เครือข่ายประชาชน 8 ภาคี นัดยื่นฎีกาขอ รบ.เฉพาะกาล แก้ปัญหาสุญญากาศการเมือง เผย รวบรวมรายชื่อ ปชช.ได้แล้วกว่า 2,000 ชื่อ “อาทิตย์” เกรงการรวมขั้วทางการเมืองจะได้พวกไม่ชอบธรรมกลับมา “ปราโมทย์” ยันใช้สิทธิป้องชาติล่มจม ขณะที่ “ไชยวัฒน์” แฉกลุ่ม “องคุลีมาลกลับใจ” ของเก๊ แฉ “คิงเพาเวอร์” นายทุนใหญ่ ซื้อหัวละสี่สิบล้าน นัดรวมพลพระบรมมหาราชวัง พรุ่งนี้ 09.09 น.
วันนี้ (8 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) มีการจัดเสวนาทางวิชาการ เรื่อง “รัฐบาลเฉพาะกาล ทางรอดประเทศไทย” จัดโดย ภาคีเครือข่ายประชาชนเพื่อฟื้นฟูชาติและพัฒนาการเมือง โดยภายในงานมีการเปิดให้ประชาชนลงชื่อเพื่อถวายฎีกาขอรัฐบาลพระราชทาน พร้อมขอเชิญประชาชนร่วมลงนามถวายฎีกาขอรัฐบาลเฉพาะกาลด้วย
นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวเปิดการเสวนา ว่า มีด่านใหญ่ๆ ของ ส.ส.ที่ถูกยุบพรรค ด่านแรก คือ กฎหมาย ส.ส.ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ เพราะกฎหมายบอกว่าต้องหาพรรคอื่นใน 90 วัน ไม่ได้หมายความว่า เป็นพรรคใหม่ จึงตีความได้ว่าพรรคใหม่ไม่มีสิทธิ์ ด่านทางกฎหมายที่ 3 คือ ส.ส.สัดส่วน ประชาชนเลือกเข้ามาในลักษณะการเลือกพรรค ซึ่งแตกต่างจาก ส.ส.เขต ดังนั้น เมื่อพรรคถูกยุบ มีสิทธิ์ที่จะย้ายพรรคหรือไม่ เป็นปัญหาที่ต้องตีความอยู่ในขณะนี้ แต่ตนมีความเห็นส่วนตัวว่าประธานรัฐสภาไม่มีอำนาจในการเปิดประชุมสภาแล้ว เพราะเป็น ส.ส.สัดส่วน ซึ่งต้องหมดสภาพไปตามการยุบพรรค เกิดเป็นสุญญากาศ อำนาจอยู่ที่ประธานวุฒิสภาที่ยังมีอำนาจและเป็นกุญแจสำคัญ
นายอาทิตย์ กล่าวว่า ประเด็นต่อมา อยากให้จับตาดูว่า การรวมขั้วทางการเมืองจะเป็นอย่างไร ถ้าเหตุวุ่นวาย เกิดจากการไม่มีจิตสาธารณะของนักการเมือง แล้วยังจะมาสร้างความไม่ชอบธรรมในรัฐบาลใหม่อีกหรือ สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่นิ่ง จนกว่าผู้มีอำนาจสูงสุด คือ ศาล รธน.ตัดสิน
จากนั้นได้มีการเสวนา ในหัวข้อ “ผ่าทางตัน ด้วยปัญญา และพระบารมี” นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า วิกฤตการเมืองขณะนี้ มีการแตกแยกด้านความคิด แต่อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจบริหารกลับไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และไม่มีความชัดเจนว่า จะแก้ไขปัญหาอย่างไร ขณะนี้ ไม่มีครั้งใดที่ความเป็นสุญญากาศทางการเมืองยิ่งใหญ่กว่าครั้งนี้ จึงเหลือเพียงการทูลเกล้าถวายฎีกา หลังจากที่เราทำมาทุกอย่างแล้วอย่างไรก็ตาม การถวายฎีกา ถ้าไม่ใช่การฝักใฝ่พรรคการเมืองใด แต่เกี่ยวข้องกับ “รัฐฐาธิบาล” คือ สิทธิตาม รธน.แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยตรัสว่า อย่าทำอะไรมั่วๆ ในช่วงที่มีการขอคืนพระราชอำนาจ ตาม ม.7 ของ รธน.2540 แต่เมื่อมีวิกฤต ชาติจะล่มจมจริงๆ เราจึงจะใช้ตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
นายวิชัย รูปขำดี ประธานเครือข่ายนิด้าพัฒนาการเมือง กล่าวว่า แนวคิดรัฐบาลเฉพาะกาล เกิดจากแนวคิดที่เราจะให้ผู้ที่ร่วมกันขัดแย้ง เข้ามาเป็นรัฐบาล และมีบทบาทแก้ความขัดแย้งร่วมกันได้อย่างไร ดังนั้น เราจะเข้าหาอำนาจที่แท้จริงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 ซึ่งปวงชนชาวไทยเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ซึ่งแม้จะมีบางฝ่ายเห็นว่า ควรให้เป็นไปตามวิธีปกติ แต่แน่ใจอย่างไรว่าจะปกติ ในภาวะที่มีสุญญากาศ ถึงวันนั้นเราจะไม่มีเวลาเตรียมรัฐบาลเฉพาะกาลในการแก้ปัญหา
ด้าน นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ประธานเครือข่ายสมัชชาประชาชนภาคตะวันออกฉียงเหนือ กล่าวว่า คำว่า รัฐบาลเฉพาะกาล เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อนปี พ.ศ.2475 หรือก่อนถูกยึดอำนาจโดยคณะราษฎร ซึ่งเพราะความไม่รู้ของสังคมไทย ถูกทำให้เข้าใจว่า เป็นเจ้าของอธิปไตย ทำให้เกิดเผด็จการ ทั้งเผด็จการจากการเลือกตั้ง หรือจากทหารก็ตาม อย่างขณะนี้ มีข่าวกลุ่มการเมืองที่ถือว่า เป็นองคุลีมาลกลับใจ แต่กลับมีเบื้องหลังว่า ได้หัวละ 40 ล้าน ถามว่า ใครจ่าย คือ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่เป็นคู่สัญญารัฐในการประกอบธุรกิจในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีข้อแม้ว่า พรรคที่จะเป็นรัฐบาล ห้ามแตะบริษัทนั้น ต้องเข้าใจว่า เป้าหมายการปกครองเพื่ออะไร คือ ปกครองเพื่อความมั่นคง อยู่รอดปลอดภัยของประเทศ และประการที่สอง คือ การปกครองคนไทยให้ได้รับความเป็นธรรมในทุกเรื่อง
นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า วันนี้เราจะหาทางออก จะให้ประชาชนตัดสินใจร่วมกับองค์พระประมุข จะมีคนไทยบางคน บอกไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาท แต่กลไก รธน.ปี 50 พระองค์ทรงเป็นประมุขประเทศ เมื่อการเมืองปั่นป่วน ต้องใช้ประชาชน กับพระองค์ท่านแก้ปัญหา เรียกว่า ราชประชาสมาศัย จะเป็นพลังยิ่งใหญ่ต่อไป พระราชอำนาจมี 3 ประเภท คือ 1.พระราชอำนาจทั่วไป คือ การตักเตือน ให้กำลังใจคณะรัฐมนตรี 2.พระราชอำนาจพิเศษ 3.พระราชอำนาจสำรอง ซึ่งอาจครอบคลุมการปลด แต่งตั้งนายกฯ หรือยุบสภา เป็นกรณีพิเศษ โดยประสบการณ์ของเรา ในหลวงของพวกเรา แทบมิทรงใช้พระราชอำนาจพิเศษ กับพระราชอำนาจสำรอง ยกเว้นกรณี 14 ตุลา และ พฤษภาทมิฬ เท่ากับพระองค์ท่านล่อแหลมต่อการวางพระองค์ เราออกแบบให้พระองค์อยู่เหนือการเมือง แต่อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ สิ่งเหล่านี้ เราจึงต้องพูด เมื่อรัฐบาลกลายเป็นผู้ทำลายสิทธิเสรีภาพ ทำลายสิทธิในชีวิต ปิดกั้นสื่อ สิทธิในการแสวงหาความสุข ก็เป็นสิทธิของประชาชนที่จะเปลี่ยนแปลงยกเลิกการปกครองนั้นเสีย เมื่อไม่มีการปกครอง ก็สถาปนาการปกครองใหม่ ซึ่งตั้งบนรากฐานของสิทธิเหล่านั้น
จากนั้น วิทยากรได้มีการอ่านร่างถวายฎีกา เรื่องขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสถวายฎีกา เรื่องรัฐบาลเฉพาะกาล เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย โดยระบุว่า มีการได้รายชื่อแล้วกว่า 2,000 รายชื่อ และได้นัดแนะผู้ร่วมถวายฎีกา ในเวลา 08.30 น.วันที่ 9 ธ.ค.ที่พระบรมหาราชวัง เพื่อเดินทางไปถวายฎีกาที่สำนักพระราชวัง ในเวลา 09.09 น.โดยมีรายชื่อผู้ถวายฎีกาที่น่าสนใจ เช่น นายชัยอนันต์ สมุทวณิช นายกราชบัณฑิตยสถาน นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดี ม.รังสิต พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัด กห.ขณะเดียวกัน จะไปยื่นร่างฎีกาดังกล่าว ให้สำนักองคมนตรี ที่สวนสราญรมย์ และจะเดินทางไปสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้พิจารณาสถานะ ส.ส.สัดส่วนด้วย