ผ่าเก้าอี้ “สุขุมพันธุ์” ชี้ “เสื้อแดง” ชุมนุมไร้ผู้นำ ทำประเทศลุกเป็นไฟ

“สุริยะใส” เชื่อ “นช.แม้ว” เดินเกมปลุก “มวลชน” ไร้แววยุติเคลื่อนไหวทางการเมือง เตือน “มาร์ค-รัฐบาล” ระวังอันตรายจาก “คนใกล้ชิดแม้ว” รวมหัวซุกอก “ยี้ห้อย” ด้าน “ไชยยันต์” ผ่าเก้าอี้ “ผู้ว่าฯ กทม.” ชี้ “สุขุมพันธ์” เข้าวิน เพราะฐานเสียงดี หวั่น “เสื้อแดง” อ้างชุมนุมอิสระโดยไร้ผู้นำ-ทำประเทศชาติลุกเป็นไฟ

วานนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 22.00-23.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายไชยันต์ ไชยพร หัวหน้าภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ถึงทิศทางทางการเมืองในรายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ห้องส่งเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน โดยนายสุริยะใสกล่าวถึงแนวทางการต่อสู้ทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่หยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยจะใช้การเดินเกมมวลชนแทนการต่อสู้ในสภา ซึ่งถือว่าน่ากลัวกว่าการเดินเกมในสภา ขณะเดียวกันตนเชื่อว่า พี่น้องพันธมิตรฯ มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่เปิดใจยอมรับนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย รวมทั้งนายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว

“บุคคลทั้ง 2 คน ถูกตั้งคำถามจากพันธมิตรฯ ว่า ในยามที่พวกเราต่อสู้กับระบอบทักษิณนั้น นายยืนยง ทำอะไรอยู่ รวมทั้งนายเนวิน ก็ยังคงอุ้มชูระบอบทักษิณ ที่สำคัญอารมณ์ค้างเรื่องการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ยังคงมีอยู่ในระดับหนึ่ง เพราะการเมืองขณะนี้เพียงแค่เปลี่ยนขั้ว เนื่องจากคนที่อุ้มชูระบอบทักษิณ มาค้ำบัลลังก์ให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นภาวะจำยอมเพื่อ โดยเราหวังว่ากรณีดังกล่าวจะเป็นระยะเปลี่ยนผ่านทางการเมือง เพื่อให้การเมืองกลับเข้าสู่ที่ตั้ง ซึ่งพันธมิตรฯ ไม่ได้ระวางเรื่องการเมืองใหม่”นายสุริยะใส กล่าว

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า วันนี้ถือว่าพันธมิตรฯ ใจกว้างพอที่จะไม่ตั้งแง่รังเกียจรัฐบาลชุดนี้ นั่นคือพร้อมที่จะให้โอกาสแบบมีเงื่อนไขคือเราจะทำการตรวจสอบไปด้วย ทั้งๆ ที่รู้ว่านายเนวิน ไปดึงเอานายศรีสุข จันทรางสุ มาอยู่ในรัฐบาล ซึ่งเป็นบุคคลที่มีปัญหา เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างมาก รวมทั้งหลายๆ คนที่ได้ดิบได้ดีจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กลับไปอยู่กับนายเนวิน ทั้งหมด ฉะนั้นหากพรรคประชาธิปัตย์ควบคุมไม่ดี จะเป็นอันตรายกับนายอภิสิทธิ์ และรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์

ส่วนผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่ออกมานั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า คงไม่มีทฤษฎีไหนที่จะมาตอบโจทย์ได้ว่า รัฐบาลจะอยู่ได้ยาวนานแค่ไหน แต่อยู่ที่การเมืองนอกสภาจากนี้ไปที่จะรุนแรงขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นปัจจัยที่ชี้ขาดมากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นปริมาณคนที่เข้าร่วมชุมนุมจะน้อยลง เพราะจะเห็นได้จากกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นฝ่ายรัฐบาล ซึ่งสามารถออกแบบการชุมนุมได้ แต่กลับมีผู้เข้าร่วมชุมนุมเพียง 2-3 หมื่นคนเท่านั้น ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้มีความฮึกเหิม และมีปัญหาเรื่องยุทธวิธีในการเคลื่อนไหวโดยให้แกนนำจะให้ไปไหนก็ไป

“ประเด็นถ้อยแถลงของกลุ่มเสื้อแดงที่ระบุว่า ทหารทำรัฐประหารซ่อนรูป หรือทำการปฏิวัติเงียบนั้น ไม่สามารถระดม หรือกระตุ้นสำนึกมวลชนให้ออกมาเดินขบวน หรือออกมาร่วมชุมนุมได้ สุดท้ายจึงเหลือกลุ่มที่เป็นปัญหาจริงๆ คือ กลุ่มฮาร์ดคอร์ ที่ไปใช้กำลังที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ เนื่องจากเขาเชื่อว่า หากมีการใช้กำลังเข้าสบายการชุมนุม เขาก็จะชนะทันที โดยขณะนี้รัฐบาลตั้งรับมากเกินไป เพราะสุดท้ายต้องไปหาที่ประชุมใหม่ หากมีการปิดล้อม” นายสุริยะใส กล่าว

ด้าน นายไชยยันต์ ไชยพร หัวหน้าภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าววิเคราะห์ถึงกรณีที่พี่น้องพันธมิตรฯ จำนวนหนึ่ง ปฏิเสธนายแก้วสรร อติโพธิ์ ซึ่งลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ว่า กรณีดังกล่าวอาจจะเกิดจากความไม่พอใจที่มีกลุ่มเพื่อนเนวิน เข้าไปร่วมงานด้วย ซึ่งคงไม่ใช่เพราะนายยืนยง ถูกนายแก้วสรร ดึงให้เข้าไปร่วมงานด้วยแล้วทำให้คะแนนตก และที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่นั้น จริงๆ แล้ว ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ไม่ได้พูดเก่ง หรือมีนโยบายดีเด่นอะไร แต่ที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. เนื่องจากมีจุดเด่นคือการมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นฐานเสียง ซึ่งเรารู้สึกวางใจ และสบายใจ อีกทั้งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.คนอื่นๆ ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

“อย่างกรณีของนายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือแซม ที่ลงรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.นั้น ภาพที่ออกมาคือ ตอนที่นายยุรนันท์เป็น ส.ส.ครั้งแรก เพราะพรรคไทยรักไทยอุ้มมา แต่ไม่มีประสบการณ์การทำงานให้เห็น ทำให้คนทั่วไปไม่อาจให้ทดลองงานได้ ส่วน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ที่ลงรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.อีกคนหนึ่งนั้นยิ่งไม่มีประสบการณ์การทางการเมืองอะไรเลย มีเพียงแต่ประสบการณ์การลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.เมื่อครั้งที่แล้วเท่านั้น ที่สำคัญคนไทยส่วนใหญ่เห็นคนที่พูดภาษอังกฤษเก่งๆ ก็จะพากันเห่อ และชอบอะไรรุนแรง สำหรับนายแก้วสรร คิดเป็นระบบ และทำการบ้านมาดี โดยสามารถอธิบายนโยบายต่างๆ ที่ออกมาได้อย่างชัดเจน แต่การที่นายแก้วสรร ประกาศตัวทีมงานออกมาก่อนใคร จึงอาจจะทำให้คนกลุ่มหนึ่งตัดสินใจไม่เลือก เพราะอาจจะไม่ชอบใจในตัวทีมงานของนายแก้วสรร” นายไชยันต์ ระบุ

นายไชยันต์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงจะแสดงพฤติกรรมรุนแรงมากยิ่งขึ้นหรือไม่ว่า โดยส่วนตัวแล้วเป็นแฟนวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ ซึ่งบางครั้งเขาก็บอกว่าไม่ได้เกี่ยวกับรายการความจริงวันนี้ แต่ที่น่าสนใจคือ กระแสข่าวที่ออกมาจะต้องตรงกับสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี คืออธิบายเรื่องผลการเลือกตั้งเรื่องมนต์ทักษิณเสื่อม โดยขณะนี้เวลาที่เขารณรงค์ เขาจะเน้นเรื่องประชาธิปไตย แต่จะไม่เน้นว่าจะต่อสู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกแล้ว

“ถามว่า ถ้านายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่จะพาคนไปชุมนุมทีทำเนียบรัฐบาล โดยให้เหตุผลว่าประท้วงเรื่องการเอาคนของพันธมิตรฯ ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีนั้น มีความขัดแย้งกันเองจากฝ่ายที่สู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ กับฝ่ายที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่ที่สำคัญคือ ฝ่ายที่ต่อสู่เพื่อประชาธิปไตยนั้น เขาจะเอา พ.ต.ท.ทักษิณ ไปชนกับระบอบศักดินาเก่า โดยสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเต็มที่ แล้วค่อยกลับไปเล่นงาน พ.ต.ท.ทักษิณ ทีหลัง ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงออกมาระบุว่า จะเคลื่อนไหวอย่างอิสระ โดยไม่มีนายคอยสั่งการเหมือนการชุมนุมของพันธมิตรฯ นั้น ผมคิดว่าวิธีการดังกล่าว จะทำให้เกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่สามารถควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมได้” นายไชยันต์ กล่าว

นายไชยันต์ ยังวิเคราะห์ถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่สนามราชมังคลากีฬาสถานกว่า 7 หมื่นคนว่า กรณีดังกล่าวน่าจะมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเป็นครั้งแรก และมีกลุ่มคนที่ไม่พอใจฝั่งตรงข้าม โดยคนเสื้อแดงที่ไปเข้าร่วมชุมนุมจะเรียบร้อยมาก แต่การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่สนามศุภชลาศัยนั้น จะเป็นชาวบ้านจากต่างจังหวัดจริงๆ ซึ่งพบว่ามีการเมาสุราแล้วเข้าร่วมชุมนุมด้วย ที่สำคัญต้องทำใจให้เป็นกลางเรื่องการเวลาการชุมนุมระหว่างพันธมิตรฯ กับกลุ่มเสื้อแดง ว่าใครชุมนุมได้ยาวนานกว่ากันนั้น ต้องยอมรับความจริงว่า มีข้อจำกัด เพราะพันธมิตรฯ ที่มาร่วมชุมนุมนั้น ส่วนใหญ่มีอันจะกิน ในขณะที่กลุ่มเสื้อแดงหากมีการจ้างมวลชนระดับล่างให้เข้าร่วมชุมนุม ก็จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะเขามีภาระต้องรับผิดชอบต่อครอบครัวคอยอยู่ข้างหลัง