“พิภพ” ยกสปิริต “อภิรักษ์” ประกาศลาออกจากเก้าอี้ “ผู้ว่าฯ กทม.” ตบหน้า “สมชาย” สุดด้านไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์นองเลือด 7 ต.ค. อัดยับเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา แต่กลับไม่สั่งการให้หยุดยิง ปชช. ทั้งๆ ที่ตำรวจอยู่ภายใต้บังคับบัญชา ลั่น “พันธมิตรฯ” ยกระดับวุฒิภาวะเพื่อสร้างการเมืองใหม่-ร่วมขับไล่น้ำเน่าทางการเมือง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วานนี้ (12 พ.ย.) นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงกรณีที่พันธมิตรฯ ร่วมใจกันทำความสะอาดรอบบริเวณ ถ.ราชดำเนิน ว่า พันธมิตรฯ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานของราชการทำความสะอาดถนนราชดำเนิน เพราะเราสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เราจึงพร้อมที่จะคืนถนน เพื่อส่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ นอกจากวันที่ 14-18 พ.ย.นี้ เราจะแต่งกายชุดดำเพื่อส่งเสด็จพระพี่นางฯ แล้ว เรายังได้รับงานพิเศษ โดยผู้รับใช้ของสมเด็จพระพี่นางฯ มอบภารกิจให้กับพันธมิตรฯ โดยระบุว่าให้ร่วมกันรณรงค์ในวันส่งเสด็จพระพี่นางฯ เพื่อทำให้ให้เกิดความสะอาดใน กทม. หรือเรียกว่า มนุษย์สะอาด โดยเฉพาะชาว กทม.จะต้องไม่ทิ้งขยะแม้แต่ชิ้นเดียวในวันส่งเสด็จพระพี่นางฯ
ส่วนกรณีที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ประกาศลาออกจากตำแหน่งนั้น นายพิภพ กล่าวว่า นายอภิรักษ์ได้แสดงสปิริตให้เห็น โดยเมื่อถูกกล่าวหาว่าทำผิด ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการตัดสินว่าผิดจริงหรือไม่ แต่นายอภิรักษ์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งทันที และสิ่งนี้คือสิ่งที่เราอยากให้เกิดในยุคการเมืองใหม่ ทั้งๆ ที่นายอภิรักษ์ เป็นผู้ว่าฯ กทม.ที่ทำให้ กทม.สะอาด และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ติดอันดับโลก ฉะนั้นวันนี้เราจึงต้องเชียร์คนที่มีสปิริต และมีจิตใจที่กล้ารับผิดชอบทางการเมือง ซึ่งเราต้องการให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล้าที่จะแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วย
“นักการเมืองที่บริหารงานผิดพลาด จนก่อให้เกิดความเสียหายทางการเมือง จะต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง จะต้องลาออกทันที โดยไม่ต้องรอให้กระบวนการทางกฎหมายทำงาน แต่นักการเมืองบ้านเรา ต้องรอให้กฎหมายทำงานเสียก่อน เขาจึงจะแสดงความรับผิดชอบ เพราะถูกบังคับโดยกฎหมาย แต่ความรับผิดชอบทางการเมืองไม่เคยแสดงออกมาเลย และถ้านักการเมืองเหล่านั้นแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ก็จะทำให้กระบวนการยุติธรรมทำงานน้อยลง และจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ดีขึ้นทันทีเหมือนอารยะประเทศ ฉะนั้นต้องขอปรบมือดังๆ ให้กับนายอภิรักษ์ ที่สำคัญถ้านายอภิรักษ์ พ้นผิดจากข้อกล่าวหา ก็สามารถกลับมาเล่นการเมืองได้อีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์บางคน ยังคิดแบบเก่าว่า นายอภิรักษ์ ไม่ควรลาออก เพราะควรที่จะรอคำตัดสินเสียก่อน” นายพิภพ กล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า กรณีของนายอภิรักษ์ไม่เหมือนกับพรรคพลังประชาชนที่กำลังติดขัดไปหมด เพราะขนาดเกิดการยิงกันกลางเมืองในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ต่อหน้าต่อตานายกฯ แต่นายกฯ กลับบอกว่า ต้องสอบสวนเสียก่อนว่าใครสั่งการ ถามว่าแล้วนายสมชาย เป็นนายกฯ ไปทำไม เพราะเหตุการณ์ที่ตำรวจยิงประชาชนนั้น เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา อีกทั้งตำรวจก็อยู่ภายใต้บังคับบัญชา แต่นายกฯ ไม่ยอมสั่งให้ตำรวจหยุดยิง แล้วอย่างนี้จะต้องรอให้ศาลตัดสินเสียก่อน แล้วค่อยลาออกหรืออย่างไร และถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงครบสมัยการเป็นนายกฯ พอดี ซึ่งถ้าเป็นนานาประเทศ เขาไม่ทำกัน
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจข่มขู่พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ 7 ต.ค. ซึ่งอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดจำนวนมากนั้น นายพิภพ กล่าวว่า ทนายพันธมิตรฯ ได้เรียกประชุม โดยระบุว่า ไม่ให้ผู้ที่โดนหมายเรียกจากตำรวจไปโรงพักตามคำเรียก แต่ขอให้พยานพันธมิตรฯ ไปพร้อมกันที่ สน.บางขุนนนท์ ในวันจันทร์ที่ 17 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.เพื่อที่จะให้การกับตำรวจ เพราะเกรงว่าจะถูกเปลี่ยนจากพยานกลายไปเป็นจำเลย
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า เมื่อวันก่อน ตนพร้อมด้วยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ไปที่มหาวิทยาลัยราชมงคล เพื่อไปคุยกับอธิบดี เนื่องจากมีตึกอยู่หน้าเวทีพันธมิตรฯ ซึ่งถูกสันนิษฐานว่าตึกดังกล่าวจะถูกใช้เป็นสถานที่ยิงระเบิดใส่เต็นท์พันธมิตรฯ นอกจากนี้ เรายังไปเจรจากับ ก.พ. และคณะบดีของโรงเรียนพาณิชยการ ซึ่งทางคณะบดี ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยยืนยันว่าได้เปลี่ยนกุญแจของตัวอาคารเพื่อไม่ให้คนแปลกหน้าไม่สามารถใช้ตึกได้ในยามค่ำคืนอีกต่อไป
“มีคนชมมาว่ากระบวนการการเรียนรู้เรื่องการชุมนุมของพันธมิตรฯ นั้น ถือว่าเป็นกระบวนการการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ โดยความรู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ ในขณะนี้นั้น สามารถโต้ตอบกับอาจารย์มหาวิทยาลัยระดับดอกเตอร์ได้เลย ฉะนั้น การชุมนุมของพันธมิตรฯ ก็คือการเรียนรู้อย่างหนึ่ง ที่สำคัญ คือ พี่น้องพันธมิตรฯ ที่มาจากหลายอาชีพ ซึ่งไม่เคยมีความรู้เรื่องการเมืองมาก่อนเลย แต่กลับมีจิตสำนึกเหมือนกัน คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำไม่ถูกที่ทุจริตคอร์รัปชัน จนทำให้พี่น้องพันธมิตรฯ มารวมตัวกันแล้วกลายเป็นพลัง จนมีหวังว่า พ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ จะเปลี่ยนจากชาวบ้านธรรมดา ไปเป็นพลเมืองที่มีวุฒิภาวะ มีจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มเปี่ยม ล้นเหลือในการสร้างคน เพื่อสร้างการเมืองใหม่ และเราจะร่วมกันไล่น้ำเน่าทางการเมืองออกไป” นายพิภพ กล่าวทิ้งท้าย