ผู้จัดการออนไลน์ - “พล.ต.จำลอง” ประณามสัตว์นรกยิงเอ็ม 79 เลวกว่าหมา แจงเหตุต้องเร่งเผด็จศึก ทนต่อไปไม่ได้แล้วกับการกระทำที่รุนรุนของรัฐบาล และคำพูดที่เชื่อถือไม่ได้ อัด “ชัย ชิดชอบ” หน้าด้านยัดวาระแก้รัฐธรรนูญ ย้ำจุดมุ่งแรกของพันธมิตรฯ คือป้องกันการแก้ รธน. เตือนทหารจงรักภักดี ไม่ใช่ทำได้เพียงแค่เดินสวนสนาม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
เวลา 20.20 น.วันนี้ (22 พ.ย.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า สาเหตุที่พันธมิตรฯ ต้องรีบเผด็จศึก เพราะวันที่ชุมนุมครบ 6 เดือน วันที่ 20 พ.ย.เราได้เสียคุณเจนกิจ กลัดสาครไป และขอประนามคนที่ยิงว่าเป็นหมาลอบกัด ทั้งนี้ต้องขอยืนยันว่าคนที่ยิงปืนเอ็ม 79 ใส่พวกเรานั้นเลวยิ่งกว่าหมา เพราะหมาจรจัดที่ตนเองเลี้ยงไว้ทุกตัว ไม่มีตัวไหนลอบกัดคนทีกำลังนอน
“เราต้องรีบเผด็จศึกให้เร็ว เพราะมันนานเกินมาแล้ว การเสียคุณเจนจิตไปนั้นทำให้เรายอมทนต่อไปไม่ได้แล้ว เขาจะแก้รัฐธรรมนูญ หากเราไม่ทำไม่ได้แล้ว ที่มีข่าวว่าจะไม่แก้นั้นเชื่อไม่ได้ ขอยืนยันครับว่าเขาเตรียมแก้รัฐธรรมนูญแน่ โดยวันนี้ได้ให้ผู้สื่อข่าวดู ว่าวาระด่วนที่ 1 ของการประชุมสภาวันที่ 24 นี้ คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการรื้อฉบับปี 50 หมด แล้วเอาของใหม่มาใช้”
ทั้งนี้ พล.ต.จำลอง ย้ำว่า รัฐธรรมนูญที่มีการเสนอไปนั้นมาจากพวก"นรกป่วนกรุง" และการที่นายชัย ชิดชอบ บรรจุเข้าไปในวาระการประชุมก็ผิดแล้ว เพราะประชาชนจะเข้าชื่อเสนอแก้ไขรธน.2550 ต้องมีกฏหมายประกอบเสียก่อน แต่บัดนี้กฎหมายดังกล่าวยังไม่ได้ออกมา แล้วนายชัยบรรจุเข้าไปได้ยังไง แสดงว่ามีอำนาจลัหน้าด้านเสียอย่างก็ทำได้
โดยเรื่องนี้เป็นความเป็นความตายของบ้านเมือง และเอาวาระนี้ไปพิจารณาเป็นวาระที่ 1 ได้อย่างไร เด็กๆ ยังรู้ อีกทั้งในฐานะที่ตนทำหน่าที่ในสภามาหลายครั้ง ซึ่งตอนนี้ทำให้เราไม่ไว้ใจพวกเขา เมื่อไม่ไว้ใจเราต้องไปที่หน้าสภา และการป้องกันการแก้ไข รธน.นี้เป็นเป้าประสงค์ในการชุมนุมของพวกเราในข้อแรก
“พี่น้องจะเห็น เราต้องดำรงคงมั่นในจุดมุ่งหมายเดิม เราต้องทำตามที่ตกลงกันไว้ทุกประการ และขอให้เชื่อว่าเหตุการณ์ในวันที่ 24 นี้จะไม่เหมือน 7 ตุลาคมแน่ คนพวกนี้จะกล้ามาทำซ้ำอีกหรือ และขอเรียนกับพี่น้องอีกครั้งว่านี่เป็นมติของพวกเราทุกคน ไม่ใช่พวกผม 5 คน ว่าเราจะชุมนุมอย่างสงบปราศจากอาวุธ ดังนั้นอย่าเอาอาวุธไป อย่าพกอาวุธมาจากทางบ้าน เพราะการชุมนุมในโลกนี้ที่ชนะ จะไม่มีอาวุธทั้งสิ้น ขอเพียงทุกคนเอามือตบติดไปหน้าสภาด้วย”
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เมื่อคืนหลังเกิดเหตุยิงระเบิด ตนได้ออกมาเดินตรวจทันที รู้สึกดีใจที่ไม่มีใครอกสั่นขวัญหาย พันธมิตรหญิงหลายคนเข้ามาจับมือกระตุ้นให้เราสู้ต่อไป เพราะเราเป็นพี่น้องหญิงชายที่กล้าหาญ ซึ่งจากที่มีประสบการณ์ทั้งในสมรภูมิรบ และการชุมนุมที่ผ่านมาในชีวิตตนเอง ยังไม่เคยเห็นกลุ่มประฃาชนที่กล้าหาญมายาวนานกว่า 182 วันเช่นนี้ พร้อมขอบอกไปยังน้องทหารด้วยว่าการแสดงความจงรักภักดีนั้น ไม่ใช่แค่การเดินสวนสนาม แม้ว่าการเดินสวนสนามจะเป็นเรื่องที่ดี แต่การแสดงความจงรักภักดีนั้นไม่ใช่ว่าทำแค่สวนสนามอย่างเดียว
ยึดรัฐสภาถึง 28 พ.ย.ขู่รัฐบาลรุนแรงป่วนเมืองแน่
เมื่อเวลา 18.00 น. วันเดียวกัน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า ทางพันธมิตรฯ ยืนยันถึงการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 24 พ.ย. โดยใช้สันติ อหิงสา และมีเป้าหมายปิดล้อมสภาเท่านั้น โดยจะไม่เข้าไปในสภา ซึ่งพันธมิตรฯ ไม่มีความไว้วางใจประธานรัฐสภาที่อาจจะลักไก่นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ คพปร. ของ นพ.เหวง โตจิราการ นำขึ้นมาพิจารณาในญัติแรกในการประชุมวันที่ 24 พ.ย. โดยจะปักหลักปิดล้อมรัฐสภา จนถึงวันที่ 28 พ.ย. ซึ่งจะเป็นวันปิดสภาสมัยวิสามัญ และรัฐสภาจะไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อีก ทั้งนี้จะมีการตั้งแวทีปราศรัยทั้งสภาและทำเนียบฯ โดยแกนนำทั้งสองรุ่น จะสลับกันขึ้นเวที โดยยืนยันว่าจะไม่ทำให้เกิดความเสียหาย เช่น การพังประตู การปืนรั้ว เราจะระมัดระวัง ไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นแน่นอน แต่หากรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับพันธมิตรฯ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนจะเคลื่อนไหวแผนใต้ดินทันที
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามไม่ว่าความรุนแรงจะเกิดจากฝ่ายใด ตำรวจและทหารมีหน้าที่ป้องกัน รักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ เพราะหากมีความรุนแรงเกิดขึ้นต้องเกิดจากมือที่ 3 แน่นอน เพราะพันธมิตรฯ จะมาชุมนุมอย่างสงบไม่มีการกระทำที่ยั่วยุหรือปั่นปวนให้เกิดความวุนวายแน่นอน โดยจะมีการวางมาตราการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม โดยมีความเข้มงวดมากกว่าวันที่ 7 ต.ค.ได้กำชับหัวหน้าการ์ดแต่ละหน่วยจะไม่ให้เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร การเลือกเคลื่อนไหวในเวลากลางวันเพราะเราไม่ต้องการให้เหตุการณ์บานปลายจนนำไปสู่การนองเลือด อย่างไรก็ตามทางแกนำจะมีการประชุมประเมินสถานการณ์อย่างกระชั้นชิด หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินกิดขึ้นก็มีการเคลื่อนไหวให้เมีความเข้มข้นมากขึ้น เชื่อว่าไมเกิน 1 สัปดาห์ จะได้รับชัยชนะ
นายสุริยะใส กล่าว่าในส่วนกรณีระเบิดรายวันที่สอดคล้องกับคำเตือนของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง พันธิมตรฯ ไม่ได้ให้น้ำหนักกับคำพูดดังกล่าว เพราะได้รับข้อมูลมาว่า อดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ชื่อ ย่อ ว่า ช. ซึ่งต้องการไปเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และนายตำรวจ ชื่อย่อ ว่า ส. ที่เป็นลูกน้องนักการเมืองที่ต้องการสร้างผลงาน เป็นผู้อยู่เบื่องหลังเหตุการณ์ระเบิดรายวัน เพราะไม่ต้องกรให้พันธมิตรฯ เคลื่อนไหว คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล มีความคึกคักมากว่าทุกวันเพราะมีผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัดเริ่มทยอยเดินทางมาสมทบอย่างต่อเนื่องจนทำให้จำนวนผู้ชุมนุมเต็มแน่นภายในทำเนียบรัฐบาลและถนนพิษณุโลก โดยบนเวทีปราศรัยผู้ปราศรัยต่างปลุกให้ประชาชนมาร่วมเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายหากมาเป็นจำนวนมหาศาล พันธมิตรฯ เป็นฝ่ายชนะแน่นอนและถ้ามีคนมาอยู่มากแก๊งอันธพาลฝ่ายรัฐบาลจะไม่กล้ามาวางระเบิด