“อภิสิทธิ์” ประกาศศิตให้ความเป็นธรรม ยันหลับตาไม่ดูชื่อ-ไม่ไว้หน้าใคร ลั่นหาก “กก.สิทธิฯ-ป.ป.ช.” ชี้มูลความผิด “บุคคล” ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “เหตุการณ์ 7 ต.ค.” พร้อมเร่งดำเนินการทันที เผยไม่เอาผิดทางวินัยกับ “อดีตการเมือง” แต่คงหนีไม่พ้น-ต้องใช้กรรมในคดีอาญา
วานนี้ (25 ธ.ค.) รายงานข่าวแจ้งจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลการสอบเหตุการณ์ 7 ต.ค.ว่า ผลการสอบสวนจะมีอยู่ 2 ส่วน คือ ฝ่ายการเมือง และฝ่ายปฏิบัติ โดยฝ่ายการเมืองก็คือ รัฐบาลชุดที่แล้ว ส่วนฝ่ายปฏิบัติงานก็คือ เจ้าหน้าที่มีรายชื่ออยู่ตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาไปจนถึงผู้ปฏิบัติการในพื้นที่ โดยอยู่ในช่วงเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าใจว่ารัฐบาลจะดำเนินการหลังจากที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ก็คงเป็นไปตามกฎหมาย เมื่อถามต่อว่า มีรายชื่อของผู้กระทำผิดอยู่ในบัญชีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็มีอยู่ แต่เรียนว่าทั้งหมดต้องให้ ป.ป.ช.รับเรื่องอย่างเป็นทางการเสียก่อน โดยในส่วนของตน คงต้องรอว่าทาง ป.ป.ช.จะมีข้อเสนอมายังรัฐบาลอย่างไร
ส่วนจะต้องรอบทสรุปจากทาง ป.ป.ช.อีกครั้งใช่หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ต้อง เพราะในส่วนของกรรมการสิทธิฯ ได้ทำหนังสือถึงรัฐบาลแล้ว เมื่อถามว่า ผลสอบทางวินัยกับคดีอาญาเมื่อพ้นตำแหน่งของรัฐบาล จะทำให้การดำเนินคดีเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงต้องแยกออกจากกัน ถ้าเป็นข้าราชการ เรื่องวินัยอาจจะมี ส่วนเรื่องทางอาญานั้นก็สุดแล้วแต่ แต่เรื่องทางการเมืองไม่เอาผิดทางวินัย เนื่องจากพ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่ทางในทางอาญาคงไม่พ้น เพราะทาง ป.ป.ช.จะเป็นผู้ดำเนินการเอาผิดเอง
ต่อข้อถามที่ว่า ในส่วนของราชการ สามารถดำเนินการได้เลยโดยไม่ต้องผ่าน ป.ป.ช.ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากมีโอกาสคุยกับทางคณะกรรมการสิทธิฯ ว่า ทางเขามีความเห็นอย่างไร เนื่องจากกรรมการสิทธิฯ ไม่ได้เป็นองค์กรเดียวที่สอบสวน ฉะนั้น คงต้องขอความเห็นจาก ป.ป.ช.ในการสอบเรื่องนี้ด้วย เมื่อถามถึงผลการสอบสวนของคณะกรรมการที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตั้งขึ้นนั้น เสนอให้รัฐบาลดำเนินการอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการปรับปรุงกฎหมาย หรือข้อเสนอแนะว่าจะอบรมเจ้าหน้าที่อย่างไร ซึ่งมีรายงานว่า ปัญหามาจากการให้ข้อมูลของฝ่ายต่างๆ ซึ่งเวลานี้ไม่มีแล้ว
เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ซึ่งต้องมีการลงโทษกันอย่างจริงจัง โดยที่ยังมีบางส่วนทำงานอยู่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องมีเหตุผล และต้องมีความเป็นธรรม ซึ่งตนคิดว่าใครทำงานก็ต้องยอมรับตรงนี้ ส่วนจะยืนยันได้หรือไม่ว่า ถ้ามีข้าราชการที่เข้าเกี่ยวข้อง แม้จะเป็นญาติของนักการเมืองก็ต้องพิจารณา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องดูตามข้อเท็จจริง แต่ตนจะไม่ดูชื่อ เพราะต้องการให้ความเป็นธรรมที่ดีที่สุด นั่นก็คือการหลับตาไม่ดูชื่อ ซึ่งถ้ามีรายงานมา ก็จะดำเนินการกับบุคคลนั้นๆ
เมื่อถามต่อว่า ถ้าความเป็นธรรมมาช้าก็จะกลายเป็นไม่มีความเป็นธรรม แล้วจะสามารถทำได้เร็วแค่ไหน นายกฯ กล่าวว่า รอหลังแถลงนโยบายไปแล้ว ซึ่งตนจะเร่งขอทราบแนวคิดจากกรรมการสิทธิฯ และ ป.ป.ช.ว่า จะดำเนินการอย่างไร ส่วนจะอีกนานแค่ไหนนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงต้องเร็วที่สุด เพราะไม่ต้องรออะไรเพิ่มเติม นอกจากความเห็นของ 2 องค์กร ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถการได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ คงจะได้เห็นกันอย่างแน่นอน