“พล.ต.จำลอง” ย้ำ ส.ส.ร.3 อาจหมกเม็ดเพื่อแก้ รธน.ฟอกความผิดคดียุบพรรค-ล้มองค์กรอิสระ ยันพันธมิตรฯ ไม่รับข้อเสนอยกเลิกหมายจับข้อหากบฏ แลก ยุติชุมนุม ยึดมั่นจุดมุ่งหมายเดิม ต่อต้านแก้ไข รธน.50 ไล่รัฐบาลนอมินีเพื่อสร้างการเมืองใหม่
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
เมื่อเวลา 20.50 น.วันที่ 30 ก.ย. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา สื่อมวลชนได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการที่รัฐบาลจะตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ชุดที่ 3 ขึ้นมา โดยผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 2550 มาตรา 291 ก่อน ซึ่งเราได้บอกว่า การตั้ง ส.ส.ร.3 นั้น มาจากความเห็นของอธิการบดีสถาบันการศึกษา 24 สถาบัน แต่เรายังไม่เห็นรายละเอียดว่าจะตั้งใครมาบ้าง เนื้อหาจะเป็นอย่างไร เมื่อได้รายละเอียดมา เราจะประชุมแกนนำ และแถลงให้ทราบอีกครั้ง
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า เรื่องการแก้ไขมาตรา 291 นั้น เราไม่ได้บอกว่ารัฐธรรมนูญแก้ไม่ได้ แต่ที่เราคัดค้านเนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2550 เพิ่งใช้มาไม่นาน และเพิ่งผ่านการลงประชามติครั้งแรกและครั้งเดียวในประเทศไทย โดยมีประชาชนเห็นด้วย 17 ล้าน 3 แสนเสียง เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็ไม่สมควรแก้ และการแก้ เพื่อผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม หรือเพื่อกลบเกลื่อนความผิดของคนที่ทำผิดนั้น บ้านเมืองจะเสียหาย เราพูดมาตลอดว่า เขาจะแก้มาตรา 237 เพื่อให้ให้มีการยุบพรรค ซึ่งเรามองว่าไม่เหมาะ เพราะผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก นอกจากนี้จะแก้มาตรา 309 เพราะจะลบองค์กรอิสระ ให้เรื่องที่องค์กรอิสระทำไปแล้วเป็นโมฆะ ล้มองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งถ้าแก้มาตรานี้จะทำความเสียหายต่อบ้านเมืองร้ายแรง และล่าสุดที่เขาจะแก้คือมาตรา190 ที่รัฐบาลที่แล้วทำผิดเรื่องการทำสนธิสัญญาโดยไม่ผ่านสภาก่อน เขาก็จะลบมาตรานี้ทิ้งไป
“คราวนี้ที่จะตั้ง ส.ส.ร.3 ขึ้นมา โดยจะแก้มาตรา 291 ก่อน เรายังไม่มีความเห็น แต่โดยส่วนตัวแล้ว เห็นว่าอาจจะมีการหมกเม็ด เพื่อแก้มาตรา 237 309 และ 190 เรื่องนี้ เราจะขอดูก่อน แต่คนพวกนี้ชอบหมกเม็ก เพราะทำอยู่เรื่อย เพราะฉะนั้น การขอแก้มาตรา 291 คราวนี้ อาจจะหลอกเรา เพื่อที่จะแก้มาตรา 237 309 หรือมาตราอื่นๆ เป็นของแถม” พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ส่วนผู้สื่อข่าวได้ถามว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ได้ติดต่อมาหรือยังนั้น ตนได้ตอบว่า เพิ่งติดมาเมื่อวานซืนนี้เอง จะให้ติดต่อมาอีกได้อย่างไร และหนังสือพิมพ์ก็เพิ่งลงข่าวว่านายกฯ จะมอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต แก้ปัญหาหลายอย่าง เช่น ความสงบในภาคใต้ ความสัมพันธ์กับจีน เรื่องเขมร ปัญหาน้ำท่วม เยอะแยะหมด เพราะฉะนั้นจะไปเร่งรัดไม่ได้
“เขาถามอีกว่า พี่จิ๋วได้บอกว่าจะยกเลิกหมายจับให้แกนนำเพื่อแลกกับให้พันธมิตรฯ ยุติชุมนุมหรืเปล่า ผมบอกไม่ เอาจากไหนมาถาม ผมบอกกับพี่น้องหลายครั้งแล้ว มี 2 เรื่องที่เราไม่เคยตีโพยตีพาย เรื่องหนึ่งคือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตอนนั้น เขาก็มาถามว่า ถ้ารัฐบาลจะยกเลิกภาวะฉุกเฉิน แล้วให้เรายุติชุมนุมเอาไหม เราก็บอกไม่เอา เพราะการประกาศภาวะฉุกเฉิน เป็นเรื่องที่รัฐบาลสร้างถานการณ์ ให้พวกนรกป่วนกรุง มาโจมตีเรา แล้วก่อความวุ่นวายจนต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน เรื่องนี้ รัฐบาลเป็นฝ่ายทำผิด รัฐสลต้องแก้เอง และก็เป็นไปอย่างที่เราพูด เพราะต่อมาเขายกเลิกไปเอง เพราะเขาทำผิดมาก่อน เรื่องอะไรที่เราจะเอามาเป็นเป้าหมายต่อรอง” พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า อีกเรื่องคือหมายศาล ที่เป็นกล่าวหาเท็จเช่นกัน เราบอกแล้วว่าเราไม่ได้ทำความผิด เราจึงไม่ได้ตีโพยตีพายเรื่องนี้ และขณะนี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย เรายอมให้จับ ตำรวจจะมาจับเมื่อไหร่ก็มาเลย แต่ตำรวจต้องคำนึงถึงผลที่ตามมา เช่น ประชาชนทั้งประเทศลุกฮือขึ้นมาเล่นงานตำรวจ ตำรวจจะลำบาก แต่จะมาจับเมื่อไหร่ก็มาจับได้ เราอยู่เป็นที่เป็นทาง เราไม่ได้หนีไปไหน จะเอาคดีเราไปโยงกับคดีของคนอื่นที่เขาหนีไปต่างประเทศไม่ได้
“ตกลงเรื่องหมายจับของศาลข้อหากบฏนั้น เรากำลังรอศาลอยู่ เพราะศาลท่านคงไว้ซึ่งความยุติธรรม ตอนนี้ท่านรับอุทธรณ์แล้ว เราก็รอศาลท่านจะออกคำสั่งมา แล้วที่ไปออกข่าวลือกันว่าพี่จิ๋วจะยกเลิกหมายจับแล้วเราต้องยุติชุมนุมนั้น ไม่จริง ผมต้องทบทวนอีกทีหนึ่ง จุดมุ่งหมายของการชุมนุมที่เราต้องพูดให้หนักแน่น คือ คัดค้านแก้ ไขรัฐธรรมนูญ 2550 และให้รัฐบาลออกไปเพื่อนำไปสู่การเมืองใหม่ ที่บอกว่า เพื่อล้มระบอบนั้นระบอบนี้ก็พูดได้ทั้งนั้น เพื่อขจัดการโกงกินก็พูดได้ แต่ที่เป็นรูปธรรมและสั้นๆ คือ คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 และให้รัฐบาลออกไป เพื่อนำไปสู่การเมืองใหม่” พล.ต.จำลองกล่าว