อดีตซาก ทรท.ไอเดียบรรเจิด สุมหัวล่ารายชื่อร่าง กม.ยกเลิกประกาศ คปค.อ้างกวาดล้างอำนาจเผด็จการ ยันไม่เกี่ยว ส.ส.พปช.เอาใจนายใหญ่ออก กม.นิรโทษกรรม เบื่อชะตากรรม ลั่นเลิกงอมืองอเท้าหวังลงสู่สนามการเมืองอีก
วันนี้ (6 พ.ย.) นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินทางการเมือง แถลงข่าวที่รัฐสภาว่า ขณะนี้ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 เรื่องการแก้ไขประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 โดยมี 4 มาตรา และสาระให้บุคคลที่ถูกเพิกสิทธิการเลือกตั้งโดยอาศัยอำนาจตามประกาศดังกล่าวให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยถูกถอนสิทธิเลือกตั้ง
นพ.ทศพร กล่าวว่า การออกกฎหมายฉบับนี้เป็นคนละประเด็นการออกกฎหมายนิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหาร 111 คน ซึ่งกฎหมายดังกล่าวเป็นการร่างขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยมีอดีตกรรมการบริหารพรรค 111 คน หลายคน อาทิ นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ นายทองหล่อ พลโคตร และส.ส.พรรคพลังประชาชน อาทิ นายพีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร และนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน เป็นคนให้คำปรึกษา
โดยขณะนี้มี ส.ส.ในพรรค 20 คนเห็นด้วยแต่ยังไม่ตอบรับว่าจะสนับสนุน ขณะนี้ตนจะเริ่มรวบรวบรายชื่อประชาชนมาสนุบสนุนร่างดังกล่าว โดยใช้ 1 หมื่นรายชื่อตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ซึ่งน่าจะใช้ช่องทางประชาชนมากกว่า เพราะแค่ตั้งเต็นท์ไม่นาน 3-4 วันก็น่าจะได้แล้ว ซึ่งตนไม่ได้รีบร้อนค่อยๆ ทำ แต่ไม่คิดว่าต้องยื่นกฎหมายในสมัยการประชุมนี้ แต่สาเหตุที่ทำเพราะเวลามีการนิรโทษกรรม 111 คนมักจะมีการพาดพิงกลุ่มตนด้วยความเสียหายเปรียบเสมือนนักโทษฉกรรจ์
“นับตั้งแต่ตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำสั่งออกมา พวกผมไม่ได้ทำอะไร แต่หลังจากนี้พวกผมจะไม่นั่งงอมืองอเท้าอีกต่อไป เพราะการเรียกร้องสิทธิการเลือกตั้งคืนถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคณะปฏิวัติได้ออกประกาศดังกล่าวได้ออกกฎหมายย้อนหลังเป็นการล้างเผ่าพันธุ์พรรคไทยรักไทย ตอนนี้ผมต้องเรียกร้องสิทธิคืนเพราะที่ผ่านไม่เคยได้ใช้สิทธิเลือกตั้งแม้แต่ครั้งเดียว” นพ.ทศพร กล่าว และว่าในวันที่ 19 พ.ย. มูลนิธิ 111 ได้จัดสัมนากฎหมายสู้มาตรฐานสากล โดยนำเรื่องให้ 111 คนหารือด้วย รวมทั้งหากมีโอกาสได้เจอกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรคชาติไทย และส.ส.พรรคอื่นจะยื่นร่างฉบับดังกล่าวเพื่อพิสูจน์ว่าใครมีจิตวิญญาณประชาธิปไตยบ้าง
ส่วนหากร่างดังกล่าวผ่าน 111 คนจะสามารถมาเล่นการเมืองได้หรือไม่ เป็นเรื่องอนาคต แต่เมื่อมีสิทธิเลือกตั้ง แต่สามารถเล่นการเมืองได้เช่นกัน และไม่คิดว่าการกฎหมายฉบับนี้เป็นมาตรฐานสำหรับผู้ต้องโทษทางอาญา ให้ตัวเองพ้นผิดมันเป็นคนละประเด็น ตนไม่อยากจะบอกว่าคนที่คิดอย่างนี้เป็นคนปัญญานิ่ม เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่คดีอาญาเพราะการยุบพรรคที่ผ่านมาก็มีธงของทหารอย่างชัดเจน
“เราจำเป็นต้องล้มล้างซากเดนของเผด็จการให้หมดไป และไม่คิดว่าประเด็นนี้จะไม่เป็นประเด็นราดน้ำมันในกองไฟซ้ำสอง เพราะเป็นคนละประเด็นไม่เหมือนกับนิรโทษกรรม เพราะเป็นเรื่องการเรียกร้องสิทธิให้กลับมาเท่านั้น ส่วนอนาคตจะยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับ 30 เพื่อช่วยคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่เกี่ยวกัน แต่ไม่ทราบในอนาคตจะเป็นอย่างไร” นพ.ทศพรระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักการออกกฎหมายต้องบังคับใช้บุคคลทั่วไป ไม่ใช่การออกเพื่อเฉพาะกลุ่ม นพ.ทศพร กล่าวว่า เรื่องนี้ย้อนกลับไปว่าการออกประกาศ คปค.27 เป็นการออกกฎหมายจากทหารเพียงกลุ่มเดียวที่ออกกฎหมายมาบังคับใช้กับกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งมีความชอบธรรมหรือไม่ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่เราจะออกกฎหมายมายกเลิกกฎหมาย
“ต้องขอบอกว่า อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทยเป็นประโยชน์แก่ชาติและประชาชน ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความ 111 คนไม่ได้บริหารประเทศแล้ว ประเทศจะบริหารไม่ได้ แต่หากไม่มีพวกผมอาจจะบริหารประเทศได้ดีด้วยซ้ำ แต่สาเหตุที่ทำเป็นการเรียกสิทธิของพวกผมเท่านั้นเอง” นพ.ทศพร ระบุ
วันนี้ (6 พ.ย.) นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินทางการเมือง แถลงข่าวที่รัฐสภาว่า ขณะนี้ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 เรื่องการแก้ไขประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 โดยมี 4 มาตรา และสาระให้บุคคลที่ถูกเพิกสิทธิการเลือกตั้งโดยอาศัยอำนาจตามประกาศดังกล่าวให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยถูกถอนสิทธิเลือกตั้ง
นพ.ทศพร กล่าวว่า การออกกฎหมายฉบับนี้เป็นคนละประเด็นการออกกฎหมายนิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหาร 111 คน ซึ่งกฎหมายดังกล่าวเป็นการร่างขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยมีอดีตกรรมการบริหารพรรค 111 คน หลายคน อาทิ นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ นายทองหล่อ พลโคตร และส.ส.พรรคพลังประชาชน อาทิ นายพีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร และนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน เป็นคนให้คำปรึกษา
โดยขณะนี้มี ส.ส.ในพรรค 20 คนเห็นด้วยแต่ยังไม่ตอบรับว่าจะสนับสนุน ขณะนี้ตนจะเริ่มรวบรวบรายชื่อประชาชนมาสนุบสนุนร่างดังกล่าว โดยใช้ 1 หมื่นรายชื่อตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ซึ่งน่าจะใช้ช่องทางประชาชนมากกว่า เพราะแค่ตั้งเต็นท์ไม่นาน 3-4 วันก็น่าจะได้แล้ว ซึ่งตนไม่ได้รีบร้อนค่อยๆ ทำ แต่ไม่คิดว่าต้องยื่นกฎหมายในสมัยการประชุมนี้ แต่สาเหตุที่ทำเพราะเวลามีการนิรโทษกรรม 111 คนมักจะมีการพาดพิงกลุ่มตนด้วยความเสียหายเปรียบเสมือนนักโทษฉกรรจ์
“นับตั้งแต่ตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำสั่งออกมา พวกผมไม่ได้ทำอะไร แต่หลังจากนี้พวกผมจะไม่นั่งงอมืองอเท้าอีกต่อไป เพราะการเรียกร้องสิทธิการเลือกตั้งคืนถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคณะปฏิวัติได้ออกประกาศดังกล่าวได้ออกกฎหมายย้อนหลังเป็นการล้างเผ่าพันธุ์พรรคไทยรักไทย ตอนนี้ผมต้องเรียกร้องสิทธิคืนเพราะที่ผ่านไม่เคยได้ใช้สิทธิเลือกตั้งแม้แต่ครั้งเดียว” นพ.ทศพร กล่าว และว่าในวันที่ 19 พ.ย. มูลนิธิ 111 ได้จัดสัมนากฎหมายสู้มาตรฐานสากล โดยนำเรื่องให้ 111 คนหารือด้วย รวมทั้งหากมีโอกาสได้เจอกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรคชาติไทย และส.ส.พรรคอื่นจะยื่นร่างฉบับดังกล่าวเพื่อพิสูจน์ว่าใครมีจิตวิญญาณประชาธิปไตยบ้าง
ส่วนหากร่างดังกล่าวผ่าน 111 คนจะสามารถมาเล่นการเมืองได้หรือไม่ เป็นเรื่องอนาคต แต่เมื่อมีสิทธิเลือกตั้ง แต่สามารถเล่นการเมืองได้เช่นกัน และไม่คิดว่าการกฎหมายฉบับนี้เป็นมาตรฐานสำหรับผู้ต้องโทษทางอาญา ให้ตัวเองพ้นผิดมันเป็นคนละประเด็น ตนไม่อยากจะบอกว่าคนที่คิดอย่างนี้เป็นคนปัญญานิ่ม เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่คดีอาญาเพราะการยุบพรรคที่ผ่านมาก็มีธงของทหารอย่างชัดเจน
“เราจำเป็นต้องล้มล้างซากเดนของเผด็จการให้หมดไป และไม่คิดว่าประเด็นนี้จะไม่เป็นประเด็นราดน้ำมันในกองไฟซ้ำสอง เพราะเป็นคนละประเด็นไม่เหมือนกับนิรโทษกรรม เพราะเป็นเรื่องการเรียกร้องสิทธิให้กลับมาเท่านั้น ส่วนอนาคตจะยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับ 30 เพื่อช่วยคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่เกี่ยวกัน แต่ไม่ทราบในอนาคตจะเป็นอย่างไร” นพ.ทศพรระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักการออกกฎหมายต้องบังคับใช้บุคคลทั่วไป ไม่ใช่การออกเพื่อเฉพาะกลุ่ม นพ.ทศพร กล่าวว่า เรื่องนี้ย้อนกลับไปว่าการออกประกาศ คปค.27 เป็นการออกกฎหมายจากทหารเพียงกลุ่มเดียวที่ออกกฎหมายมาบังคับใช้กับกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งมีความชอบธรรมหรือไม่ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่เราจะออกกฎหมายมายกเลิกกฎหมาย
“ต้องขอบอกว่า อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทยเป็นประโยชน์แก่ชาติและประชาชน ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความ 111 คนไม่ได้บริหารประเทศแล้ว ประเทศจะบริหารไม่ได้ แต่หากไม่มีพวกผมอาจจะบริหารประเทศได้ดีด้วยซ้ำ แต่สาเหตุที่ทำเป็นการเรียกสิทธิของพวกผมเท่านั้นเอง” นพ.ทศพร ระบุ
