เลขา ปชป.ป้องกองทัพ โวย “จตุพร” อย่าป้ายสีดึงทหารเข้ามายุ่งเกี่ยวการเมือง ยันไม่มีใครอยู่เบื้องหลังเปลี่ยนขั้วรัฐบาล แขวะปูดข่าว เพราะแรงอาฆาต แฉ กลุ่มอำนาจเก่าวิ่งตีนขวิดเสนอเก้าอี้ พร้อมเงิน เย้ยรัฐบาลรักษาการอย่าตะแบงยุบสภาหนี เร่งฝีพายรวบรวมรายชื่อลูกพรรคเสนอเปิดประชุมวิสามัญเลือกนายกฯด่วน
วันนี้ (7 ธ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวการเข้าพบผู้นำทหาร ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวเปลี่ยนขั้วพรรคร่วมรัฐบาล ว่า อย่าเอากองทัพเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีกว่า ตนเห็นว่า ทางกองทัพวางตัวดีมาโดยตลอด เรื่องการเมืองเป็นเรื่องที่พวกเราทำกันเอง ได้พูดคุยปรึกษาหารือกันมา ซึ่งตนได้ประสานงานมาระยะหนึ่งแล้ว นานมากพอสมควร โชคดีที่คนไม่ค่อยสนใจ ตนจึงไปไหนมาไหนสะดวก ไม่มีใครตามไปก็เลยคุยกันง่ายขึ้น คนจึงนึกว่าทำไมมาสำเร็จเร็ว กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ซึ่งหลายคนอาจจะรู้สึกแปลกใจ ตั้งแต่ช่วงที่บ้านเมืองมีวิกฤต มีเสียงเรียกร้องจากประชาชนและสื่อมวลชน ว่า ส.ส.ควรจะหาทางออกให้กับประเทศ แต่ก่อนหน้านี้ จังหวะเวลายังไม่อำนวย แต่เมื่อมีกรณียุบพรรค ส.ส.จึงมีอิสระในการที่จะคิดอ่านมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การประสานกันระหว่างพรรคการเมองจึงทำได้สะดวกขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่า เป็นเพราะมีทหารเข้ามายุ่งเกี่ยว พรรคประชาธิปัตย์จึงจัดตั้งรัฐบาลได้ นายสุเทพกล่าวว่า นายจตุพรคงอาฆาตมาดร้ายอยู่กับทหาร แต่ตนไม่ขอวิจารณ์เรื่องนายจตุพร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงขณะนี้จะมีการพลิกผันทำให้พรรคประชาธิปัตย์จับขั้วไม่ได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีกลุ่มอำนาจเก่า พยายามโทรศัพท์เพื่อจะประสานไปยังกลุ่มการเมืองต่างๆ โดยเห็นว่า จะให้อัตราส่วน 5 ต่อ 1 รวบรวม ส.ส.ได้ 5 คน จะได้รัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง แถมมีเงินทองให้ไปดูแล ส.ส.ด้วย คาดว่า เมื่อคืนคงจะไม่ได้หลับได้นอนกัน เพราะปั่นป่วนไปทั้งวงการ แต่ตนเชื่อว่าวันนี้ส.ส.ส่วนใหญ่ได้ตระหนักถึงการทำหน้าที่การเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย เพราะทุกคนเห็นแล้วว่าบ้านเมืองวิกฤติจริงๆ และทุกคนก็คาดหวังให้ระบอบประชาธิปไตยเดินต่อไปได้ โดยให้ส.ส.ที่เลือกมาได้ทำหน้าที่ของตัวเอง ตนยังมั่นใจในเกียรติยศศักดิ์ศรีของ ส.ส.ที่มีความรับผิดชอบต่อประชาชน เชื่อว่า จะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามว่า มั่นใจในจำนวนเสียง 260 ในขณะนี้แค่ไหน นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อคืนเขาทำงานหนักมาก แต่เมื่อเช้ากลุ่มที่มาร่วมรัฐบาลกับเรายังโทรศัพท์มายืนยันหนักแน่นว่าจะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ และเขายังเล่าให้ฟังด้วยว่ามีการโทรศัพท์มาล็อบบี้หลอกล่อขู่เข็ญอย่างไรบ้าง แต่ตนไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรง เพราะตนต้นทุนน้อยมีอยู่ 166 คน เขาให้เป็นรัฐบาลก็เป็น ให้เป็นฝ่ายค้านก็เป็นได้ เพราะเราชำนาญอยู่แล้วไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางพรรคเพื่อไทยยังคงยื่นข้อเสนอให้คนกลางจากพรรคร่วมอื่นมาเป็นนายกฯ จะทำให้ขั้วของพรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนแปลงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ที่เห็นชัดๆก็คือ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ แกนนำกลุ่มชาติไทยพัฒนา เป็นคนหนึ่งที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ แต่ พล.ต.สนั่น ก็ยังเสนอให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกฯ ดังนั้น ตนเชื่อว่า การเอาตำแหน่งนายกฯมาหลอกล่อตอนนี้คงจะไม่ได้ผลแล้ว เมื่อถามว่า การเลือกตั้งนายกฯหากยืดเวลาออกไปจะทำให้เกิดการแกว่ง จะทำให้มีการเลือกตัวนายกฯเร็วขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า การเปิดประชุมเร็วหรือช้า ไม่อยู่ในวิสัยที่เราจะทำได้ เพราะตอนนี้เรายังเป็นฝ่ายค้านอยู่ กระบวนการที่จะทำขึ้นอยู่กับสภาจะดำเนินการอย่างไร อย่างที่บอกว่ามีการเข้าชื่อ ส.ส.เพื่อเสนอให้เปิดประชุมวิสามัญ ก็ยังไม่รู้ว่าชื่อเหล่านั้นอยู่ที่ไหน
อย่างไรก็ตาม วันนี้จะมีการหารือในพรรค เพราะไม่แน่ใจว่าชื่อที่ส่งไปอยู่ที่ไหนหรือมีหรือยัง บางทีพวกตนอาจจะเข้าชื่อกันเพื่อเสนอเองก็ได้ เพราะเรามีอยู่ 166 คน มากกว่า 1 ใน 3 ของส.ส.ในสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการขู่จากพรรคเพื่อไทย ว่า หากพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จะขนคนเสื้อแดงมาประท้วงเหมือนที่พันธมิตรฯเคยทำ นายสุเทพ กล่าวว่า คิดว่า นายจตุพร คงต้องทำทุกอย่างด้วยเหตุผล เพราะต่อไปนี้เราต้องอยู่กันด้วยเหตุผล ถ้าพวกเราได้เป็นรัฐบาลแล้วทำอะไรไม่ถูกต้องก็ยินดีให้มาประท้วง แต่หากพวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วมาประท้วง ประชาชนคงไม่ชอบใจ ดีเสียอีก นายจตุพร จะได้มีกระบวนการตรวจสอบที่แข็งแรง และเราจะได้ทำหน้าที่ให้รัดกุม เมื่อถามว่า รู้สึกเกร็งกับความคาดหวังของประชาชนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกพรรคตระหนักดีว่าประชาชนคาดหวัง เท่าที่พูดจากันมีแต่ความราบรื่น ไม่มีการเกี่ยงงอนเรื่องตำแหน่ง คิดอย่างเดียวว่าเราจะร่วมมือกันให้เสียงมากพอจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นโจทย์ข้อใหญ่ เพราะตอนนี้เท่าที่ประเมินดูมีแล้วกว่า 260 เสียง
เมื่อถามว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้มีทางเป็นไปได้หรือไม่จะเอาคนนอกมาร่วมรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า ยอมรับว่าคิดอยู่ แต่ตอนนี้ขอจัดตั้งรัฐบาลให้ได้เสียก่อน อย่าไปคิดข้ามขั้นตอน ในส่วนของกลุ่มเพื่อนเนวินที่จะขอใช้เอกสิทธิ์ในการโหวตเลือกตัวนายกฯ หากเป็นนายอภิสิทธิ์ นั้น อย่าไปสับสน เพราะเป็นการพูดในส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ ที่เมื่อก่อนเคยอยู่ในพรรคพลังประชาชน เมื่อถูกยุบพรรคแล้วก็ขอใช้เอกสิทธิ์ไปอยู่ร่วมกับพรรคอื่น ส่วนเรื่องนายกรัฐมนตรี หากพรรคประชาธิปัตย์สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็ต้องให้หัวหน้าพรรคเราเป็นนายกฯ เพราะได้รับการยืนยันจากแกนนำแล้ว ส่วนที่ไม่เห็นด้วยนั้นอาจจะเป็นบางราย ที่มีความคิดเห็นแตกต่าง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการเมือง คน 200-300 คน จะให้เห็นเหมือนกันหมดคงเป็นไปไม่ได้ จึงต้องค่อยๆพูดจาทำความเข้าใจกัน และในการยกมือโหวตนายกฯทุกคนมีเอกภาพ เพราะเราคุยกันมานานแล้ว ปรึกษากันมาหลายรอบแล้ว ส่วนที่กลุ่มเพื่อนเนวินแสดงความไม่พอใจที่จะให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯนั้น เป็นเพราะเรื่องนี้มีช่องว่าง เพราะแกนนำที่เข้าประชุมกับกลุ่มที่แถลงข่าวเป็นคนละคนกัน คนละส่วนกัน
นายสุเทพ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาราชนั้นยืนยันว่าจะมีการติดต่อเพิ่มเติม เพราะที่ผ่านมายอมรับว่าตนเป็นคนผิดพลาดในการประสานงาน แต่อย่างไรก็ตามต้องให้เวลานายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ได้คิด เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ รวมถึงพรรคเพื่อแผ่นดินบางส่วนที่ไปร่วมแถลงข่าวกับพรรคเพื่อไทย ตนเชื่อว่าคงจะมาร่วมกันทั้งหมด ที่ไปเมื่อวานเขาคงหลงที่ และจากนี้ไปคงไม่มีการประชุมร่วมกันอีก ให้แต่ละพรรคแต่ละกลุ่มไปหารือร่วมกันเอง ถือเป็นเรื่องภายในของเขา เมื่อถามถึงโควตาตำแหน่งต่างๆ ที่จะจัดสรรให้แต่ละกลุ่ม นายสุเทพกล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดถึง ให้จัดตั้งรัฐบาลได้เสียก่อน
เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยจะชิงยุบสภาก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า มันไม่ทันแล้ว ที่จะมายุบสภาตอนนี้ เพราะค้านต่อความรู้สึกประชาชน ถ้าจะทำควรทำตั้งนานแล้ว ส่วนนายกฯรักษาการณ์จะสามารถยุบสภาได้หรือไม่นั้น ตนไม่ขอวิจารณ์ เพราะเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ต้องให้มืออาชีพทางกฎหมายตีความ เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่จะมีการนำเรื่องหนีเกณฑ์ทหารของนายอภิสิทธิ์ มาโจมตี นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง แต่ระวังคลิปของตนบ้างแล้วกัน