เลขาธิการนายกฯ โยนถามสังคมร่าง กม.ปรองดอง โบ้ยแล้วแต่คนมองเอื้อประโยชน์ใคร โต้ พธม.เรื่องขออภัยโทษ กระทรวงยุติธรรมทำเป็นปกติทุกปีไม่เกี่ยว “ทักษิณ” ชี้กรณีอดีตนายกฯ ต้องนิรโทษกรรมเท่านั้น
วันนี้ (20 พ.ย.) นายชูศักดิ์ ศิรินิล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนจะทำการเสนอร่างกฎหมายความปรองดองแห่งชาติ เพื่อเป็นทางออกให้ประเทศเกิดความสมานฉันท์ว่า เป็นความเห็นของ ส.ส.บางส่วน เท่าที่ทราบก็มีการเสนอเรื่องขึ้นมาแต่ยังไม่ได้มีการหารือกันในพรรค เวลานี้เป็นเพียงความเห็น ส.ส.กลุ่มหนึ่งเท่านั้น เรื่องพวกนี้เมื่อจะดำเนินการต้องหารือกันในพรรคก่อน ตนเดาว่าถ้าทำกระแสก็ต้องออกมาว่าจะมีการนิรโทษกรรมอีกแล้ว สื่อก็คงสงสัยว่าจะมีการนิรโทษกรรมอีกแล้วก็ต้องไปคิดกันให้รอบคอบ ต่อข้อถามว่า โดยหลักกฎหมายทำได้หรือไม่ ที่จะออกกฎหมายล้มล้างคดีความต่างๆ นายชูศักดิ์ตอบว่า มันก็ทำนองเดียวกับเรื่องนิรโทษกรรม
เมื่อถามว่า กรณีที่ศาลตัดสินแล้วสามารถทำได้หมดใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ ตอบว่า ทำได้หมด เพียงแต่ต้องถามว่าสังคมเห็นอย่างไร พวกผู้สื่อข่าวเห็นอย่างไร กลุ่มนั้นกลุ่มนี้ว่าอย่างไร แต่ขอยืนยันว่าเป็นความเห็นโดยสุจริตของเขา เท่าที่ฟังดูหมายความว่าจะต้องเป็นการยกเลิกทั้งหมด แล้วกลับไปสู่สภาพเดิม ไม่ต้องมีอะไรต่อกัน ทำนองนี้ ก็ขอให้ลองไปคิดดู
เมื่อถามว่า นอกจากการออกกฎหมายแล้วยังมีวิธีทางอื่นหรือไม่ และสังคมรับได้ นายชูศักดิ์ ตอบว่า เท่าที่ฟังดู ไม่ได้หมายความว่าออกฎหมายเพื่อตัวเอง แต่เป็นการออกกฎหมายการกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่เป็นผลสืบเนื่องจากการรัฐประหารทั้งหลาย อย่าไปถามว่าทำให้เฉพาะตัวเอง ตนก็ยังไม่เห็นร่างกฎหมายที่ว่านี้เหมือนกัน เพียงแต่ฟังดูแล้วเห็นว่ามันครอบคุลมหมด อภัยโทษทุกอย่างหมด ท้ายที่สุดเรื่องนี้ก็ยังเป็นประเด็นคำถามอยู่ เมื่อถามว่า มองว่าจะเป็นการแก้ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้หรือไม่ นายชูศักดิ์ ตอบว่า ถ้ามองในแง่ดีก็มองได้ แล้วแต่จะมองกันแง่ไหน ยกตัวอย่างเช่นถ้าจะเอา พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเป้าใหญ่ ก็อาจจะบอกว่าไม่ดี ถ้าเอาภาพรวมทั้งหมด ทุกกลุ่ม ทุกคดี อย่างนี้มันก็มองได้ แล้วแต่มุมมอง
ต่อข้อถามว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชนบางคนบอกว่ามันไม่มีหนทางแล้ว ต้องแบ่งประเทศ หมายความว่าอย่างไร นายชูศักดิ์ ตอบว่า เป็นความเห็นส่วนตัว ก็อยากให้ไปบอกเขาหน่อยว่าอย่าพูดรุนแรงนัก เรื่องการพูดจาคนที่เป็น ส.ส.มีอิสระที่จะพูดได้ แต่พอเจอกันตนถามทีไรก็บอกไม่เคยพูดถึงขนาดนั้น ขณะเดียวกันนโยบายรัฐบาลก็ไม่มีเรื่องอย่างนี้ด้วย
เมื่อถามถึงกระแสข่าว กระทรวงยุติธรรมกำลังจะดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษคดีที่ถูกตัดสินจำคุกไม่มาก 2-3 ปี นายชูศักดิ์ ตอบว่า เป็นเรื่องปกติของกระทรวงยุติธรรม ที่จะทำในช่วงโอกาสพิเศษ วันสำคัญ เช่น วันเฉลิมพระชนม์พรรษา เมื่อถามว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกล่าวหาว่าเตรียมทำเพื่อพวกพ้องตัวเอง นายชูศักดิ์ ตอบว่า อันนี้ต้องหมายถึงคนที่ได้รับโทษอยู่ คือติดอยู่และเหลือโทษไม่มาก ตามระเบียบก็มีกฎเกณฑ์อยู่ จะมีการลดโทษ อภัยโทษให้ ซึ่งเป็นพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชกุศล ส่วนที่มองว่าอาจเข้าข่ายช่วย พ.ต.ท.ทักษิณนั้น มันไม่เกี่ยวกัน คือของ พ.ต.ท.ทักษิณถ้าจะพระราชทานอภัยโทษ หมายความว่าจะต้องได้รับโทษอยู่แล้ว แต่ของท่านนั้นถ้าเป็นไปได้ต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรมตามที่หลายคนเคยพูกันมาแล้ว หรือที่กำลังจะเป็นข่าว อันนี้เป็นเรื่องของความเหมาะสม และเป็นเรื่องที่สภาจะพิจารณา ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงยุติธรรม
นายชูศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ เดินทางไปต่างประเทศ โดยมีสนธิสัญญาหลายฉบับที่จะต้องลงนามกับต่างประเทศในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน แต่ต้องขอความเห็นชอบจากสภาตามมาตรา 190 จะมอบหมายให้ใครทำหน้าที่ชี้แจงว่า เป็นห่วงเรื่องนี้อยู่ ส่วนตัวได้สอบถามนายสมพงษ์ ทราบว่าได้มอบหมายเรื่องนี้ให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกฯ และนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่กรอบการเจรจาเหล่านี้เป็นเรื่องที่ฝ่ายผู้เชี่ยวชาญเสนอขึ้นมาคงไม่มีปัญหาอะไร และจะขอให้ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมชี้แจงด้วย ซึ่งเป็นอำนาจทำได้ตามข้อบังคับ เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้ ส.ส.ครบองค์ประชุม ไม่ล่มซ้ำซาก นายชูศักดิ์ ตอบว่า เป็นเรื่องของประธานวิป ต้องไปถามท่าน