มติ พปช.หนุนแก้ 291 แต่ยังพลิ้วชะลอยื่นเข้าสภา อ้างรอเวลาเหมาะสม ต้องหารือพรรคร่วมให้รอบคอบ ยันยังไม่ได้กำหนดว่าจะยื่นเมื่อใด และไม่จำเป็นยื่นในสมัยประชุมนี้ ขณะเดียวกัน ตั้งทีมประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับ ปชช.พร้อมปัดที่ประชุมหยิบยกหารือ ล่าชื่อ ส.ส.ยื่นอภัยโทษ “แม้ว”
วันนี้ (4 พ.ย.) ที่พรรคพลังประชาชน ได้มีการประชุม ส.ส.พรรคพลังประชาชน มี นายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล รองหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งมี ส.ส.เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เนื่องจากได้พิจารณาวาระสำคัญเกี่ยวกับเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในมาตรา 291 เพื่อให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร.3 ไปดำเนินการแก้ไขซึ่ง นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รมต.ประจำสำนักนายกฯในฐานะประธานยกร่างแก้ไขดังกล่าว ได้ชี้แจงพร้อมนำร่างมาแจกให้ ส.ส.รวมทั้งเปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้ซักถามประเด็นต่างๆ ข้อสงสัย ใช้เวลาหารือกันอย่างกว้างนานประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง
ภายหลังการประชุม นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รักษาการรองโฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงภายหลังประชุม ว่า ที่ประชุมได้หารือประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ในการตั้ง ส.ส.ร.ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นตรงกันสนับสนุนตามที่รัฐบาลเสนอตั้ง ส.ส.ร.ซึ่งได้มีการยกร่างแก้ไขเสร็จแล้ว สาระสำคัญ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมให้ตั้ง ส.ส.ร.เพื่อไปร่างหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น โดย ส.ส.ร.จะมีจำนวน 120 คน มาจาก 3 กลุ่ม จากตัวแทนประชาชนแต่ละจังหวัด 76 คนจากเลือกกันเองทางอ้อม มอบให้ กกต.เป็นผู้จัดการเลือกตั้ง จากผู้ทรงคุณวุฒิ 24 คน แบ่งเป็นด้านนิติศาสตร์ 8 คน ด้านรัฐศาสตร์ 8 คน และด้านการเมือง การปกครอง 8 คน จากตัวแทนสาขาอาชีพ 20 คน เมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้จะสรรหา ส.ส.ร.ใช้เวลา 60วันและขั้นตอนในการยกร่างใช้เวลา 180 วัน หลังยกร่างเสร็จจะส่งร่างให้ที่ประชุมรัฐสภาส.ส.และ ส.ว.พิจารณาเห็นชอบ ไม่เห็นชอบเท่านั้น ถ้าเห็นชอบก็ประกาศใช้ แต่ถ้าไม่เห็นชอบก็ส่งให้ประชาชนลงประชามติต่อไป
นายบุญจง ยืนยันว่า ที่ประชุมได้มีการอภิปรายกันอย่างมาก เนื่องจากเพิ่งได้เห็นร่างแก้ไขดังกล่าว จึงมีการอภิปรายซักถามและแสดงความคิดเห็นกันมาก แต่ส่วนใหญ่เห็นด้วยให้มีการแก้ไข แต่เห็นว่า ควรมีการหารือกับกับพรรคร่วมรัฐบาลและหลายฝ่ายก่อนเพื่อให้เกิดความรอบคอบ นอกจากนี้ ส.ส.ได้มีแสดงความห่วงหากเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้ามา อาจทำให้พันธมิตรฯและ ส.ว.บางส่วนที่ไม่เห็นด้วย มีการเคลื่อนไหวต่อต้าน เพราะที่ผ่านมามีการพูดไม่ตรงกับเจตนาของรัฐบาลว่าเป็นการเสนอแก้เพื่อหนีคดียุบพรรค หรือเพื่อช่วยอดีตนายกฯและอดีตกรรมการบริหารพรรค 111 คน เพราะหลายเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ดังนั้น พรรคจึงเห็นว่าให้ ส.ส.ของพรรคไปทำความเข้าใจกับประชาชนว่าการแก้ไขดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาของชาติ พร้อมเห็นให้ตั้งทีมประชาสัมพันธ์ของพรรคเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อพรรคมีมติดังกล่าวแล้ว ทาง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค คงจะนำไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ส่วนจะยื่นเข้าสู่รัฐสภาเมื่อใด ยังไม่กำหนด ขณะนี้จะรอช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสมเพื่อหารือทุกฝ่ายให้รอบคอบก่อน จึงไม่จำเป็นจะต้องยื่นให้ทันในสมัยประชุมนี้ที่จะปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 พ.ย.นี้ หรือ หากพร้อม อาจยื่นขอเปิดสมัยวิสามัญพิจารณาก็ได้ ไม่เสียหายอะไร แล้วแต่ต้องดูความเหมาะสม
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขทั้งฉบับ ควรแก้บางมาตรานั้น นายบุญจง กล่าวว่า การแก้ไขมาตรา 291 เป็นเพียงการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อเป็นเปิดประตูเพื่อให้ ส.ส.ร.หรือคนนอกมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะแก้ไขประเด็นใด รายละเอียดเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับ ส.ส.ร.ส่วนที่นายกฯจะนัดหารือพบปะพรรคร่วมรัฐบาลพรุ่งนี้ จะได้ข้อสรุปหรือไม่นั้น ยังบอกไม่ได้ แต่ต้องหารือให้รอบคอบ
เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ประกาศว่าจะไปปิดสภา หากมีการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว นายบุญจง กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ขอเรียนทำความเข้าใจกับประชาชนว่าการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 291 เพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองที่มีความเห็นแตกต่างกัน จึงต้องให้คนกลาง หรือคนนอกเข้ามาแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง
นอกจากนี้ นายบุญจง ยังระบุว่า ในที่ประชุมพรรค ไม่มีการหารือ หรือหยิบยก กรณี ส.ส.ของพรรคจะล่ารายชื่อเพื่อถวายฎีกาเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯแต่อย่างไร ซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัวของ ส.ส.ซึ่งจะต้องดูกฎหมายว่าจะสามารถทำได้หรือไม่