xs
xsm
sm
md
lg

“พิภพ” เตือน “มาร์ค” ทำตามสัญญา คำปราศรัยวันรับโปรดเกล้าฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พิภพ” เตือนสติ “มาร์ค” ได้เป็นนายกฯ เพราะกระแส “การเมืองใหม่” ย้ำต้องพิสูจน์คำปราศรัยวันรับสนองพระบรมราชโอการฯ ชี้ต้องปกป้องสถาบันอย่างแท้จริง ยุติการเมืองล้มเหลว ใช้ความยุติอธรรมนำหน้า สนับสนุนการเมืองภาคประชาชน แนะทุกนโยบายต้องยึดโยงแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตาม รธน. ต้องสานต่อซีแอลยา หนุนรักษาฟรี และปฏิรูปการศึกษา โดยจัดให้มีการศึกษาทางเลือก

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" 

รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2551 จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ดำเนินรายการ โดยมีผู้ปราศรัยประกอบด้วย นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายจำรูญ ณ ระนอง อดีตประธานสภาอาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คั่นด้วยการแสดงดนตรีของ “แหลม ผู้จัดกวน” ปิดท้ายด้วยการสนทนากับนายอำนาจ พละมี รองเลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และนายพิชิต ไชยมงคล ในฐานะโฆษกบนเวทีชุมนุมหน้ารัฐสภา ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551

จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะ พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย วันนี้ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2551 วันนี้พันธมิตรฯ บ้านบึงอีกแล้วครับท่าน จองไว้ 2 วันรวดเลย ปรบมือให้กับตัวเองด้วยนะคะ

และขอต้อนรับพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ด้านนอกห้องส่งด้วย มีอีกจำนวนไม่น้อยที่นั่งดูจอมอนิเตอร์อยู่ พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้าน ท่านผู้ชม รวมไปถึงพันธมิตรฯ ที่อยู่ในต่างแดน คงจะหายเหงากันไปพอสมควร เพราะว่าก็จะมีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ไอ้ที่จัดงานเลี้ยงนี่ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ มันคิดถึงกันน่ะ ไม่ปีใหม่ก็จัด เอาไหมล่ะ แอนเชื่อว่าอย่างนั้น บังเอิญว่าเราตรงกับปีใหม่พอดี เราก็เลยได้โอกาสมาจัดงานเลี้ยงสังสรรค์พบปะเพื่อนฝูง ไม่ได้เจอกันเสียนาน ต่างจังหวัดที่เคยรู้จัก คนนั้นอยู่ภาคใต้ คนนี้อยู่เหนือ คนนี้อยู่อีสาน เชิญกันไปเป็นแขกของแต่ละจังหวัด ตอนนี้เดินสายกันไม่เว้นแต่ละวันเลย แหมมีงานทุกวันเลย เพราะไม่ได้มาทำงานมาตั้งแต่ 7 เดือนแล้ว จะไม่ทำอีกสักเดือนไม่เห็นเป็นไรเลยนะคะ เสียดายห้องส่งของเราเล็กไปนิดหนึ่งนะคะ และเล็กไปถนัดตาเมื่อพ่อแม่พี่น้องมานั่งเชียร์กันในห้องส่ง วันนี้นับดูแล้วน่าจะประมาณ 40 คนได้ เต็มที่แล้วนะคะแทบจะนั่งตักกันเลยทีเดียว แต่ก็พยายาม หลายท่านบอกว่า ไม่เป็นไรนั่งพื้นก็ได้ ก็บอกแล้วว่านั่งทำเนียบมาตั้ง 6-7 เดือนยังนั่งได้เลย แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็นั่งได้ ขอบพระคุณทุกท่านจริงๆ นะคะ

สำหรับพ่อแม่พี่น้องหลายๆ จังหวัดที่โทรศัพท์เข้ามาอยากจะจองมาเป็นหมู่คณะ แอนขอรบกวนอย่างนี้นะคะพ่อแม่พี่น้อง ถ้าจะมาจัดเป็นกลุ่มไม่น้อยกว่า 10 คน ต้อง 10 คนขึ้นไป และควรจะไม่เกิน 30 คน เพราะว่าถ้านั่งสบายๆ ก็ประมาณ 30 คนในห้องส่ง โทรมาจองวันและเวลาได้ คือเราตั้งแต่เช้ารายการพี่ปองมา ก็จะมีรายการสดตลอด อยากดูช่วงเวลาไหน รายการไหน แจ้งความจำนงนะคะ เราจะให้เบอร์โทรเอาไว้ โทรมาหาน้องๆ พีอาร์ของเรา 02-6293949 ต่อ 3016 เวลาทำการก็คือ 9 โมงครึ่ง ไปจนถึง 5 โมงเย็น ที่สำคัญอย่าลืม (มือตบ) ถ้าไม่เอามาจะหงุดหงิด อึดอัดมาก หลายคนมาวันแรกๆ บอก อ้าว เพื่อนเอามือตบมา ฉันไม่ได้เอามือตบมา บังเอิญห้องส่งมีให้ยืมค่ะ แต่หลายคนเนี่ยขอต่อว่าหน่อยเถอะ ไม่เอามือตบมา ไม่เอาเครื่องมือทำมาหากิน แล้วยืมไปไม่คืนอีกต่างหากนะคะ เอาเป็นว่าติดไม้ติดมือมาด้วย ไหนเคยบอกไงว่าพกมือตบตลอดเวลา ป้าบางคนก็บอกว่ามันใหญ่น่ะหนู พกไม่ไหว นี่ค่ะอันเล็กๆ ก็ได้ค่ะ ป้าขา นะคะ พกกันมา

วันนี้บ้านบึงมาไม่ได้มามือเปล่าอีกแล้วนะคะ เมื่อวานก็เช่นเดียวกัน วันนี้เอาซองเงินบริจาคมาให้ด้วย จากวุ้นบุญนิมิตร บ้านบึง ชลบุรี โอนมาให้เมื่อวันที่ 28 เดือนที่แล้ว 2,000 บาท ฝากวันนี้อีก 1,000 บาทค่ะ

พันธมิตรฯ นงนุช บ้านบึง ชลบุรี มอบให้ ASTV 1,000 บาท มอบให้พันธมิตรฯ สู้คดี กองทุนสู้คดีของเราอีก 1,000 บาทค่ะ นี่ก็บ้านบึงแต่ไม่ได้บอกชื่อมานะคะ ให้ ASTV 3,800 บาท ให้กองทุนสู้คดี 1,500 บาท รวมเป็น 5,300 บาทค่ะ ขอบพระคุณค่ะ

วันนี้นะคะ บ้านบึงมาดูรายการ แต่ว่าพันธมิตรฯ หนองมน ชลบุรีเช่นเดียวกัน เอาอาหารมาเลี้ยงค่ะ ข้าวหม้อแกงหม้อ เต็มไปหมดเลยนะคะ พนักงาน ASTV บอกว่าวันนี้ ผมพกแค่ค่ารถมาพี่ มีข้าวเที่ยงกินฟรี อิ่มมากค่ะ อร่อยมาก น้องๆ ฝากขอบคุณด้วยนะคะ และมีพันธมิตรฯ กรุงเทพฯ มาร่วมฉลองกัน มารอพี่น้องของเรา พันธมิตรฯ หนองมน อบอุ่นมากทีเดียว และน้องๆ บอก พี่เชื่อไหมที่พี่เขาเอาข้าวมานะไม่มามือเปล่าด้วย เขาเอาเงินมาให้อีก 20,500 บาทค่ะ ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมานะคะ ที่สระบุรี บ้านพี่อมร อ.สมเกียรตินั่นโคราช แต่พี่อมรเขาจัดงานกับพันธมิตรฯ ที่สระบุรี คนไปร่วมงานร่วมๆ 1,000 คน ปรากฏว่า จัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเรื่องการเมืองใหม่ และจัดเวทีสังสรรค์กันด้วย คึกคักมากนะคะที่สระบุรี เมื่อวานนี้ ส่วนพรุ่งนี้ค่ะ พันธมิตรฯ ขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง จะจัดพิธีสู่ขวัญ พี่ศุภชัย วงศ์จำลอง พันธมิตรฯ ขอนแก่น ที่ถูกสะเก็ดระเบิดขณะไปร่วมชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง พร้อมทั้งจะจัดงานเลี้ยงปีใหม่ด้วย

จะเล่าให้ฟังว่า พี่ศุภชัยแอนไปเยี่ยมมา พี่ศุภชัยนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลภูมิพล ซึ่งต้องขอกราบขอบพระคุณโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกๆ ท่าน ทหารอากาศ ที่ดูแลพี่น้องเราเป็นอย่างดีเลยค่ะ แล้วก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันดีมา จนเรารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของพี่น้องโรงพยาบาลภูมิพลเป็นอย่างสูง กราบขอบพระคุณอีกครั้งหนึ่ง วันที่แอนไปเยี่ยมพี่ศุภชัยแล้วก็มีพี่อีกคนหนึ่ง ชื่อพี่ดาว ถ้าจำไม่ผิดชื่อพี่ดาว พี่ดาวเป็นคนสุโขทัย ไปเยี่ยมก็ยืนคุยกับพี่ศุภชัยกับพี่ดาว คนที่เขาบาดเจ็บ เขาเจ็บเยอะนะคะ พี่ศุภชัยเป็นเซลส์มาจากขอนแก่น แกเจ็บเยอะ แต่คนที่ไม่เจ็บคือคนที่ไปเยี่ยม ไปยืนร้องไห้อยู่ข้างเตียง แกก็บอกว่าไม่ต้องร้องคุณแอน ผมไม่เจ็บมากหรอก หายเมื่อไรอย่าเพิ่งรีบเลิกนะ ผมจะรีบไป กลับบ้านที่ดอนเมือง ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยนะคะ แล้ววันนี้น่าจะหายดีแล้วนะคะพี่ศุภชัย อาจจะยังต้องล้างแผลอยู่บ้าง กลับบ้านแล้วที่ขอนแก่น พี่น้องชาวขอนแก่นเองก็จะจัดงานสู่ขวัญให้ในวันพรุ่งนี้ วันเสาร์ มีงานเลี้ยงด้วย 6 โมงเย็นเป็นต้นไป ที่บ้านสวนทุ่งเศรษฐี ถนนประชาสโมสร ซอยประชาสโมสร 52 เขตเทศบาลนครขอนแก่น ถ้าหากว่าคนที่อยู่จังหวัดใกล้เคียง พันธมิตรฯ ขอนแก่นเองด้วย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ASTV ผู้จัดการ ถนนเทพารักษ์ อ.เมืองขอนแก่น ไปติดต่อได้ค่ะ

ส่วนวันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม ผู้ประกอบการพันธมิตรฯ ชลบุรี จะจัดขึ้นที่ภัตตาคารไต้ฮี้ ตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป รายได้มอบให้กองทุนสู้คดี จะมีพี่พิภพ ธงไชย พี่ศิริชัย ไม้งาม และก็มีแอนไปด้วย พบกันวันอาทิตย์ค่ะ

ส่วนที่กรุงเทพฯ แหมคนโทรมาเยอะมาก และคนโทรส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัด เชื่อไหมคะ เขาบอกว่าอยากดูว่าคนกรุงเทพฯ จัดงานยังไง จะได้เอาไปจัดที่บ้านบ้าง แต่เปล่าหรอกค่ะ หาเรื่องมาเที่ยวกรุงเทพฯ หาเรื่องมาหาเพื่อนที่กรุงเทพฯ เพราะว่ากรุงเทพฯ เขาจัดงานสงสัยจะงานใหญ่น่าดู เพราะว่าวันเสาร์ที่ 27 นี้ จัดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ งานจะเริ่ม 4 โมงเย็นนะคะ ซื้อบัตรได้ราคา 300 บาท ที่หมายเลข 085-0461934 , 085-0460709 หรือวันพรุ่งนี้และมะรืนนี้ เสาร์-อาทิตย์ น้องพริกและทีมงาน จะมานั่งขายบัตรราคา 300 บาทนี่ล่ะค่ะ ที่ ASTV ตั้งแต่ 10 โมงเช้าไปจนถึง 4 โมงเย็นเท่านั้นนะคะ งานนี้เขาบอกว่ารายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะมอบให้กับ ASTV และมีหลายท่านที่จะไป พี่ประพันธ์ คูณมี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ พี่สำราญ รอดเพชร พี่อมร น้องพริก พี่ประทีป ขจัดพาล พี่แหลม ผู้จัดกวน พี่พล พี่โชค วงซูซู น้าซู น้าเสก และพี่ตั้ว ก็ไปด้วย พบกัน 4 โมงเย็น แต่ว่าพรุ่งนี้ มะรืนนี้ ขายบัตรที่นี่ 300 บาทนะคะ อย่าลืมนะคะ

วันนี้จริงๆ แล้วมันมีข่าวสำคัญล่ะพี่น้อง แต่เดี๋ยวเอาเป็นว่าแอนจะเล่าให้ฟังในช่วงที่ 2 ก็แล้วกัน เพราะว่าจะต้องอ่านรายงานที่คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนทำสรุปขึ้นมาส่งต่อไปให้ ป.ป.ช.ในวันนี้ ทั้งหมด 119 หน้า แต่ไม่ต้องตกใจค่ะ แอนไม่อ่านทั้งหมด 119 หน้านะคะ รับประกันได้ จะสรุปให้ฟังว่าในการ ผลสอบของกรรมการสิทธิฯ ครั้งนี้ พูดว่าอะไรบ้าง พี่น้องอาจจะได้ฟังมาบ้างแล้วในช่วงเย็น แต่บางท่านไม่ได้ติดตามข่าว อ่านให้ฟังแล้วอาจจะยิ้มได้นะคะว่าวันนี้ความยุติธรรมมันยังหลงเหลืออยู่พี่น้อง เรายังไม่หมดหวัง มันมีความยุติธรรมอยู่ เลือดเนื้อหรือชีวิตของพ่อแม่พี่น้องเราที่ต้องสูญเสียไป เราจะได้เอาคืนก็ครั้งนี้ละค่ะพี่น้องขา ปรบมือให้กรรมการสิทธิด้วยค่ะ

วันนี้ผู้ปราศรัยท่านแรก เราไปพบกับ พี่พิภพ ธงชัย พี่พิภพคะสวัสดีค่ะ

พิภพ - สวัสดีครับ

จินดารัตน์ - เชิญค่ะพี่พิภพ

พิภพ - พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย สวัสดีนะครับ วันนี้ในห้องส่งเยอะไปหมด เหมือนกับจำลองเวทีพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบประชาชนมาที่นี่เลย ทราบว่าพ่อแม่พี่น้องมาดูข้างนอกด้วย มีจอตั้งอยู่ข้างนอก ครับแสดงว่าเราเริ่มจะลงตัวแล้ว เริ่มมีการพบปะแล้วก็มาพูดคุยกันเพื่อที่จะเคลื่อนไหวทางการเมืองใหม่ของเราต่อไป นี่เป็นสัญญาอยู่ใช่ไหมครับพ่อแม่พี่น้อง ใช่ไหมครับ

ครับพ่อแม่พี่น้องครับ วันนี้ยังไงผมก็ต้องพูดถึงคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในฐานะที่ได้เกิดจากการเคลื่อนไหวของพ่อแม่พี่น้อง ในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผมคิดว่าอันนี้คุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ คงจะปฏิเสธไม่ได้ แต่พูดอย่างนี้ไม่ได้ทวงบุญคุณกัน เพราะสิ่งที่เราทำเป็นเรื่องของประเทศชาติโดยรวม สิ่งที่เราต้องการ ถึงแม้ว่าจะต้องการการเมืองใหม่ที่มีรัฐบาลใหม่โดยไม่มีนักการเมืองรุ่นเก่าเลย ยังไม่สามารถทำได้ แต่อย่างน้อยวันนี้ก็ได้นายกรัฐมนตรีที่สะอาด มือสะอาดคนหนึ่ง แต่มีความสามารถหรือไม่ ก็เป็นที่เราจะต้องดูแลและเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นคนมือสะอาดคนหนึ่ง จะสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศไทยจากการเมืองเก่าไปสู่การเมืองใหม่ได้หรือไม่ อันนี้เป็นคำถามของพ่อแม่พี่น้อง และสงสัยกันอยู่ว่า คุณอภิสิทธิ์ยังคิดถึงเรื่องนี้หรือเปล่า ว่าตัวเองได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะกระแสของประชาชนต้องการเปลี่ยนการเมืองเก่าให้เป็นการเมืองใหม่ แต่เสร็จแล้วการจัดคณะรัฐมนตรี การร่วมพรรคการเมืองต่างๆ ในการจัดตั้งรัฐบาลนี้ผสมระหว่างการเมืองเก่ากับมีนักการเมืองมือสะอาดอยู่ในรัฐบาล โดยเฉพาะซีกประชาธิปัตย์ ปัญหาที่จะถามต่อไปว่า คุณอภิสิทธิ์จะจัดการกับนักการเมืองเก่า ซึ่งก็ต้องยอมรับกันว่าไม่สะอาด จะให้สะอาดได้อย่างไร คำว่าสะอาดของเรา เราจำได้ใช่ไหมครับ เราใช้ต่อจากการเมืองใหม่ ว่าการเมืองใหม่คืออะไร คือการเมืองที่สะอาด ทุนที่จะเข้ามาดำเนินเศรษฐกิจในระบบการเมืองใหม่ จะต้องเป็นทุนที่สะอาด ทุกอย่างจะต้องสะอาดหมด เป็นคำที่ง่ายๆ ภาษาไทยเดิมๆ ที่เข้าใจง่าย เราไม่ได้บอกว่า ใช้ศัพท์ที่ยาก ว่าคุณต้องไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น คุณต้องไม่ทำโน้นทำนี่ แต่เราต้องการให้คนที่เคยทุจริตคอร์รัปชั่น และเคยมือไม่สะอาด มาเป็นรัฐบาลเที่ยวนี้จะต้องสะอาด ใช่ไหมครับพ่อแม่พี่น้อง อันนี้เป็นสิ่งที่เราเรียกร้องกันมาตลอด

วันนี้ผมอยากจะพูดถึงคุณอภิสิทธิ์ในวันที่ได้ปราศรัยหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมานี้ อยากจะวิเคราะห์วิจารณ์ให้พ่อแม่พี่น้องได้จับตามองว่า วิธีคิดของคุณอภิสิทธิ์ที่พูดในวันนั้นเป็นปราศรัยสั้นๆ ซึ่งเป็นปราศรัยสำคัญหลังจากได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี มีประเด็นอะไรบ้าง มีทั้งหมด 12 ประเด็น ครับพ่อแม่พี่น้อง แล้วมาดูซิทั้ง 12 ประเด็น คุณอภิสิทธิ์จะสามารถเปลี่ยนการเมืองได้ไหม

อันแรก คุณอภิสิทธิ์ยืนยันแน่นอนว่า จะปกป้องสถาบันกษัตริย์ อันนี้เป็นธงของพันธมิตรฯ มาตั้งแต่ต้นที่ได้ร่วมชุมนุมกันมา 193 วันว่า เรามีหน้าที่จะต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้อยู่ในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อันนี้คงชัดเจนว่าคุณอภิสิทธิ์คงจะไม่มีใครคลางแคลงใจว่าจะไม่ทำเรื่องนี้ เหมือนกับที่เราเคยคลางแคลงใจกับนายกฯ สมชาย หรือนายกฯ สมัคร ซึ่งไม่ได้ทำหรือป้องกันในเรื่องนี้ ปล่อยให้เว็บไซต์ต่างๆ ปล่อยให้มีการกล่าวหาสถาบันพระมหากษัตริย์ในแง่มุมต่างๆ เพราะฉะนั้นวันนี้คุณอภิสิทธิ์จะต้องพิสูจน์ว่า ที่ตัวเองบอกว่าจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ในทางปฏิบัติจริงจะทำอย่างไร

อันที่ 2 ที่คุณอภิสิทธิ์พูดว่าอยากจะยุติการเมืองที่ล้มเหลว อันนี้คุณอภิสิทธิ์ไม่ได้อธิบายความว่าการเมืองที่ล้มเหลวมาจากอะไร แต่ในแวดวงของเวทีพันธมิตรฯ เราพูดชัดเจนว่า การเมืองที่ล้มเหลวมาจากการเมืองเก่า นักการเมืองเก่า ที่มีความคิดเก่า และมือไม่สะอาด มีการทุจริตคอร์รัปชั่นในโครงการใหญ่ๆ ของรัฐ และมีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น โยงใยไปถึงรัฐบาลในอดีต ไม่ว่าพรรคความหวังใหม่ แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์เอง ในอดีตก็มีผสม นักการเมืองเก่าที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์และมีมือไม่สะอาด และหลายคนก็ยังมาเป็นรัฐบาลอยู่ เพราะฉะนั้นคุณอภิสิทธิ์จะต้องทำเรื่องนี้ให้ได้ ว่าการเมืองที่ล้มเหลวเรายังไม่รู้ความในใจของคุณอภิสิทธิ์ว่าหมายถึงอะไร แต่ถ้าให้เราวิเคราะห์ในแง่ของมุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย การเมืองที่ล้มเหลวก็คือนักการเมืองเก่า การเมืองเก่า ระบบเก่าที่เป็นระบบอุปถัมภ์ ซื้อสิทธิ์ขายเสียง เข้ามาแล้วก็ต้องถอนทุน อันนี้คุณอภิสิทธิ์จะทำยังไง แล้วคุณอภิสิทธิ์บอกว่าอันนี้เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง เพราะฉะนั้นถ้าคุณอภิสิทธิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาตัวนี้ไม่ได้ ความขัดแย้งก็จะต้องดำรงต่อไป แล้วความขัดแย้งนี้มันเป็นความขัดแย้งในเรื่องความคับข้องใจที่เราเต็มไปด้วยนักการเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยทุจริตคอร์รัปชั่น

จริงอยู่ ฝ่ายที่สนับสนุนคุณทักษิณ อาจจะชอบพอในเรื่องนโยบายประชานิยม การทำให้ประชาชนระดับรากหญ้ารู้สึกว่านักการเมืองเอาใจใส่ อันนี้คุณอภิสิทธิ์ก็ได้แถลงไว้ว่าจะมีนโยบายตัวนี้ ก็น่าจะหมดปัญหาไปได้เรื่องที่มีความสงสัยว่าพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรครัฐบาลใหม่ พรรคร่วมรัฐบาลใหม่ จะยังคงทำนโยบายประชานิยม แต่ข้อสังเกตของผม คุณอภิสิทธิ์บอกว่าจะทำนโยบายประชานิยมที่มีคุณภาพ อันนี้เดี๋ยวเราจะพูดกันต่อไปว่าในความเห็นของผมเอง ประชานิยมที่มีคุณภาพหมายความว่ายังไง

เพราะฉะนั้นผมหวังว่าการตีโจทย์เรื่องการเมืองที่ล้มเหลวที่คุณอภิสิทธิ์พูดในวันนั้น น่าจะตีโจทย์แตก แล้วในโอกาสต่อไปเมื่อคุณอภิสิทธิ์พูดในสถานีโทรทัศน์ทุกวันอาทิตย์ ซึ่งคุณอภิสิทธิ์สัญญาว่าจะใช้เวลา 1 ชั่วโมง เหมือนกับนายกรัฐมนตรีคนเก่า พร้อมๆ กันนั้นจะให้หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน หรือตัวแทนฝ่ายค้าน ได้ใช้เวลา 1 ชั่วโมงได้เช่นกัน และจะให้ฝ่ายประชาชนใช้เวลา 1 ชั่วโมงด้วยเช่นกัน อันนี้หวังว่าคุณอภิสิทธิ์จะทำตัวนี้สำเร็จ เพราะฉะนั้นหวังว่าคุณอภิสิทธิ์จะพูดในเรื่อง ขยายความเรื่องการเมืองที่ล้มเหลว ในความเห็นของคุณอภิสิทธิ์หมายความว่าอย่างไร เราจะได้วิจารณ์กันต่อไปว่า เพราะตามหลักของพุทธศาสนาเมื่อเห็นทุกข์แล้ว ถ้ามองสาเหตุแห่งทุกข์ไม่ชัดเจน เห็นทุกข์ว่าเพราะมาจากการเมืองที่ล้มเหลว แต่สาเหตุของการเมืองที่ล้มเหลว วิเคราะห์ไม่ถูก จะแก้ไม่ได้ อันนี้ผมก็หวังว่าคุณอภิสิทธิ์จะต้องเปิดใจกับสังคมว่า คำว่าการเมืองที่ล้มเหลวคุณอภิสิทธิ์หมายความว่าอย่างไร ถ้าถึงตอนนั้นเราจะได้มาวิพากษ์วิจารณ์กันนะครับ

อีกข้อหนึ่งคุณอภิสิทธิ์บอกจะใช้ความยุติธรรมนำหน้าเพื่อให้เกิดความสามัคคี อันนี้ผมเห็นด้วย ต้องใช้ความยุติธรรมนำหน้า แต่ก็ต้องถามเหมือนกับที่ผมถามเมื่อสักครู่นี้ว่า คำว่าความยุติธรรม คุณอภิสิทธิ์มองความยุติธรรมเป็นกระบวนยุติธรรมทั้งระบบหรือเปล่า ถ้าเป็นกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบน่ะ งานหนักนะครับคุณอภิสิทธิ์ และต้องใช้ความกล้าหาญที่จะจัดการ เริ่มต้นจากตำรวจก่อน ก็เป็นที่รู้กันว่าตำรวจเป็นต้นสายธารของความยุติธรรมหรือไม่ยุติธรรม แล้วต่อมาก็เป็นอัยการ ต่อมาก็คือศาล และให้ต้นเข้าไปอีกในการเมืองใหม่ กระบวนการยุติธรรมจะต้องเป็นกระบวนการยุติธรรมที่ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น และมีส่วนกำหนด ซึ่งเดี๋ยวผมจะพูดต่อไป อันนี้ล่ะเป็นโจทย์ของคุณอภิสิทธิ์ คุณอภิสิทธิ์ต้องชัดเจนว่าคำว่าเอาความยุติธรรมนำหน้า หมายถึงจัดกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ที่มันไม่มีความยุติธรรม เริ่มต้นที่ตำรวจ อันนี้คุณอภิสิทธิ์จะต้องพูดสักวันหนึ่งแล้วว่า จะปฏิรูปตำรวจอย่างไรให้มีความยุติธรรม เพราะสิ่งที่พันธมิตรฯ เผชิญอยู่วันนี้ก็คือ ตำรวจยังตามที่จะข่มขู่พวกพันธมิตรฯ อยู่แทบทุกจังหวัด ใช่หรือเปล่าพ่อแม่พี่น้อง เป็นความจริงใช่ไหม เพราะฉะนั้นอันนี้จะต้องถามคุณอภิสิทธิ์ว่าจะแก้ปัญหาเรื่องตำรวจที่ใช้อำนาจเกินขอบเขตของอำนาจตำรวจเข้าไปข่มขู่ประชาชนในทุกภาคส่วน ไม่ว่าเป็นเสื้อแดง เสื้อเหลืองนะ เราก็ไม่ต้องการที่จะให้มีการข่มขู่ ถ้าผิดจะต้องทำไปตามหลักฐานที่มีอยู่ และที่สำคัญมาก คุณอภิสิทธิ์จะต้องรู้ว่าตำรวจมักตั้งข้อกล่าวหาเกินจริง และไม่ได้ใช้กลไกตามรัฐธรรมนูญ เมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ยังตั้งข้อกล่าวหาเกินจริง เหมือนตั้งข้อกล่าวหากับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นกบฏ บอกเป็นกบฏ ใช่ไหม แล้วก็ตั้งข้อกล่าวหาทางอากาศว่าเราเป็นผู้ก่อการร้าย อย่างนี้ตำรวจทำไม่ได้นะครับ อันนี้คุณอภิสิทธิ์จะต้องรู้ ตำรวจในชนบทโดยมาก เพราะว่าเวลาตั้งข้อกล่าวหาเกินจริง ทำให้ประชาชนทั่วไปจะตื่นตระหนก และจะทำให้นำไปสู่การประกันตัวไม่ได้ เหมือนอย่างเช่น ท่านจำลองประกันตัวไม่ได้ คุณไชยวัฒน์ประกันตัวไม่ได้ ตอนที่ถูกจับเรื่องข้อหากบฏ และสุดท้ายศาลก็พิพากษาหรือให้ความเห็นว่า ข้อหากบฏนั้นเกินกว่าหลักฐานที่มีอยู่ ตำรวจตั้งไม่ได้ ตรงนี้ผมอยากให้แก้ แก้ตรงไหน แก้ตรงว่า ตำรวจจะต้องไม่มีสิทธิ์ตั้งข้อกล่าวหาโดยพลการ ทางที่ดีจะต้องให้ร่วมกันระหว่างอัยการ แล้วก็จะต้อขอคำวินิจฉัยจากผู้พิพากษาด้วย เหมือนตอนนี้ตำรวจจะไปจับไปค้นบ้านใคร ต้องขอหมายศาลจากผู้พิพากษา ผมอยากให้ปรับปรุงตัวนี้ มิเช่นนั้นตำรวจจะทำอะไรตามใจชอบ แล้วก็ประชาชนจะตกในฐานะที่นั่งลำบาก นี่เรื่องใหญ่ ยกเป็นตัวอย่างไว้สำหรับคุณอภิสิทธิ์ว่าในกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ โดยเฉพาะปฏิรูปตำรวจ ซึ่งรัฐบาลสุรยุทธ์ พยายามจะทำแล้วล้มเหลว ไม่สำเร็จ ได้จัดทำในเบื้องต้นไว้ สุดท้ายก็ตัวเองบอกว่าจะอยู่ปีเดียว ตำรวจก็เลยได้ใจ ถ้าอยู่ปีเดียวก็เชิญไปเถอะ ไม่ต้องมาปรับปรุงปฏิรูปตำรวจ แล้วต้องรู้ว่าผลประโยชน์ของตำรวจมากมายมหาศาล จะแก้ตัวนี้อย่างไร ถ้าแก้ผมคิดว่าจะต้องยกระดับในการที่จะให้ตำรวจชั้นผู้น้อยมีฐานทางเศรษฐกิจดีขึ้น อันนี้ต้องแก้ให้ได้ แล้วการซื้อขายตำแหน่งจะต้องตัดลงไปให้ได้ การส่งส่วยจะต้องเลิกให้ได้ และจะต้องมีการอบรมตำรวจกันใหม่หมด จะต้องพิจารณาหลักสูตรของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ว่าหลักสูตรของโรงเรียนนายร้อยตำรวจมีปัญหาอะไรที่ทำให้ผลิตนักเรียนนายร้อยออกมาแล้วใช้อำนาจบาตรใหญ่ จนไม่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ อันนี้เรื่องใหญ่สำหรับคุณอภิสิทธิ์ที่จะทำ

อัยการล่ะ อัยการจะทำอย่างไร อัยการนี่ดูเหมือนว่าเป็นอิสระ การที่อัยการเข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นบอร์ดในรัฐวิสาหกิจต่างๆ และเข้าไปเป็นกรรมการในโครงการใหญ่ๆ ของรัฐ ทำให้อัยการไม่สามารถเป็นกลางได้ และเข้าไปพัวพันกับผลประโยชน์ คุณอภิสิทธิ์กล้าไหมที่จะออกกฎเกณฑ์ ไม่ให้อัยการเข้าไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ไม่ให้ไปเป็นกรรมการในโครงการใหญ่ๆ ของรัฐที่มีมูลค่าเงินมหาศาล เมื่อมีปัญหาขึ้นมา อัยการก็มีปัญหาในทางกฎหมายตามมาเลย จะต้องปรับปรุงอัยการด้วย แต่เรื่องผู้พิพากษา ในเรื่องกระบวนการยุติธรรม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้มีคำชี้แนะ จนเกิดคำว่า "ตุลาการภิวัตน์" ผมคิดว่านี้เป็นโจทย์ของคุณอภิสิทธิ์ว่า คำว่า ตุลาการภิวัตน์ พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะเป็นแกนนำ ตีความเรื่องนี้อย่างไร อันนี้ผมอยากให้คุณอภิสิทธิ์เปิดความคิดของตัวเอง และเปิดความคิดของรัฐบาล ถือโอกาสเลยว่า ตุลาการภิวัตน์ จะให้มีบทบาทในเรื่องความยุติธรรม 2. ให้มีบทบาทในฐานะเป็นหนึ่งในอำนาจ 3 อำนาจ จะวางตัวนี้ยังไง อยากฟังความคิดนักเรียนอังกฤษแบบคุณอภิสิทธิ์ ว่า ตุลาการภิวัตน์ มี 2 ส่วน ส่วนที่ตัดสินคดีความโดยทั่วๆ ไป กับส่วนที่อยู่ในอำนาจ 1 ใน 3 ตามรัฐธรรมนูญ อำนาจของตุลาการ คุณอภิสิทธิ์พอใจไหมที่ผ่านมา มีนักการเมืองหลายส่วนไม่พอใจ และที่คุณอภิสิทธิ์บอกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ อันนี้จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับตุลาการภิวัตน์มากน้อยแค่ไหน อันนี้ผมอยากฟังคุณอภิสิทธิ์ ให้ขยายความเรื่องนี้ แล้วเราจะได้วิพากษ์วิจารณ์กันต่อไปนะครับ บอก ยึดหลักนิติธรรมและนิติรัฐ บังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค อันนี้เห็นด้วย ที่ทำยังไงให้ระบอบประชาธิปไตยของเรากลายเป็นนิติรัฐและเป็นนิติธรรม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังต้องปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ

แต่ผมอยากเรียนคุณอภิสิทธิ์อย่างนี้นะครับ ว่าสิ่งที่เราประสบมาในการเมือง 30-40 ปี การที่ให้ระบบราชการ ซึ่งกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดเป็นระบบราชการนะครับ ได้ปฏิรูปหรือปฏิวัติตัวเอง หรืออภิวัติตัวเอง ที่เรียก ตุลาการภิวัตน์ ถ้าไม่ยืนอยู่ข้างประชาชนหรือให้ประชาชนมีส่วนร่วม หรือมีส่วนกำหนด ผมคิดว่าไม่สำเร็จ อันนี้ซิเป็นโจทย์ของคุณอภิสิทธิ์ ผมอยากจะฝากว่า คุณอภิสิทธิ์มองการเมืองภาคประชาชนอย่างไร

ผมมีคนรายงาน อันนี้พูดแบบที่ว่าเห็นใจคุณอภิสิทธิ์ หรือเรียกว่า ยกประโยชน์ให้จำเลยก่อนว่า คุณอภิสิทธิ์ยังมีน้ำเสียง หรือสำเนียง ไม่แน่ใจในเรื่องกระบวนการภาคประชาชน โดยเฉพาะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผมอยากรู้จริงๆ ว่าคุณอภิสิทธิ์มองการเคลื่อนตัวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างไร และทำให้เราได้สามารถทำให้เป็นเกราะ หรือเป็นเครื่องมือที่ตุลาการสามารถดำเนินไปได้ ตรงนี้คุณอภิสิทธิ์ให้ความสำคัญไหม เพราะฉะนั้นผมเรียนคุณอภิสิทธิ์เลยว่า ถ้าจะทำให้เกิดนิติธรรมและนิติรัฐ การเมืองทั่วโลกเขาไม่พึ่งพาการเมืองในระบบผู้แทนอย่างเดียวแล้ว เขาจะต้องเพิ่มอำนาจภาคประชาชน เรื่องการมีส่วนร่วม ตามรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 แต่อยากเรียนคุณอภิสิทธิ์ วันนี้รัฐธรรมนูญฉบับ 2550 และการเคลื่อนตัวของประชาชนในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ต้องการมีส่วนร่วมแบบเก่าเหมือนในรัฐธรรมนูญ 2540 เพราะมีส่วนร่วมแบบกำหนดไม่ได้ เพราะฉะนั้นรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2550 มันได้เพิ่มศักยภาพของการเมืองภาคประชาชนว่า มีส่วนร่วมกำหนดด้วย กำหนดนโยบาย กำหนดทิศทางทางการเมือง

เพราะฉะนั้นผมอยากเรียนคุณอภิสิทธิ์ว่า ผมอยากจะฟังจริงๆ ยังไม่เคยฟังเลย ว่าคุณอภิสิทธิ์มองการเคลื่อนตัวของการเมืองภาคประชาชน ซึ่งพัฒนามาตั้งแต่ปี 14 ต.ค.2516 มา 2522 มารัฐธรรมนูญฉบับ 2540 มารัฐธรรมนูญฉบับ 2550 มาจากกระบวนการ 14 ตุลา และพฤษภา 35 แล้วมากระบวนการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย การพัฒนามาเป็นลำดับอย่างนี้ คุณอภิสิทธิ์มองอย่างไร และจะยกระดับการพัฒนาศักยภาพของการเมืองภาคประชาชน ที่เรียกว่า การเมืองแบบมีส่วนร่วมและมีส่วนกำหนด คุณอภิสิทธิ์จะออกกฎหมาย และทำให้การเมืองภาคประชาชนเข้ามามีส่วนกำหนดทิศทางทางการเมืองมากขึ้น อย่างน้อยให้เสมอกับการเมืองภาคผู้แทน อันนี้อยากฟังความเห็นของคุณอภิสิทธิ์จริงๆ นะครับ

คุณอภิสิทธิ์บอกว่า จะเคารพกระบวนการและเจตนารมณ์การปกครองแบบประชาธิปไตย อันนี้ผมพูดไปแล้ว จะขยายความนิดหนึ่งว่า ความหมายคำว่า ประชาธิปไตยในการเมืองเก่า ก็คือการเลือกตั้งเท่านั้นแล้วปล่อยให้ผู้แทนทำงานไป แล้วก็บอกว่า ถ้าแน่จริงก็ลงมาสมัครรับเลือกตั้งรับเลือกตั้ง แต่ระบอบประชาธิปไตย ทั้งสากล ทั้งยุโรป และประเทศไทยได้เปลี่ยนไปแล้ว ว่าระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่อยู่ที่การเลือกตั้ง ซึ่งนักการเมืองไทย โดยเฉพาะพรรคไทยรักไทย หรือนักการเมืองรุ่นเก่ามักจะพูดประเด็นนี้ ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ผมอยากจะฟังคุณอภิสิทธิ์จริงๆ ในเรื่องนี้ว่า เห็นว่ากระบวนการประชาธิปไตยมันถูกตีความมากกว่ากระบวนการเลือกตั้ง และการมีส่วนร่วมของประชาชน และส่วนกำหนดของประชาชน ที่เรียกว่า การเมืองภาคพลเมือง คุณอภิสิทธิ์เห็นว่าอันนี้เป็นกระบวนการประชาธิปไตยหรือเปล่า ผมไม่อยากจะพูดเรื่องเก่านะครับ คนในพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มักจะมองเห็นการเคลื่อนตัวของประชาชนว่าเป็นการเมืองข้างถนน วันนี้ผมหวังว่า คุณอภิสิทธิ์ไม่ได้มองการเคลื่อนตัวของประชาชน ที่ชุมนุมอย่างสงบและสันติ เป็นการเมืองข้างถนน และเข้าใจว่า คุณอภิสิทธิ์คงจะยกระดับความคิดของตัวเอง เห็นว่า การเมืองภาคประชาชนก็คือการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่จำเป็น และมีส่วนที่จะต้องพัฒนาให้มากขึ้นในรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2550 ในมาตราที่เกี่ยวกับการพัฒนาทางการเมือง ได้พูดประเด็นนี้ไว้

เพราะฉะนั้นในการแถลงนโยบายที่จะเกิดขึ้นต่อไปในสภา รัฐธรรมนูญบังคับว่า นโยบายทุกนโยบายจะต้องโยงกับหมวดแนวพื้นฐานนโยบายของรัฐในรัฐธรรมนูญ ผมอยากให้คุณอภิสิทธิ์ทำตรงนี้ให้ชัด อย่าให้เหมือนคุณทักษิณ อย่าให้เหมือนพรรคไทยรักไทยที่โยงไปกับมาตราต่างๆ ในหมวดแนวพื้นฐานนโยบายของรัฐ โยงไปเป็นพิธีเท่านั้นเอง แต่ในกระบวนการจัดงบประมาณทั้งหมด โดยวิธีคิดของไทยรักไทยและคุณทักษิณทั้งหมด ไม่สนใจหมวดแนวพื้นฐานนโยบายของรัฐ ไม่สนใจการเมืองภาคประชาชนเลย อันนี้ผมอยากจะเห็นการเชื่อมโยงที่เป็นรูปธรรมและจับต้องได้ และถ้าให้จับต้องได้จริงๆ ก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ต้องประกาศว่า จะเสนอกฎหมายอะไรที่จะทำให้การขยายความเรื่องเจตนารมณ์การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ผมได้พูดไปแล้วมันเป็นจริงเป็นจัง เอายกตัวอย่างง่ายๆ รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 บอกประชาชนมีส่วนร่วมโดยการเข้าชื่อกัน 50,000 ชื่อแล้วเสนอกฎหมายเข้าไป แต่ปรากฏว่า สภาและรัฐบาล และพรรคการเมืองต่างๆ เสนอกฎหมายแข่งเลย นั่นก็คือไม่ยอมรับเจตนารมณ์ที่เข้าชื่อกันถึง 50,000 และแสนคน และการเลือกคนที่เสนอกฎหมายเข้าไป เข้าเป็นกรรมาธิการ ก็เป็นเสียงส่วนน้อย ทำให้กฎหมายที่ประชาชนเข้าชื่อกันเป็นแสนชื่อ บางฉบับเป็นล้านชื่อ ไม่มีทางผ่านสภาได้ อันนี้คุณอภิสิทธิ์ต้องทำความชัดเจนว่า การมีส่วนร่วมทางการเมืองในการเสนอกฎหมาย จะต้องประกาศออกมาว่า กรรมาธิการในสภา สัดส่วนของประชาชนที่เสนอกฎหมายจะเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ 1 ใน 3 ได้ไหม 1 ใน 2 ได้ไหม ในกรณีกฎหมายของประชาชน และรัฐบาลจะต้องบอกเลยว่า รัฐบาลจะไม่เสนอกฎหมายซ้อนกับกฎหมายที่ภาคประชาชนเสนอเข้าไป ผมอยากได้ความจริงใจตัวนี้ อยากได้ชัดเจน

ผมเท้าความหลังให้ฟัง ผมเคยพูดกับคุณจาตุรนต์ ฉายแสง สมัยนู้น พรรคไทยรักไทยใหม่ๆ เรามีความหวังว่าเขาจะให้โอกาสประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง ผมบอกให้พรรคไทยรักไทยประกาศมาเลยได้ไหมว่า ในกรรมาธิการที่เป็นโควตาของพรรคไทยรักไทยจะให้ประชาชนเข้าไปในสัดส่วนเท่าไหร่ สุดท้ายพรรคไทยรักไทยก็ไม่กล้าประกาศ วันนี้ผมท้าคุณอภิสิทธิ์ประกาศเรื่องนี้ไหม ตีความเรื่องประชาธิปไตยนี่อย่างไร

ต่อเรื่อง รักษาฟรีจะปรับปรุงให้ดีขึ้น อันนี้ผมเห็นด้วย แต่การรักษาฟรีที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น ผมเรียนคุณอภิสิทธิ์ด้วยความเคารพ ว่าในการรักษาพยาบาลในเรื่องสุขภาพอนามัย ตั้งแต่ปี 2522 เมื่อคุณรสนากับพวกทำเรื่องการรักษาทางเลือก หรือสมุนไพร ขึ้นมา จนเกิดกรมแพทย์ทางเลือกในกระทรวงสาธารณสุข ผมคิดว่าคุณอภิสิทธิ์ต้องพูดเรื่องนี้ให้ชัดเจนว่า การสนับสนุนให้เกิดการรักษาฟรีจะปรับปรุงให้ดีขึ้น ต้องปรับปรุงการรักษาดูแลสุขภาพ 2 ระบบ คือระบบที่เป็นพื้นบ้านระบบที่เป็นเอเชีย ระบบที่เป็นไทย ระบบสมุนไพร การนวดแบบเอเชีย หรือโยคะ คุณอภิสิทธิ์ต้องพูดให้ชัดว่าจะสนับสนุนตัวนี้ และมีงบประมาณมากขึ้น พร้อมๆ กับการดูแลเรื่องซีแอลยา อย่าบอกว่ารักษาโรคฟรีแล้วไม่กล้าสู้กับบริษัทยา ต้องกล้าสู้กับบริษัทยาในเรื่องสิทธิบัตรยา อันนี้ผมอยากให้คุณอภิสิทธิ์พูดให้ชัดในเรื่องนี้ เพราะคณะรัฐมนตรีที่มาจากรัฐบาลเก่า จากไทยรักไทย หรือพลังประชาชนเดิม มีแนวนโยบายที่ต่อต้านไม่สู้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ยา ในเรื่องสิทธิบัตรยา หรือเรื่องซีแอลยา เพราะฉะนั้นเรื่องการรักษาฟรีจะต้องโยงกับเรื่องนี้ คือทำยาให้มีราคาถูก อันนี้จำเป็น พร้อมๆ กับสนับสนุนการดูแลรักษาการแพทย์ทางเลือกให้ขยายตัวขึ้น มีงบวิจัยเรื่องนี้มากขึ้น ในเรื่องสมุนไพรทำอย่างจริงจัง อันนี้ผมอยากเห็นความชัดเจนในการเสนอนโยบายต่อสภา

รวมทั้งในเรื่องการศึกษาฟรีที่จะทำให้มีคุณภาพ อันนี้ก็เช่นเดียวกันนะครับ เหลือเวลาอีก 2-3 นาที การศึกษากับการแพทย์ ชัดเจนว่า สังคมไทยต้องการ 2 ทางเลือก การแพทย์ก็ต้องการ 2 ทางเลือก คือรักษาแบบตะวันตก แต่จะต้องไม่ขูดรีดไม่เอารัดเอาเปรียบ และการรักษาแบบตะวันออก นี่การแพทย์ทางเลือก การศึกษาก็เช่นเดียวกันครับ ผมยังไม่เคยเห็นคุณอภิสิทธิ์พูดเรื่องการศึกษาทางเลือกแล้วผมไม่รู้ว่ารัฐมนตรีที่คุณอภิสิทธิ์วางไว้ได้คิดถึงเรื่องนี้หรือเปล่า ตอนนี้ระบบการศึกษาในการปฏิรูปการศึกษา เป็นที่ชัดเจนว่า ปฏิรูปในกระทรวงศึกษาอย่างเดียวไม่สำเร็จ อันนี้ชัดเจน วันหลังผมจะมาพูดเรื่องนี้ให้ชัดเจน แต่จะต้องให้ประชาชนมีส่วนในการจัดการศึกษาเอง ที่เรียกว่า การศึกษาทางเลือก และให้ชุมชนมีส่วนจัดการศึกษาในชุมชนเองด้วย อันนี้ผมจะมาขยายความทีหลัง แต่วันนี้ตั้งเป็นปุจฉาไว้ก่อนว่า คุณอภิสิทธิ์ เห็นเรื่องระบบการศึกษา 2 ระบบหรือไม่ และจะวางนโยบายในการสนับสนุนการศึกษา 2 ระบบนี้อย่างไร ที่พูดมาทั้งหมดนี้ไม่ได้เกินขอบเขตรัฐธรรมนูญ คุณอภิสิทธิ์ลองไปอ่านรัฐธรรมนูญให้ดีในหมวดแนวพื้นฐานนโยบายของรัฐ และในหมวดสิทธิและเสรีภาพ ได้วางแนวเรื่องนี้ไว้แล้วว่า การศึกษาจะต้องมี 2 ระบบ คือระบบที่รัฐทำ กับระบบที่ประชาชนและชุมชนทำ

เอาละครับ เวลามีแค่นี้ ผมจะมาพูดขยายความในเรื่องนี้ต่อไป เพื่อให้การเมืองใหม่เป็นฝันที่เป็นจริง แล้วหน้าที่ของคุณอภิสิทธิ์ที่ได้จากการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็คือ ทำการเมืองใหม่ล้างการเมืองเก่า และถ้าจะทำได้สำเร็จ ต้องส่งเสริมการเมืองภาคประชาชนให้เข้มแข็ง มีส่วนร่วมและส่วนกำหนด ผมยังมีความหวังกับคุณอภิสิทธิ์ อย่างน้อย 1 ปี หลังจากนั้นถ้าหมดหวังแล้วค่อยมาว่ากันอีกที ขอบคุณครับ

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 19 ธ.ค. ช่วง 2

จินดารัตน์ - พี่น้องเอ๊ยยย (เอ๊ย) พี่น้องเอ๊ยยย (เอ๊ย) เสียงไม่ดังเหมือนที่เวทีเลย อีกทีนะคะ พี่น้องเอ๊ยยย (เอ๊ยยย) โห เยี่ยมๆๆ โห มากันหลายหมื่นคนนะวันนี้ เสียงประมาณนั้น ขอบพระคุณมากๆ เลยนะคะมาเป็นกำลังใจกันทุกวัน ไม่เหงา วันแรกๆ จัดรายการหงอย หันไปสองคนกับแอ้ม พี่น้องเอ๊ย เอ๊ยกันสองคน ดีค่ะบรรยากาศแบบนี้ มีหลายคนส่ง sms เข้ามาบอกว่า ขอห้องส่งใหญ่กว่านี้ได้ไหม เอ่อ คือว่าถ้าขอใหญ่กว่านี้ต้องซื้อตึกใหม่นะคะ กระจกยังไม่มีตังค์เปลี่ยนเลยค่ะ เอาเป็นว่ามีข่าวดีแย้มๆ มาพอสมควรว่า เราอาจจะมีเวทีชั่วคราวหน้าตึก ก็อาจจะเป็นได้นะคะ แล้วจะจุคนได้ประมาณ 100-150 คนค่ะ คราวนี้ล่ะ มีเวทีให้มาแล้วไม่มานี่นะจะโทร.ตามถึงบ้านเลยคอยดู

พี่น้องขา มาถึงเรื่องนี้นิดหนึ่ง เดี๋ยวแอนถามก่อน โฉมหน้า ครม.เป็นยังไงคะ ขี้เหร่ใช่ไหมคะ เมื่อวานถามคนบ้านบึงกลุ่มหนึ่งเขาบอกว่า ก็พอกล้อมแกล้ม ถูไถได้ แต่พอมาวันนี้นะ เราก็บอกว่าโอ้โห มันยี้ห้อย 100% เลย ไม่ใช่ยี้ห้อย 120 แล้ว พี่น้องขา แต่ว่ามันก็พิสูจน์ใจคุณอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเราได้พอสมควรนะคะ เพราะวันนี้นักธุรกิจ นักลงทุน พอเขาเห็นรายชื่อ ชื่อของคุณระนองรักษ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คุณพรทิวา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ โอ้โห เขาล้มหัวฟาดพื้นเลยค่ะ เป็นลมกันเป็นแถวเลยค่ะ จนสุดท้ายอะไรรู้ไหมคะ เนี่ย ความกล้า คือต้องกล้าบอกนายกฯ บอกว่า ท่านนายกฯ แบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ เศรษฐกิจเป็นแบบนี้มันรุมเร้ามากๆ จะเอาอย่างนี้แน่เหรอ อย่างนี้ไปไม่รอดนะ เดือนเดียวก็เอาไม่อยู่แล้ว ปรากฏว่าคุณอภิสิทธิ์ก็กล้านะคะ ก็ใช้ความกล้าในระดับหนึ่งไปต่อรอง คุยกับคุณระนองรักษ์ สุดท้ายยอมย้าย ย้ายไปกระทรวงไอซีที แต่กระทรวงพาณิชย์ ดิฉันมั่นใจว่าดิฉันทำได้ค่ะ คุณพรทิวาจากมัชฌิมาฯ คุณพรทิวา แกเป็นแอร์โฮสเตสนะคะ น้องตั้ม เมื่อเช้าน้องตั้มบอกว่า เอาอย่างนี้ดีกว่า ส่งไปโน่นเลยรัฐมนตรีคมนาคมดีกว่า ใช่ไหม เหมาะสมกว่า

สามีแกอยู่บ้านเลขที่ 111 และเป็นเจ้าของโพไซดอน รู้จักโพไซดอนไหมคะ คนบ้านบึงรู้จักไหมเนี่ย ทำหน้า เป็นสถานบันเทิงอย่างหนึ่งนะคะ ซึ่งเราก็ไม่ค่อยสบายใจ เพราะฉะนั้นเมื่อคุณอภิสิทธิ์กล้าในระดับหนึ่งแล้ว ฝากไปถึงผู้ประกอบการนักธุรกิจ คุณต้องกล้ามากกว่านี้ ถ้าคุณอยากให้ธุรกิจของคุณอยู่ได้ ผลประกอบการของคุณอยู่ได้ อยู่ได้แบบไม่ เอาล่ะ พอถูไถอยู่ได้ คุณต้องกล้าเดินเข้าไปหาท่านนายกรัฐมนตรีมากกว่านี้ แล้วยื่นคำขาดว่าท่านนายกฯ แบบนี้ไม่รอดแน่ๆ ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ ดูซิว่าคุณอภิสิทธิ์จะว่าอย่างไร ดูซิว่านักการเมืองอย่างคุณพรทิวา และพรรค จะเห็นแก่บ้านเมืองหรือไม่ พี่น้องคะปรบมือให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีหน่อยค่ะ

ท่านต่อไป ผู้ปราศรัยของเรา เสียงแหบตลอดกาลไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ อ.จำรูญ ณ ระนอง อาจารย์คะสวัสดีค่ะ

จำรูญ - สวัสดีครับ สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องครับ ถึงแม้ว่าเราจะหยุดจากทำเนียบฯ ไปแล้ว เสียงผมก็ยังคงเหมือนเดิมครับ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เพิ่มขึ้นในชีวิตนี้ ผมดีใจ ผมดีใจมากๆ ทุกสังคมจะมีทั้งคนดีและคนชั่ว และทุกสังคมจะมีทั้งคนโง่และคนฉลาด ทุกสังคมเป็นเช่นนี้ แต่สังคมไหนจะมีคนดีมากกว่าคนชั่ว หรือจะมีคนชั่วให้น้อยไปจนแทบจะไม่มีคนชั่วเลยนั้นก็ขึ้นอยู่กับการศึกษาของประเทศ คนที่จะจัดการศึกษาให้กับประเทศก็คือรัฐบาล รัฐบาลต้องมีความจริงใจในการที่จะพัฒนาคนไปสู่จุดมุ่งหวัง ก็คือคนที่มีความเฉลียวฉลาด รอบรู้ รู้ที่จะหาข้อมูล มิใช่รู้ที่จะเอาข้อมูลจากที่คนอื่นให้ ต้องรู้ที่จะหาข้อมูล เฉกเช่นพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ นี่ล่ะครับ

พ่อแม่พี่น้องครับ ผมดีใจมากๆ ที่ชีวิตนี้ของผมได้มาพบ ได้มาอยู่ ได้มานอน ในที่รโหฐานซึ่งเต็มไปด้วยบุคคลที่มีอุดมการณ์ และเป็นคนที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรม ที่ไม่เกรงกลัวต่ออันตรายใดๆ ไม่เกรงต่อผู้มีอำนาจที่จะกลั่นแกล้ง ไม่เกรงกลัวต่อผู้มีอำนาจที่จะทำร้ายแม้กระทั่งถึงชีวิต เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการที่เป็นคนที่เห็นแก่ส่วนรวม อยากเห็นส่วนรวมเจริญรุ่งเรือง อยากเห็นส่วนรวมมีความเป็นอยู่ อยากเห็นประชาชนมีความเป็นอยู่อยู่ดีกินดี นี่ล่ะครับคือวิญญาณ คือความต้องการของพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ที่ผมบอกตรงนี้ก็เพราะว่า บัดนี้สังคมของเราได้หยุด ได้จ้องที่จะมองอะไรอยู่ และในเวลาเดียวกันก็มีสติที่จะคิด คนที่เคยให้ร้ายป้ายสีพันธมิตรฯ ก็อ่อนแรงลงๆ ด้วยความจริงก็ปรากฏออกมา เมื่อความจริงปรากฏชัดออกมา ก็แน่นอนเจตนารมณ์อันดีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ทุ่มเทไปนั้นมันก็กระจ่างชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าเราไปทำความดีนั้นเป็นประโยชน์ต่อสังคม และขจัดไม่ให้คนชั่วมีอำนาจปกครอง และป้องกันที่จะไม่ให้คนที่มีกิเลส มีอำนาจ แต่ถึงจะกันอย่างไร ด้วยลักษณะของการปกครองแบบประชาธิปไตย แบบเมืองไทยปัจจุบันนี้ เราก็สามารถทำได้เพียงแค่นี้เท่านั้นเอง พ่อแม่พี่น้องครับ

แต่ก็ยังไม่สาย ในเมื่อเรามีการปกครองแบบประชาธิปไตย ก็ต้องบอกเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้ว่า ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น ที่เหมาะสมกับประเทศไทยนั้น มิใช่ประชาธิปไตยในวันที่มีการเลือกตั้งแต่เพียงวันเดียว เฉกเช่นที่ผ่านมาใน 7-8 ปีที่ผ่านมาครับ

นี่คือเรื่องปัญหาใหญ่ที่คุณอภิสิทธิ์ ซึ่งคุณอภิสิทธิ์ เป็นความหวังของคนทั้งประเทศ คนทั้งประเทศที่มีเจตนาดี ที่ไม่ต้องการที่จะเห็นคนไทยดีๆ ต้องเสียชีวิต เลือดเนื้อ เพียงเพื่อตอบสนองกิเลสให้กับบุคคลที่มีอำนาจทางการเมือง บุคคลที่มีอำนาจในรัฐบาล เพียงเพื่อเขาจะรักษาผลประโยชน์และอำนาจของเขา และได้ใช้ข้าราชการ ตำรวจ ทำร้ายประชาชนที่ผ่านมา อันนี้คุณอภิสิทธิ์ก็คงจะเข้าใจ และคงจะรู้ว่าธาตุแท้ที่เกิดปัญหามาตลอดนั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มิได้เป็นคู่กรณีกับใครเลย พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีความปรารถนาอย่างเดียวคือ มาทำหน้าที่ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ เพราะฉะนั้นจึงไม่เคยคิดที่จะไปทำร้ายใครเลย แต่เหตุการณ์เลือดตกยางออก และถูกบุคคลที่ให้ร้ายป้ายสี หาว่าเราไปปะทะกับบุคคลอื่นนั้น ไม่จริงเลยครับ เขามาทำร้ายเราต่างหาก มิใช่เราไปปะทะกับเขาเลย แม้แต่เรานอนอยู่เขาก็ยังโยนและยิงระเบิดมาใส่ ซึ่งผมเจ็บช้ำน้ำใจอยู่จนทุกวันนี้ แผลนี้ไม่มีทางรักษาหาย เพราะคนที่ทำร้ายตำรวจยังจับไม่ได้ แต่แน่ๆ ตำรวจให้ร้ายว่าพวกเราทำกันเอง

เพราะฉะนั้นแผลตรงนี้รัฐบาลใหม่จะต้องแก้ไขปัญหาตรงนี้ คุณอภิสิทธิ์ครับ คุณอภิสิทธิ์ขึ้นมาเป็นรัฐบาล ทุกคนก็ฝากความหวัง แต่ผมนั้น ผมไม่ได้ฝากหรอกครับ เพราะผมรู้ว่าคุณอภิสิทธิ์ถึงจะทำอย่างไร ก็มีขีดจำกัดที่จะทำ เพราะฉะนั้นการเมืองใหม่ที่หวัง ที่เราใฝ่ฝัน ผมก็คาดว่ายังจะไม่เห็นในรัฐบาลชุดนี้แน่นอนครับ

เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า รัฐบาลประชาธิปัตย์ที่ได้เป็นนั้น ประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้เป็นรัฐบาลอย่างจริงจัง ก็มีคราบของรัฐบาลเก่ามาผสมอยู่อีกจำนวนมาก และคราบของรัฐบาลเก่าที่มาปะปนอยู่นั้น กิตติศัพท์ ประวัติ เราเป็นคนไทยที่เก็บข้อมูล ก็พอจะรู้ว่าได้ทำอะไรไว้บ้างในแผ่นดินไทยนี้

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พวกเราทั้งหลาย รวมทั้งผม ผมนี่เป็นคนที่ยึดมั่นอยู่ว่า ผมเป็นครู ผมจึงเปิดโอกาสให้คนทั้งหลายได้มีการที่จะพัฒนาและถ้าใครที่เคยทำผิดพลาด ก็เปิดโอกาสให้มีการแก้ไข ผมจึงพูดบนเวทีหลายครั้งว่าแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ผมก็หวังเหมือนกันว่า จะได้เห็นรัฐบาลในชุดนี้ที่มาจากรัฐบาลในชุดเก่า มาจากพรรคร่วมรัฐบาลชุดเก่า ที่มาเป็นรัฐบาลในชุดนี้ ผมก็ยังหวังว่าท่านน่าจะแก้ไขสิ่งผิด จะต้องแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด แต่นั่นก็คือความหวัง จะสัมฤทธิ์ผลจริงนั้นคงยาก แต่การปกครองแบบประชาธิปไตยภายใต้ผู้นำ ถ้าผู้นำคือคุณอภิสิทธิ์ คุณหนักมากครับ เพราะคุณเข้ามาในจังหวะนี้ เพราะฉะนั้นคุณอภิสิทธิ์ครับ คุณจะต้องสร้างกรอบ ไม่ให้นักการเมืองเก่าเหล่านั้น รัฐบาลเก่าที่มาร่วมเหล่านั้น ออกนอกลู่นอกทาง หรือปฏิบัติเฉกเช่นที่อยู่ในรัฐบาลเก่า

การที่จะทำตรงนี้ได้นั้น ก็คือจะต้องมีกฎ แนวทาง และจะต้องมีการควบคุมดูแล กำกับ เพราะฉะนั้นคุณอภิสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์เอง กรรมการบริหารพรรคเอง ซึ่งมีคนที่มีคุณภาพเยอะแยะ แล้วไม่ได้เป็นรัฐมนตรีนั้น ก็เรื่องเหล่านี้ก็จะต้องยอมรับและไปแก้ไขกันเองในพรรคประชาธิปัตย์ เพราะคุณรับอาสาทางการเมืองมาแล้ว แต่แน่ๆ จะต้องสร้างกฎเกณฑ์เพื่อที่จะไม่ให้คณะรัฐบาลของคุณเหล่านั้นปฏิบัตินอกลู่นอกทาง สิ่งที่เราใฝ่ฝัน สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เคยมีชื่อเสียง ก็คือ เกี่ยวกับเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ถึงแม้ประชาธิปัตย์เคยถูกคว่ำเกี่ยวกับเรื่อง ส.ป.ก.-401 นั่นก็เพียงเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคุณเข้ามาเป็นรัฐบาลภายใต้เหตุการณ์นองเลือด ซึ่งประชาชนคนดีๆ ต้องเสียเลือดเนื้อและชีวิตไปนั้น คุณจะต้องสร้างเกราะให้เข้มแข็ง อย่าให้คนเหล่านั้นปฏิบัตินอกลู่นอกทาง เพราะฉะนั้นจึงเป็นความยากของคุณที่คุณจะต้องทำ และพรรคประชาธิปัตย์ต้องทำด้วย พรรคประชาธิปัตย์คุณเคยอยู่ภาคใต้ ส.ส.เคยไปเยี่ยมเวลามีคนตาย ส.ส.ประชาธิปัตย์ไม่ร่ำรวย แต่ร่ำรวยก็มี ไปทำบุญงานศพ เงินไม่ได้มากหรอกครับ 100 เจ้าของงานศพก็ดีใจ บอกว่า ขอเพียงมาก็ดีใจแล้ว แต่งงานก็ไม่ต้องให้เงินเยอะ เพราะรู้ว่า ถ้า ส.ส.คนไหนที่ให้เงินเยอะ ทั้งๆ ที่ตัวเองเคยลำบากยากจนมาก่อน เงินเหล่านั้นโกงแผ่นดินมาทั้งนั้น เขาไม่ต้องการครับ เพราะฉะนั้น ส.ส.คนใดที่อวดร่ำอวดรวย ใช้จ่ายเงิน เงินนั้นถ้าคุณหามาด้วยสุจริตไม่มีใครว่า แต่ตัวคุณรู้ว่าทุจริตมาหรือไม่ เมื่อทุจริตมาอย่าเอาเงินบาปนั้นไปให้คนอื่นหรอกครับ คนไทยเขาไม่อยากได้เงินบาป เพราะฉะนั้นจงอย่าทำบาป เป็นคนดี ปฏิบัติ เป็นคนดีเพื่อให้บ้านเมืองของเราเจริญไปสู่จุดมุ่งหวัง และรากหญ้าทั้งหลายที่พวกคุณไปหลอกเขามา ไปหลอกเขามา ไปซื้อเสียงเขามา และตัวคุณเองนั้นนิยมในการซื้อคน และขายตัว คุณก็เลยคิดว่าประชาชนทั้งหลายต้องการหยิบยื่นเงินไปให้เขาแล้วไปซื้อเขามา โดยไม่ให้เหลือความเป็นคนมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคนที่ต้องขายเพียงเพื่อที่จะแลกเอาเงินไปใช้จ่ายในชีวิตเพียง 1 วัน 2 วัน อย่างเก่งก็ 15 วัน เงินนั้นก็หมด ผลสุดท้ายก็ให้พวกนักการเมืองขี้ฉ้อ มาโกง ร่ำรวย แล้วมาเที่ยวดูถูกประชาชนว่า โง่ เขาหลอกได้

พ่อแม่พี่น้องครับ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขมขื่น เราจึงมารวมกันอย่างนี้ พ่อแม่พี่น้อง ผมจึงบอกว่า ผมนับถือในน้ำใจ และผมดีใจที่ผมได้มาพบพ่อแม่พี่น้อง ชีวิตนี้คนเราเกิดมาดีที่สุดก็คือ คบกับคนที่มีคุณธรรม คบกับคนดี คนเห็นกับประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว นับว่าเป็นคนที่ประเสริฐเลิศแล้ว ใครได้คบกับบุคคลเหล่านี้ ที่เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว นับว่าเป็นบุญ ผมเป็นคนที่มีบุญ ก็ต้องขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ ที่ให้ผมได้พบ และผมได้มีชีวิตร่มรื่น ที่ได้เจอคนดีๆ เฉกเช่นพ่อแม่พี่น้องครับ

และสิ่งเหล่านี้ ขอให้นักการเมืองทั้งหลายช่วยหยุดคิดสักนิดเถอะว่า เงินที่โกงมาคุณได้ใช้สักกี่ตังค์ คุณโกงมาเป็นร้อยล้าน คุณโกงมาเป็นสิบล้าน เห็นว่าคราวนี้มีการรับกัน 5 ล้าน บวก 20 ล้าน ถ้าไม่งั้นก็จะอีก 50 ล้าน พ่อแม่พี่น้องครับ ส.ส.ซื้อขายกันได้ก็น่าละอาย เพราะสิ่งที่ขายได้ก็คือวัวควายเท่านั้นละครับพ่อแม่พี่น้องเอ๊ย คนซื้อขายไม่ได้ พ่อแม่พี่น้องครับ

คุณอภิสิทธิ์ผมเห็นใจ คุณเข้ามาในภาวะเศรษฐกิจโลกก็แย่ สังคมก็แตกแยก แต่แน่ๆ สังคมนั้นเห็นชัดว่า คนบางกลุ่มเป็นคนที่อหิงสา ยึดมั่นอยู่ในอหิงสา ไม่นิยมความรุนแรง คำพูดเวลาพูดบนเวที บางครั้งอาจจะรุนแรง เพราะในขณะที่พูดก็นึกไม่ถึงว่า คนที่เราพูดลักษณะอย่างนั้นมันยังเหลืออยู่ในโลกอีกหรอ แล้วแถมในโลกนั้นมันเป็นโลกที่อยู่ในประเทศไทยด้วย มีคนอย่างนั้นมันจึงมีอารมณ์ พูดแล้วเสียงเลยดังๆๆ พ่อแม่พี่น้องครับ แต่โดยธาตุแท้เขาไม่ได้เป็นคนกร้าวร้าวหรอกครับ ผมก็เหมือนกันครับพ่อแม่พี่น้อง ปกติผมสอนลูกศิษย์ผมจะเปิดโอกาส เพราะฉะนั้น ส.ส.คนไหนที่ผิดพลาดไป กลับเนื้อกลับตัวซะเถอะครับ สังคมนี้ยังน่าอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองไทย เมืองไทยที่มีพระมหากษัตริย์ที่เป็น King The King of The King ทั่วโลกยกย่องให้เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกครับ ก็เดินรอยตามรอยพระบาทหน่อย

พ่อแม่พี่น้องครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ เมื่อคุณเข้ามาในสภาวะที่บ้านเมืองแย่ คนแตกต่างกันอย่างมาก ในขณะที่กลุ่มหนึ่งก็น่าสงสารเขา ที่เขามีความคิดผิด การกระทำที่ผิด เขาเอาความรุนแรงนำหน้าตลอดเวลาเลย น่าสงสารเขา จะต้องหาทางให้คนเหล่านั้นปรับพฤติกรรม ให้เขาปรับพฤติกรรมเสีย โดยที่เราไม่ให้เขาตกเวทีไปไหน เพราะเขาก็คือคนไทยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นใครที่เคยใช้ความรุนแรง ไม่ได้ดั่งใจก็เอาก้อนหินทุบ ปืนยิงบ้าง สิ่งเหล่านี้ต้องหาทางให้เขาได้แก้ไขเสียเถอะครับ เราเป็นเมืองพุทธ เราเป็นคนไทย และศาสนาอื่นๆ ในประเทศไทย ก็ล้วนแล้วแต่อยากเห็นคนเป็นคนดีทั้งสิ้น พ่อแม่พี่น้องครับ คนเหล่านั้นต้องเปิดโอกาสให้เขากลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี อย่าเตะเขาไปไหน เพราะเขาก็คือคนไทย แล้วเขาเป็นคนที่น่าสงสาร พ่อแม่พี่น้องดูหน้าตาเขาซิครับ เวลาเขาไปทุบรถ ทั้งๆ ที่รถนั้นไม่ได้ทำอะไรเขาเลย และเขาไปทำร้าย ผิดกับพวกเรา นั่งยกมือไหว้ขอร้อง บอกว่าอย่าทำร้ายเลย และแล้วแก๊สน้ำตา รวมทั้งระเบิดแก๊สน้ำตา และปืน มีทั้งลูกปืนและระเบิดมาใส่ คนที่ทำนั้นก็ชั่งน่า คนนั้นใจดำเหลือเกิน บัดนี้สังคมมาถึงบัดนี้ คนเหล่านั้น คุณกลับไปนั่งคิดบ้างไหม ว่าที่คุณได้ทำไปนั้นมันบาปสิ้นดี ก็แก้เนื้อแก้ตัวเสียเถอะครับ กลับเนื้อกลับตัวเสียเถอะ มันไม่สายหรอกครับ คนเราจะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด คนไทยทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอเพียงแต่ให้คุณปฏิบัติให้เห็นกับส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนตัวของคุณ และทำงานเพื่อประเทศ เล่นการเมืองเพื่อความผาสุกของประชาชนทั้งปวง ไม่แยกเป็นภาคใต้หรือภาคอีสาน สิ่งเหล่านั้นเขาต้องการ เพราะฉะนั้น ประชาธิปัตย์ คุณได้เป็นรัฐบาล คุณไม่ต้องไปโปรภาคใต้อย่างเดียวหรอกครับ คุณโปรทุกภาคเลยครับให้เหมือนๆ กัน และถ้าคุณเอาไปให้คนใต้โดยที่ไม่ได้ให้คนอื่น ภาคอื่น คนใต้ก็ไม่ภูมิใจที่จะรับหรอกครับ และก็หวังว่า คนภาคอื่นที่เคยได้รับในขณะที่คนใต้ไม่ได้รับ ก็คงจะแก้ไขสิ่งเหล่านั้นเสียเถอะครับ เพราะเราเป็นคนไทย ไม่มีเหนือไม่มีใต้ไม่มีอีสาน เรามีคนไทย ประเทศไทย จังหวัดในประเทศไทยเท่านั้นไม่ใช่จังหวัดในเขมร ไม่ใช่จังหวัดในกัมพูชาครับ

เพราะฉะนั้นสิ่งที่พวกเราได้เรียกร้องไว้ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งดีต่อประเทศทั้งสิ้น คุณอภิสิทธิ์คุณต้องเหนื่อยแน่ คุณเหนื่อย แต่ถ้าคุณทำ แม้จะไม่ได้ดังที่เราคิด เพราะไม่มีทางที่จะได้ดังที่เราหวัง แต่แน่นอน ต้องดีกว่าเดิม และแน่นอน จะต้องปรับพฤติกรรมด้วยกฎระเบียบที่คุณตั้ง และการติดตามควบคุมดูแล กำกับ และกฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ คนผิดต้องถูกลงโทษ คนผิดอย่าไปก้าวก่าย อย่าไปก้าวล้ำอำนาจศาล ในการที่จะช่วยคุ้มครองคนเหล่านั้น ถ้าเขาผิดก็ให้เขาผิดไปตามกฎหมายอาญาบ้านเมือง และถ้าหากว่าใครผิด อย่าไปช่วยเขา พ่อแม่พี่น้องครับ ถ้าคุณอภิสิทธิ์ทำสิ่งเหล่านี้ได้ บ้านเมืองก็น่าจะดีขึ้น เพราะนักการเมืองกำลังดูอยู่ว่า ถ้ากฎหมายศักดิ์สิทธิ์ คนชั่วทำแล้วหนีไม่พ้นกฎหมายบ้านเมือง คนเหล่านั้นก็จะเกรงกลัวไปเอง เพราะฉะนั้นนอกจากมาตรการในการควบคุมดูแลกำกับแล้ว พวกเราก็จะดูแล ควบคุมกำกับด้วย พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะไม่ยอมในการที่จะควบคุม จะควบคุมรัฐมนตรีทุกคน และรวมทั้งควบคุมคุณอภิสิทธิ์ด้วย ว่าคุณนั้นได้ทำตามที่คุณพูดได้หรือไม่ และถ้าคุณทำไม่ได้นั้น มีเหตุแห่งการทำไม่ได้มากน้อยแค่ไหน แต่แน่ๆ ถ้าไม่ดีกว่าเดิม ประชาธิปัตย์ล่มภายใต้มือของคุณอภิสิทธิ์แน่นอนครับ และเมื่อนั้นการเมืองใหม่ก็จะเกิดขึ้น และเมื่อนั้นคนจะเสียชีวิตอีกเยอะก่อนจะเข้าสู่หลักแห่งการเปลี่ยนแปลง เพราะเขาบอกว่าการเปลี่ยนแปลงนั้น พวกคอมมิวนิสต์เขาบอกว่าจะเปลี่ยนแปลงได้ต้องเสียเลือดเนื้อ แต่แกนนำ 5 พันธมิตรฯ บอกเปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่ยอมเห็นเลือดเนื้อและชีวิต นี่คือคุณธรรมของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต้องตอบสนองให้สำเร็จนะครับ คุณอภิสิทธิ์แล้วเราจะติดตามคุณครับ ขอบพระคุณครับ













กำลังโหลดความคิดเห็น