xs
xsm
sm
md
lg

ทอท.เร่งแผน เตรียมรองรับยกเลิกแท็กส์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บอร์ดทอท.สั่งศึกษาขั้นตอนยกเลิกสัญญาแท็กส์ พร้อมแผนรองรับ หลังกก.ตรวจการจ้างเสนอให้ยกเลิกสัญญาเพราะแท็กส์ทำผิดเงื่อนไข แท็กส์แฉหัวขโมยรถเกี่ยวข้องทอท. ยันไม่ผิด ลั่นเจรจาไม่ได้ก็ต้องฟ้องศาลเผยวิกฤติเศรษฐกิจโลก ทำให้ผู้โดยสารและเที่ยวบินปี 51 วูบ เตรียมแผนเพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์ เจรจาคิงเพาเวอร์ขอพื้นที่คืนบางส่วนทำเล้าท์สายการบิน ออกโปรโมชั่นลดค่าธรรมเนียมสุวรรณภูมิช่วยเหลือสายการบิน

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ที่มีนายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ เป็นประธานวานนี้ (20 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมมีมติให้ฝ่ายกฎหมายทอท.พิจารณาขั้นตอนการยกเลิกสัญญาการจัดหาและบริหารรถเข็นกระเป๋าภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัท ไทย แอร์พอร์ต กราวด์ เซอรวิส จำกัด หรือ แท็กส์ และในขณะเดียวกันให้ฝ่ายบริหารเตรียมแผนรองรับกรณีที่มีการบอกเลิกสัญญากับแท็กส์เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับการให้บริการผู้โดยสาร ทั้งนี้เนื่องจากคณะอนุกรรมการตรวจสอบชุดที่มี นายถาวร พานิชพันธ์ กรรมการทอท. เป็นประธานได้รับการรายงานจากคณะกรรมการตรวจการจ้างสัญญาแท็กส์ จำนวนรถเข็นกระเป๋าไม่ครบตามสัญญา ถือว่าแท็กส์ทำผิดสัญญาและเสนอให้มีการยกเลิกสัญญา

โดยคาดว่าจะสรุปผลทั้งด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกสัญญา และแผนรองรับหากมีการยกเลิกสัญญากับแท็กส์เสนอบอร์ดพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะในระหว่างนี้ที่มีจำนวนรถเข็นกระเป๋าไม่ครบตามสัญญานั้น ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่และเพิ่มรอบในการจัดเก็บ

สำหรับแผนรองรับในกรณีที่มีการยกเลิกสัญญาแท็กส์นั้น เบื้องต้นมีหลายแนวทางเช่น ทอท.ดำเนินการจัดหารถเข็นกระเป๋าและบริหารเอง หรือทอท.จัดหารถเข็นกระเป๋าแต่จ้างเอกชนบริหารหรือ ให้เอกชนเป็นผู้จัดหาและบริหารเหมือนเดิม โดยการให้เอกชนจัดหาและบริหารนั้นจะทำได้เร็วที่สุด แต่ทั้งนี้ขึ้นกับการพิจารณาของบอร์ด ส่วนแท็กส์จะสามารถเข้ามาร่วมประมูลได้อีกหรือไม่นั้นจะต้องดูเงื่อนไขในสัญญาอีกครั้ง

“บอร์ดพิจารณาภายใต้ข้อเสนอของคณะกรรมการตรวจการจ้างที่เสนอให้ยกเลิกสัญญาเพราะแท็กส์ทำผิดสัญญาซึ่งขณะนี้ยังไม่ถือว่าปิดโอกาสในการที่แท็กส์จะขอเจรจาเพื่อปรับปรุงสัญญาเดิม”นายเสรีรัตน์กล่าว

***แท็กส์ยันไม่ผิด ลั่นเจรจาไม่ได้ก็ต้องฟ้องศาล

แหล่งข่าวจากแท็กส์กล่าวว่า ปัญหารถเข็นกระเป๋าหายเป็นการถูกโจรกรรมจากบุคคล 2 กลุ่ม คือ เจ้าหน้าที่ของทอท.เองและบริษัท Outsource ของทอท. ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่ทอท.ต้องรับผิดชอบดูแลในขณะที่แท็กส์ได้ทำตามสัญญาอย่างถูกต้อง ทั้งนี้สัญญาเขียนว่าหากรถไม่ครบ แท็กส์มีหน้าที่ในการจัดหามาเติมให้เต็มภายใน 30 วัน เว้นแต่เป็นความผิดที่เกิดจากผู้ว่าจ้าง ซึ่งการยกเลิกสัญญาไม่ได้ทำได้ง่ายๆ และมีขั้นตอนอีกนาน แท็กส์ยืนยันที่จะเจรจาเพื่อขอความเป็นธรรม และหากเจรจาไม่ได้และต้องฟ้องร้องก็ต้องทำ

“ปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา แท็กส์ได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมหลังจากทอท.แจ้งว่ารถเข็นกระเป๋าไม่ครบ และทำแผนแก้ปัญหาระยะสั้น ซึ่งจะขอเช่ารถเข็นกระเป๋าจากดอนเมืองชั่วคาวและแผนระยะยาว จัดหารถใหม่ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทดสอบมาตรฐาน ถือว่าแท็กส์มีความจริงใจในการแก้ปัญหาอย่างเต็มที่”แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้ จากข้อมูล สัญญาจ้างแท็กส์จะต้องจัดหารถเข็นเพื่อมาให้บริการภายในสนามบินสุวรรณภูมิ รวม 9,034 คัน แบ่งเป็นรถเข็นกระเป๋าขนาดเล็ก 2,000 คัน ขนาดกลาง 7,000 คัน และขนาดใหญ่ 34 คัน โดยจะมีการตรวจนับทุกวันที่ 26 ของทุกเดือน ซึ่งการตรวจนับในช่วงระหว่างงวดงาน เดือนต.ค. 2550-เม.ย.2551 พบว่ามีรถเข็นกระเป๋าไม่ครบตามจำนวนที่กำหนด แต่รถเข็นกระเป๋าที่ขาดไปนั้นไม่เกินจากจำนวนที่แท็กส์ได้จัดเตรียมสำรองไว้ โดยรถเข็นกระเป๋าขนาดเล็ก มีสำรอง 120 คัน ขนาดกลางมีสำรอง 120 คันและขนาดใหญ่มีสำรอง 6 คัน

แหล่งข่าวจากทอท.กล่าวว่า ในเดือนก.ค.(งวดที่ 22) พบว่ารถเข็นกระเป๋าหายไป 522 คัน เกินกว่าจำนวนสำรอง และในเดือนส.ค.หายไปอีก 3,000 คัน ทำให้แท็กส์ต้องถูกปรับตั้งแต่งวดเดือน ก.ค.และไม่ได้รับค่าจ้างอีกประมาณเดือนละประมาณ 6 ล้านบาทด้วย

โดยทอท.ทำสัญญาว่าจ้างแท็กส์วงเงิน 532,860,600 บาท ระยะเวลา 7 ปี ( 28 ก.ย.2549 – 28 ก.ย.2556) กำหนดให้แท็กส์ดำเนินการ 2 ข้อหลักๆ คือ จัดหารถเข็นกระเป๋า และให้จัดหาแรงงาน บริหารจัดการ รถเข็นกระเป๋าถือว่ายังเป็นทรัพย์สินของแท็กส์ ที่แท็กส์ต้องดูแลให้มีสภาพเรียบร้อยพร้อมในการใช้งาน ต้องดำเนินการจัดเก็บและป้องกันการสูญหายด้วยดังนั้นแท็กส์จะปฏิเสธเรื่องที่รถเข็นกระเป๋าหายไปไม่ได้ และปฎิเสธที่จะต้องจ่ายค่าปรับตามสัญญาไม่ได้

***เพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์สู้วิกฤติ52

นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า จำนวนผู้โดยสารปี 2551ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรวมทั้งสิ้น 41.2 ล้านคน เพิ่มจากปี 2550 ประมาณ 1-2% เป็นการเติบโตที่ถดถอยจากแผนที่คาดว่าจะเติบโตทั้งปี ประมาณ 6% เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจโลก และคาดว่า หากภาวะเศรษฐกิจโลกยังเป็นเช่นนี้ การเติบโตในปี 2552 จะใกล้เคียงกับปี 2551

ดังนั้น ทอท.จึงมีการศึกษาแผนการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกิจการเชิงพาณิชย์ (Non Aero) เช่น แผนพัฒนาพื้นที่แปลง 37 จำนวน 1,000 ไร่ (ABC Airport Business Center) ซึ่งจะมีศูนย์การค้า สำนักงาน สถานพยาบาล โรงแรม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เป็นต้น

นอกจากนี้จะเจรจากับบริษัทคิงเพาเวอร์ เพื่อขอพื้นที่ในส่วนที่คิงเพาเวอร์ได้รับสัปมทานแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์คืนเพื่อนำมาทำเป็นห้องรับรองของสายการบินต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีหลายสายการบินทั้งจากตะวันออกกลางเช่น สายการบินเอทิฮัด (ETIHAD AIRLINE) , สายการบินรัสเซีย แจ้งความต้องการพื้นที่เข้ามาอย่างน้อยประมาณ 250 ตารางเมตร

พร้อมกันนี้จะออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินที่มีเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเช่น ลดค่าธรรมเนียมต่างๆ หลังจากที่ทอท.ได้ออกมาตรการช่วยเหลือในส่วนของท่าอากาศยานภูมิภาคมาแล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มในปี 2552
กำลังโหลดความคิดเห็น