xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อไทย” โยนบาปทหาร เอาสถาบัน มาอ้างจัดตั้ง รบ.-มีมติหนุน “ประชา” นั่งนายกฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เพื่อไทย” ครวญ ถูกทำทุกวิถีทางเพื่อให้หายไปจากแผ่นดิน ปูดทหารเอาสถาบันมาอ้าง จัดตั้งรัฐบาล รุมอัด ทหารทำเกินหน้าที่ สับ “มาร์ค” นายกฯ ของ คมช. ขณะเดียวกันมีการคุมเข้ม ส.ส.ใกล้ชิดวันโหวตเลือกนายกฯ พร้อมมีมติเบื้องต้นหนุน"ประชา"หน.เพื่อแผ่นดินเป็นนายกฯ

วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พร้อมด้วย พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน และนายไพจิตร ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีทหารเข้ามาแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาล โดยนายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ระบุว่า แผนบันได 4 ขั้นของคมช.ขณะนี้มาถึงขั้นสุดท้ายแล้ว หลังจากที่ 19 ก.ย.2549 มีการยึดอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญเผด็จการ จากนั้นตามด้วยยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน มาวันนี้พรรคเพื่อไทยก็ยังถูกติดตามว่าจะเข่นฆ่าให้ได้ ตนได้ฟังจากเพื่อนส.ส.ที่ออกจากพรรคไปว่า ถ้าหากยังอยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะเอาตัวไม่รอด เขาจะทำทุกวิถีทางให้พรรคเพื่อไทยหายไปจากแผ่นดินนี้ให้ได้

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า การทำงานของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่ม 40 ส.ว.ล้วนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน สอดรับกัน ในวันที่ 15 ธ.ค. หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้ ก็จะเป็นความสำเร็จขั้นสุดท้าย โดยมีส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินทำให้ขั้นสุดท้ายประสบความสำเร็จ และเราจะได้รัฐบาลที่เป็นพวกเดียวกับคมช.

“ทันทีที่ผมเห็นภาพ 2 คนนี้กอดกัน(นายอภิสิทธิ์ และนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย) ตนได้รับโทรศัพท์มากมายจากประชาชน ซึ่งความพยายามจัดตั้งรัฐบาลนั้นมีเรื่องที่สำคัญ 2 เรื่องคือ การแทรกแซงของทหารในการเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจากความเป็นเพื่อนกับส.ส.ที่ออกจากพรรคเพื่อไทยไปทำให้เราทราบมาว่า ทหารเข้ามาแทรกแซงอย่างไรบ้าง ซึ่งความผิดพลาดของประชาธิปัตย์คือการเข้าหาทหารเพื่อให้ช่วยตั้งรัฐบาล” ส.ส.ยโสธร กล่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า ทหารจากส่วนกลางบางส่วน โดยเฉพาะผบ.ทบ. และพวกกำลังใช้สถาบันเป็นข้ออ้างว่าต้องการที่จะเห็นรัฐบาลแบบนี้ มีคนถามว่าแล้วถ้าหากมีกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาคัดค้านจะทำอย่างไร ก็มีการระบุว่า บอกให้เขารู้สิว่ากำลังสู้กับใคร ตรงนี้กำลังทำให้ประชาชนกับสถาบันขัดแย้งกันมากยิ่งขึ้นจนพวกเราทนต่อไปอีกไม่ได้

ด้าน พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้นำเหล่าทัพบางคนแอบอ้างสถาบันมาข่มขู่นักการเมือง พรรคการเมืองให้จัดตั้งรัฐบาลตามที่ต้องการ ในฐานะกองทัพของชาติ ของพระมหากษัตริย์ และของประชาชนถือว่าการที่ผบ.เหล่าทัพพูดแบบนั้นเป็นการเสื่อมเสียอย่างยิ่ง ผู้นำเหล่าทัพบางคนพูดชัดว่าถ้าไม่จัดตั้งรัฐบาลอย่างที่คิดจะมีการทำรัฐประหารเกิดขึ้น และอาจจะมีการปราบประชาชนที่ไม่เห็นด้วย ตรงนี้เชื่อว่าทหารส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย และผู้นำเหล่าทัพจะปราบประชาชนไม่ได้ มีแต่ประชาชนจะปราบผู้นำเหล่าทัพที่นอกลู่นอกทาง

นายชวลิต กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.) เวลาประมาณ 13.00 น. นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนมม กลุถ่มเพื่อนเนวิน โทรหาทีมงานของตนถึงเหตุผลที่ต้องไปร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่รับไม่ได้คือ การเอาสถาบันมาเกี่ยวข้องกับการเมือง อีกทั้งเช้าวันนี้(12 ธ.ค.) ตนได้ประสบด้วยตัวเองด้วย โดยได้คุยกับนายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ส.ส.สัดส่วน กลุ่มเพื่อนเนวิน ถึงเหตุผลที่จะต้องไปร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้รับเหตุผลที่รับไม่ได้ว่า “รู้ไหม สู้เท่าไหร่ก็ไม่ชนะ เพราะสถาบันอยู่ตรงนี้” ตรงนี้คนไทยรับไม่ได้ เพราะพระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมือง หากทั้ง 2 ท่านคิดว่าที่ตนพูดไม่เป็นความจริงก็ขอให้ออกมาปฏิเสธ

“สถาบันเปรียบเหมือนพ่อแม่ของคนทั้งชาติ ท่านไม่มีทางมาเล่นการเมืองด้วยตัวเอง เพราะท่านอยู่เหนือการเมือง” นายชวลิต กล่าว

ขณะที่ นายไพจิตร กล่าวว่า พวกตนจะตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือต้องจงรักภักดี เทิดทูลสถบันสุดชีวิต ขณะเดียวกัน กองทัพก็ต้องไม่ทำเกินหน้าที่จนระบอบประชาธิปไตยต้องเสียหาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทหารจากส่วนกลางที่กล่าวอ้างนั้น บอกได้หรือไม่ว่าชื่ออะไร พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า สื่อมวลชนก็ทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นใคร ขอใช้คำว่าผู้นำเหล่าทัพแล้วกัน การเอ่ยถึงพระมหากษัตริย์นั้นกระทำเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ และต้องเอ่ยถึงพระจริยวัตรที่งดงามของพระองค์ท่านเท่านั้น หากไปอ่านบทวิเคราะห์ของสื่อต่างประเทศ วันนี้เขาวิจารณ์เราหนักมากถึงการแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาล เป็นการทำให้ประเทศถอยหลัง

ส่วนจะมีการดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ นายชวลิต กล่าวว่า ถ้าเขามีสำนึกก็ต้องออกมาปฏิเสธ เพราะเราใช้สังคมกดดันไปในตัว

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 12 ธ.ค. พรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมเพื่อซักซ้อมการลงมติในการประชุมสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 ธ.ค. โดยนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เป็นประธานในการประชุม ซึ่งมี ส.ส.แต่ละภาคเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ได้มีการแบ่งหน้าที่และสัดส่วนในการกำกับดูแล ส.ส.อย่างใกล้ชิดในแต่ละภาค โดยเบื้องต้นพรรคมีมติชัดเจนแล้วว่าจะโหวตเลือกให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อนแผ่นดิน เป็นนายกรัฐมนตรี

ส่วนจะเลือกอย่างไรนั้นจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าอาจมีส.ส.งดออกเสียงกันพอสมควร ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะเช็กจำนวน ส.ส.ก่อน หากครบและพร้อมเมื่อไหร่จึงจะเข้าประชุม และเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็คงเช็กเสียง ส.ส.อย่างใกล้ชิดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม จะมีการนัดประชุม ส.ส.เพื่อซักซ้อมการลงมติอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่14 ธ.ค.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น