“สมเกียรติ” เปิดเบื้องลึก “กองทัพอากาศ” ฮึ่มใส่ “รัฐบาลทรราช” หากสั่ง ตร.ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของ “พันธมิตรฯ” ที่สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ แฉแหลก “ชายอำมหิต” ถูก “ทหาร” กักบริเวณหลังสั่งฆ่าประชาชนในเหตุการณ์ 7 ต.ค. ก่อนแฉ “35 รมต.” หนีหัวซุกหัวซุนพ้น กทม. เหตุผวาถูกรวบหากเกิดเหตุการณ์นองเลือด
วานนี้ (28 พ.ย.) เวลา 21.30 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถหาฐานที่มั่นในกรุงเทพฯ ได้ว่า สาเหตุที่นายสมชาย ไม่กลับมากรุงเทพฯ เพราะไม่สามารถปกครองประชาชนได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงสั่งการไปที่ทหารทุกเหล่าทัพ และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ แต่ไม่มีใครทำตาม นายสมชายจึงสั่งการไปยังฆาตกร พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ซึ่งมือเปื้อนเลือดในเหตุการณ์ 7 ต.ค. รวมทั้งสั่งการไปยัง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย ให้ดำเนินการ อย่าว่าแต่ทหารที่ไม่ยอมร่วมมือกับนายสมชาย เพราะแม้แต่สุนัขขี้เรื้อนเขาก็ยังสั่งไม่ได้
“จำเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ที่ คมช.ทำรัฐประหารโดยถีบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตกจากเวทีประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ โดยการปฏิวัติในครั้งนั้น พล.ต.อ.โกวิท ได้ขับรถหนีไปเพราะไม่ยอมร่วมขบวนปฏิวัติด้วย หลังจากนั้นไม่นาน พล.ต.อ.โกวิท ถูกปลดจากตำแหน่ง ผบ.ตร. ทำให้ พล.ต.อ.โกวิท คับแค้นใจเพราะเขาเป็นหนึ่งใน คมช. แต่กลับโดนปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งพอดีสวรรค์บัลดาลให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หาคนใจโหดเหี้ยมใจสัตว์นรกที่จะไปปราบปรามประชาชนไม่ได้ จึงตั้ง พล.ต.อ.โกวิท ขึ้นมาปราบปรามประชาชน ฉะนั้น พล.ต.อ.โกวิท จึงต้องตอบแทนบุญคุณของ พ.ต.ท.ทักษิณ และแก้แค้น คมช. แต่การกระทำของ พล.ต.อ.โกวิท ครั้งนี้ ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของกองทัพ” นายสมเกียรติ กล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า วันนี้มีการเรียกประชุมคณะกรรการที่จะเข่นฆ่าประชาชน โดยจุดแรกที่เขาจะสลายการชุมนุมก็คือ สนามบินดอนเมือง เพราะเป็นแนวรบที่มีคนน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิและที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ผู้ชุมนุมที่สานามบินดอนเมือง เป็นคนหนุ่ม สาว ซึ่งร่วมกันต่อสู้อยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ จึงถูกส่งตัวไปให้ดูแลฐานที่มั่นที่สนามบินดอนเมือง แต่กลับมีปรากฏการณ์สวรรค์มีตา ฟ้าศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกองทัพอากาศส่งรถหุ้มเกราะ บี 150 เข้าคุ้มครอง ซึ่งรถถังบอกผมว่าถ้าพวกมันมาเขาจะฆ่าไอ้พวกนั้นเอง นั่นหมายถึงทหารอากาศไม่ทำร้ายพันธมิตรฯ คงเป็นเพราะผู้บัญชาการทหารอากาศคนใหม่ยืนเคียงข้างประชาชน
“กองทัพอากาศส่งคำเตือนออกไปว่า ที่สนามบินดอนเมืองเป็นพรมแดนของกองทัพอากาศดอนเมือง ฉะนั้นจะต้องไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาทำร้ายพันธมิตรฯ ได้อย่างแน่นอน ถ้าแปลความหมายก็คือ หากตำรวจเข้ามา 100 คน ก็ให้เอาโลงศพมา 100 โลง เพื่อส่งกลับ โดยประชาชนที่ดอนเมืองจะร่วมกันใช้เท้าช่วยถีบอย่างสุภาพและอ่อนโยน ส่งตำรวจกลับไปอย่างนุ่มนวล ดังนั้นสถานการณ์ในขณะนี้ ไม่ใช่สถานการณ์ของการเผชิญหน้ากันแล้ว แต่เป็นสถานการณ์ลุกขึ้นสู้โดยกำปั้นต่อกำปั้นหรืออย่างอื่นต่ออย่างอื่นเพราะเราจะไม่ยินยอมให้รัฐตำรวจชั่ว ทำตัวเป็นอันธพาลครองเมืองอย่างแน่นอน” แกนนำพันธมิตรฯ ระบุ
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า วันที่ 2 ธ.ค.นี้ ศาลให้พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย มาแถลงปิดคดี จากนั้นศาลก็จะอ่านคำพิพากษาคดียุบพรรค ตนว่านายสมชาย ตายใกล้เคียงกับวันยุบพรรค เพราะในรายงานของนายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ ซึ่งระบุว่า ในวันที่ 6 ต.ค. มีการประชุมกันที่ บช.น. จากนั้นในวันที่ 7 ต.ค. สลายการชุมนุมโดยการสังหารโหดสารวัตรจ๊าบและน้องโบว์ รวมทั้งทำให้มีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 400 ราย นั่นเป็นเพราะนายสมชาย จอมบงการ ส่วนผู้รับคำสั่งบงการคือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ ซึ่งขณะนี้หนีไปบวชเพื่อล้างบาป แต่คาดว่าจะล้างไม่ออก
“ส่วนข่าวที่นายพิเชษฐ์ รายงานว่า การประชุมสั่งฆ่าประชาชนในครั้งนั้น มี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รวมอยู่ด้วย ซึ่งผมยังไม่เชื่อในข้อมูลดังกล่าว แต่ที่สำคัญ พล.ต.อ.พัชรวาท คัดต้านไม่ให้ใช้กำลังปราบปรามประชาชน เขาจึงมีคำสั่งไปลงที่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว มาถึงวันนี้ ผมจึงต้องขอคารวะ และขอบคุณ พล.ต.อ.พัชรวาท เพราะเขาไม่เคยคิดเข่นฆ่าประชาชนเผ่าเดียวกับเขาเลยแม้แต่น้อย ที่สำคัญเขาไม่ก้มหัวให้กับนายสมชาย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่ง” นายสมเกียรติ ระบุ
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ถูกเชิญให้ไปร่วมประชุมเพื่อปราบปรามประชาชน แต่ พล.อ.อภิชาต ออกมาแถลงข่าวว่า คนที่จะไปปราบปรามประชาชนมียศแค่ พลตำรวจเอก แต่เรามียศถึงพลเอก ซึ่งไม่ใช่ลูกน้องเขา แล้วจะไปร่วมประชุมกับรัฐตำรวจชั่วด้วยทำไม ฉะนั้นต้องขอคารวะปลัดกระทรวงกลาโหมด้วยใจจริง นอกจากนี้มีบุคคลสำคัญโทรมาหาตน โดยยืนยันว่า ปลัดกระทรวงกลาโหม คนดังกล่าว ได้มีคำร้องขอไปถึงเหล่าทัพทั้งหลายว่า ตำรวจขอกำลังเราไปปราบปรามประชาชน แต่ พล.อ.อภิชาต ระบุว่า เราไม่อนุญาตให้กองทัพไปสนธิกำลังกับตำรวจ และถ้าตำรวจไม่เชื่อก็ขอให้เข้ามากำลังสลายการชุมนุมได้เลย
“ตอนนี้ตำรวจอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งกันหมดแล้ว เพราะเขาถูกสั่งให้มาปราบปรามประชาชนถึง 2 วันแล้ว แต่ยังไม่ได้ปราบ เนื่องจากกองทัพไม่ได้ส่งกำลังเข้าร่วมปราบปรามประชาชน จึงต้องขอปรบมือให้กับทหาร เพราะเขาเป็นกองทัพที่มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่กองทัพของรัฐบาลชั่ว ฉะนั้นที่เคยต่อว่ากองทัพมามาก วันนี้ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า มีข่าวกรองเชิงลึกซึ่งระบุว่า ในวันที่ตำรวจใช้กำลังปราบปรามประชาชนได้มีการเชิญนายสมชายไปกักบริเวณ ซึ่งถ้าวันนั้นคนมีสีที่เชิญไปไม่ใจอ่อนปล่อยตัวออกมา ป่านนี้นายสมชาย เรียบร้อยไปแล้ว แต่วันนี้ไม่มีการเกรงใจกันแล้ว อยากจับตรงไหนขอให้บอกมาจะเดินไปให้จับ เพราะขนาด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ยังออกมาแถลงข่าว โดยระบุว่า ถ้าเขาเป็นนายกฯ เขาจะลาออก หรือยอมยุบสภา แต่วันนี้นายสมชาย ไม่ได้ทำตามแนะนำของ พล.อ.อนุพงษ์ แต่ด้วยความที่กลัวว่าจะถูกกักบริเวณอีก จึงหนีไปอยู่ที่ จ.เชียงใหม่
“แล้วที่กระทรวงวัฒนธรรม ออกมาแถลงข่าวว่า นายกฯ มีภารกิจตรวจเยี่ยมต่างจังหวัด นั้น เป็นเพราะนายสมชาย กลัวว่าจะถูกจับแล้วถูกจัดการ รวมทั้ง 35 คณะรัฐมนตรี ไม่มีใครกล้าอยู่บ้าน ต่างหนีกันหัวซุกหัวซุน ไม่ไปทำงานที่กระทรวง และที่ทำเนียบฯ ฉะนั้นถ้าประชาชนเห็นว่าทำเนียบฯ ร้าง แสดงว่าไม่มีความผิดอะไรถ้าเราจะเข้ามาอยู่อาศัย แต่ทำไมถึงถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายมากเหลือเกิน ที่สำคัญอาการของคนส่งทอดอย่าง พล.ต.อ.โกวิท อยู่ในขั้นตรีทูต เพราะคำสั่งของฆาตกรนายสมชาย และอำนาจรัฐจะต้องสูญสลายไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ส่วนเหตุผลที่ทำให้นายสมชาย ไม่กล้าที่จะกลับมาที่ กทม. เพราะเหล่าทัพบอกให้ลาออกและให้ยุบสภา และแนวรบที่สำคัญในยามนี้คือ พี่น้องพันธมิตรฯ ซึ่งเราจะตรึงกำลังกันเอาไว้ จนกว่าพวกมันจะมีอันเป็นไป”แกนนำพันธมิตรฯ ระบุ