“เติ้ง” แนะ “มาร์ค” เร่งฟื้นเศรษฐกิจ หารือ กรอ.เรียกความเชื่อมั่นต่างชาติกลับคืนโดยเร็ว ฉวยโอกาสใช้เวทีอาเซียนแจงสมาชิก ไทยฟื้นแล้ว ยาหอม “มาร์ค” ยังหนุ่ม มั่นใจอายุ รบ.ไม่สั้น หาก ส.ส.รู้หน้าที่ เชื่อเพื่อนเนวินไม่สร้างปัญหา เพราะไปที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ชี้ ปชป.ไม่มีเพื่อนเนวินก็ตั้ง รบ.ไม่สำเร็จ
วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่พรรคชาติไทยเดิม นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภาโหวตได้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ในยามภาวะที่บ้านเมืองเป็นอยู่ขณะนี้ ไม่ว่าใครจะขึ้นมาก็มีปัญหา เพราะปัญหาสั่งสมมาตั้งแต่ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศษฐกิจ โดยเฉพาะผลจากการปิดสนามบิน ทำให้เศรษฐกิจแย่มาก เกิดภาวะชะงักงัน การท่องเที่ยวแย่ตามไปด้วย ซึ่งเป็นภาระของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ต้องเร่งกอบกู้เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาให้เร็วที่สุด เพราะภาวะเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ ต้องสร้างความมั่นใจให้แก่ต่างประเทศว่าปัญหาภายในประเทศไม่มีปัญหาแล้ว การประชุมอาเซียนที่จะมีขึ้นจึงต้องอาศัยเวทีนี้ชี้แจงให้สมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศให้เข้าใจว่าบ้านเมืองเราเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
“ต้องยอมรับว่าปัญหาไม่ใช่เรื่องที่จะแก้กันได้ง่ายๆ ใครขึ้นมาก็แก้ยากมาก ซึ่งผมก็ให้กำลังใจ เพราะประชาชนทั้งหลายและภาคธุรกิจอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงบ้าง ลองดูสิว่าทางนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ค่อยมาว่ากันอีกที เพราะเดิมอย่างพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ก็มาดูว่าประชาธิปัตย์เข้ามาจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ และอยากเห็นการแก้ปัญหาความขัดแย้ง เพราะต่างฝ่ายต่างมีความเห็นไม่ตรงกัน มันยากที่จะแก้ปัญหา แต่ผมให้กำลังใจ เพราะถือว่าท่านเป็นคนหนุ่ม อายุ 44 เองแต่การที่เข้ามาเป็นนายกฯต้องทำใจให้กว้าง ฟังความทุกฝ่าย และเอาข้อมูลต่างๆนั้นมาตัดสินใจ ว่าอะไรถูกอะไรผิด ต้องฟังคำปรึกษาจากคนมากๆ อย่าฟังแค่คนรอบข้างอย่างเดียว มันไม่ได้” นายบรรหาร กล่าว
นายบรรหาร กล่าวว่า สิ่งที่ตนอยากเห็นมากที่สุดคือ นายกรัฐมนตรีควรเร่งรัดเรียกประชุมคณะกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือ กรอ.โดยเร็วเพราะนายกฯเป็นประธาน เพื่อรับฟังความคิดเห็นของทั้งภาคธุรกิจ และราชการว่าเขามีความต้องการกันอย่างไร ภาครัฐรับได้หรือไม่ ควรรับฟังและแก้ปัญหาทันที
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการวิจารณ์ว่า ครม.อภิสิทธิ์ 1 นายบรรหาร กล่าวว่า เชื่อว่าไม่มีปัญหา เพราะส่วนใหญ่รัฐมนตรีจะอยู่ที่ประชาธิปัตย์ และตัวเลือกภายในพรรคเขาก็มีมากซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะหน้าตา ครม.เศรษฐกิจที่ภาคเอกชนเขาเป็นห่วง อาทิ คลัง พาณิชย์ อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกระทรวงที่สำคัญที่สุด จึงต้องพิจารณาคนที่มีความรอบรู้ในแต่ละด้าน ซึ่งการหาตัวนั้นคงยาก ไม่ง่าย และเท่าที่ดูในประชาธิปัตย์เองก็มีคนที่เหมาะสม ทั้งคลัง พาณิชย์
เมื่อถามถึงกรณีที่มีความเป็นห่วงว่ามีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคหลายกลุ่มยิ่งจะทำให้เกิดความขัดแย้งในการตั้ง ครม. นายบรรหาร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคร่วมที่จะไปบริหารกันเอาเอง อย่างพรรคเพื่อแผ่นดิน ต้องไปหารือกันภายในเองเพราะเขามีหลายขั้ว ส่วนพรรคอื่นมีไม่กี่ขั้ว ส่วนมองว่ากลุ่มเพื่อนเนวินจะทำให้เกิดปัญหาตั้ง ครม.ได้ยากนั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะตรงนี้ถือเป็นที่สุดท้ายที่เขาจะอยู่ เพราะไปที่ไหนอีกไม่ได้แล้ว ดังนั้นต้องทำให้ดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเขาคงรู้ตัว เพราะคราวนี้ที่สำเร็จได้เพราะก็ได้กลุ่มเพื่อเนวินนี่แหละที่เข้ามา แม้พรรคร่วมที่มีอยู่ก็ไม่เพียงพอ เพราะในพรรคร่วมเองก็ถูกดึงไปจำนวนมาก อย่างตนก็ต้องนั่งเฝ้าตลอดเวลา แต่ที่เราจะไปดึงเขามาคงไม่มี มีแต่เขามาดึงของเราตลอดเวลา
เมื่อถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะมีการปิดล้อมสภาในวันแถลงนโยบายรัฐบาล นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงดูแลสถานการณ์เป็นอย่างดี ไม่ปล่อยให้ซ้ำรอย ส่วนที่มีการขว้างปาทำลายรถยนต์ของ ส.ส.เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้นคงเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงมากเกินไป จึงได้แต่เข้าไปห้ามปรามเท่านั้น แต่ยังถือว่าดีกว่าไต้หวันเพราะยังไม่ไปขว้างปากันถึงในสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจัยทางการเมืองที่จะเป็นปัญหาต่อการบริหารรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า เรื่องการเมืองนั้นนายกรัฐมนตรีต้องดูทางพรรคฝ่ายค้าน พรรคร่วมรัฐบาลกันเองคงไม่มีปัญหา เพราะฝ่ายค้านเขาต้องจับตาการทำงานของรัฐบาล หากทำไม่ดีคงถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งอาจเป็นปัญหาได้
เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังมีท่าทีไม่ยอมรับผลการโหวตให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่ว่าฝ่ายไหนที่เข้ามา อีกฝ่ายหนึ่งที่เป็นฝ่ายตรงข้ามย่อมไม่ยอมรับ เป็นเรื่องปกติ เป็นธรรมชาติ อย่าไปคิดอะไรมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้นถือเป็นปรากฏการณ์อย่างหนึ่ง เพราะมีการต่อสู้กันในสภาอย่างเต็มที่ เมื่อก่อนชนะกันขาดลอย 70-80 เสียง แต่ครั้งนี้ห่างกันไม่มากเท่าไร จึงต้องพยายามดูแลกันให้ดี
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายวิจารณ์ว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์อาจจะมีอายุสั้น นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่สั้น ยาวแน่ โดยเฉพาะผู้แทนฯ ต้องรู้จักทำหน้าที่ในสภา อย่าเดินทางไปดูงานในต่างประเทศมากนัก เพราะมีการประชุมสภานัดที่สำคัญก็ไม่ควรไปไหน และถ้าทุกคนรู้จักทำหน้าที่ก็อาจจะอยู่ครบเทอม เพราะทุกคนต่างอยากอยู่ครบเทอมทั้งนั้น