“กุมภาพันธ์” เดือนที่หลายคนมักจะนึกถึงวันวาเลนไทน์ แต่สำหรับชาวพุทธ ยังมีอีกหนึ่งวันที่ คือวันสำคัญทางศาสนาซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นั่นคือ “วันมาฆบูชา” ซึ่งทุกปีจะมีศิลปินที่ได้รับรางวัลศิลปินคุณธรรม ทำหน้าที่เผยแผ่ประชาสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนา ซึ่งหนึ่งในนั้นคืออดีตเยาวชนดีเด่น อย่าง “เชน ธนา ลิปยารยะ” หรือ “เชน ไนซ์ทูมีทยู” บอยแบนด์ของศิลปินอาร์เอส
ในฐานะศิลปินคุณธรรม ปี 2553 เชนบอกเล่าเรื่องราวผ่านรางวัลว่า ที่จริงแล้วรางวัลนี้ ทางกรรมการแจกให้จากการดูคุณสมบัติหลายๆอย่าง ซึ่งในปีนี้คนในแวดวงบันเทิงมี สมบัติ เมทะนี ,เศรษฐ ศิระฉายา,เอ ไชยา มิตรชัย,กระแต โฟร์ทีน และเชนได้รับรางวัลนี้มา โดยหน้าที่หลักคือการประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักวันสำคัญในพระพุทธศาสนา ซึ่งวันนี้เชนคือตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่จะมาพูดคุยกับ M-Light ในฐานะศิลปินคุณธรรม
“รางวัลนี้เป็นรางวัลศิลปินคุณธรรมครับ ได้มาจากการคัดเลือกของผู้ใหญ่หลายๆท่าน เป็นรางวัลของศิลปินประพฤติดี แล้วก็สำหรับของเชนกับกระแตได้ในส่วนของเยาวชนซึ่งเขาดูหลายๆอย่างครับ”
“หน้าที่อันแรกเลยคือรณรงค์เรื่องวันมาฆบูชาเนี่ยแหละครับ เพราะว่าคือเยาวชนสมัยนี้ จะลืมความสำคัญของวันสำคัญทางศาสนาไป จะไปเน้นพวกวันวาเลนไทน์ เน้นฮัลโลวีนมากกว่า เขาเลยอยากให้เรามาช่วยรณรงค์ ตอนนี้มาถามเด็ก ๆ ว่าวันมาฆบูชาคืออะไร เขาตอบไม่ได้ ทั้งที่ตอนเด็กๆ เราก็ท่องกันว่า มีพระสงฆ์ 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายแต่มาถึงตอนนี้เราลืมไปหมดแล้ว”
เชนเล่าว่าในวิถีพุทธ เขาอาจไม่ใช่คนที่เคร่งครัดในทางพุทธมากนัก หากแต่ทุกครั้งที่เข้าวัดเขาวา หรือทำสิ่งดี “ความสบายใจ” บางอย่างที่เกิดขึ้นทำให้เขา ขยับเข้าใกล้วัดมากขึ้น โดยมีเรื่องบุญ-กรรม เป็นแก่นแห่งความเชื่อ
“ผมตักบาตรทุกอาทิตย์ ส่วนเข้าวัด แล้วแต่โอกาสนะครับ ที่บ้านผมทำเป็นประจำอยู่แล้ว ตอนเด็กเชนก็ไม่ตักบาตรนะ แต่พอได้ลองทำก็สบายใจ รู้สึกดี รู้สึกอะไรมันก็ง่ายขึ้นคล่องขึ้น บ้านเชนถือเรื่องบุญกรรมมากกว่า พยายามสอนตลอดว่า ทำบุญเยอะๆ จะได้เจอแต่สิ่งดี อย่าทำกรรม สมัยก่อนเกเรครับ รังแกสัตว์
พอโตขึ้นบางอย่างมันก็กลับมา ผมเชื่อนะ โตขึ้นสัตว์ที่เราฆ่าไปก็กลับมากัด มาต่อยเรา เชื่อเรื่องเวรกรรม”
นอกจากการเชื่อเรื่องบุญ-กรรม เชนบอกว่าเมื่อมีมากกว่า ต้องเผื่อแผ่ให้แก่เพื่อนมนุษย์บ้าง
“ทุกวันเกิดก็ไปทำบุญตามบ้านเด็กกำพร้า ชวนเพื่อนในวงการ ชวนเพื่อนที่เรียน พอมีจังหวะดีๆ ก็ได้พรีเซ็นเตอร์ หรือขายพ็อกเกตบุ๊กดีๆ เชนก็เอามาแบ่งทำบุญ”...เชนเล่าถึงวิธีการช่วยเหลือเพื่อนร่วมสังคมของเขาด้วยการแบ่งปัน
ส่วนการศึกษาธรรมะของเด็กวัยรุ่นอย่างเขา คือการอ่านหนังสือธรรมะที่ร่วมสมัย ที่เปรียบเสมือนอาหารที่ย่อยง่าย อาจไม่ได้ศึกษาถึงแก่นแท้ หรือรู้ความหมายคำศัพท์ในทางพุทธ แต่การหยิบมาใช้ในชีวิตของหนังสือธรรมะบนแผงหนังสือทุกวันนี้ เขาเชื่อเหลือเกินว่าธรรมะเข้าถึงง่ายกว่าแต่ก่อนมาก
“ส่วนใหญ่ผมอ่านหนังสือธรรมะเยอะ มีอันหนึ่งที่ผมชอบ เขาบอกว่าคนเราจะอยู่ในภาวะปกติเนี่ย เวลาทั่วไปคือปกติ ไม่สุขไม่ทุกข์ แม้ว่าเราจะถูกรางวัลที่หนึ่งมาเราก็สุขแป๊บหนึ่ง สุดท้ายมันก็กลับมาภาวะปกติ เวลาเรามีความทุกข์มากๆ เวลาที่เราเสียใจ สักพักเราก็กลับมาปกติอีก ผมจะปล่อยวางแล้วพยายามรักษาตัวเองให้อยู่ในภาวะปกติให้ได้ มากที่สุด ผมอ่านหนังสือธรรมะ ผมชอบเน้นที่เรียลลิสติกมากกว่า”
ส่วนรางวัลที่เขาได้รับ ไม่ได้ทำให้เขาต้องอึดอัดในการวางตัว เพราะแท้ที่จริงแล้วชีวิตในวงการบันเทิงของเขาก็ไม่ได้ผาดโผน เพียงแต่ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเท่านั้น และเขาเองยังฝากถึงเยาวชนให้สนใจทางธรรมให้มากโดยเลือกรับในแบบที่ถนัดของแต่ละคน
“จริงๆเรื่องการวางตัว ผมระวังมาสักพักแล้วครับตั้งแต่รางวัลเยาวชนดีเด่น แต่อันนี้หนักกว่าเดิม จริงๆผมใช้ชีวิตปกตินะ คือตัวเชนเองเนี่ยเชนอยากให้ทุกคนรักษาพุทธศาสนาไว้ เพราะว่าศาสนาพุทธเกิดมานาน เราลองหาเวลาเข้าวัด หรือไม่ก็ตามคุณพ่อคุณแม่ไปตักบาตรบ้าง จะได้รู้ว่าพระพุทธศานามีประโยชน์กับเราอย่างไร ส่วนใครชอบอ่านหนังสือก็เลือกได้เลยสมัยนี้ มีทุกแผงเลยสำหรับหนังสือธรรมะ เชนว่าเลือกที่เข้ากับเราเท่านี้ก็มีธรรมในใจแล้วครับ”
***
“สติปัญญามันต้องคู่กันกับเมตตา รู้จักความดับทุกข์แก่ตนแล้ว ก็ต้องรู้จักช่วยผู้อื่นให้ดับทุกข์ได้ด้วย นี้เรียกว่าประพฤติถูกต้องตามกฎธรรมชาติ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสิ่งทั้งปวง” ...พุทธทาสภิกขุ
ข่าวโดยทีมงาน M-Lite