“พิภพ” แฉยุทธศาสตร์ “แม้ว” เดินเกมสายเหยี่ยวคู่สายพิราบ ยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่พันธมิตรฯ หวังให้หมดความอดทน ใช้ความรุนแรงตอบโต้ นำไปสู่ความวุ่นวายในบ้านเมือง แล้วถือโอกาสยึดอำนาจใช้ประกาศคณะปฏิวัติยกเลิกความผิด “ทักษิณ” อีกสายเดินเกมทางรัฐสภาแก้รัฐธรรมนูญล้มล้างกระบวนการยุติธรรม-อยู่ในอำนาจรัฐให้นานสูบเงินเข้ากระเป๋าให้มากที่สุด เผยทางเดียวที่ประชาชนจะชนะต้องออกมาให้มาก และชุมนุมโดยสงบ-สันติ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
เวลาประมาณ 21.30 น.วันที่ 22 พ.ย. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า รัฐบาลต้องการทำให้พวกเรากลัว จึงยิงระเบิดเข้ามาทุกวันเพื่อให้เรากลัวและเลิกชุมนุม แต่เราไม่กลัว เพราะเรามาเพื่อรักษา ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ แม้แต่คนที่ได้รับบาดเจ็บจาการถูกระเบิดเอ็ม 79 ที่ยิงมาจาก บช.น.เมื่อเช้าวันก่อน ก็ยังไม่ยอมแพ้ โดยคนที่บาดเจ็บและไม่อยู่ในอาการโคม่านั้นได้บอกว่าถ้าหายแล้วจะมาร่วมชุมนุมอีก แม้ว่าจะยังไม่หายดีก็ตาม
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ส่วนนายยุทธพงษ์ เสมอภาค ที่บาดเจ็บสาหัสอยู่ในอาการโคม่า นั้น ตนได้ไปเยี่ยมและบอกว่าอย่ายอมแพ้ ให้สู้ต่อไป ซึ่งเมื่อตนพูดก็เห็นขนตาของนายยุทธพงศ์ขยับ เหมือนกับส่งสัญญาณว่าจะไม่ยอมแพ้ ทั้งนี้ กลุ่มคนที่โดนระเบิดครั้งนี้ เป็นอาสาสมัคร ซึ่งน่ารักมาก เป็นทีม 10 กว่าคน ทำหน้าที่เอาอาหารและน้ำ ไปให้สารวัตรทหาร (ส.ห.) ที่อยู่ตามจุดต่างๆ แต่ตามมารยาทตนจึงไม่ได้ถามว่าพวกเขาทำอาชีพอะไร แต่อย่างน้อยคงเป็นพนักงานบริษัทและทำธุรกิจ เป็นคนมีน้ำจิตน้ำใจมาก ขอบอกพี่น้องทางบ้านว่าการเสียสละ มีนำจิตน้ำใจเหมือนคนเหล่านี้เป็นทางเดียวที่เราจะกู้ชาติได้
“แม่จะมีคนเจ็บ ตายมากขึ้น เราก็ไม่ท้อถอย เพราะเขาทำให้เราเจ็บเราตาย เพื่อให้เราท้อถอยและยอมแพ้ไป แต่เราไม่ยอมแพ้ เพราะถ้าเรายอม การรักษาสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสันติและปราศจากอาวุธจะทำไม่ได้ เมื่อทำไม่ได้ เผด็จการก็จะครองเมือง การรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และราชบัลลังก์ โดยประชาชนจำนวนมหาศาลก็จะทำไม่ได้ ถ้ามีความขาดกลัว”
นายพิภพ กล่าวต่อว่า เราพิสูจน์แล้วว่าคนไทยยุคนี้ ก็เหมือนยุค 14 ตุลา ที่ไม่ยอมให้เผด็จการ มาครั้งนี้ เราสู้เพื่อไม่ให้เผด็จการโดยรัฐสภา หัวโจกใหญ่ทักษิณ ชินวัตร กลับมาอีก ส.ส.พรรคพลังประชาชนบอกว่า ทักษิณจะกลับมาในวันที่ 25 ธ.ค. ทั้งที่เป็นนักโทษแถมบางคนยังท้าทนายว่าตำรวจคนไหนจะไปจับ
นายพิภพ วิเคราะห์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาแน่ แต่ไม่รู้จะมาในฐานะอะไร โดยเหยี่ยวของทักษิณนั้นต้องการให้เกิดความปั่นป่วนเพื่อให้พันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบ ขู่ให้กลัวโดยการยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าไป ให้เราอดกลั้นด้วยสันติวิธีไม่ไหว แล้วตอบโต้ด้วยความรุนแรง ซึ่งก็จะเข้าทางสายเหยี่ยว ทำให้สังคมเกิดความวุ่นวาย ทหารฝ่ายทักษิณก็จะถือโอกาสยึดอำนาจ
ตอนนี้ทหารแบ่งเป็น 2 ฝ่าย แต่ฝ่ายทักษิณยังไม่สามารถทำรัฐประหารได้ นอกจากทำให้เกิดความปั่นป่วนในบ้านเมือง แล้วชิงไหวชิงพริบกันทำรัฐประหาร ซึ่งเป็นช่องทางเดียวที่ฝ่ายทักษิณจะเข้ามาออกประกาศคณะรัฐประหารเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นจากความผิด
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ดังนั้น ทหารที่ไม่ใช่ฝ่ายทักษิณต้องออกมาคุ้มครองประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบและสันติ ถ้าคืนนี้มีระเบิดอีก แสดงว่าทหารที่อ้างว่ารักชาติและราชบัลลังค์ ไม่อยู่กับทักษิณนั้น ช่วยเราไม่ได้ แต่ก็ยังหวังว่าทหารที่มาป้องกันเรา จะช่วยป้องกันพี่น้องประชาชนไว้ได้ เพื่อเก็บกำลังไว้สู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณต่อไป ขณะทีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นั้นไร้ความหมาย เพราเป็นแค่เครื่องมือของทักษิณเท่านั้น
นายพิภพ ได้กล่าวฝากไปถึงตำรวจและอัยการที่กำลังจดบันทึกอยู่ว่า พันธมิตรฯ ชุมนุมโดยใช้ มาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ คุ้มครองอยู่ ในเรื่องบุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และมาตรา 69 บุคคลมีสิทธิต่อต้านโดยสันติวิธี ซึ่งการกระทำใดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ โดยวิถีทางที่ไม่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
วิธีการที่เราเคลื่อนไปปิดล้อมทำเนียบ ไปรัฐสภา เพื่อไม่ให้สามารถประชุมได้ ก็เพราะได้พิสูจน์แล้วว่ารัฐบาลนี้เข้ามามีอำนาจการปกครองประเทศโดยวิธีการที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ นั่นคือการซื้อเสียง ตามที่ กกต.ได้ส่งฟ้องศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เราจึงมีสิทธิต่อต้านโดยสันติวิธีกับรัฐบาลที่เข้ามามีอำนาจโดยวิธีการที่รัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติไว้ การกระทำของเราจึงมีรัฐธรรมนูญคุ้มกันอยู่ และที่สำคัญเรามีหน้าที่ตามาตรา 70 บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์ไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตรย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป้ฯประมุขตามที่รัฐธรรมนูญนี้บัญญัติไว้ นี่เป็หน้าที่ของเรา
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ถึงวันนี้กระบวนการของ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการทำลายชาติ จะทำให้เกิดการแบ่งแยกประเทศแบ่งคนออกไป ปล่อยให้มีเว็บไซต์โจมตีสถาบันกษัตริย์โดยไม่เข้าไปจัดการอย่างเฉียบพลัน แสดงว่ารัฐบาลนี้ไม่ป้องกันสถาบันกษัตริย์ จึงเป็หน้าที่ของเรา เพราะฉะนั้นการชุมนุมของเราจึงเป็นการทำหน้าที่ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราสามรถใช้สิทธิได้ตามมาตรา 63, 69 และ 70
นายพิภพ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการมีอำนาจอีกครั้ง เพื่อเอาเงิน 7.2 หมื่นล้านคืน โดยเมื่อเร็วๆ นี้มีความพยายามคืนภาษีให้ลูกๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และได้หย่ากับคุณหญิงพจมานเพื่อหาทางเรียกเงินที่ถูกยึดกลับคืน นอกจากนี้ยังต้องการจะทำให้คดีความต่างๆ หลุดออกจากสารบการะบวนการยุติธรรม
ขณะที่สายพิราบของ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า ให้แก้รัฐธรรมนูญ ถ้าแก้ไมได้ ให้ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่แล้วกลับมาด้วยเสียงที่มากที่สุด โดยพร้อมที่จะทุ่มเงิน 2 หมื่นล้าน หลังจากนั้นก็ทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้นิรโทษความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด
ส่วนแนวทางสายเหยี่ยวนั้น ต้องการให้ใช้ความรุนแรงกับพันธมิตร ทำให้เกิดการปั่นป่วนโต้ตอบ ซึ่งเขาเชื่อว่าถ้าเกิดความรุนแรงถึงจุดหนึ่ง พันธมิตรฯ จะไม่สามารถธำรงไว้ซึ่งอหิงสาหรือสันติวิธีได้ ก็จะเข้าทาง และเกิดความปั่นป่วนขึ้นทั่วกรุง เกิดความไร้ระเบียบขึ้นในสังคม สายเหยี่ยวก็จะใช้โอกาสนี้ทำการยึดอำนาจ
นายพิภพ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินยุทธศาสตร์ทั้ง 2 คู่ขนานกันไป โดยทางสภาก็จะใช้ยุทธศาสตร์สายพิราบ เพื่ออยู่เป็นรัฐบาลให้นานที่สุดเพื่อถลุงงบประมาณ ส่วนสายเหยี่ยวก็ต้องการยึดอำนาจให้เร็วขึ้น จึงพยายามสร้างความรุนแรงกลับพันธมิตรฯ ดังนั้น ทหารที่รักราชบัลลังก์และไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยกจะต้องมองออกว่าการเคลื่อนไหวของสายเหยี่ยวของ พ.ต.ท.ทักษิณทำให้เกิดความแตกแยก และเป็นปัญหาต่อความมั่นคงแล้ว ดังนั้น ทหารต้องตัดสินใจยับยั้งความรุนแรงให้ได้ คืนนี้ต้องไม่มีการยิง เอ็ม 79 แม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์แม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.ทบ.ว่าจะรักษาความปลอดภัยในเขตพระราชฐานไว้ได้หรือไม่ ถ้าท่านทำไม่ได้ สายเหยี่ยวของทักษิณจะได้ใจ แต่อย่างไรก็ตาม เราจะไม่มีวันกลัวเป็นอันขาด
นายพิภพ กล่าวต่อว่า การยับยั้งความรุนแรงจากสายเหยี่ยวของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีทางเดียวคือประชาชนต้องออกมาเรือนแสนเรือนล้านต้องเลิกนอนอยู่กับบ้าน แล้วออกมา ถ้าถนนราชดำเนินหรือทำเนียบรัฐบาลแน่นเกินไปก็ให้ออกมาทุกสี่แยกไฟแดง ให้กรุงเทพฯ เป็นอัมพาตชั่วคราว เป็นทางเดียวที่เราจะหยุดยั้งสายเหยี่ยมของทักษิณได้ เราต้องยอมเสียสละความสะดวกสบาย เสียสละที่จะถูกกล่าวหาว่าทำให้เศรษฐกิจไม่เดิน แต่ขอให้ไม่เดินสัก 7 วัน เพื่อชัยชนะ แล้วเศรษฐกิจจะเดินฉิว
“แต่เราต้องอดทน ชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ ผมเตือนทหารที่อยู่ตรงข้ามกับทักษิณไว้แล้วว่า ทหารที่รักราชบัลลังก์ ขณะนี้น่าจะรู้ดีว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุมากแล้ว เราจะต้องสองพระคุณพ่อหลวงของเรา โดยทำให้บ้านเมืองสงบโดยไว ที่เรามาชุมนุมอย่างสงบสันติก็เพราะเราต้องการให้บ้านเมืองสงบ ถ้าเราไม่มาชุมนุม จะทำให้บ้านเมืองไม่สงบสันติ เป็นทาสของทักษิณ เป็นการเนรคุณต่อพระองค์”
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ทหารต้องยับยั้งความรุนแรงไห้ได้ ดูแลประชาชนให้ชุมนุมอย่างสงบสันติ โดยปราศจากอาวุธ จนกดดันให้นายสมชายลาออกจากการเป็นนายก เพราะนายสมชายไม่ใช่แค่บริหารล้มเหลว แต่ยังเป็นฆาตกรด้วย และเป็นสะพานทอดให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศโดยไม่ให้มีความผิด ซึ่งเรายอมไม่ได้
ขณะที่รัฐสภาก็พยายามทำทุกทางเพื่อผ่านรัฐธรรมนูญฉบับนายแพทย์เหวง โตจิราการ และฉบับที่ร่างโดย ส.ส.ร. ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือให้กระบวนการยุติธรรมล้มเหลว ไม่สามารถจัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณได้ นี่คืองานของสภา ดังนั้นเราต้องไปปิดสภาไม่ให้ทำงานได้ เรารู้แล้วว่า เรามาทำอะไร เพื่ออะไร เรามาทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และราชบัลลังก์ การที่จะรักษาไว้ได้ นายสมชายต้องออกไป สภาต้องประชุมไม่ได้
“พวกเราเสียชีวิต บาดเจ็บไปหลายคนแล้ว เราเคยบอกว่าจะชุมนุมโดยสงบสันติไม่เสียเลือดเสียเนื้อแม้แต่หยดเดียว สุดท้ายใครทำให้เราเสียเลือดเนื้อ เสียชีวิต ก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยผ่านนายสมชาย และนายสมชายสั่งไปที่ตำรวจ รวมทั้งให้ทหารฝ่ายทักษิณยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้ามา หรือให้ตำรวจฝ่ายทักษิณยิงเข้ามาใส่เรา”
นายพิภพ ย้ำว่า การเสียชีวิตของพวกเราจะไม่เสียเปล่า เราจะไม่พ่ายแพ้ ถ้าเราไม่มีความกลัว และรักษาสิทธิเสรีภาพยิ่งกว่าชีวิต ซึ่งจะทำให้เรารักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันที่เรารักยิ่งไว้ได้ ความชอบธรรมของการชุมนุมของประชาชนทั่วโลกได้ชัยชนะมาแล้ว ด้วยการชุมนุมอย่างสงบสันติและมีจำนวนมหาศาล