“นพเหล่” โหมโรง! เปิดพ็อกเกตบุ๊กแก้ตัวเซ็นยกพระวิหาร

อดีตเจ้ากระทรวงบัวแก้ว โผล่ลั่นกลองสมทบ “แม้ว” โฟนอินพรุ่งนี้ เกาะกระแสเปิดตัวพ็อกเกตบุ๊กแก้ตัวเซ็นยกเขาพระวิหารให้เขมร เตรียมตั้งโต๊ะแจกลายเซ็นที่ราชมังคลาฯ พรุ่งนี้ ฟุ้งล่วงหน้าหนังสือขายดีเป็นเทน้ำเทท่า คาดต้องเปิดจองไม่แพ้ห้างทองเยาวราช

วันนี้ (31 ต.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ แถลงข่าวเปิดตัวพ็อกเกตบุ๊ก “นพดล ปัทมะ ผมไม่ได้ขายชาติ” ซึ่งเป็นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกกล่าวว่าขายชาติ กรณีการลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มาร่วมให้กำลังใจ

นายนพดล กล่าวว่า หนังสือดังกล่าวเป็นความจริงวันนี้เรื่องปราสาทเขาพระวิหารว่าตนไม่ได้ขายชาติตามที่พันธมิตรฯ ฝ่ายค้าน และนักวิชาการบางคนพยายามกล่าวหา สิ่งที่โจมตีตนเป็นเท็จทั้งหมด เพราะไม่ได้เซ็นยกเขาพระวิหารให้กัมพูชา แต่ตกเป็นเหยื่อการเมืองที่ต้องการทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล สมัยเป็น รมว.ต่างประเทศได้ปกป้องดินแดนไทย แต่ถูกมองว่าเป็นที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่มีใครฟัง ทั้งที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคนได้ยืนยันว่า ประเทศไทยไม่เสียดินแดนเลย จากการลงนามในแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว และยังปกป้องไม่ให้ไทยเสียพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. ด้วยการตัดพื้นที่ดังกล่าวออกจากตัวปราสาทเขาพระวิหาร อีกทั้งแถลงการณ์ร่วมสองประเทศได้ถูกระงับโดยศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น แถลงการณ์ร่วมจึงไม่มีผลต่อการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหาร ในช่วงลงนามในแถลงการณ์ร่วมทั้งสองประเทศระบุในแถลงการณ์ชัดเจนว่าไม่ใช่สนธิสัญญาระหว่างประเทศ แต่ศาลกลับตัดสินออกมานอกเหนือจากคู่กรณีทั้งสองฝ่าย

นายนพดล กล่าวว่า ส่วนปัญหาเขาพระวิหารนั้น ส่วนตัวเห็นว่ามีทางออกในการแก้ปัญหา คือ 1.ให้ทั้งสองประเทศพัฒนาพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.ร่วมกัน 2.ให้คงกำลังทหารในพื้นที่น้อยที่สุด 3.เร่งเจรจาปักปันเขตแดนให้เสร็จโดยเร็ว 4.หากรอบร่วมกันเรื่องเขตแดนตามแนวแผนที่ และการปักปันเขตแดนร่วมกัน

อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวต่อไปว่า เรื่องพิพาทชายแดนเขาพระวิหารนั้น ถ้าไม่แก้ปัญหาตามแนวทางที่ตนวางไว้ คือ การเจรจาทวิภาคี ซึ่งตอนนี้เป็นเรื่องดีที่สภาอนุมัติกรอบเจรจา เชื่อว่าทุกอย่างจะเดินต่อได้จะเกิดปัญหา เพราะจะขยายตัวจากทวิภาคีไปอาเซียน ไปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และไปที่ศาลโลก และหากไปศาลโลกเมื่อใด ไทยเสียเปรียบแน่นอน เพราะเมื่อปี 2505 ที่เราต้องยอมเสียตัวปราสาทไป ขณะนั้นมีความพยายามถามศาลโลกต่อเรื่องเขตแดน แต่โชคดีที่ไม่ไปถึงขั้นนั้น ไม่นั้นศาลโลกจะจิ้มเอาตามแผนที่ของฝรั่งเศส ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่ก็เชื่อว่านายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ต่างประเทศจะแก้ปัญหาได้ เพราะเดินแนวทางถูกต้องอันเดียวกับตน และทุกคนก็ได้รู้ว่ากับระเบิดมาตรา 190 ที่ตนเจออยู่ตรงไหนบ้าง

“การเขียนหนังสือดังกล่าวไม่ได้หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนเขียน หรือมีโกสไรท์เตอร์เขียนให้ แต่ได้รวบรวมข้อมูลเอกสารต่างๆด้วยตัวเอง และไม่ได้จงใจให้ออกมาในจังหวะเวลานี้ แต่บังเอิญมาตรงช่วงนี้พอดี เชื่อว่าจะไม่กระทบต้อการบวนการเจรจาที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ โดยพิมพ์ครั้งแรกทั้งหมด 5 พันเล่ม และจำนำไปเปิดตัวนั่งแจกลายเซ็นในงาน ครอบครับความจริงวันนี้สัญจร ในวันที่ 1 พ.ย.ด้วย เชื่อว่าหนังสือจะขายไปพอจนอาจต้องมีการลงชื่อจองเหมือนขายทองคำที่เยาวราช” นายนพดล กล่าว

นายจาตุรนต์ ฉายแสง กล่าวว่า นายนพดลไม่ได้ทำอะไรผิดในการปฏิบัติหน้าที่ รมว.การต่างประทศ เพราะเป็นการปกป้องรักษาประเทศตามหลักวิชาการ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับนายนพดลนั้นมาจากความพยายามนำชาตินิยมแบบคลั่งชาติมาใช้โจมตีรัฐบาล และที่สำคัญคือเป็นเหยื่อของรัฐธรรมนูญมาตร 190 ที่ทำให้ถูกโจมตี การทำหน้าที่ของนายนพดลเป็นการปกป้องรักษาอธิปไตยประเทศไว้