐธรรมนูญให้แตก อ่านไม่แตกมาดู ASTV ฟัง ASTV แล้วจะรู้ เพราะฉะนั้นดิฉันเลยบอกว่า นปช.ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ปลดคุณบุญจง เสนอปลดคุณบุญจงซิ เราจะได้รู้ว่าคุณรู้จริง คุณรู้ว่าใครทำผิดไม่ทำผิด อีกเบาะแสหนึ่งคนที่ 2 เดี๋ยวเก็บไว้ก่อนเนาะ เก็บไว้ตอนหลัง แต่บอกใบ้ให้ว่าเรื่องปลากระป๋อง พี่น้องรู้ดีกว่าดิฉันอีก

เอาละค่ะเวลาไล่เข้ามาแล้ว อีกส่วนหนึ่งสถานการณ์ที่จะพูดถึงก็คือ ขบวนพันธมิตรฯ ของเรา วันนี้ในขบวนพันธมิตรฯ ทำอะไรบ้าง 1.เราก็จัดเวทีตระเวนไปเรื่อยๆ เป็นการปลุกขวัญกำลังใจ อันที่ 2.เป็นการเสริมศักยภาพซึ่งกันและกัน และ 3.ดิฉันอยากจะให้ศึกษาจากกลุ่มอีสานเหนือ กลุ่มภาคเหนือ พันธมิตรฯ ภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง ไล่มาตั้งแต่ จ.ตาก แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ พิจิตร อุทัยธานี นครสวรรค์ ถือว่าเป็นเหนือตอนล่าง เขาทำอะไร เขาจัดผ้าป่าวิทยุชุมชน ได้ไปหลายแห่งแล้วแต่แห่งหนึ่งที่อดพูดถึงไม่ได้ คือ จัดไว้ในวันที่ 30 ธันวาคม รวมพลังกันแล้วได้ใหญ่ ถ่ายทอดอะไร

1.ถ่ายทอด ASTV อันที่ 2.สื่อข่าวบอกข่าวถึงกันในหมู่พันธมิตรฯ ประชาชนทุกข์ยากเดือดร้อนอะไร งานศพใคร งานบวชใคร งานแต่งลูกใคร งานวัดที่ไหนบอกกันผ่านวิทยุชุมชน อันนี้จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับขบวนพันธมิตรฯเรานะคะ เราก็ศึกษาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน อีสานเหนือก็เตรียมทำนะคะ แต่ก็ยังไม่มีรูปธรรมที่ชัดเจนก็อาจจะต้องมาเรียนจากที่นี่ เพราะฉะนั้นก็ฝากน้องหนุ่ย มหาสารคาม คงจำได้ คนที่หัวแบะนะคะ ที่สมองเกือบจะพิการแต่ก็รอดมาได้ ยังยืนหยัดทำงานอยู่กับน้องบุ๋ม ที่อุดรธานี แต่น้องหนุ่ย จะเป็นหลักในการทำงานวิทยุชุมชน ก็น้องหนุ่ย อาจจะต้องไปทำผ้าป่านะคะ

ตัวตั้งตัวตีมีที่ขอนแก่นบ้างละรวมกันนะคะ อันนี้ก็เป็นอันนึงที่ขบวนพันธมิตรฯเรา สามารถทำได้ ยังไม่พอกำลังเรานะคะ เออสิบล้านถึงไหม ดิฉันว่าถึงนะคะ แต่ว่าที่ไปมาหาสู่เวียนไปเวียนมาอยู่ในการชุมนุมเรา 193 วันเนี้ย น่าจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งล้านคน เพราะฉะนั้นอีกสิบล้านนี่ยังไปลพบุรี ถามว่าใครเป็นนักรบหน้าจอบ้าง สลอนนะคะ แต่ว่ามาก็เยอะ เพราะว่าร้านสระแก้วการพิมพ์บอกว่าเต็มออกๆตลอดเวลานะคะพันธมิตรฯที่ลพบุรี เพราะฉะนั้นก็เลยอยากจะบอกกันว่า เราจะต้องสร้างเครือข่ายเราให้เข้มแข็ง ขยายตัวออกไปด้วย ภาคเหนือตอนบนลำบากหน่อยนึงนะคะ

แต่จะมีคุณหมอบุณจง อยู่ลำปาง มีครูผา อยู่ จ.เชียงราย แดนอันตรายทั้งนั้น พะเยาก็มีนะคะ ที่เข้มแข็งๆ ที่พะเยาก็จะมีชูเล่ย์ที่พะเยา คนเหล่านี้ละคะพี่น้อง เขายืนหยัดท่ามกลางอันตรายนานัปการ พันธมิตรฯเราเนี้ยลำบาก แต่ลำบากอย่างไร พี่น้องเราเนี้ยไม่เคยท้อถอย ไม่เคยท้อแท้ มีแต่ยืนหยัดให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ทราบข่าวที่อุดรธานีในวันที่ 14 เนี้ย บางคนบอกขอบายนะ สระบุรีเห็นใจพวกสระบุรีหน่อยนะคะ กำลังใจจะหดหายหมดแล้ว บอกบัตรยังขายไม่ค่อยได้ น้องติ๋ว บอกมากับพี่อมร บอกว่ายังขายไม่ได้ เอาไปขายที่ลพบุรีบอกว่าขายได้เล่มเดียวนะคะ ก็ไปบอกๆข่าวกันว่า อย่าพุ่งเป้าไปที่อุดรจนลืมสระบุรีนะคะ เราจะมีคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 2 วันที่ 31 นี้ใกล้มาละ อีกประมาณ 6 วัน ก็เลยเกริ่นไปถึงอุดรธานี ดิฉันเชื่อว่า อ.สมเกียรติ และทีมงานที่อุดรธานี จะเตรียมการอย่างดีนะคะ เพื่อที่จะป้องกันอันตรายทั้งปวง

ดิฉันได้มีโอกาสคุยกับน้องบุ๋มคงจะจำได้ น้องบุ๋มน้องผู้หญิงที่ใส่เสื้อยีนส์ แล้วก็โดนแล้วก็แกล้งทำเป็นตาย แล้วก็โดนกระทืบซ้ำแล้วซ้ำเล่า เอาไม้ฟาดซ้ำ นึกออกใช่ไหมคะ ตอนที่วีดีโอของอุดรฯนะคะ น้องบุ๋มกับน้องหนุ่ยเนี้ยได้คุยว่า ทางอีสานเหนือได้เตรียมกำลัง รปภ. หรือว่าหน่วยรักษาความปลอดภัย หรือการ์ดของเราเนี้ย จะติวกันเข้มก่อนที่จะถึงวันนั้น ได้ยินว่าภาคใต้ก็จะมากันเยอะ เหนือก็จะมากันเยอะนะคะ ก็เชิญชวนกันอีกครั้งก็แล้วกันว่าไปช่วยกัน แต่เราจะไม่ไปใช้ความรุนแรงกับใคร แต่เราป้องกันตัวเองแน่นอนนะคะ อันนี้ก็เป็นเรื่องนึงสถานการณ์พันธมิตรฯ

ในส่วนของสถานการณ์ของ นปช.ไม่อยากพูดถึงเลย ไม่อยากให้ราคา แต่พูดถึงนายเขาหน่อยว่าเลิกคร่ำครวญได้แล้ว ยิ่งวันนี้ยิ่งพูดมากเท่าไหร่ ยิ่งประจานตัวเองเท่านั้น ดิฉันจะไม่เอ่ยถึงชื่อเขาในรายการที่ดิฉันพูดนะคะ วันเนี้ยจะไม่พูดถึงแต่ว่าบอกไว้ก่อนว่า หมดค่าแล้วนะคะ ยิ่งทำยิ่งหมดค่า ทำนองเดียวกันไปดู ไม่เชื่อหมอดูเนอะ แต่ว่าแม่ชีมโนราไม่ใช่หมอดูใช่ไหมคะ ใครอ่านข่าวแล้วบ้าง แม่ชีมโนรา ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้ดูดวงคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้วก็บอกว่าจะอยู่ยาว สงสัยมีคนอกแตกตายก็คราวนี้ ไม่ใช่โดนลอบฆ่านะคะ อกแตกตายไอที่ระแวงว่าใครจะไปฆ่าตัวเองนะ เพราะว่าไปก่อกรรมทำเข็ญไว้ที่กรือเซะ ไว้ที่ตากใบ ไว้ที่ผู้ที่โดนปราบเรื่องคดีตัดตอนยาเสพติด ไปก่อกรรมไว้กับคุณสมชาย นีละไพจิตร ก่อเลยผวาว่าตัวเองจะโดนลอบฆ่านะคะ

ก็ฝากทิ้งเอาไว้ตรงนี้แหละว่า แม่ชีมโนราดูแล้วว่าคุณอภิสิทธิ์เนี้ย จะครองเป็นนายกรัฐมนตรีไปอีกยาว จริงเท็จอย่างไรต้องพิสูจน์นะคะ แล้วก็ต้องเราคงต้องพิสูจน์ด้วยการติติง ด้วยการสะท้อน ด้วยการแนะบางเรื่อง เพราะวันนี้ก็คงจะสั้นๆ เพียงเท่านี้ แล้วตบท้ายที่ภาษีมรดก วิพากษ์วิจารณ์กันเยอะนะคะ ภาษีที่ดินมันมี 2 ฉบับ อันนึงภาษีที่ดิน อันนึงภาษีมรดก บางคนก็บอกว่าหมดกำลังใจจะสร้างงาน สร้างรายได้ เพราะว่าจะส่งไปให้ลูกเนี้ย จะโดนเก็บภาษีมรดกเยอะ ก็เลยมีตัวอย่างเล็กๆ ชื่อ คุณวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็เคยได้ยินใช่ไหมคะเป็นเศรษฐีชาวอเมริกัน เอารายได้ตัวเองเนี้ยประมาณ 83% เนี้ย ให้กับมูลนิธิบิล แอนด์เมลินดา เกตส์ ตลอดเลย เพราะเขาบอกว่าเขาจะเก็บเงินไว้ทำไมละ ลูกหลานก็ควรจะสร้างงานของตัวเอง อันนี้ก็ตัวอย่างนึง ฝากคิดเท่านั้น ยังไม่ได้ตัดสินว่าดีหรือไม่ดี

สุดท้ายขอฝากเล่มนี้นะคะ เล่มนี้เคยพูดในรายการแล้วก็ยังไม่มีโชว์ วันนี้มีโชว์ละ นักรบมือตบบันทึก 193 วัน เราทำอะไรบ้าง ย่อๆ ได้อะไรบ้าง แล้วก็รวบรวมระบอบทักษิณ อันตรายอย่างไร และก้าวต่อไปของเราจะก้าวอย่างไร แจกฟรีนะคะ ใครที่อยากได้ส่งมาที่ ASTV เนี้ยแหละ ชื่อดิฉันก็ได้นะคะ ถ.พระอาทิตย์ กทม.10200 ติดแสตมป์มาด้วยนะคะ 10 บาทคะ แสตมป์ 10 บาท ไม่ใช่เล่มนี้ราคา 10 บาทนะคะ อันนี้แจกคะ แต่ว่าตามงานจะขอบริจาคบ้างเพื่อไปพิมพ์แจกให้กับพี่น้องทางอีสานต่อ ก็แจกไปยังไม่เยอะนะคะ เราพิมพ์ 2 หมื่นเล่ม โดยซ้อแปดสนับสนุนการจัดพิมพ์ ทางห้องส่งท่าทางจะได้ครบคนอยู่ แต่ต้องไปเอาจากรถนะคะ

สำหรับวันนี้ก็อำลาท่านผู้ชมผู้ฟังไปเท่านี้ก่อนนะคะ แล้วพบกันใหม่ในช่วงต่อไปคะ สวัสดีคะ

สมเกียรติ - สวัสดีครับ พี่น้องทุกท่าน ผมต้องแสดงความเคารพอย่างสูงสำหรับพี่น้องประชาชนทั่วโลก ทั่วประเทศที่ยังมีจิตใจที่ห่วงใยประเทศชาติ แล้วก็ห่วงใยว่าพันธมิตรฯหายไปไหน แล้วก็ทุกท่านก็ตื่นขึ้นมา ลุกขึ้นสู้ ในหลายรูปแบบ ช่วงนี้พี่น้องจะเห็นผมแต่งตัวเรียบร้อยนะครับ เพิ่งถอดชุดของสมาชิกรัฐสภามา ประชุม แล้วก็ใช้เวลาช่วงสั้นๆจะต้องกลับไปสภาอีก อยากจะเรียนข้อมูลเบื้องต้น ขณะนี้สภา คะแนนเสียงนี่ก่ำกึ่งกันมาก แล้วก็ใครเผลอไม่ได้ ผมจึงเฝ้าสภามาหลายสัปดาห์แล้วครับ แทบไม่ได้ออกมาเลยในวันนี้

แล้วในวันนี้มีการประชุม การให้ความเห็นชอบเอกสารสำคัญราวๆ 20 เรื่อง ที่เราจะใช้เป็นกรอบในการเจรจา เพิกความร่วมมือในอาเซียน รวมทั้งประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจด้วย เช่น จีน เกาหลี อินเดีย นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ที่นอกเหนือไปจากอาเซียน ประเด็นพิเศษนี้ทำให้สมาชิกรัฐสภามีการประชุมร่วมกันตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ก็คือ วุฒิสภา กับสภาผู้แทนราษฏรประชุมร่วมกัน ถ้าเผลอปั๊บแพ้โหวตเนี้ยมีปัญหามากครับ เพราะว่ามันจะใกล้การประชุมอาเซียนมาทุกวันแล้ว

ในวันพุธกับวันพฤหัสเนี้ย ไอนี่ยิ่งสำคัญอีก เพราะจะมีการเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อจะนำมาใช้ในกรณีของการศึกษาฟรี 15 ปี แล้วก็งบประมาณที่จะดูแล อสม.8 แสนคน แล้วก็ดูแลผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป อีก 5-6 ล้านคน จึงจะเป็นเกมการต่อสู้ที่จะมีการลำหักลำโค่นในรัฐสภานะครับ โดยเฉพาะสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ พฤหัสนี้ เพราะฉะนั้นผมอยากจะบอกว่าถึงแม้พันธมิตรฯจะอยู่ข้างนอก แต่การต่อสู้ในสภาก็ยังเข้มข้นอยู่ เพราะมันเป็นการต่อสู้ในเชิงของการคับแค้นใจ เยาะเย้ยถากถาง

วันนี้มีการอภิปรายในสภาค่อนข้างมาก ที่กล่าวหาพันธมิตรฯ โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คุณกษิต ภิรมย์ ไม่มีเรื่องอะไรหรอกครับ พูดเรื่องเดิม เรื่องการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วก็พยายามกล่าวหาว่า เราเป็นผู้ก่อการร้ายสากล สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านจำนวน 3-4 คน ที่พยายามจะพูดเรื่องนี้ แล้วบอกว่าเราพยายามจะปิดสนามบิน เราบอกว่าเราไม่เคยปิดเลย แต่ผู้ว่าการท่าอากาศยานคือคนของพวกคุณ หรือพวกมึงนั่นแหละปิด เราไม่ได้ปิดเลย

ในขณะเดียวกัน พอปิดแล้วยังถูกบอร์ดคณะกรรมการท่าอากาศยานตำหนิอีกว่า คุณปิดได้อย่างไร ไม่เสนอบอร์ดให้ทราบ แล้วมีขั้นตอนเสนออย่างไร แล้วในระหว่างนั้นเนี้ย เราไม่เคยไปในรันเวย์ เราไม่เคยเกี่ยวข้องกับเครื่องบินเลย เราเพียงแต่ไปชุมนุมนอกอาคารตามสิทธิ์ของเรา แต่เรื่องนี้เนี้ยก็เป็นเรื่องที่ทิ่มแทงมาโดยตลอดนะครับ เป็นธรรมดาของผู้แพ้และบิดาของเขาเนี้ยเพลี่ยงพล้ำไปนะครับ เมื่อบิดาของเขาเพลี่ยงพล้ำเนี้ยเขาก็เครียดแค้นเป็นธรรมดา ผมจึงอโหสิกรรมให้พวกแลน ตะกวด พวกนี้ทุกคน

พี่น้องครับเราอยากจะมาพูดถึงประเด็นที่พันธมิตรฯของเรา ผมไปพันธมิตรฯที่แม่กลอง ไม่น่าเชื่อเลยว่าการชุมนุมในระดับอำเภอเนี้ย มากกว่า 5,000 คน อยู่ฟังผมตอนในช่วงปราศัยหกทุ่มถึงตีหนึ่งนะครับ แล้วเป็นอำเภอเดียว อำเภอแรกในประเทศไทยที่มีเงินบริจาค ASTV ถึง 500,000 บาท สถิติสูงสุดในประเทศไทย (เสียงมือตบ) แล้วในวันรุ่งขึ้นผมก็ไปลพบุรีนะครับ ไอนี่เป็นการจัดครั้งแรกเหมือนกัน ที่ลพบุรีเนี้ยผู้ว่าราชการจังหวัดคนหนึ่ง มีหนังสือถึงกระทรวงศึกษาธิการให้สั่งย้ายด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียนพิบูลย์วิทยาลัยซึ่งให้สถานที่เราจัดนะครับ

แล้วในขณะเดียวกันนี่ ผู้อำนวยการคนนี้ก็ยืนหยัดว่าเป็นเสรีภาพ ใครขอก็อนุญาตทั้งหมด เพราะโรงเรียนคือสถาบันฝึกฝนประชาธิปไตย แต่ผู้ว่าคนนี้ก็ไม่ฟังประกาศจะย้ายให้ได้ ผมจึงประกาศที่ลพบุรี แล้วตะกี้ผมเรียนท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการไปแล้วว่า ถ้าย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนพิบูลย์วิทยาลัยคนนี้เนี้ย ผมจะเดินทางไปขับไล่ผู้ว่าราชการจังหวัดถึงจังหวัดลพบุรีเลยครับ ร่วมกับพี่น้องประชาชนครับ ผมได้เรียนท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการไปแล้วว่า ผมจะไม่ให้โอกาสของผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีลักษณะอำนาจเผด็จการแล้วแทรกแซงวงการครู ซึ่งเขามีเกียรติ์มีศักดิ์ศรีนี่ให้อยู่สุขสบายที่ลพบุรีเป็นอันขาด พี่น้องลพบุรีก็มากันมากกว่า 3,000 คนนะครับ แล้วก็บริจาคให้เราร่วม 300,000 บาท

สิ่งที่จะต้องอธิบายแบบละเอียดนิดนึงก็คือการที่ผมไปที่ร้อยเอ็ด พี่น้องเห็นคนเสื้อแดงมาพังเวทีเราไหมครับ ตามภาพครับ มาประมาณ 300 คน แล้วผมเตรียมจะขึ้นเครื่องบินเวลา 18.00 น. เพื่อไปที่ร้อยเอ็ด คณะจัดงานบางคนบอกว่าไม่ต้องไปหรอก เพราะว่าเขารื้อเวทีเสร็จแล้ว ผมจึงต้องโทรศัพท์ร้องขอและเชิงสั่งการให้นักร้องทีมของเรา และพี่น้องประชาชนทั้งหมดยืนหยัดอยู่ตรงนั้น แล้วก็จะจัดให้ได้

ในที่สุดผมตัดสินใจฝ่าฝืนคำแนะนำเขาเนี้ยว่าไม่ต้องไปนะครับ บินไปเพื่อบัญชาการที่นั่น แล้วก็จัดปราศัยจนได้ในเวลา 20.00 น. ครับ จนถึงตีหนึ่งครับ วันนั้นเรายึดเวทีสำเร็จ การยึดเวทีของเราเนี้ยเป็นความชอบธรรม และการที่นายอำเภอ ผู้ว่า ผู้กำกับ แล้วก็ ส.ส.4 คน ส.จ.อีก 1 คน รวมทั้งผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนของดา ตอปิโด ชื่อต้อม เรายังไม่รู้ชื่อจริงนะครับ ไปใช้คำหยาบคายแล้วบางข้อความเนี้ย คนกลุ่มนี้มีลักษณะหมิ่น เบื้องสูง เรากำลังตรวจสอบเทป ซีดีพวกนี้

วันนี้ ผมต้องขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องร้อยเอ็ดในวันนั้น ที่ยืนหยัดร่วมงานกับผม หลังจากผมเข้าไปแล้วเนี้ย พี่น้องกรุณาต้อนรับผมเกือบพันคน ทำให้กลุ่มเสื้อแดงล่าถอยไปครับพี่น้อง ผมภาคภูมิใจจริงๆที่พันธมิตรฯสามารถไปเปิดพื้นที่ในภาคอีสานเป็นจังหวัดแรกคือจ.ร้อยเอ็ดได้ ทำให้แต่ละคนมีกำลังใจหมด แล้วเราจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก กำลังใจเราสูงยิ่งเมื่อเราประกาศเป่านกหวีด 14 กุมภาพันธ์ ที่อุดรธานี ไม่มีทางเกิดแบบนี้ ผมเรียนไปถึงร้อยเอ็ดนิดนึงในวันนี้มีการไปแจ้งความจับนะ

ผมขอบคุณคณะกรรมการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยร้อยเอ็ดมาก ที่ไปแจ้งจับในมาตราประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157 จับใครครับ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้กำกับ และนายอำเภอคนหนึ่งครับ ที่บัญชาเสื้อแดงครับ พี่น้องจะเห็นว่าพอเสื้อแดงยึดเวที หรือเวทีของเราได้เนี้ย ขึ้นอาศัยเวทีปราศัยถล่มพวกเราเลย แล้วใช้คำหยาบคายนะครับ บางตอนนี่มีลักษณะหมิ่นเบื้องสูงหรือไม่ กำลังจะตรวจสอบกัน พอเดินลงมาตำรวจับมือแสดงความยินดี ตำรวจบางคนเป็นสุนัขรับใช้ระบอบทักษิณ ระบอบที่ชั่วร้าย แล้ววันนี้เขาห่วงหาอาทรบิดาของเขาที่อยู่ต่างประเทศมาก นายตำรวจของจังหวัดนี้บางราย

ในขณะเดียวกันวันนี้ คณะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยร้อยเอ็ดไปแจ้งจับ ส.ส.อีก 4 คน ส.จ. 1 คน แล้วผู้หญิงที่ยังไม่รู้จักชื่อจริง ที่ชื่อว่าต้อม ในข้อหาคุกคามสิทธิเสรีภาพ ทำร้ายร่างกาย อาวุธที่เขาใช้คือ 1. ไข่ปา 2. ขวดน้ำ 3. ปลาร้า 4. รองเท้า 5. ใช้เก้าอี้ทุบ มีภาพถ่ายทั้งหมด เพราะฉะนั้นผมจึงขอบคุณชาวร้อยเอ็ด แม้จะถูกคุกคามแต่ไม่ถอย วันนี้ไปแจ้งจับพวกของเขาแล้วครับพี่น้อง

พี่น้องทุกท่านครับ ถึงตอนนี้ผมอยากจะอธิบายปรากฏการณ์ทางสังคมของรัฐบาลใหม่สักเล็กน้อย เรากำลังอยู่ในสภาวะการบริหารของนายกฯ ที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 แล้วเป็นนายกรัฐมนตรีที่ท้าทายเรื่องความศรัทธาของประชาชนว่า ในรัฐบาลของ ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เป็นการเมืองเก่าที่โสโครก คอร์รัปชั่น หรือจะพัฒนาไปสู่การเมืองใหม่ ประชาชนยังจ้องอยู่ว่า รัฐบาลชุดนี้จะฝ่าข้ามความวิกฤตศรัทธาที่คนไม่ค่อยเชื่อถือนักการเมือง ไปสู่การเมืองใหม่ได้อย่างไร บทพิสูจน์ที่ผมต้องให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีคนนี้ก็คือ เขาประกาศว่า เขาจะผลักดันกฎหมายภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้าที่เราต่อสู้มาไม่น้อยกว่า 40 ปี ภาษีก้าวหน้าในการถือครองที่ดิน และภาษีทรัพย์สินหรือภาษีมรดก

ในขณะเดียวกันจะปรับปรุงภาษีโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง สิ่งเหล่านี้ขณะนี้เก็บได้ประมาณ 70,000-100,000 ล้านบาทต่อปี ถ้าปรับปรุงภาษีนี้แล้วจะขึ้นมาประมาณปีละ 300,000 ล้านต่อปี ทำให้เอาสวัสดิการนี้ไปดูแลคนได้ทั้งประเทศ ยกตัวอย่าง เอาไปดูแลคนมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 6 ล้านคน ใช้เงิน 30,000 กว่าล้านบาท แต่ถ้าเราเก็บภาษีที่ดินที่คนถือครองแล้วไม่ทำประโยชน์ แต่ถือครองแล้วทำประโยชน์ภาษีจะต่ำลงเหมือนปกติ เพราะฉะนั้นเราเอามาใช้ตรงนี้ 30,000 ล้าน ดูแล อสม.อีก 30,000 ล้าน เรียนฟรีอีก 40,000 ล้าน รักษาพยาบาลฟรีโดยยกเลิกบัตรทองให้ใช้บัตรประชาชนแทน แล้วเอาไปรักษาพยาบาลฟรีเราสามารถเอามาจากระบบภาษีนี้ได้

ผมเรียนว่า นายกรัฐมนตรีคนนี้ที่ผมชอบ ปกติผมไม่ค่อยเชียร์รัฐบาล เชียร์หัวข้อเดียวเดี๋ยวจะหาว่ามาเชียร์ในฐานะที่เป็นสมาชิก ไม่ใช่ เชียร์ที่เขากล้าประกาศว่า กล้าเดิมพันตำแหน่งในการผลักดันกฎหมายนี้ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คุณกรณ์ จาติกวณิช นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถ้าไม่ผ่านเขาต้องรับผิดชอบคือต้องลาออก เราถือว่าเขาเดิมพันชีวิตทางการเมืองของเขาเพื่อประโยชน์ของชาติ สมควรจะได้รับความขอบคุณจากผมและพี่น้องประชาชน

ประเด็นที่ผมมีทัศนคติที่ไม่ดีนักต่อรัฐมนตรี ตะกี้จะเห็นว่าผมเห็นด้วยข้อหนึ่ง ข้อที่ผมไม่เห็นด้วยผมต้องพูด ไม่อย่างนั้นจะเสียจุดยืนของพันธมิตรฯ ไม่ใช่เชียร์โดยไม่ลืมหูลืมตา ผมวิจารณ์มาโดยตลอด โดยเฉพาะคนที่โกงชาติบ้านเมืองสนามบินสุวรรณภูมิต้องได้รับการชำระสะสาง ที่โกงชาติบ้านเมืองไป 14 หมื่นล้าน เฉพาะร้านค้าปลอดอากรคิงเพาเวอร์ และอื่นๆ เช่น หลังคา ฝ้าเพดาน แล้วก็รถเข็น แล้วก็การวางท่อ การสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ในขณะที่โกงสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่า 14 หมื่นล้าน

รัฐมนตรีคนหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ยังไปเอาคนที่จอมโกง และเป็นซากเน่ามาเป็นประธานเรื่องนี้อีก เพื่อขยายสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ประมาณ 78,000 ล้าน หรือนับง่ายๆ 80,000 ล้าน แล้วบอกว่า จะยกเลิกหรือยุบสนามบินดอนเมือง ผมไม่ชอบใจมาก เมื่อผมได้ศึกษานโยบายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในหน้า 45 เขาบอกว่า จะพัฒนาสนามบินดอนเมือง อ่านเลยนะครับ พัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่รัฐมนตรีขี้หมาบอกว่า จะยกเลิกดอนเมือง อันนี้ผมยอมไม่ได้ ผมจะจัดการพวกเขาครับ

ความเจ็บปวดของเราในการบินไทยที่เจ๊งหลายหมื่นล้าน การบุกยึดดอนเมืองของเรา การบุกยึดสุวรรณภูมิของเรา มีแรงจูงใจจากพลังทางศีลธรรมที่ชื่อ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกมันเลย บุกไปในเขตคอร์รัปชั่นพิเศษของจอมโกงแห่งชาติ เพื่อไปกระทืบพวกมันถึงสนามบินเลย ใครจะว่ายังไง ดังนั้นผมจึงไม่เห็นด้วยกับคณะรัฐมนตรีชุดนี้ และขออนุญาตส่งคำวิงวอนไปถึง ฯพณฯ ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าโปรดอย่าให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ง่ายๆ ไม่เช่นนั้นผมจะเลือกผลประโยชน์ของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของพวกเรา ผมจะไม่ยินยอมเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดนะครับพี่น้อง

แล้วเรื่องที่ 3 เรื่องรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน การสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ถ้านักการเมืองพวกนี้หางโผล่เมื่อไหร่ พี่น้องพร้อมไหมครับ เราจะไม่ยินยอมเด็ดขาด อันไหนดีเราสนับสนุนรัฐบาล อย่างเช่น กฎหมายภาษีที่ดิน เพื่อปูทางไปสู่สวัสดิการนิยม และสวัสดิการเพื่อให้คนไทยมีความสุข มีความมั่นคงถ้วนหน้า เราสนับสนุน

พี่น้องครับ มีคนบอกว่า ภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า การปราศรัยแบบนี้น่าจะเปลี่ยนเป็นแบบใหม่แล้ว พูดตรงๆ คือว่า การปราศรัยแบบนี้จะไม่มีแบบ เขาเลยอยากจะให้ผมมาพูด เพราะว่าผมห่างไป 10 กว่าวัน ผมไม่เคยมาเลย เพราะระยะนี้ผมเดินสายไปพบเสื้อแดงทั่วประเทศ ไปพบกับพวกเรา แล้วการที่เราจะเปลี่ยนผังรายการไปสู่การเน้นการเมืองใหม่มากขึ้น เป็นหัวข้อใหญ่ใจความของพวกเรา เพราะฉะนั้นผมจึงถือโอกาสพูดกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศว่า ขออนุญาตอธิบายหรือให้ความเห็นเรื่องการเมืองใหม่ การเมืองใหม่คืออะไร การเมืองใหม่คือ การที่คนไทยพอกันทีกับการเมืองเก่าแล้วมาสร้างการเมืองที่ดีขึ้นกว่าเดิม ให้ชีวิตเราดีขึ้น ไม่ใช่เป็นเหยื่อนักการเมืองและปล่อยให้นักการเมืองโกงชาติบ้านเมืองต่อไป

ถ้าประเทศเป็นสุ่มที่ขังไก่ การเมืองใหม่ก็คือ ประชาชนไทยพร้อมใจบินออกจากสุ่มให้เหลือแต่พวกขี้คลอก พวกโสโครกทั้งหลายอยู่ในสุ่ม แล้วเราก็จัดการฝังมันทั้งสุ่มเลย การเมืองใหม่จะเกิดขึ้นภายใต้อะไร ภายใต้ปรัชญาที่มหาจำลอง และคุณสนธิได้ย้ำตลอดเวลาว่า 1. เสียสละ เสียสละก็คือ เสียสละทุกด้านถึงขั้นอาจจะไม่ต้องรับเงินเดือนของ ส.ส. และรัฐมนตรีเลย มาเสียสละ ประชาชนบริจาคช่วยกันเอง แล้วคนที่เป็น ส.ส.จะต้องไม่เป็นรัฐมนตรี แต่ต้องไปคุมรัฐมนตรีและคุมอีกทีหนึ่ง คุมการบริหารราชการ เสียสละทุกอย่างให้ประชาชนเห็นว่าเขาไม่ได้กอบโกยอะไรเลย งบประมาณให้ประชาชนจัดการเองไม่ใช้ให้ข้าราชการหรือนักการเมืองไปร่วมกันจัดการ

จะต้องมอบให้ประชาชนจัดการเป็นระบบหน่วยของประชาชนเลย นี่เสียสละ ซื่อสัตย์ ไม่คดโกง อันนี้ไม่ต้องอธิบาย ชาติบ้านเมืองที่พัง นักการเมืองโกงระหว่างปีๆ หนึ่ง 300,000 - 400,000 ล้านต่อปี ถ้าหยุดโกงเราเปลี่ยนถนนคอนกรีตเป็นถนนทองคำได้เลยครับประเทศไทย อันนี้ผมยืนยันถ้าไม่โกงกัน แล้วเราสามารถทำคอนกรีตเสริมเหล็กไปในไร่ในนาในสวนได้ทุกแห่ง เพราะประเทศไทย 18 แสนล้าน มันพอเพียงแล้วที่จะจัดการ ถ้ามันไม่โกงกันปีละ 3-4 แสนล้าน ประเทศไทยดีขึ้น และอันสุดท้ายของการเมืองใหม่ก็คือ กล้าหาญ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง กล้าที่จะต่อสู้ กล้าที่จะโค่นล้มสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้หายไปจากสังคม

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีองค์ประกอบครบทั้ง 3 ประการ กล้าหาญ ไม่กล้าผมจะถูกฟ้องตั้ง 10 กว่าคดีหรอ คุณสนธิ 60 กว่าคดี แล้วไม่เคยหวั่นไหวด้วย ไม่เคยหนีคดีออกไปนอกประเทศด้วย แล้วก็ซื่อสัตย์ แม้จะยังไม่เห็นเราทุกคน แต่บางคนท่านเห็นแล้ว เช่น มหาจำลอง แล้วเสียสละ ผมเชื่อว่าพวกท่านมองคน 5 คนออกแล้วว่า ไม่ได้หวังมากอบโกยอะไร

ปรัชญาทั้ง 3 ประการนี้จะเกิดขึ้นภายใต้ 4 ขั้นตอนสุดท้าย 4 ขั้นตอนสุดท้ายที่จะกราบเรียนพี่น้องประชาชนเรื่องการเมืองใหม่ ก็คือ 1.การเมืองใหม่จะต้องเกิดขึ้นภายใต้การเมืองดีไม่มีขายถ้าอยากได้ต้องร่วมสร้าง รอคนอื่นไม่ได้ ประชาชนต้องลุกขึ้นมาร่วมสร้างกัน การเดินขบวนของพี่น้องประชาชน การชุมนุมของพี่น้องประชาชน ล้วนแต่เป็นการปูทางไปสู่การเมืองใหม่ทั้งสิ้น เวลาเราไปพูดที่ไหนคนฟังเป็นหมื่นคน นักการเมืองไปจัดถ้าไม่เกณฑ์ไปไม่ไปเลย พวกเขาฟังแต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอบคุณพี่น้องประชาชนมาก

แล้วการเมืองใหม่ 1. การรับรู้ข่าวสารจะต้องเท่าเทียมกัน ถ้าคนรู้เท่ากันเหมือนดู ASTV มันตื่นขึ้นหมดเลย เป็นการเมืองใหม่ทันทีเลย การเมืองเก่าตกนรกไปเลย เพราะฉะนั้นเราต้องส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชน ตั้งกลุ่มศึกษา ถ้าจะให้ดีให้ ASTV เป็นฟรีทีวี ดูซิไม่ถึง 3 เดือนการเมืองใหม่เกิดขึ้นทันที หรือให้คนอย่างผม ก่อนนอนตายตาหลับ ให้ไปออกทีวีช่อง 11 สัปดาห์ละชั่วโมงได้ไหม มีแต่พวกมึงออกตลอดเวลาทำไมไม่ให้พวกเราออกบ้าง ถ้าผมออกทุกวันรับรองเกิดขึ้นได้ นี่ก็คือ การยกระดับการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร การประชุมสัมมนา การจัดคอนเสิร์ตการเมือง การไปที่อุดร การไปที่ขอนแก่น การไปที่ร้อยเอ็ด เป็นการให้การศึกษาแก่ประชาชน

พอประชาชนดีขึ้นแล้ว คนมันรู้มีจิตสำนึกได้ ขั้นที่ 2 จัดตั้งองค์กรและองค์กรเครือข่าย องค์กรเรามีอยู่แล้ว พันธมิตรฯ มีอยู่ทุกจังหวัด 76 จังหวัด ขณะนี้กำลังกระจายไป 900 อำเภอ ประมาณ 450 อำเภอมีพันธมิตรฯ แล้ว ถ้าครบ 900 เมื่อไหร่ ครบทุกจังหวัดเมื่อไหร่ ย้ายไปถึงตำบล 6,500 ตำบล เรียบร้อยเลยครับ เป็นการเมืองใหม่ ตอนนี้กำลังกระจายไปทั่ว พอเกิดเครือข่ายให้แต่ละภาคแต่ละจังหวัดรับผิดชอบจัดคอนเสิร์ตการเมือง จัดการปราศรัย ความรู้ก็เกิดขึ้นมากๆ แค่นั้นไม่พอครับ องค์กรเครือข่ายอาจจะต้องพิจารณาตั้งพรรคการเมืองที่เป็นพันธมิตรกันกับเรา เป็นการเมืองคู่ขนาน ไม่ใช่การเมืองเตะหมูเข้าปากสุนัข ยืมจมูกคนอื่นหายใจ ล้มคนนี้แล้วเอาพวกนั้นขึ้นต่อไม่ใช่พวกเรา อย่างนี้ไม่ได้ใช่ไหมครับพี่น้อง การเตะหมูเข้าปากหมา

เราจะต้องสร้างการเมืองขึ้นมารองรับของเรา นี่คือขั้นที่ 2 ขั้นที่ 3 การกำหนดวาระแห่งชาติ วาระแห่งชาติคือ ประเด็นหรือหัวข้อที่จะกำหนดกัน เช่น ความยากจนจะต้องหมดไป นี่วาระแห่งชาติ เรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น เรื่องเกษตรอินทรีย์ไม่ใช้สารพิษ เรื่องสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ น้ำเสีย อากาศเสีย แล้วความร้อนของโลกเป็นวาระแห่งชาติ ประเด็นที่ 4 รณรงค์และปฏิบัติการทำให้ความยากจนหมดไป สิ่งแวดล้อมดีขึ้น การคดโกงค่อยๆ หายไป เราเรียกว่า การเมือง 4 ขั้นตอนของการเมืองใหม่ ย้ำอีกทีนะครับ 1. สร้างการรับรู้ของประชาชน ยกระดับให้คนเรียนรู้สูงขึ้น รู้เท่าทันนักการเมืองชั่ว รู้เท่าทันระบบเศรษฐกิจโลก รู้เท่าทันทุกเรื่อง

อันที่ 2. เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และมีระบบพรรคการเมืองคู่ขนานองค์กร ถ้าเรามีองค์กรแล้วมันไปโลด อันที่ 3 การกำหนดประเด็นปัญหาสำคัญของประชาชนที่ยังเรื้อรังอยู่ให้เป็นวาระแห่งชาติ เช่น ความยากจน เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ เรื่องคอร์รัปชั่น เรื่องข้าราชการต้องปฏิรูปรับใช้ประชาชนอย่างไร กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และอันที่ 4 คือรณรงค์ปฏิบัติจริง ตั้งพรรคการเมืองจริง ตั้งเครือข่ายจริง ออกเดินสายจริง ตั้งคาราวานพันธมิตรจริง ไปอุดรจริง ไม่ใช่ไปครึ่งทางแล้วขับรถกลับ ไปจริง ทุกอย่างต้องปฏิบัติการทางสังคม

ผมกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า ในวันนี้สังคมเราเดินไกลแล้วครับ ใครจะดึงแขนมาว่า โปรดมาอยู่การเมืองเก่ากับเราเถอะ โปรดมาเลือกคนใน 480 คนเถอะ ถ้าอภิสิทธิ์พ้นตำแหน่งแล้ว กลับไปหาป๋าแห่งสระแก้วเอาไหม นายร้อยตำรวจคนหนึ่งเอาไหม ไม่เอาหมดเลย เราจะต้องพูดพร้อมกันว่า พอกันที พอกันที และพอกันเสียที เพราะฉะนั้นผมจึงสรุปว่า การเมืองใหม่จะเกิดขึ้นได้ การเมืองดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องร่วมกันสร้าง และคนที่จะสร้างปรากฏการณ์เป็นเรื่องประหลาด น่าพิศวงที่สุดในโลก คือ องค์กรหนึ่งที่เคยชุมนุม 193 วัน ลบสถิติโลกมาแล้ว

คราวนี้จะตั้งการเมืองใหม่อีกสักครั้งได้ไหม สร้างความมหัศจรรย์ สร้างความพิศวง แปลกประหลาดให้กับโลก ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่กรุณามาในวันนี้ ผมเห็นท่านอวยพรในวันปีใหม่ของจีนแล้วรู้สึกว่า คำอวยพรนี้น่าจะตกกับพวกเรา ส่วนสิ่งเลวๆ ทั้งหลายน่าจะให้กับพวกนักการเมืองที่โกงชาติบ้านเมือง ต้องขอขอบพระคุณและขอลาพี่น้องไปก่อน หากผมจะขอร้องพี่น้องสักครั้งหนึ่งได้ไหมครับ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ไปอุดรด้วยกันนะครับพี่น้อง แล้ววันพฤหัสบดีนี้ ทีมงานอุดรที่จัดงานทั้งหมด จะร่วมกับคุณยุทธิยงค์ และผมมาพบกับพี่น้องในเวลา 14.00-15.00 น.

อธิบายให้มั่นใจว่า กองคาราวานพันธมิตรฯ ทุกจังหวัด ในขอบเขตทั่วประเทศและจากเมืองนอกบินมาสมทบ จะคาราวานไปดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนแห่งความดีงามของสังคม คือ อุดรธานี จะลบรอยคราบน้ำตาประชาราชที่เคยทำร้ายและถูกกดขี่มาให้หายไป ผมจะไม่พูดและกล่าวหาพี่น้องชาวอุดร แต่ผมเคารพท่านถ้าท่านจะมาร่วมงานกับเราในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ทำให้อุดรมีชื่อเสียงในทางดีงาม โปรดต้อนรับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันนั้นอย่างพร้อมเพรียงกันครับ ขอบพระคุณมากครับ