หน.ปชป.มั่นใจเกินร้อย ลั่นเดินหน้าประชุมอาเซียนงานแรก ยืดอกเชื่อโหวตนายกฯ ไม่มีพลิก เหตุเสนอตัวเป็นทางออกสำหรับอนาคตของประเทศไทย ไม่สน “เสนาะ” เสนอชื่อ “ประชา” ขึ้นชิง ยันลูกแถวเพื่อไทยฟ้อง กกต.จูบปาก “เนวิน” ไม่ผิดกฎหมาย
วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน เดินทางเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมีการหารือกรอบการประชุมอาเซียน ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศเตรียมจะเสนอให้รัฐบาลใหม่ใช้ จ.เชียงใหม่ เป็นสถานที่การประชุม เนื่องจากได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกด้านแล้ว และในวันนี้กระทรวงฯ จะมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษ ที่สำนักเลขาธิการอาเซียนในกรุงจาการ์ตา เพื่อประกาศใช้กฎบัตรอาเซียน ในการนี้จะหารือกำหนดการประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียนซัมมิต) ด้วยว่าผู้นำประเทศอื่นพร้อมหรือไม่ หากจัดประชุมในเดือนมีนาคม 2552 นอกจากนี้ยังมีการหารือเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 190 ว่าด้วย การทำหนังสือสัญญาใดๆ กับองค์กรระหว่างประเทศ จะต้องขอความเห็นชอบของรัฐสภา
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากการหารือพบว่า ผู้นำและทูตหลายประเทศเป็นห่วงเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ และหลังจากที่กฎบัติอาเซียนมีผลบังคับใช้และจะมีการประชุมกันวนวันที่ 15 ธ.ค.นี้ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งตรงกับวันประชุมสภาวิสามัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ว่าพรรคไหนจะได้เป็นรัฐบาล อยากให้ไทยได้มีการเร่งรัดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศกลับคืนมาด้วยการเลื่อนการประชุมอาเซียนฯ ขึ้นมาให้เร็วขึ้น จากเดิมเดือน มี.ค.มาเป็นเดือน ก.พ. และหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล จะมีการทำเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก โดยเร่งให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียน และเร่งเข้าสู่การพิรของสภา เพื่อให้สภาเห็นชอบเร็วที่สุด ตามาตรา 190 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่อยากให้พรรคการเมืองทุกพรรคเร่งดำเนินการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อช่วงเช้า นายเกียวจิ โคมาชิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในการเข้าทำหน้าที่ของตน ซึ่งในช่วงเที่ยงนายอภิสิทธิ์จะเดินทางเข้าหารือกับผู้บริหารภาคธุรกิจโดยเฉพาะผู้บริหารธนาคารแสตนดาร์ด ชาร์ตเตอร์ด เพื่อขอคำปรึกษาในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่อยู่ในช่วงขาลงขณะนี้ ขณะเดียวกัน สมาชิกของพรรคส่วนใหญ่ได้มีการรวมตัวหารือถึงสถานการณ์การเมือง ภายในที่ทำการพรรคด้วย
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ยังเดินหน้าตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ โดยดัน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าเท่าที่ทราบ พรรคเพื่อแผ่นดินจะมีการประชุมกันอีกครั้งก่อนตัดสินใจในวันนี้ (12 ธ.ค.) แต่จากการหารือร่วมกับพรรคการเมืองอื่นที่ผ่านมา ยังไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง และจากการพูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ก็ยังยืนยันตัวเลขว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามว่า เสียวหรือไม่ว่าอาจจะไม่ได้เป็นรัฐบาลในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้มีข่าวการดูดกลับจากพรรคเพื่อไทย นายอภิสิทธิ์ หัวเราะและกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่จะทำกิจกรรมทางการเมืองที่เสนอตัวเป็นทางเลือกสำหรับอนาคตของประเทศ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทางการเมืองเราก็ต้องเดินหน้าต่อไป โดยเชื่อว่าแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นทางออกสำหรับประเทศ แต่จะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่พรรคก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป
ต่อข้อถามถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำหลักฐานซีดีการร่วมมือกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวินจัดตั้งรัฐบาล ทั้งที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยก็ทำมาทุกเรื่อง และเป็นหน้าที่ของพรรคที่พร้อมจะทำหน้าที่ชี้แจง พรรคยังไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย โดยในวันที่ได้พบกับนายเนวินก็เปิดเผยมีสื่อมวลชนรับทราบเพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง เพราะทุกคนก็มีสิทธิที่จะแสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์ได้ แต่การถูกตัดสิทธิไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ท่านั้น