“สนธิ” ยกกฎแห่งกรรมเตือนสติคนชั่ว ชี้ “ทักษิณ-สมัคร-สมชาย-นพดล” และลิ่วล้อที่ทำลายชาติ ไม่ปฏิบัติตามคำถวายสัตย์ฯ สาบานจะได้รับหายนะและรับกรรมอย่างสาสม เตือน"น้องเขย"อาจต้องหนีคุกไปต่างประเทศเหมือน"พี่เมีย"
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันนี้ (13 พ.ย.) เมื่อเวลา 20.30 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยบนเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตั้งข้อหาอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดที่แล้วจำนวน 28 คน รวมทั้ง นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งขณะนั้นเป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กรณีออกมติ ครม.สนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่ขั้นตอนยังไม่จบ เพราะเป็นข้อสรุปจากคณะอนุกรรมการ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อคณะอนุกรรมการชี้มูลแล้วก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจากนี้
จากนั้น นายสนธิ ได้ย้ำถึงกิจกรรมในวันที่ 14-15-16 พ.ย.ว่า เป็นช่วงถวายพระเกียรติ จะเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเมือง แต่จะพูดถึงเรื่องอนาคตของบ้านเมือง จากนั้นในวันจันทร์เนื้อหาก็จะกลับมาเข้มข้นเหมือนเดิม
นายสนธิ ได้ชี้แจงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ที่กล่าวว่า ปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะการเมืองหมายถึงพรรคการเมืองต่างๆ ขัดแย้งกัน ทั้งในและนอกสภาอย่างนี้ก็ต้องไปแก้ไขกันเอง แต่พวกเราเป็นภาคประชาชนมาตรวจสอบรัฐบาลที่การเมืองตรวจสอบไม่ได้ ประชาชนมายืนยันมาเคียงข้างสถาบันพระมหากษัตริย์ฉะนั้น พวกเราไม่ใช่พรรคการเมือง ดังนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ต้องแสดงจุดยืน และว่า ถ้าไม่ใช่บทบาทของภาคประชาชนจะมีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้หรือ และอนุกรรมการ ป.ป.ช.จะชี้มูลออกมาแบบนี้หรือ ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.อนุพงษ์ ยังเข้าใจว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของการเมือง ทั้งที่เรามากำกับให้การเมืองดำเนินไปตามครรลองที่ควรจะเป็น
นายสนธิ กล่าวถึงกฎแห่งกรรม ว่า เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น อย่าไปทำเป็นเล่น หรือปากพล่อยสาบาน และที่ผ่านมา การชุมนุมของพวกเราได้ยืนยันว่า เอาธรรมนำหน้า แต่เวลานี้สังคมเพี้ยนยอมรับการคอร์รัปชัน ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนก็ไม่ได้ยืนหยัดในความถูกต้อง
นายสนธิ เปรียบเทียบว่า ใครจะเชื่อว่าตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.2548 เป็นต้นมา ที่ตนถูกยกเลิกรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ จนถึงวันนี้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก จากเดิมที่ตนเองไม่มีอะไรเลย ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีทุกอย่างพร้อมหมดทั้งเงิน และอำนาจ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าที่ทุกอย่างซื้อได้
“ทุกอย่างเป็นกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว และที่ผ่านมา ผมเคยบอกกับพวกเรา ว่า การต่อสู้ครั้งนี้เป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์” นายสนธิ ระบุและว่า การปฏิญาณ คือ คำสัญญาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น การถวายสัตย์ฯ ยกตัวอย่างการยุบพรรคไทยรักไทย เหมือนกับกรณีพรรคพลังประชาชนที่กำลังจะถูกพิพากษายุบพรรคในเร็วๆ นี้ หรือกรรมที่มาจากการฆ่าตัดตอนที่มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจำนวนมาก และคนที่ช่วยเหลือกระทำความผิดทั้งอดีต กกต.ข้าราชการกระทรวงการคลัง ฯลฯ คนเหล่านี้กำลังมีอันเป็นไป ทั้งถูกอายัดทรัพย์สิน ถูกจำคุก และกำลังเป็นโรคร้าย รวมทั้งไม่มีแผ่นดินอยู่ ขณะที่ นายสมัคร สุนทรเวช ก็กำลังตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน
นายสนธิ ยังชี้ให้เห็นกฎแห่งกรรม อีกว่า กรณีของอดีตเจ้ากรมแผนที่ทหารที่มีส่วนในการยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาก็เกิดความเครียดและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ส่วน นายนพดล ปัทมะ ขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม แต่ขอแนะนำให้รีบไปตรวจมะเร็งลำไส้โดยเร็ว แต่ไม่รู้ว่าไปตรวจแล้วหรือยัง ส่วน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เคยติดสินบนศาลรัฐธรรมนูญกรณีซุกหุ้น สั่งฆ่าประชาชน หรือทำผิดจริยธรรมกับผู้หญิงที่ไม่ใช่ภรรยาตัวเอง และไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ตั้งท้องและผูกคอตายหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่า ในบั้นปลายจะต้องติดคุกหรือต้องหนีไปต่างประเทศเหมือนกับพี่เมีย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่พี่น้องประชาชนเป็นพลังบริสุทธิ์จะต้องชนะแน่นอน
