“พีระพันธุ์” แฉมี “ขบวนการ” จ้องทำลาย “สถาบัน” ชี้ชัดมีทั้งรับเงิน-ทั้งจัดตั้ง ฮึ่มควานหาตัว “ไอ้โม่ง” ซุ่มเดินเกมอยู่เบื้องหลัง ย้ำ ปชช.มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ แต่ไม่ควรก้าวล่วง “พ่อ-แม่ของแผ่นดิน” ยันไม่พอใจข่าวดำเนินการปิด “เว็บไซต์หมิ่น” เหตุเพราะทำให้ยากต่อการควานหาเครือข่าย
วานนี้ (22 ม.ค.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการรู้ทันประเทศไทย ซึ่งออกอากาศทางเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ถึงกรณีการจัดการกับเวปไซต์ และผู้ที่กระทำการหมิ่นเหม่ และจาบจ้วงสถาบันว่า สาเหตุที่เกิดความล่าช้าในการจัดการกับเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน เพราะมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้เรากำลังจะเอาคนของกองทัพซึ่งมีอยู่จำนวนมากเข้ามาช่วยทำงาน
“ขณะนี้มีขบวนการจัดตั้ง รวมทั้งขบวนการที่รับเงินแล้วมาโจมตี โดยปัญหาอยู่ที่ต้องควานหาตัวผู้บงการว่าเป็นใคร ส่วนข่าวการปิดเว็บไซต์ที่หมิ่นฯ สถาบันนั้น ตนไม่พอใจ เพราะไม่ต้องการที่จะให้เป็นข่าว เนื่องจากต้องการที่จะควานหาเครือข่ายผู้กระทำผิด แต่เมื่อมีข่าวออกไปก็ทำให้เกิดความลำบากในการสืบสวน สอบสวน ซึ่งขณะนี้ได้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ระมัดระวังแล้ว” รมว.ยุติธรรม กล่าว
ส่วนการจำแนกคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า คดีหมิ่นในประเทศไทยนั้น ถือเป็นความผิดทางอาญา เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อชาติบ้านเมือง จึงถือเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่า ในต่างประเทศความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์กับประชาชนไม่เหมือนกับประเทศของเรา ซึ่งโดยความรู้สึกส่วนตัวแล้ว ประเทศไทยมีเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ แต่พ่อแม่ของแผ่นดิน เป็นเรื่องความมั่นคงแห่งรัฐ จึงไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์ ยกตัวอย่างหากเราไปด่าพ่อหรือด่าแม่ใคร เขาก็คงไม่ยอม
“การวิพากษ์วิจารณ์ต้องดูที่การกระทำ เพราะส่อเจตนา ถ้าเจตนาที่จะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทำอย่างไร หรือพูดอย่างไรก็หมิ่นฯ แต่ถ้าไม่มีเจตนา ทำอย่างไรก็ไม่ผิด เพราะกฎหมายอาญาของคดีหมิ่นฯ นั้น เกิดจากองค์ประกอบ คือ มีเจตนาพูดใส่ร้ายสถาบัน จงใจใส่ร้าย หรือเอาเรื่องไม่จริงมาพูด ฉะนั้นคนที่กระทำความผิดตรงนี้มีหลายแบบ เนื่องจากเขาได้ข้อมูลมาอย่างผิดๆ ซึ่งเราก็ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ แต่คนอีกประเภทหนึ่งมีเจตนาที่จะทำลายสถาบันโดยตรง ด้วยการทำให้คนเข้าใจผิด ถ้าเป็นกรณีนี้ถือว่ามีเจตนาที่จะหมิ่นฯ สถาบัน”นายพีระพันธุ์ ระบุ
รมว.ยุติธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยเรื่องการปกปิดโครงสร้างหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า นอกจากคดีดังกล่าวแล้ว ยังมีคดีอื่นๆ ที่เคลือบแคลงสงสัย ซึ่งถ้าสังคมยังเคลือบแคลง ตนก็จะต้องเอาออกมาแบบให้เกิดความชัดเจน เพื่อให้สังคมรู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ ส่วนคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงต้องหยิบมาดูอย่างแน่นอน
