“สัตว์นรก” เลวสุดขั้ว รับเศษเงิน “เดนนรก” ลอบขว้างระเบิดใส่เต็นท์ “พันธมิตรฯ” ห่างจากเวทีปราศรัยเพียง 50 เมตร ส่งผลให้ “แนวร่วมพันธมิตรฯ” บาดเจ็บทันที 3 ราย ด้าน “ปฐมพงษ์” คาด “เศษมนุษย์” ใช้ “เครื่องยิงระเบิดวิถีโค้ง” ลั่นเตรียมนำ “ชิ้นส่วนระเบิด” มอบให้ ผบ.ทบ.เพื่อเป็นหลักฐานลากคอคนชั่วใช้อาวุธสงครามร้ายแรงกับ ปชช.ผู้บริสุทธิ์
วันนี้ (11 พ.ย.) เมื่อเวลา 03.25 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณเต็นท์ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งห่างจากเวทีปราศรัย โดยเยื้องไปทางขวามือเพียง 50 เมตร เท่านั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าขว้างระเบิดเข้ามาแล้วไปตกบนหลังคาเต็นท์ของผู้ชุมนุมก่อนเกิดการระเบิด โดยภายหลังจาการระเบิด ส่งผลให้เต็นท์มีรู้กว้างขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บทันที 2 ราย
ด้านการ์ดอาสาพันธมิตรฯ ได้เข้าไปในที่เกิดเหตุทันที พร้อมกันแนวร่วมพันธมิตรฯ ที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกจากพื้นที่ที่เกิดเหตุ เนื่องจากต้องการรักษาสภาพของที่เกิดเหตุเพื่อไม่ให้หลักฐานที่สำคัญทางวัตถุระเบิดหายไปจากพื้นที่ดังกล่าว และเป็นที่น่าสังเกตว่าจุดระเบิดที่เกิดขึ้นนั้น อยู่ในแนวเดียวกันกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่เต็นท์นักรบอิสระ ซึ่งขยับเข้าใกล้เวทีพันธมิตรฯ เพียง 50 เมตร เท่านั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากเกิดเหตุระเบิดทำให้บรรยากาศที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ เต็มไปด้วยความแตกตื่น แต่หลังจากเหตุการณ์สงบลง ผู้ชุมนุมได้กลับเข้าร่วมฟังการปราศรัยของพิธีกรบนเวทีตามปกติ โดยมิได้มีอาการตื่นกลัวต่อเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นแต่อย่างใด
น.ส.รุ่งทิวา รุ่งเรืออง อายุ 48 ปี พันธมิตรฯ จากโชคชัย 4 ซึ่งนอนอยู่เต็นท์ใกล้เคียงจากจุดเกิดเหตุเพียง 5 เมตร เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังเคลิ้มหลับได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ว่าเกิดขึ้นจุดใด แต่ตนรู้สึกแสบแก้วหูมาก โดยความรู้สึกแรกเหม็นไหม้มากๆ และเมื่อได้สติจึงพยายามมองดูรอบๆ ตัว จึงพบว่าจุดที่เกิดระเบิดนั้นห่างจากที่ตนนอนไปไม่ไกล โดยระเบิดลูกดังกล่าวไปตกอยู่ที่ผ้าเต็นท์ซึ่งตนเพิ่งซื้อมาใหม่แล้วพาดเอาไว้เพื่อใช้เป็นหลังคาเต็นท์ ส่งผลให้ผ้าเต็นท์ของตนถูกระเบิดเป็นรูโหว่ ส่วนคนที่ถูกสะเก็ดระเบิดนั้น เป็นชายสูงอายุ ซึ่งถือว่าโชคดีที่เป็นเพียงแค่ชิ้นส่วนของระเบิดซึ่งตกลงไปอยู่ในระหว่างขาของชายคนดังกล่าว
“โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกไม่หวั่นไหว ไม่กลัว และรู้สึกเฉยๆ ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนระเบิดที่เกิดขึ้นมานั้น ตนมั่นใจว่ามาจากด้านนอกของทำเนียบฯ ฉะนั้นจึงถือว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และยิ่งเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นมากเพียงใด ตนก็จะยิ่งมาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง” น.ส.รุ่งทิวา กล่าว
ด้าน พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ลักษณะของระเบิดน่าจะเป็นเครื่องยิงระเบิดวิถีโค้ง โดยมีระยะยิง 150 เมตร ซึ่งถูกยิงมาตกลงกลางหลังคาเต็นท์ โดยระเบิดลูกดังกล่าวตกลงมาตรงที่มีคนนอนยู่พอดี แต่โชคดีที่ตกมาบนหลังคาเต็นท์เสียก่อนทำให้มีผู้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และจากการสอบถามคนที่เห็นเหตุการณ์ จึงพอสรุปได้ว่าระเบิดลูกดังกล่าวสามารถทำอันตรายจนถึงชีวิตได้ ส่วนการ์ดพันธมิตรฯ จะต้องนำหลักฐานที่เก็บรวบรวมได้ไปส่งมอบให้กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพราะมีการใช้อาวุธสงคราม
“และนี่เป็นการพิสูจน์ว่า แม้ว่าจะเกิดเหตุระเบิดกับพันธมิตรฯ ถึงเพียงนี้ แต่เราก็พร้อมที่จะเปิดถนนเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ดังนั้น รัฐบาลควรที่จะต้องรับผิดชอบต่อ ส่วน เสธ.แดง เสียดายที่ไปอยู่ในโรงเรียนที่ดีที่สุดของประเทศไทย และถ้ามีการสืบทราบว่ามีการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด ก็สมควรที่จะถูกถอดยศประจาน” พล.อ.ปฐมพงษ์ ระบุ
ด้าน นางเพียงใจ ศักดิ์เอี่ยม อายุ 57 ปี พันธมิตรฯ จากลาดพร้าว เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่ที่บริเวณหน้าเวที โดยขณะนั้นตนได้หันหน้ามาทางเต็นท์ที่เกิดเหตุระเบิด เห็นลำแสงสีฟ้าพุ่งตกลงมาที่หลังคาเต็นท์ โดยที่มาจากลำแสงนั้นมาจากด้านฝั่ง ป.ป.ช. และเมื่อดูจากสายตา ตนพบเพียงรอยระเบิดซึ่งสร้างความเสียหายให้กับตัวเต็นท์เป็นรูเล็กๆ เท่านั้น
สำหรับรายชื่อผู้บาดเจ็บเล็กน้อยเนื่องจากโดนสะเก็ดระเบิด ซึ่งถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ประกอบด้วย
1.นายสุรินทร์ ชัยชนะ
2.นายประจิต คงฤทธิ์
3.นายจรัส ลิ้มสัสนานนท์
ล่าสุด เมื่อเวลา 04.30 น. รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยพร้อมอาวุธสงครามได้ที่ซอยลิขิต บริเวณสี่แยกวัดเบญจมบพิตร โดย พล.อ.ปฐมพงษ์ ได้ประสานไปยังสารวัตรทหาร ซึ่งประจำอยู่ตรงจุดที่สามรถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ พร้อมกับเปิดเผยว่า ตนได้รับการแจ้งจาก ร.ต.ท.ทองเปลว หาญไพบูลย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต ว่า ได้อยู่เวรร่วมกับสารวัตรทหารตรงบริเวณจุดสลกัดจับผู้ต้องสงสัย โดยภายหลังจากเกิดเหตุระเบิดสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้พร้อมอาวุธปืนบีบีกันซึ่งใช้ในเกมเพนต์บอล
พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวอีกว่า ตนจะไปตรวจสอบที่ สน.ดุสิต อีกครั้งเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวอยู่ ที่สำคัญเวลานี้ทหารจะต้องมีการดูแลพื้นที่การชุมนุมของพันธมิตรฯ ให้มากกว่านี้ เพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้กับกองบัญชาการกองทัพบก กองทัพภาคที่ 1 และกองบัญชาการตำรวจนครบาล อีกทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการกำหนดว่าจะมีการเปิดถนน 10 สาย เพื่อให้เกิดความพร้อมที่จะจัดงานราชพิธี ถึงแม้ว่าจะเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจจะเกิดกับผู้ชุมนุมก็ตาม
ส่วนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนั้น พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้น เกิดขึ้นเหมือนกันทุกวัน โดยตนจะเสนอแกนนำพันธมิตรฯ ให้เขียนรายงานสรุปสถานการณ์เพื่อมอบให้กับ ผบ.ทบ. เพื่อยืนยันว่าการกระทำดังกล่าว เชื่อมโยงกับทหารบางคนหรือไม่ และที่ยังเกิดเหตุร้ายขึ้นมาได้อีกนั้น ย่อมสะท้อนถึงความอ่อนแอของหน่วยงานของตำรวจ และทหาร ดังนั้น การรักษาความปลอดภัยของพันธมิตรฯ ต่อจากนี้ไป จะต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ ผบ.ทบ.ซึ่งมีอำนาจทาง กอร.มน. ซึ่งสามารถใช้มาตรการเข้าไปดูแลสถานการณ์ได้ดีมากกว่านี้