xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ได้ผลคะแนนทางการแล้ว 17 จังหวัด เตรียมประชุมรับรอง 14 ม.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุทธิพล ทวีชัยการ
กกต.ได้รับผลคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว 17 จังหวัด เหลือเพียง 5 จังหวัด เตรียมประชุมรับรองผลเลือกตั้ง 14 ม.ค. เผยตั้งกก.สอบแล้วปัญหาเขตพญาไท พร้อมให้นับคะแนนต่อ ก่อนชงเรื่องเข้ากกต.กลางวินิจฉัย เลขาฯ กกต. สรุปปชช.แห่ใช้สิทธิเลือกตั้ง 55.47% เผยขณะที่เรื่องร้องทุจริตมีแล้ว 11 เรื่อง

วันนี้( 12 ม.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงการรับรองผลเลือกตั้งซ่อมแทนตำแหน่งที่ว่าง ว่า ที่ประชุม กกต. จะมีการประชุม เพื่อรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ม.ค. นี้ ทั้งนี้ สำหรับว่าที่ส.ส.รายใดที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน กกต. ก็จะประกาศรับรองผลได้ทันที ส่วนปัญหาการนับคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่เขตพญาไทนั้น ทาง กกต.กทม. ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบได้ตั้งคณะกรรมสืบสวนสอบสวนแล้ว และมีมติให้นับคะแนนเลือกตั้งต่อไป โดยเมื่อคณะกรรมการสอบสวนพิจารณาแล้วเสร็จก็จะส่งให้ กกต.กลาง เพื่อวินิจฉัย

ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ขณะนี้กกต.ได้รับรายงานผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจากกกต.จังหวัดแล้ว 17 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. ฉะเชิงเทรา นครปฐม นราธิวาส บุรีรัมย์ ปทุมธานี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี สมุทรปราการ สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง อุทัยธานี อุบลราชธานี โดยเหลืออีก 5 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน อุดรธานี ลำปาง นครพนม ศรีสะเกษ

ส่วนสถิติการเลือกตั้ง มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 7,838,714 คน มาใช้สิทธิ 4,347,913 คน คิดเป็น ร้อยละ 55.47 มีบัตรเสียทั้งสิ้น 155,163 ใบ คิดเป็นร้อยละ 3.57 ไม่ประสงค์ลงคะแนน 308,947 ใบ คิดเป็นร้อยละ 7.11 ส่วนจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิมากที่สุดคือ จ.ลำพูน 234,103 คน คิดเป็นร้อยละ 75.26 ส่วน จ.ที่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยที่สุด คือ จ.สมุทรปราการ มาใช้สิทธิ 156,582 คนคิดเป็นร้อยละ 43.37 ส่วนจังหวัดที่มีบัตรเสียน้อยที่สุดได้แก่ จ.ร้อยเอ็ด 3,678 ใบ คิดเป็นร้อยละ 1.92 และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนน้อยที่สุดคือ จ.ร้อยเอ็ด 4,664 ใบ คิดเป็นร้อยละ 2.44

สำหรับเรื่องร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้ง เบื้องต้นได้รับรายงาน 11 เรื่อง ประกอบด้วย จ.นครพนม ร้องเรื่องแจกเงิน ซึ่ง กกต. จังหวัดรับเป็นเรื่องร้องคัดค้านแล้ว จ.อุบลราชธานีเขต 2 จำนวน 1 เรื่องโดยใช้วิทยุชุมชนหาเสียง ซึ่งรับเป็นเรื่องร้องคัดค้านแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการสืบสวนก่อนที่จะรับเป็นเรื่องร้องคัดค้านหากมีมูล ประกอบด้วย จ.มหาสารคาม 2 เรื่อง ซึ่งเป็นเรื่อง ใช้รูปหัวหน้าพรรคหาเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรื่องจัดให้มีมหรสพ งานเลี้ยง จ.ร้อยเอ็ด 1 เรื่อง กรณีปราศรัยใส่ร้าย จ.ลำพูน 2 เรื่อง กรณีใช้เงินเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และ ปราศรัยใส่ร้าย จ.สิงห์บุรี 1 เรื่อง กรณีใช้ป้ายหาเสียงหลอกลวงให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม จ.อ่างทอง 1 เรื่อง โฆษณาหาเสียงทำให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม และ จ.อุทัยธานี 1 เรื่อง กรณีโฆษณาหาเสียงเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง

นายสุทธิพล ยังกล่าวถึงกรณีปัญหาการนับคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่เขตพญาไทว่า เบื้องต้นทราบว่าเป็นความเข้าใจผิดและกระทำผิดขั้นตอนในการนับคะแนน เพราะการนับคะแนนผู้ว่าฯ และ ส.ส. ต่างกัน ซึ่งสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ผู้ปฏิบัติงานเข้าใจผิดโดยเปิดหีบเพื่อเช็คจำนวนบัตรก่อนที่จะส่งไปนับรวมที่เขตพญาไท ไม่ได้มีเจตนาทุจริตแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต. เพื่อให้วินิจฉัยอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะที่ผ่านมาก็เคยเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ในการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งหากไม่กระทบกับคะแนน กกต. ก็จะไม่สั่งนับคะแนนหรือเลือกตั้งใหม่ ทั้งนี้ก็ต้องให้ กกต. กทม. สรุปรายงานเข้าสู่ที่ประชุม เพราะหากเป็นการทุจริต กกต. ก็อาจมีดุลยพินิจเป็นอย่างอื่นก็ได้

นายสุทธิพล กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหีบบัตรที่พญาไท หรือความสับสนในการเลือกตั้ง ส.ส. และ ผู้ว่า กทม. เกิดจาก กฎหมายที่ระบุขั้นตอนวิธีการที่ต่างกัน เช่นการนับคะแนน ซึ่งการเลือกตั้งท้องถิ่นจะนับรวม แต่ เลือกตั้ง ส.ส. นับที่หน่วย โดยในอนาคต น่าจะปรับแก้ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ประชาชนและผู้ปฏิบัติงานจะได้ไม่สับสน
กำลังโหลดความคิดเห็น