“พิภพ” แฉกลุ่มการเมืองเก่า จับ “ไชยวัฒน์” เป็นเหยื่อเริ่มต้น หวังสร้างสถาการณ์บังหน้าป่วนการเมืองใหม่ หลังประชาชนให้ความสนใจมากขึ้น พร้อมแนะจับตานักการเมืองน้ำเน่า เล่นละครบังหน้า สร้างความขัดแย้งเพื่อความอยู่รอดของตนเอง ย้ำจุดยืนพันธมิตรฯ ห้ามแตะรัฐธรรมนูญ 50 โดยเฉพาะ 3 มาตราหลัก 309 237 และ 190
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พิภพ ธงไชย ปราศรัย
เมื่อเวลา 21.45 น.วันที่ 3 ต.ค. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยบนเวทีทำเนียบรัฐบาลว่า การที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ถูกตำรวจจับในวันนี้ในขณะที่ศาลกำลังพิจารณาคำอุทธรณ์การออกหมายจับในข้อหากบฏซึ่งเป็นข้อหายกเมฆ และไม่เป็นความจริงนั้น ถ้าวิเคราะห์ทางการเมืองจะพบว่าในช่วงที่จะมีการตัดสินคดีสำคัญตั้งแต่วันนี้ - 21 ตุลาฯ จะมีเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดวิกฤตทางสังคมอีก เพราะพวกเขาต้องการโจมตีเรา เนื่องจากรู้ว่าเราเป็นพลังทางสังคมที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้
ทั้งนี้ ในการที่เราทำสำเร็จเกี่ยวกับคดีต่างๆ มากว่า 41 เรื่อง จนถึงการจุดประเด็นการเมืองใหม่ขึ้นมานั้น เมื่อการเมืองใหม่ที่กำลังเป็นรูปร่าง และมีหลายฝ่ายยอมรับแล้ว แม้จะไม่ใช้คำว่าการเมืองใหม่ก็ตาม จะยิ่งทำให้มีการขัดขวางมากขึ้น
ทั้งนี้ การนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เสนอในมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ชุดที่ 3 หรือ ส.ส.ร.3 ก็เพราะเขาทนกระแสของกาเมืองใหม่ไม่ได้ ซึ่งถึงแม้จะมีการตั้ง ส.ส.ร.3 ขึ้นมาก็ไม่ได้บอกว่ามารองรับการเมืองใหม่ เพราะเขาไม่เคยคิดเรื่องการเมืองใหม่แต่อย่างใด มีแต่การเมืองเก่าที่คิดถึงพี่เมียอยู่ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ส.ส.ร.3 คงจะร่างสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการมากกว่าการเมืองใหม่
นายพิภพ กล่าวอีกว่า การที่พวก นปก.เข้าชื่อกันเพื่อยื่นเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่ลงชื่อไม่รู้เรื่องเลย ว่าจะมีการตัดองคมนตรีออก ซึ่งเรื่องนี้ไม่รู้ว่านายสมชายทราบหรือไม่ และถ้าไม่เห็นด้วยจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปอยู่อีกหรือเปล่า ซึ่งถ้ามองแล้วคงเหมือนพรรคพลังประชาชนกำลังแตกแยก ทั้งเรื่องตั้ง ส.ส.ร.3 และการบรรจุวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ เชื่อว่าการกระทำดังกล่าวข้างต้นเท่ากับเป็นเกมทางการเมืองที่จะเบี่ยงเบนความสนใจไปจากการเมืองใหม่ โดยคนที่เป็นเหยื่อยก็คือ นายไชยวัฒน์ นั่นเอง และข้อหากบฏนั้นใครก็รู้ว่าเป็นเกมการเมืองเพื่อหยุดยั้งพันธมิตรฯ ในการต่อสู้ให้ทักษิณติดคุก โดยในวันจันนทร์นี้จะมีกาตัดสินคำอุทธรณ์ของเราว่าหมายจับนั้นเป็นเท็จและจะมีการยกเลิกหรือไม่
“ทำไมเขาปล่อยมาตั้งนานไม่จับ แต่มาจับวันนี้ เพราะเขาต้องกาป่วนการเมืองใหม่ และจะป่วนไปถึงวันที่ 21 ที่มีการตัดสินว่าทักษิณผิดต้องติดคุกหรือไม่(คดีที่ดินรัชดา) นี่เป็นเกมทางการเมืองที่นายกสมชายต้องตอบ ว่าไม่สามารถคุมทิศทางการเมืองได้ ที่ผ่านมาไม่เคยตอบเลย ทั้งเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ และการยกเลิกพาสปอร์ตแดงของทักษิณ” นายพิภพกล่าว
นายพิภพ กล่าวอีกว่า นายสมชายต้องถามตัวเองว่าทิศทางของตน กับพรรคพลังประชาชนจะเป็นอย่างไร โดยการที่นายสมชายเป็นคนต้องการเจรากับพันธมิตรฯ นั้น ต้องรู้จุดยืนพันธมิตรฯ ว่าจะต้องไม่มีการแก้รัฐธรรมนูญแม้แต่มาตราเดียว ซึ่งนายสมชายต้องพูดให้ชัดว่า ถ้าตั้ง ส.ส.ร.3 จะไม่แตะต้อง 3 มาตราของรัฐธรรมนูญ 2550 คือ 237 309 และ 109 แต่อย่างใด
สำหรับตอนนี้ต้องบอกว่ามีภาพทัพซ้อน ทั้งเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ และการจะนำรัฐธรรนูญปี 40 มาใช้ ซึ่งใครก็รู้ว่าหากนำรัฐธรรมนูญฉบับนั้นมา พ.ต.ท.ทักษิณ จะสามารถแทรกแซงองค์กรอิสระ และนายสมชายก็ไม่เคยแสดงจุดยืนใดๆ เลยกับเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมด
“การนำรัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ จะนำไปสู่การยกเลิก มาตรา 237 309 109 โดยอัตโนมัติ และจะมีผลต่อการดำเนินคดีคุณทักษิณ ซึ่งนี่เป็นหลายเรื่องที่ทับซ้อนกัน และการจับคุณไชยวัฒน์ เป็นการสร้างความปั่นปวนให้สังคมหรือไม่ พวกเราพันธมิตรไม่เคยมีความกลัว เรารู้ว่าการสู้ครั้งนี้ต้องเสี่ยงคุก และความตาย เรารู้ตั้งแต่ต้น แต่การที่ปล่อยให้การเมืองเก่าย่ำยีชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน เราจะยอมไม่ได้ และจะต้องสู้อยู่ สังคมเห็นหมดแล้ว ว่าการเมืองเก่าไปไม่ได้ แต่พวกนี้ไม่เคยเห็นประโยชน์ต่อประเทศเลย” นายพิภพกล่าว
ดังนั้น การเมืองใหม่จึงต้องใช้มาตรการที่แข็งแรงหลายเรื่อง ในการยุติการเมืองเก่า แต่จะขัดขวางไม่ให้การเมืองใหม่เกิด โดยการทำให้เหมือนขัดแย้งกันเอง ไม่อยากให้หลงกล เพราะอย่าลืมว่าคนชั่วมักจะตกลงกันได้ถ้าผลประโยชน์ลงตัว และจนมาเป็นรัฐบาลนี้ในที่สุด
“บรรหารเคยบอกว่าถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลจะอดอยากปากแห้ง คนพวกนี้จึงแกล้งขัดแย้งกันก่อน เมื่อตกลงกันได้ก็ร่วมหัวจมท้ายเป็นรัฐบาลกันต่อไป เมื่อเป็นแล้วก็หาทางเป็นอีก และเราจะชอกช้ำไปเรื่อยๆ เช่นกัน ทำให้เราต้องสู้ให้ถึงที่สุด” นายพิภพกล่าว
นายพิภพ กล่าวอีกว่า พวกเราจะต้องทำให้การเมืองเก่าออกไป และถ้าทำสำเร็จ นายกใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศจะไม่กล้าโกงอีก ซึ่งที่ผ่านมาเราเคยไล่นายกรัฐมนตรี และทหารเผด็จการได้ แต่ไม่เคยเอาพวกเขาเข้าคุกได้สักครั้ง ถ้าพวกเราสามารถส่งทักษิณเข้ากระยวนการยุติธรรมจนต้องติดคุกได้ จะเป็นการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ ซึ่งการเมืองใหม่จะต้องระบุไว้ในรัฐธรรมนูญเลยว่า ความผิดของนักาเรมือง และข้าราชการประจำจะไม่มีอายุความ ซึ่งถ้าเราจับได้และมีหลักฐานเมื่อไหร่ต้องติดคุกสถานเดียวเท่านั้น
ฉะนั้น เมื่อนักการเมืองเริ่มฟังว่า การเมืองใหม่มีความเข้มข้น ในการควบคุมพฤติกรรมเหล่านั้น นักการเมืองเก่าจึงเริ่มต่อต้านมากขึ้น เพราะยอมไม่ได้ การจับนายไชยวัฒน์วันนี้ นอกจากขัดแนวทางที่สมชายและ พล.อ.ชวลิตบอกว่าจะสมานฉันท์แล้ว จะนำไปสู่การต่อรองทางการเมือง เพื่อไม่ให้การเมืองใหม่เกิดขึ้นในสังคมนี้ และถ้าการเมืองใหม่ไม่เกิด นักการเมืองเก่าจะเข้ามาในสภา และนำมาสู่การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม จน พ.ต.ท.ทักษิณพ้นโทษในที่สุด
“ทั้งหมดนี้เป็นเป้าหมายของทักษิณ ในการใช้อำนาจรัฐในการช่วยเหลือตนเอง และเชื่อว่าหลังจากวันนี้จะมีการกระทำการขัดขวางไม่ให้เกิดการเมืองใหม่ เพื่อทักษิณจะกลับมาอีกครั้ง เรื่องทั้งหมดเป็นการสร้างภาพของทักษิณ เหมือนตอนซื้อแมนฯ ซิตี้ ซื้อนักเตะไทยไปอยู่ แล้วเขาก็ขายสโมสรทิ้ง ลืมนักเตะไทยไปเลย ซึ่งพรรคพลังประชาชนในวันนี้ทำอะไรเพื่อทักษิณคนเดียว ไม่เคยทำเพื่อชาติ และพระมหากษัตริย์ ประชาชนต้องสรุปให้ได้ และอย่ามาสงสัยพลังเสื้อเหลืองเรา และต้องสร้างการเมืองใหม่” นายพิภพกล่าว