คลิกที่นี่ เพื่อฟัง การแถลงข่าว การจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำ
เมื่อเวลาประมาณ 18.45 น.วันที่ 6 ธันวาคม 2551 ที่โรงแรมสุโขทัย แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับตัวแทนจากอดีตพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาล โดยมี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำ โดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้แนะนำตัวแทนพรรคและกลุ่มการเมืองที่มาร่วมแถลงข่าวประกอบด้วย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ตัวแทนอดีตพรรคชาติไทย ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายไชยศ จิรเมธากร นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ นายรณฤทธิชัย คานเขต ตัวแทนพรรคเพื่อแผ่นดิน นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกุล นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ตัวแทนพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา นางพรทิวา นาคาศัย นายมานิต นพอมรวดี นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ตัวแทนจากอดีตพรรคมัชฌิมาธิปไตย นายโสภณ ซารัมย์ นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ นายศุภชัย โพธิ์สุ และนายประจักษ์แกล้วกล้าหาญ ตัวแทนกลุ่มเพื่อนเนวิน
รายละเอียดคำแถลงมีดังนี้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
“พวกเราซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคการเมือง สมาชิกสภาผั้แทนราษฎรในกลุ่มต่างๆ จากพรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กลุ่มมัชฌิมาธิปไตย และกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่มารวมตัวกันในวันนี้กับพรรคประชาธิปัตย์นะครับ ขอเรียนว่าพวกเราทุกคนต่างมีความตระหนักอย่างดีถึงสภาวะวิกฤติของไทยที่ผ่านมาทั้งวิกฤตการเมือง เศรษฐกิจ ที่สำคัญ เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสภาพทางการเมืองไม่สามารถที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ที่มาซ้ำเติมปัญหาอื่นๆ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่เลวร้ายลงทุกที นอกเหนือจากผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง 3 พรรค แม้ว่าอาจจะมีความเห็นขัดแย้งกันอยู่ แต่ก็มองเห็นได้ว่าส่งผลให้ สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองลดลงไปได้ระดับหนึ่ง ที่สำคัญพี่น้องประชาชนตั้งความหวังไว้มากว่า พรรคการเมือง กลุ่มการเมือง ส.ส.คงจะใช้สถานการที่ทุกพรรคและทุกกลุ่มที่มีความเห็นเป็นอิสระ จะได้ทบทวนการดำเนินการทางการเมืองเสียใหม่ เพื่อนำประเทศออกจากวิกฤติ และร่วมมือกันแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ ทั้งวิกฤตจิทางการเมืองและวิกฤติเศรษฐกิจ ฟื้นฟูความเชื่อมั่น ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย
พรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน รวมใจไทยชาติพัฒนา กลุ่มมัชฌิมาฯ กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่มาร่วมแถลงข่าวในวันนี้ รวมทั้งสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนตระหนักในปัญหาวิกฤติของประเทศ ตระหนักในความรู้สึก ความคาดหวังของประชาชน จึงได้ตัดสินใจที่จะร่วมกัน จัดตั้งรัฐบาลเพื่อที่จะกอบกู้วิกฤติของประเทศดังที่ได้กราบเรียนมาแล้ว
ขอกรบเรียนว่า ทุกพรรคทุกลุ่ม ที่ได้ร่วมมือกันนี้จะได้ดำเนินการในทุกๆ เรื่องให้ดีที่สุด บนพื้นฐานของความร่วมมือ ความซื่อสัตย์ เสียสละ และสุจริต และความเป็นเอกภาพเพื่อที่จะเรียกความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ พลิกฟื้นประเทศชาติให้คืนสู่สภาพที่ดี ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แล้วก็จะได้ร่วมมือกันทำงาน แล้วก็กราบเรียนพี่น้องประชาชนถึงความคืบหน้า ในการทำงานร่วมกันเป็นระยะๆ ต่อไป
เพื่อยืนยันถึงความตั้งใจนี้ ผมจะขออนุญาตให้ผู้แทนของแต่ละกลุ่มแต่ละพรรคที่ได้มาร่วมกันวันนี้ได้พูดคุยกับท่านทั้งหลาย ถ้าท่านจะมีคำถามอะไรก็ขอให้เราได้พูดให้จบไปรอบหนึ่งก่อนนะครับ เชิญ ท่านอดีตรองนายกรัฐมนตรีสนั่น”
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์
“ผมในนามของกลุ่มอดีตพรรคชาติไทย ขอเรียนว่า ตั้งแต่ได้เข้ามาในวงการเมือง 30 ปี ก็เป็นครั้งแรกที่มาประสบเหตุการณ์ที่ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร ได้เข้าไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลมา 2 สมัยที่ผ่านมานี้ ก็มองเห็นเหตุการณ์ของบ้านเมืองมันเข้าสู่ยุคที่ไม่สามารถที่จะบริหารประเทศต่อไปได้ เนื่องจากการต่อต้านของพี่น้องประชาชน ความแตกแยก ความแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันได้เกิดขึ้นจนหาทางที่จะแก้ไขปัญหาได้ยาก เมื่อเกิดยุบพรรคการเมืองขึ้นมา 3 พรรค ท่านนายกสมชาย ต้องพ้นจากตำแหน่งไป จึงเป็นหนทางที่ว่าเราจะมาช่วยกันแก้ไขปัญหา
สังคมทุกหมู่เหล่าทุกแขนงได้เรียกร้องว่าให้เปลี่ยนขั้วทางการเมืองเสีย เพื่อที่จะให้การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล สามารถที่จะแก้ไขปัญหา ความแตกแยกของคนในชาติได้
นั่นก็เป็นการเรียกร้อง ส่วนหนึ่งในเรื่องของความสามัคคี อีกเรื่องคือเรื่องเศรษฐกิจที่ทั่วโลกกำลังประสบปัญหาอยู่ ไทยเองนี่ก็ยังสามารถที่จะยืนอยู่บนขาตัวเองได้ แต่ถ้าหากว่ารัฐบาลไม่สามารถที่จะบริหารราชการแผ่นดินไปได้ด้วยความราบรื่น ก็จะเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจตามมาอีก เพราะฉะนั้นพรรคเราจึงเห็นว่าน่าที่จะดูว่าสังคม ประชาชนส่วนรวมต้องการที่จะให้เราไปอยู่ตรงไหน เราจึงได้ตัดสินใจว่าเราจะมาสนับสนุนพรรคแกนนำ พรรคประชาธิปัตย์
เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ได้มาร่วมแถลงข่าวด้วย ที่จะร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคอื่นๆ เพื่อนๆ ทั้งหลายที่เป็นพรรคการเมือง กลุ่มการเมืองที่จะเข้ามาช่วยกันบริหารประเทศต่อไป นั่นคือ หลักการของพรรคชาติไทยนะครับ ตอนนี้ก็กำลังจะเปลี่ยนเป็นชาติไทยพัฒนานะฮะ ก็ยังไม่เรียบร้อยนะฮะ ก็มีเรื่องที่จะเรียนให้สื่อมวลชนทราบเพียงเท่านี้ละครับ ขอบคุณครับ
ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ตัวแทนพรรคเพื่อแผ่นดิน
“ในนามของพรรคเพื่อแผ่นดิน ดิฉันเองคิดว่า ตอนนี้เป็นสถานการณ์ที่เราจะต้องปรับเปลี่ยนนะคะ แล้วก็เป็นวิธีการที่ดีที่สุด ในการที่เราจะดูว่าประเทศชาติเราจะไปในทิศทางไหน เรื่องของสมานฉันท์ก็ดี อะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบเศรษฐกิจก็ดี เราได้หารือกันแล้วค่ะว่า สิ่งที่ดีที่สุดคือสิ่งที่เห็นต่อหน้าสื่อมวลชนทุกท่านคือ ทุกพรรคที่รวมกันอยู่ตรงนี้ ก็เป็นการแก้วิกฤตินะคะ แล้วก็จะทำให้ประเทศชาติ และเราจะทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประเทศไทยค่ะ ขอบคุณค่ะ”
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกล ตัวแทนพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา
“วันนี้ผมพร้อมด้วย ส.ส.วินัย ภัทรประสิทธิ์ นะครับ ในนามตัวแทนของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ก็ได้รับเกียรติจากแกนนำของพรรคต่างๆ ที่ได้มาร่วมปรึกษาหารือกันในวันนี้ ที่จะแก้ปัญหาปัญหาวิกฤติของประเทศชาติบ้านเมือง ที่ทุกท่านคงจะทราบกันดี ก็ขอเรียนสั้นๆ ว่าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนานั้น ยึดมั่นในแนวทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่ถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาตัดสินในเรื่องใดๆ ก็ตาม
แต่ประการที่ 2 นั้น ในการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจก็ดี ปัญหาการเมือง ปัญหาใดๆ นั้น เรายึดมั่นในกระบวนการวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย และอย่างไรก็ตาม ข้อตกลงวันนี้ที่ได้ร่วมปรึกษาหารือกับพรรค แกนนำ ต่างๆ ที่ได้มาปรึกษาวันนี้ ผมก็คงจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อขอความเห็นชอบ ตามข้อบังคับพรรคต่อไป
นางพรทิวา นาคาศัย ตัวแทนกลุ่มมัชฌิมาธิปไตย
“ดิฉันในนามตัวแทนของพรรคมัชฌิมาธิปไตยเก่า รวมถึง ส.ส.ท่านปกรณ์ มุ่งเจริญพร และท่านมานิต นพอมรวดี ก็มีความเห็นร่วมกัน รวมถึง ส.ส.ท่านอื่นๆ นี่นะคะว่า เนื่องจากพรรคพลังประชาชนเดิมนั้น ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเดิม ไม่สามารที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ได้ ก็เห็นว่าเป็นความชอบธรรมของ พรรคที่มี ส.ส. มีเสียงเป็นอันดับ 2 ที่จะตั้งรัฐบาล ในส่วนของเราซึ่งเป็นกลุ่มเล็กก็คิดว่า เป็นวิถีทางที่จะต้องร่วมกัน ช่วยกันแก้ไขวิกฤติของชาติในวันนี้ เนื่องจากว่า ทั้งเศรษฐกิจสังคม อย่างที่เราทราบกันอยู่นะคะว่า จะต้องแก้ไขเยียวยาอย่างเร่งด่วน เพราะฉะนั้นประเทศไทยจะต้องมีรัฐบาลเพื่อทำงาน เพื่อแก้ไขวิกฤติต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ทั้งนี้ พวกเราคงทราบดีว่ากลุ่มต่างๆ ได้ออกมาเรียกร้องนะคะ เพราะฉะนั้นทางกลุ่มมัชฌิมาธิปไตยก็เห็นว่า นี่ก็คือวิถีทางที่คิวด่าน่าจะเป็นทางออก ที่ดีที่สุดของทางกลุ่มนะคะ ที่จะช่วยกันแก้ไขวิกฤติของชาติในวันนี้นะคะ กราบขอบพระคุณมากค่ะ”
นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ กลุ่มเพื่อนเนวิน
“ท่านพี่น้องสื่อมวลชนที่รักและเคารพทุกท่านครับ วันนี้ เป็นการตัดสินใจที่ลำบากที่สุดของกลุ่มเพื่อนเนวิน เราได้ใช้เวลาในการตัดสินใจครั้งนี้ พอประมาณ และทางกลุ่มเพื่อนเนวินคิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ ที่จะช่วยแก้วิกฤติปัญหาของประเทศชาติในภาวะที่ ประเทศชาติกำลังเกิดวิกฤติ ฉะนั้นพวกเราในที่ประชุม ในสมาชิกทั้งหมด จึงได้ร่วมกันตัดสินใจที่จะทำกิจกรรมการเมืองร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยสนับสนนุนพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และหวังว่า การตัดสินใจทางการเมืองครั้งนี้ของ กลุ่มเพื่อนเนวิน จะสามารถแก้ปัญหาของชาติ ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ และทางกลุ่มก็ได้มีแถลงการณ์ ซึ่งผมจะได้มอบให้ท่านบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ได้อ่านแถลงการณ์ของกลุ่ม นะครับ”
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชมีมา กลุ่มเพื่อนเนวิน
“พี่น้องสื่อมวลชนที่เคารพครับ จากวิกฤติของประเทศจนนำมาสู่เหตุการณ์วันนี้ ซึ่งพวกเราในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เราตระหนักว่าทุกภาคส่วนต้องการเห็นประเทศเดินต่อไปได้ เห็นคนไทยนั้นอยู่อย่างมีความสุข วันนี้พวกเราในนามกลุ่มเพื่อนเนวินจึงมีจุดเห็นพ้องต้องกันที่จะทำให้ประเทศของเรานั้น เป็นประเทศไทยที่น่าอยู่ และต้องการให้รัฐบาลที่ต่อไปนี้เป็นรัฐบาลที่บริหารประเทศให้ประชาชนมีความสุข พวกเราจึงมีแถลงการณ์ฉบับ 2 ซึ่งมีข้อความดังต่อไปนี้
จากการที่พวกข้าพเจ้าได้แถลงจุดยืนจะดำเนินกิจกรรมทางการเมือง โดยคำนึงถึงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และขอสงวนสิทธิที่จะใช้เอกสิทธิของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลงมติที่จะเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสิทธิตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ โดยมีความมุ่งหมายให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากวิกฤตร้ายแรง และป้องกันการเผชิญหน้าของประชาชนในชาติที่จะมีขึ้นในวันข้างหน้า
พวกข้าพเจ้าขอเรียนยืนยันว่าในกรณีที่มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น พวกข้าพเจ้าจะใช้เอกสิทธิในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หลังจากลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ข้าพเจ้าจะพิจารณาเข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมือง ซึ่งมีแนวทางการดำเนินงานทางการเมืองที่สอดคล้องกับจุดยืนและอุดมการณ์ของพวกข้าพเจ้า และขอยืนยันว่าพวกข้าพเจ้าจะไม่สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
พวกข้าพเจ้าทราบดีกว่าการตัดสินใจครั้งนี้อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนจำนวนหนึ่งที่ให้การสนับสนุนพรรคพลังประชาชน ซึ่งพวกข้าพเจ้าพร้อมจะน้อมรับคำตำหนิทุกประการ ขอเรียนว่าการตัดสินใจครั้งนี้พวกข้าพเจ้ามีความเจ็บปวดไม่น้อยกว่าประชาชนทุกคน แต่ในฐานะเป็นประชาชนคนไทย วันนี้ เราต้องคิดถึงประโยชน์ของบ้านเมือง มากกว่าประโยชน์ของพรรคการเมือง ต้องทำเพื่อความอยู่รอดของประเทศ มากกว่าความอยู่รอดของตัวบุคคล ต้องมองเห็นประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าส่วนตนและพวกพ้อง
พวกข้าพเจ้าตระหนักดีว่าอาจได้รับผลกระทบทางการเมืองหลังการตัดสินใจครั้งนี้ แต่หากประเทศชาติอยู่รอด การเมืองหลุดพ้นภาวะวิกฤต เศรษฐกิจได้รับการเยียวยาฟื้นฟู การท่องเที่ยวกลับมามีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น ประชาชนมีงานทำ เกษตรกรขายสินค้าเกษตรได้ราคา การส่งออกกลับมาดีดั้งเดิมในเร็ววัน พวกข้าพเจ้าก็พร้อมที่จะรับผลนั้นเพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ เพราะวันนี้ ประเทศไทยของเราไม่อาจเสียเวลาอีกแล้ว และเสียเกียรติภูมิในเวทีโลก เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองไม่จบสิ้น มากกว่าที่ผ่านมาอีกแล้ว
การจับประเทศไทยและประชาชนทั้งชาติเป็นตัวประกันนั้น การใช้ความอยู่รอดของบ้านเมืองและความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องประสบความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจเป็นเดิมพันควรยุติได้แล้ว
ระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาน่าจะเป็นบทเรียนราคาแพงของนักการเมืองทุกคน ได้ตระหนักและพึงสำนึกแล้วว่าการดึงดันที่จะให้ได้ดั่งใจของพรรคการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงของประชาชนอย่างรอบด้าน การตัดสินใจโดยมุ่งที่จะเอาแพ้เอาชนะโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่บ้านเมืองและประชาชน ได้ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงต่อบ้านเมือง และนำมาสู่ความตกต่ำของประเทศไทยในทุกๆ ด้าน บทเรียนนี้เองเป็นเหตุให้พวกข้าพเจ้าคำนึงถึงความอยู่รอดของบ้านเมือง มากกว่าความอยู่รอดของพรรคการเมืองและตนเอง
พวกข้าพเจ้าขอกราบขออภัยเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคยร่วมงานกันมาในนามพรรคพลังประชาชน และประชาชนทุกท่านที่ได้ให้การสนับสนุนพรรคพลังประชาชนที่ไม่อาจจะร่วมดำเนินกิจกรรมการเมืองในพรรคการเมืองเดียวกันต่อไปได้ แต่พวกข้าพเจ้าก็ยังคงยินดีที่จะร่วมมือกันทำงานการเมืองกับทุกท่านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำพาประเทศไทยหลุดพ้นจากสภาพการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ทรงมีพระราชดำรัสว่าวิกฤตที่สุดในโลก และรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่าเป็นความปรารถนาสูงสุดของเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามที่ถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก่อนที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่
พี่น้องสื่อมวลชนที่เคารพครับ ทั้งนี้คือแถลงการณ์จุดยืนของพวกเราในนามของกลุ่มเพื่อนเนวินที่ร่วมอุดมการณ์กันเพราะเราต้องการเห็นประเทศไทยนั้นมีรัฐบาลที่จะสามารถบริหารประเทศต่อไปเพื่อความผาสุกของประชาชน ครับ ขอบคุณมากครับ”
สุเทพ เทือกสุบรรณ
“ขอบคุณครับ พี่น้องสื่อมวลชนครับ จะได้เห็นว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากทุกพรรคการเมือง ได้ตระหนักในภาระรับผิดชอบที่มีต่อพี่น้องประชาชน ที่มีต่อประเทศชาติ และตั้งใจที่จะร่วมมือกันแก้ไขวิกฤติการของบ้านเมือง ได้ให้ความไว้วางใจพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล ผมขอถือโอกาสนี้ กราบเรียนกับเพื่อนสื่อมวลชน เพื่อกราบฝากไปถึงพี่น้องประชาชน ที่คอยติดตามข่าวการเมืองอยู่
ที่มาแถลงข่าวในวันนี้ เพราะทราบดีว่าพี่น้องประชาชนกำลังรอคอยด้วยความระทึกอยู่ว่า โฉมหน้าทางการเมืองในช่วงต่อไปนี้จะเป็นอย่างไร การที่พวกเราได้มาแถลงกันในวันนี้นั้น ก็จะทำให้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลงในทางการเมือง ในทิศทางที่สอดคล้องกับความต้องการของพี่น้องประชาชนได้
ผมเรียนว่าเป็นการปรึกษาหารือทางการเมืองที่ราบรื่นที่สุดครับ ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่มีผลประโยชน์ของพรรค ไม่มีการต่อรองเรื่องตำแหน่ง เรื่องกระทรวงใดๆ ทั้งสิ้นครับ ทุกคนตระหนักว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาประเทศให้ได้ เพื่อสร้างรัฐบาลที่ดีที่สุดที่จะมาแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศในคราวนี้
ในนามของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ผมขอต้อนรับสมาชิกพรรคการเมืองกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่จะมาเป็นหุ้นส่วนในการทำงานทางการเมืองเพื่อพี่น้องประชาชน ด้วยความเคารพ ด้วยความรักเป็นอย่างยิ่ง และขอกราบเรียนแทนทุกพรรคทุกกลุ่มที่มาร่วมมือกันว่า เราจะร่วมมือกันทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติให้ดีที่สุดครับ”
ถาม – จำนวน ส.ส.ที่จะสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
-ขณะนี้ที่เราประมาณกันอยู่นะครับ เราคิดว่าเรามีมากกว่า 260 คนครับ
ถาม-จะสนับสนุนใครเป็นนายกฯ
พล.ต.สนั่น ตอบ-ผมคิดว่าพวกเรา ทุกพรรคการเมืองทุกกลุ่มการเมือง ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาครับ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ พวกเราก็สนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีครับ หัวหน้าพรรคก็จะต้อง เราจะสนับสนุนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกฯ ครับ
ถาม – ที่มาร่วมแถลงข่าวเป็นตัวแทนที่แท้จริงของแต่ละพรรคแต่ละกลุ่มหรือไม่
สุเทพ ตอบ-ทั้งหมดนี่ก็เป็นตัวแทนของพรรคทุกพรรคและเป็นผู้มีบทบาททางการเมือง แล้วก็กว่าที่จะมาแถลงข่าวกับท่านทั้งหลายวันนี้ก็ได้รับมอบหมายกันมาชัดเจนนะครับ การเมืองวันนี้ต้องทำด้วยความโปร่งใสต่อหน้าต่อตาพี่น้องประชาชนครับ คงไม่มีอะไรที่ต้องกังวลครับ
