"สนธิ"ยกกฎแห่งกรรมเตือนสติคนชั่ว ชี้ "ทักษิณ-สมัคร-สมชาย-นพดล" และลิ่วล้อที่ทำลายชาติ ไม่ปฏิบัติตามคำถวายสัตย์สาบานจะได้รับหายนะและรับกรรมอย่างสาสม พันธมิตรฯ เปิดถนนราชดำเนินนอก เผยงดปราศรัยการเมือง 3 วัน เพื่อจัดงานไว้อาลัยพระพี่นางฯ “พิภพ” ชี้ นช.แม้วเคลื่อนไหวหวังปลดโซ่ตรวนความผิด "สุริยะใส" ชี้ประเด็นร้อน ป.ป.ช.ฟัน ครม.สมัคร หมัดน็อคทำให้รัฐบาลชุดนี้ ทั้ง 28 คนที่มาจากรัฐบาลชุดนายสมัคร จะต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งหรือถึงขั้นติดคุก
บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรปราชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เช้าวานนี้ (13 พ.ย.)ได้ทำการเปิดถนนราชดำเนินนอกแล้ว โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวการเปิดถนนมาใช้เส้นทางสัญจรบริเวณดังกล่าวบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางพันธมิตรฯจะเปิดเส้นทางบริเวณดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.ถึง 5 ธ.ค.หลังจากนั้นจะปิดเส้นทางดังกล่าวเช่นเดิม
สนธิชี้ "แม้ว-สมัคร-สมชาย"กำลังรับกรรม
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯว่า แม้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้ข้อหา อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดที่แล้วจำนวน 28 คน รวมทั้ง นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ รวมทั้ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งขณะนั้นเป็นรองนายกฯและรมว.ศึกษาธิการ กรณีออกมติครม.สนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่ขั้นตอนยังไม่จบ เพราะเป็นข้อสรุปจากคณะอนุกรรมการ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคณะอนุกรรมการชี้มูลแล้วก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจากนี้
ส่วนกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ที่กล่าวว่า ปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะการเมืองหมายถึงพรรคการเมืองต่างๆขัดแย้งกันทั้งในและนอกสภา อย่างนี้ก็ต้องไปแก้ไขกันเอง แต่พวกเราเป็นภาคประชาชนมาตรวจสอบรัฐบาลที่การเมืองตรวจสอบไม่ได้ ประชาชนยืนข้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นพวกเราไม่ใช่พรรคการเมือง ดังนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ต้องแสดงจุดยืน และว่าถ้าไม่ใช่บทบาทของภาคประชาชนจะมีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้หรือ และอนุกรรมการปปช.จะชี้มูลออกมาแบบนี้หรือ ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.อนุพงษ์ยังเข้าใจว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของการเมือง ทั้งที่เรามากำกับให้การเมืองดำเนินไปตามครรลองที่ควรจะเป็น
นายสนธิ กล่าวถึงกฎแห่งกรรม ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นอย่าไปทำเป็นเล่นหรือปากพล่อยสาบาน และที่ผ่านมาการชุมนุมของพวกเราได้ยืนยันว่าเอาธรรมนำหน้า แต่เวลานี้สังคมเพี้ยนยอมรับการคอรัปชัน ขณะเดียวกันสื่อมวลชนก็ไม่ได้ยืนหยัดในความถูกต้อง
นายสนธิ เปรียบเทียบว่า ใครจะเชื่อว่าตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.2548 เป็นต้นมาที่ตนถูกยกเลิกรายการเมืองไทยรายสัปดาห์จนถึงวันนี้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก จากเดิมที่ตนเองไม่มีอะไรเลย ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีทุอย่างพร้อมหมดทั้งเงินและอำนาจแต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าที่ทุกอย่างซื้อได้
"ทุกอย่างเป็นกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว และที่ผ่านมาผมเคยบอกดับพวกเราว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์" นายสนธิ ระบุและว่า การปฏิญาณคือคำสัญญาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่นการถวายสัตย์ยกตัวอย่างการยุบพรรคไทยรักไทย เหมือนกับกรณีพรรคพลังประชาชนที่กำลังจะถูกพิพากษายุบพรรคในเร็วๆนี้หรือกรรมที่มาจากการฆ่าตัดตอนที่มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจำนวนมาก และคนที่ช่วยเหลือกระทำความผิดทั้งอดีตกกต. ข้าราชการกระทรวงการคลัง ฯลฯ คนเหล่านี้กำลังมีอันเป็นไป ทั้งถูกอายัดทรัพย์สิน ถูกจำคุก และกำลังเป็นโรคร้าย รวมทั้งไม่มีแผ่นดินอยู่ ขณะที่ นายสมัคร สุนทรเวช ก็กำลังตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน
นายสนธิ ยังชี้ให้เห็นกฎแห่งกรรมอีกว่า กรณีของ อดีตเจ้ากรมอผนที่ทหารที่มีส่วนในการยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาก็เกิดความเครียดและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ส่วน นายนพดล ปัทมะ ขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม แต่ขอแนะนำให้รีบไปตรวจมะเร็งลำใส้โดยเร็ว แต่ไม่รู้ว่าไปตรวจแล้วหรือยัง ส่วน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เคยติดสินบนศาลรัฐธรรมนูญกรณีซุกหุ้น สั่งฆ่าประชาชน หรือทำผิดจริยธรรมกับผู้หญิงที่ไม่ใช่ภรรยาตัวเอง และไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ตั้งท้องและผูกคอตายหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าในบั้นปลายจะต้องติดคุกหรือต้องหนีไปต่างประเทศเหมือนกับพี่เมีย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่พี่น้องประชาชนเป็นพลังบริสุทธิ์จะต้องชนะแน่นอน
พธม.งดปราศรัยการเมือง 3 วัน
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายพิภพ ธงไชย สองแกนนำพันธมิตรฯร่วมแถลงข่าวโดยพล.ต.จำลอง กล่าวว่า พันธมิตรฯ จะยุติการปราศรัยโจมตีรัฐบาลชั่วคราว พร้อมให้สถานีโทรทัศน์ ASTV ถ่ายทอดพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์แทน โดยการถ่ายทอดการชุมนุมของพันธมิตรฯ ซึ่งผู้ชุมนุมจะมีการจัดงานร่วมพระราชพิธี ในวันเสาร์ที่ 15 พ.ย.นี้ ในเวลา 22.00 น. แต่เมื่อผ่านพ้นพระราชพิธีไปแล้ว ทางพันธมิตรฯ จะกำหนดยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหว เพื่อรับมือสถานการณ์ที่อาจมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
สำหรับการจัดงานเพื่อไว้อาลัยให้แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯนั้น นายพิภพกล่าวว่า งานจะจัดขึ้นในที่ชุมนุมตั้งแต่วันที่14 -19 พ.ย.โดยให้ผู้ร่วมชุมนุมแต่งชุดดำ หรือขาว มาร่วมงาน นอกจากนี้ ยังจะมีข้าราชบริพาร ผู้ใกล้ชิดสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มาเปิดเผยเรื่องราวของพระองค์ท่านถ่ายทอดผ่านสถานีโทรทัศน์ASTV ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่เคยรับรู้บนเวทีปราศรัย
มั่นใจ "นช.แม้ว" ต่อสู้หวังปลดโซ่ตรวน
นายพิภพ กล่าวถึงสถานการณ์หลังจากนี้ จากการที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้พยายามหาช่องทางเพื่อที่จะเดินทางเข้าประเทศ รวมถึงการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 พ.ย. ว่า การเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในฐานะเป็นนักโทษ คงมีการเคลื่อนไหวต่อไป เพราะว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมรับความผิดที่ศาลตัดสิน แต่ใช้วิธีทางการเมืองเพื่อที่จะให้ตัวเองออกห่างจากคำตัดสินของศาล รวมทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สำหรับหน้าที่ของคนไทย และพันธมิตรฯ จะต้องยืนยันในเรื่องดังกล่าวอีกต่อไป
การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นที่ประเทศบาฮามาสนั้น เรื่องนี้เป็นเพียงข่าวเท่านั้น แต่คงไม่สามารถจัดตั้งขึ้นได้ เพราะกฏหมายระหว่างประเทศ ระบุว่า การจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นได้ก็ต่อเมื่อ การบริหารประเทศจะต้องสูญเสียสถานะการปกครองประเทศ ทั้งที่ได้บริหารประเทศอย่างชอบธรรมแล้ว แต่ในส่วนของพ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ใช่ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักโทษหนีคดี แม้กระทั้งประเทศอังกฤษ ก็ได้ยกเลิกวีซ่าเพราะประเทศอังกฤษเห็นว่าเป็นนักโทษหนีคดี ทั้งที่ถูกศาลตัดสินให้จำคุก 2 ปีแล้ว ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงทางรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศจะต้องคิดว่าจะจัดการอย่างไรกับเรื่องนี้
ขณะที่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พันธมิตรฯไม่เคยวิตกกังวลในเรื่องเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดเป็นระยะๆ แต่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องควบคุมดูแลไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้น ทางพันธมิตรฯทำได้เพียงป้องกันผู้ชุมนุมที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุมเท่านั้น แต่เหตุการณ์ความรุนแรงอาจจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ได้ เป็นเพียงการคาดคะเนของหลายๆฝ่าย ส่วนหลังงานพระราชพิธีฯจากที่มีหลายฝ่ายออกมาประเมินว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ทางพันธมิตรฯพยายามปรับปรุงมาตรการการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเรื่อยๆ เพราะในช่วงนี้อาจจะมี ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาฉกฉวยใช้ความรุนแรงได้
ยกเขาพระวิหารขัด รธน.หมัดน็อก
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณีที่ พันธมิตรฯ เคยไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้ถอดถอนคณะรัฐมนตรี(ครม.) กรณีที่ครม.มีมติออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา กรณีเขาพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยไม่ผ่านระบบบรัฐสภา ขัดรัฐธรรมนูณ มาตรา 190 ว่า จะเป็นหมัดน็อคทำให้รัฐบาลชุดนี้ ทั้ง 28 คนที่มาจากรัฐบาลชุดนายสมัคร จะต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ ถ้าป.ป.ช.ชุดใหญ่ชี้มูลความผิดทางอาญา ครม. ทั้ง 28 คนต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ หรือถึงขั้นต้องติดคุก
“ผมเชื่อว่ามีหลักฐานที่ชัดเจนในการเอาผิด ครม. ชุดนี้ได้ หากไม่ถูกลอบบี้หรือแทรกแซง ทางครม. ต้องรับผิดซึ่งจะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองของไทยมีความชัดเจน และคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นจนเกิดการตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือรูปแบบการปกครองที่พันธมิตรได้เสนอไป” นายสุริยะใส กล่าว
บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรปราชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เช้าวานนี้ (13 พ.ย.)ได้ทำการเปิดถนนราชดำเนินนอกแล้ว โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวการเปิดถนนมาใช้เส้นทางสัญจรบริเวณดังกล่าวบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางพันธมิตรฯจะเปิดเส้นทางบริเวณดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.ถึง 5 ธ.ค.หลังจากนั้นจะปิดเส้นทางดังกล่าวเช่นเดิม
สนธิชี้ "แม้ว-สมัคร-สมชาย"กำลังรับกรรม
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯว่า แม้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้ข้อหา อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดที่แล้วจำนวน 28 คน รวมทั้ง นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ รวมทั้ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งขณะนั้นเป็นรองนายกฯและรมว.ศึกษาธิการ กรณีออกมติครม.สนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่ขั้นตอนยังไม่จบ เพราะเป็นข้อสรุปจากคณะอนุกรรมการ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคณะอนุกรรมการชี้มูลแล้วก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจากนี้
ส่วนกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ที่กล่าวว่า ปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะการเมืองหมายถึงพรรคการเมืองต่างๆขัดแย้งกันทั้งในและนอกสภา อย่างนี้ก็ต้องไปแก้ไขกันเอง แต่พวกเราเป็นภาคประชาชนมาตรวจสอบรัฐบาลที่การเมืองตรวจสอบไม่ได้ ประชาชนยืนข้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นพวกเราไม่ใช่พรรคการเมือง ดังนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ต้องแสดงจุดยืน และว่าถ้าไม่ใช่บทบาทของภาคประชาชนจะมีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้หรือ และอนุกรรมการปปช.จะชี้มูลออกมาแบบนี้หรือ ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.อนุพงษ์ยังเข้าใจว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของการเมือง ทั้งที่เรามากำกับให้การเมืองดำเนินไปตามครรลองที่ควรจะเป็น
นายสนธิ กล่าวถึงกฎแห่งกรรม ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นอย่าไปทำเป็นเล่นหรือปากพล่อยสาบาน และที่ผ่านมาการชุมนุมของพวกเราได้ยืนยันว่าเอาธรรมนำหน้า แต่เวลานี้สังคมเพี้ยนยอมรับการคอรัปชัน ขณะเดียวกันสื่อมวลชนก็ไม่ได้ยืนหยัดในความถูกต้อง
นายสนธิ เปรียบเทียบว่า ใครจะเชื่อว่าตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.2548 เป็นต้นมาที่ตนถูกยกเลิกรายการเมืองไทยรายสัปดาห์จนถึงวันนี้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก จากเดิมที่ตนเองไม่มีอะไรเลย ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีทุอย่างพร้อมหมดทั้งเงินและอำนาจแต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าที่ทุกอย่างซื้อได้
"ทุกอย่างเป็นกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว และที่ผ่านมาผมเคยบอกดับพวกเราว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์" นายสนธิ ระบุและว่า การปฏิญาณคือคำสัญญาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่นการถวายสัตย์ยกตัวอย่างการยุบพรรคไทยรักไทย เหมือนกับกรณีพรรคพลังประชาชนที่กำลังจะถูกพิพากษายุบพรรคในเร็วๆนี้หรือกรรมที่มาจากการฆ่าตัดตอนที่มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจำนวนมาก และคนที่ช่วยเหลือกระทำความผิดทั้งอดีตกกต. ข้าราชการกระทรวงการคลัง ฯลฯ คนเหล่านี้กำลังมีอันเป็นไป ทั้งถูกอายัดทรัพย์สิน ถูกจำคุก และกำลังเป็นโรคร้าย รวมทั้งไม่มีแผ่นดินอยู่ ขณะที่ นายสมัคร สุนทรเวช ก็กำลังตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน
นายสนธิ ยังชี้ให้เห็นกฎแห่งกรรมอีกว่า กรณีของ อดีตเจ้ากรมอผนที่ทหารที่มีส่วนในการยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาก็เกิดความเครียดและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ส่วน นายนพดล ปัทมะ ขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม แต่ขอแนะนำให้รีบไปตรวจมะเร็งลำใส้โดยเร็ว แต่ไม่รู้ว่าไปตรวจแล้วหรือยัง ส่วน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เคยติดสินบนศาลรัฐธรรมนูญกรณีซุกหุ้น สั่งฆ่าประชาชน หรือทำผิดจริยธรรมกับผู้หญิงที่ไม่ใช่ภรรยาตัวเอง และไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ตั้งท้องและผูกคอตายหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าในบั้นปลายจะต้องติดคุกหรือต้องหนีไปต่างประเทศเหมือนกับพี่เมีย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่พี่น้องประชาชนเป็นพลังบริสุทธิ์จะต้องชนะแน่นอน
พธม.งดปราศรัยการเมือง 3 วัน
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายพิภพ ธงไชย สองแกนนำพันธมิตรฯร่วมแถลงข่าวโดยพล.ต.จำลอง กล่าวว่า พันธมิตรฯ จะยุติการปราศรัยโจมตีรัฐบาลชั่วคราว พร้อมให้สถานีโทรทัศน์ ASTV ถ่ายทอดพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์แทน โดยการถ่ายทอดการชุมนุมของพันธมิตรฯ ซึ่งผู้ชุมนุมจะมีการจัดงานร่วมพระราชพิธี ในวันเสาร์ที่ 15 พ.ย.นี้ ในเวลา 22.00 น. แต่เมื่อผ่านพ้นพระราชพิธีไปแล้ว ทางพันธมิตรฯ จะกำหนดยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหว เพื่อรับมือสถานการณ์ที่อาจมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
สำหรับการจัดงานเพื่อไว้อาลัยให้แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯนั้น นายพิภพกล่าวว่า งานจะจัดขึ้นในที่ชุมนุมตั้งแต่วันที่14 -19 พ.ย.โดยให้ผู้ร่วมชุมนุมแต่งชุดดำ หรือขาว มาร่วมงาน นอกจากนี้ ยังจะมีข้าราชบริพาร ผู้ใกล้ชิดสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มาเปิดเผยเรื่องราวของพระองค์ท่านถ่ายทอดผ่านสถานีโทรทัศน์ASTV ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่เคยรับรู้บนเวทีปราศรัย
มั่นใจ "นช.แม้ว" ต่อสู้หวังปลดโซ่ตรวน
นายพิภพ กล่าวถึงสถานการณ์หลังจากนี้ จากการที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้พยายามหาช่องทางเพื่อที่จะเดินทางเข้าประเทศ รวมถึงการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 พ.ย. ว่า การเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในฐานะเป็นนักโทษ คงมีการเคลื่อนไหวต่อไป เพราะว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมรับความผิดที่ศาลตัดสิน แต่ใช้วิธีทางการเมืองเพื่อที่จะให้ตัวเองออกห่างจากคำตัดสินของศาล รวมทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สำหรับหน้าที่ของคนไทย และพันธมิตรฯ จะต้องยืนยันในเรื่องดังกล่าวอีกต่อไป
การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นที่ประเทศบาฮามาสนั้น เรื่องนี้เป็นเพียงข่าวเท่านั้น แต่คงไม่สามารถจัดตั้งขึ้นได้ เพราะกฏหมายระหว่างประเทศ ระบุว่า การจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นได้ก็ต่อเมื่อ การบริหารประเทศจะต้องสูญเสียสถานะการปกครองประเทศ ทั้งที่ได้บริหารประเทศอย่างชอบธรรมแล้ว แต่ในส่วนของพ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ใช่ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักโทษหนีคดี แม้กระทั้งประเทศอังกฤษ ก็ได้ยกเลิกวีซ่าเพราะประเทศอังกฤษเห็นว่าเป็นนักโทษหนีคดี ทั้งที่ถูกศาลตัดสินให้จำคุก 2 ปีแล้ว ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงทางรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศจะต้องคิดว่าจะจัดการอย่างไรกับเรื่องนี้
ขณะที่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พันธมิตรฯไม่เคยวิตกกังวลในเรื่องเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดเป็นระยะๆ แต่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องควบคุมดูแลไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้น ทางพันธมิตรฯทำได้เพียงป้องกันผู้ชุมนุมที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุมเท่านั้น แต่เหตุการณ์ความรุนแรงอาจจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ได้ เป็นเพียงการคาดคะเนของหลายๆฝ่าย ส่วนหลังงานพระราชพิธีฯจากที่มีหลายฝ่ายออกมาประเมินว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ทางพันธมิตรฯพยายามปรับปรุงมาตรการการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเรื่อยๆ เพราะในช่วงนี้อาจจะมี ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาฉกฉวยใช้ความรุนแรงได้
ยกเขาพระวิหารขัด รธน.หมัดน็อก
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณีที่ พันธมิตรฯ เคยไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้ถอดถอนคณะรัฐมนตรี(ครม.) กรณีที่ครม.มีมติออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา กรณีเขาพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยไม่ผ่านระบบบรัฐสภา ขัดรัฐธรรมนูณ มาตรา 190 ว่า จะเป็นหมัดน็อคทำให้รัฐบาลชุดนี้ ทั้ง 28 คนที่มาจากรัฐบาลชุดนายสมัคร จะต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ ถ้าป.ป.ช.ชุดใหญ่ชี้มูลความผิดทางอาญา ครม. ทั้ง 28 คนต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ หรือถึงขั้นต้องติดคุก
“ผมเชื่อว่ามีหลักฐานที่ชัดเจนในการเอาผิด ครม. ชุดนี้ได้ หากไม่ถูกลอบบี้หรือแทรกแซง ทางครม. ต้องรับผิดซึ่งจะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองของไทยมีความชัดเจน และคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นจนเกิดการตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือรูปแบบการปกครองที่พันธมิตรได้เสนอไป” นายสุริยะใส กล่าว