xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ชี้คุณสมบัติผู้สมัครซ่อม บกพร่อง 16 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สดศรี สัตยธรรม กกต.
กกต.ชี้ ผลการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมทั้ง 29 คน พบยังมีปัญหาอีก 16 ราย พร้อมจี้พรรคการเมืองต้นสังเกตชี้แจง มั่นใจประกาศรับรองผลภายหลังเลือกตั้งได้ภายใน 7 วัน หรือหากมีการร้องเรียนจะดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

วันนี้ (5 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาคารศูนย์ราชการพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมทั้ง 29 คน ว่า กรณีการเลือกตั้ง ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่างที่มีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส.ที่ต้องสังกัดพรรค 90 วัน จนถึงเลือกตั้งนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ซึ่งพบว่า มีพรรคการเมืองที่จดทะเบียนไว้ที่ กกต.ได้แก่ พรรคประชาราช พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคความหวังใหม่ พรรคประชาชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน และในการตรวจสอบฐานข้อมูลในการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ว่า 1.การเป็นสมาชิกพรรคการเมืองผู้ที่สมัครจะต้องเป็นสมาชิกเพียงพรรคการเมืองเดียว 2.จะต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมือง 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบยังมีผู้สมัคร ส.ส.ที่มีปัญหา 16 ราย ดังนั้น ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้สมัคร อีกทั้ง กกต.ได้ส่งเอกสารไปยังพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร เพื่อดำเนินการชี้แจงเชื่อว่าคงไม่นานจะได้รับข้อมูลการสังกัดพรรคการเมืองของผู้สมัคร ส.ส.ที่มีปัญหา

นายปกครอง สุนทรสุทธิ รองเลขาธิการด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า อำนาจในการประกาศรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้ง จะเป็นของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ซึ่งจะใช้ 3 วิธีในการตรวจสอบว่า ผู้สมัคร ส.ส.มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ 1.หนังสือที่ทางหัวหน้าพรรคการเมือง หรือกรรมการบริหารพรรคที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรค ซึ่งทางด้านกิจการพรรคจะส่งรายชื่อไปยัง ผอ.ประจำเขตเลือกตั้ง ซึ่งถือว่า เป็นพนักงาน และถ้าหัวหน้าพรรคแจ้งความอันเป็นเท็จก็ถือว่า แจ้งความเท็จต่อพนักงาน โดยผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 83 รายมีผู้สอบถามในเรื่องคุณสมบัติ 33 ราย ซึ่งมีอยู่ 16 รายที่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ แบ่งเป็นพรรคประชาธิปัตย์ 2 คน ซึ่งไม่พบชื่อในฐานข้อมูลพรรคการเมือง เช่นเดียวกับพรรคชาติไทยพัฒนา 11 คน ส่วนพรรคความหวังใหม่ 3 คน พบว่า มีชื่อเป็นสมาชิกพรรคซ้ำซ้อนกัน

นายปกครอง กล่าวว่า ส่วนผู้สมัครของพรรคชาติไทยพัฒนาทั้ง 11 คน ที่ยังมีปัญหานั้น เนื่องจากทางสำนักงาน กกต.ตรวจไม่พบรายชื่อของผู้สมัครในฐานข้อมูลของผู้สมัคร เพราะทางพรรคชาติไทยพัฒนาส่งข้อมูลไม่ตรงวงรอบของการแจ้งยอดสมาชิกพรรค ซึ่งตามปกติแล้ว ทาง กกต.จะปรับฐานข้อมูลสมาชิกเป็นไตรมาส ซึ่งรอบไตรมาสปัจจุบัน คือ วันที่ 7 ม.ค.2552 แต่ทางพรรคชาติไทยพัฒนา กลับแจ้งรายชื่อพร้อมสำเนาใบสมัครไม่ตรงตามกำหนด ที่ต้องเป็นไปตามข้อบังคับของนายทะเบียนพรรคการเมือง ข้อ 6 ที่ระบุว่า หากพรรคการเมืองรับสมัครสมาชิกในสัปดาห์ใดก็ตาม พรรคการเมืองจะต้องส่งสำเนาใบสมัครมาให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบทราบภายใน 7 วัน ทั้งนี้ ในใบสมัครสมาชิกพรรคของผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนาได้ลงวันที่สมัครไว้ในวันที่ 7 และ 8 ต.ค.2551 แต่ทางพรรคชาติไทย กลับแจ้งมายังนายทะเบียนพรรคการเมืองในวันที่ 15 ธ.ค.2552 ซึ่งทาง กกต.ไม่ทราบว่า เป็นการเขียนใบสมัครย้อนหลังเพื่อสังกัดพรรคการเมืองครบ 90 วัน หรือไม่

นายปกครอง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ทาง กกต.จึงส่งหนังสือให้ทางพรรคชาติไทยพัฒนาให้มาชี้แจงโดยเร็ว ว่า เพราะเหตุใดทางพรรคจึงไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับดังกล่าว นอกจากนี้ กกต.ยังได้ส่งข้อมูลไปยัง ผอ.กต.ประจำเขต ว่า ใบสมัครของผู้สมัครพรรคดังกล่าวไม่เป็นไปตามข้อบังคับ ซึ่งหลังจากนั้นก็เป็นดุลพินิจของ ผอ.กต.ประจำเขตว่าจะอนุญาตให้ผู้สมัครสามารถลงสมัครเลือกตั้งได้หรือไม่ และทาง กกต.ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง ผอ.กต.ประจำเขต โดยใช้ถ้อยคำว่า “ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงไม่อาจยืนยันได้ว่า ผู้สมัครผู้นั้นได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในวันที่ระบุไว้ท้ายใบสมัครหรือไม่”

ด้าน นายกฤช เอื้อวงศ์ ผู้อำนวยการ กล่าวถึงกรณีจังหวัดอุทัยธานีที่ประกาศไม่รับรองผู้สมัครเนื่องจากคุณสมบัติ ซึ่งก็เป็นสิทธิของผู้สมัครที่จะไปยื่นคำร้องคัดค้านที่ศาลฎีกา ซึ่งศาลจะวินิจฉัยภายใน 3 วัน แต่ในส่วนของจังหวัดอื่นผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ผอ.กต.ประจำเขต ประกาศรับรองผู้สมัครก็เป็นดุลยพินิจของ ผอ.กต.ประจำเขต ที่จะรับรองหรือไม่รับรองก็ได้ แต่ทั้งนี้ หากมีปัญหา ผอ.กต.ประจำเขต ก็จะต้องบอกเหตุผลว่า ทำไมถึงรับรองให้ผู้สมัครรายนั้นลงสมัครเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า จะมีปัญหาในเรื่องของการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าหรือไม่ เพราะเมื่อถ้าประชาชนเลือกคนที่อาจจะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ นางสดศรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ที่จังหวัดอุทัยธานี เขต 1 พบว่า บอร์ดที่ติดป้ายชื่อผู้สมัครนั้น ได้ติดป้ายชื่อผู้สมัคร 2 ราย รายแรก คือ นายกุลเดช พัวพัฒนกุล ผู้สมัครพรรคประชาราช ซึ่งทาง กกต.เขตรับรองให้เป็นผู้สมัคร แต่อีกรายหนึ่ง คือ นายอดุลย์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งรายนี้ทาง กกต.เขตไม่รับรอง จึงได้ติดข้อความไว้ตรงรายชื่อว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง ทั้งนี้ หากศาลฎีกาวินิจฉัยรับรองว่านายอดุลย์มีคุณสมบัติครบถ้วน คะแนนของผู้ที่ใช้สิทธิลงคะแนนให้นายอดุลย์ในวันเลือกตั้งล่วงหน้า ก็จะถือว่าเป็นบัตรดี แต่หากศาลวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติ บัตรเลือกตั้งดังกล่าวก็จะถือว่าเป็นโมฆะ

“ส่วนผู้สมัครเลือกตั้งของพรรคชาติไทยพัฒนารายอื่นๆ นั้น แม้จะได้รับการรับรองให้เป็นผู้สมัคร แต่หากศาลฎีกาวินิจฉัยตัดสิทธิ์ นายอดุลย์ ก็จะส่งผลถึงผู้สมัครของพรรครายอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม หาก นายอดุลย์ ถูกวินิจฉัยตัดสิทธิจริง นายกุลเดช ผู้สมัครจากพรรคประชาราช ก็จะต้องได้รับคะแนนจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้นไม่ตำกว่า 20%” นางสดศรี กล่าว

นางสดศรี ยังกล่าวอีกว่า หลังการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 11 ม.ค.หากไม่มีการร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้งเข้ามา กกต.ก็จะประกาศรับรองผลภายใน 7 วัน แต่หากมีการร้องเรียนเข้ามา กกต.ก็จะต้องดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
กำลังโหลดความคิดเห็น