xs
xsm
sm
md
lg

“สมเกียรติ” ลากไส้ “คิงเพาเวอร์” สุมหัว รบ.สูบ “สุวรรณภูมิ” นับพันล้าน!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
“สมเกียรติ” แฉแหลก “คิงเพาเวอร์” จับมือ “รบ.โจร” ใช้วิธีพิเศษงาบสัมปทานพื้นที่สูบเงิน “สุวรรณภูมิ” นับพันล้าน ปูดซ้ำสายสัมพันธ์ “เหลือบ” แนบแน่น “สมชาย-น.ช.แม้ว” ชี้ชัด “บำรุงราษฎร์” เข้าข่าย พ.ร.บ.การให้เอกชนเข้าร่วมงานในกิจการของรัฐ หลังตรวจพบทรัพย์สินที่ลงทุนเกิน 1,000 ล้าน

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

วานนี้ (6 ต.ค.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงกรรมที่ทำให้คนในแผ่นดินแตกแยกว่า มีคน 2 คน ทำให้แผ่นดินไทยหนักมาก นั่นคือคนที่ไปอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ กับคนที่ไปรักษาตัวที่สหรัฐอเมริกา ส่วนนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 นั้นจะต้องติดคุก และไม่มีประเทศใดในโลกรับได้ ที่สำคัญไม่มีประเทศใดในโลกที่จะทำให้นายกฯ ติดคุก 3 คนรวด และถ้าประชาชนไม่สละความหาญกล้าให้กับพันธมิตรฯ คน 3 คนก็จะรอดพ้นคุก ฉะนั้น เราต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่การเมืองใหม่ โดยเราไม่สนใจว่านายกฯ ทั้ง 3 จะติดคุก หรือตายไปหรือไม่

“นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ ได้ชูคำขวัญเล็กๆ แต่งดงาม หมายความว่า มีบ้านเล็กๆ เพาะปลูกเล็ก มีบ้านหลังเล็กๆ แต่งดงาม ไม่ต้องไปเป็นหนี้ใคร เหมือนกับปรัชญาของสันติอโศก คือ มีน้อย ใช้น้อย ที่เหลือจุนเจือสังคม โดยมีความอหิงสา และอโหสิ ส่วนข่าวในเว็บไซต์ที่ฮิตที่สุดคือ ข่าวนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ไปรักษาตัวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะเพียงแค่ 3 ชั่วโมง คนเข้าไปอ่าน 80,000 คน แต่ถ้าเทียบกับข่าวที่ดังที่สุดก็คงจะเป็นข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี เพราะคนเข้าไปอ่านข่าวกว่า 100,000 คน ภายระยะเวลาเพียง 3 ชั่วโมง” นายสมเกียรติ ระบุ

แกนนำพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการในสภา หรือคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ โดยมีนายเจ๊อามิง โต๊ะตาหยง เป็นประธาน ได้เรียกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ไปให้การเรื่องใครสั่งฆ่าประชาชนว่า กรณีดังกล่าวไม่มีการตอบหนังสือ และไม่มีการทำหนังสือชี้แจงแต่อย่างใด นายเจ๊ะอามิงจึงทำหนังสือไปถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ซึ่งนายชัยได้ประทับตราว่าก็แล้วแต่ ท้ายที่เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา นายกฯ แอบไปให้การที่คณะกรรมการที่นายกฯ ตั้งขึ้นมา โดยให้การว่าไม่ได้เป็นผู้ฆ่า แต่คนอื่นฆ่าภายใต้คำสั่งของเรา

“คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จึงทำเรื่องไปถึงสภา ในขณะที่นายเจ๊ะอามิงทำเรื่องไปถึงสำนักนายกรัฐมนตรีที่ดอนเมือง เพื่อขอรายงานการประชุมในตอนดึกก่อนวันเกิดเหตุ แต่เขาตอบกลับมาว่า ไม่ได้บันทึกการประชุม แล้วพอไปถาม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ ก็บอกว่ามา บชน.ตอนตี 2 พอตี 4 ก็ออกไปแล้ว ที่สำคัญพอนักข่าวไปถามนายสมชาย ก็ได้รับการปฏิเสธ ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่า แต่เขาก็ยังปากแข็ง วันนี้ผมโชคดีที่ได้ไปประชุมรัฐสภา เพราะนายเจ๊ะอามิง ยื่นกระทู้สด คือ ถามแล้วต้องตอบ แต่นายกฯ อ้างว่าไม่ว่าง โดยให้นายโกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบแทน แต่นายโกวิทก็ปฏิเสธ โดยบอกว่าไม่ว่างเช่นกัน” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว

ส่วนกรณีที่บริษัท คิงเพาเวอร์ ใช้วิธีพิเศษในการได้ใบสัมปทานพื้นที่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยไม่ต้องแข่งขันนั้น นายสมเกียรติ กล่าวว่า พอบริษัท คิงเพาเวอร์ ได้พื้นที่ดังกล่าวมาก็มาเปิดร้านขายสินค้าปลอดภาษีอากร โดยระบุว่าให้ใครไปขายก็ได้ แต่ต้องเก็บค่าเช่าส่งให้รัฐบาล โดยจะต้องเสียเงินอีก 15 เปอร์เซ็นต์ของกำไร ขณะที่สัญญาระบุไว้ชัดเจนว่า จะต้องเก็บไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ แต่บริษัท คิงเพาเวอร์ เรียกเกิน 20 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังไปแอบเก็บเงินกินเปล่ารวมทั้งสิ้นตั้งแต่เปิดสนามบินสุวรรณภูมิมา ประมาณ 6,000 ล้านบาท พอเราส่งคนเก่งๆ ไปปราบการทุจริต คนเหล่านั้นก็ค่อยๆ หายไปทีละคน โดยมีบางคนหายไปเป็นคณะกรรมการของ ทอท.

“ยกตัวอย่างบริษัท ทอโทวิน ภัตตาคารอาหารว่าง ซึ่งเป็นร้านอาหารจานด่วน ซึ่งโดนเก็บเงินกินเปล่าทั้งสิ้นจำนนวน 185,610,000 บาท นอกจากนี้ยังมีบริษัทวี แอน เอ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งขายอาหารว่าง อาหารจานด่วน และเครื่องดื่ม เขาเก็บเงินกินเปล่าไป 25,128,000 บาท ที่สำคัญธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารทหารไทย เสียค่าเช่า 5 ปี ปีละ 100 ล้านบาท รวมทั้งบริษัท ทองเทพ แอนไทยเทพ จำกัด สปา ต้องเสียเงินค่ากินเปล่า 52,050,000 บาท” นายสมเกียรติ ระบุ

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งต้องมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ จะต้องจองห้องพักของโรงแรมก็จะมีบริษัทรับจองโรงแรมชื่อ มาสเตอร์มาย คอนแซนแตนซ์ เดย์รูม ซึ่งต้องเสียเงินกินเปล่า 63,756,000 บาท ที่นี้พอรัฐบาลเรียกเก็บ 15 เปอร์เซ็นต์ โดยมีบริษัท คิงเพาเวอร์ กินเปล่าอีก 5 เปอร์เซ็นต์ เพราะเก็บได้ไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนบริษัท บำรุงราษฎร์ จำกัด แทนที่จะคิดเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ตามที่ได้ตกลงเอาไว้กับ ทอท. แต่กลับเขียนไว้ในสัญญาสูงถึง 25 เปอร์เซ็นต์ จึงมีการลงมติว่า ต้องจัดการให้มีคนรับผิดชอบ แต่เขาตอบกลับมาว่า ทรัพย์สินที่ลงทุนไปไม่ถึง 1,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วประมาณการมูลค่าทรัพย์สินสูงถึง 3,000 ล้านบาท

“กรณีดังกล่าวจะต้องเข้ากฎหมายที่ว่าด้วย พ.ร.บ.การให้เอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 แต่นายสิงห์เทพ เทพกาญจนา กลับบอกว่า กรณีดังกล่าวไม่เข้าข่าย ทั้งๆ ที่ในรายงานระบุว่า ทอท.จ้างบริษัทที่ปรึกษา โดยมีนายสิงห์เทพเป็นผู้จัดการโครงการ ซึ่งเป็นญาติสนิทกับนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตนักการเมืองพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นโฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยรายงานสรุปว่าโครงการดังกล่าวมีวงเงินไม่ถึง 1,000 ล้านบาท จึงไม่ต้องเข้ากฎหมายร่วมทุน ให้ ทอท.เลือกบริษัท คิงเพาเวอร์ จำกัด เป็นผู้ประกอบการ โดยไม่ต้องเปิดประมูลแข่งขันกัน ฉะนั้นคนเหล่านั้น ถือว่าสุดสุดๆ และชั่วช้าสามาน”นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า คนที่จะต้องรับผิดชอบตาม คำสั่ง ป.ป.ช.ที่ 144/2551 ให้ปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.2551 แต่ขณะนี้ผ่านมา 7 เดือนกว่าแล้ว ก็ยังไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น โดยคนที่จะต้องรับผิดชอบกลุ่มแรก คือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นคนที่รอดพ้นจากความผิดมาโดยตลอด แถมมีหลานชายที่ยุให้คนมากระทืบพันธมิตรฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น