ส.ว.ประชุมเคลียร์ใจ-เตรียมยื่นวิปรัฐปราม “การุณ” ถ่อย

ส.ว.ทุกกลุ่มร่วมประชุมเคลียร์ใจชื่นมื่น “ประสพสุข” ยอมรับมอบหมายรองประธานวุฒิฯ ร่วมประชุมกับรัฐบาลเพื่อแก้ไข ม.291 เมื่อ 20 ต.ค. แต่หลังจากนี้จะไม่ส่งเข้าร่วมอีก ด้าน “นิคม” อ้างเข้าใจกันหมดแล้ว ใครยังสงสัยพร้อมให้ตรวจสอบ เผยจะทำหนังสือถึงประธานวิปรัฐ กรณี “ถ่อยการุณ” อยากเตะ “ส.ว.รสนา” เพื่อขอร้องอย่าทำอีก

ภายหลังการประชุมวิปวุฒิสภา เมื่อวันที่ 29 ต.ค. นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ได้บทสรุปว่าทุกๆ ฝ่ายเข้าใจกันดีแล้ว และเห็นชอบร่วมกันว่าจะไม่นำปัญหาเรื่องการประชุม 4 ฝ่าย เข้าไปพูดในที่ประชุมวุฒิสภาในวันที่ 31 ต.ค. ตนได้เล่าเหตุการณ์และเหตุผลที่ต้องถอนตัวออกมา ซึ่งที่ประชุมเข้าใจ แต่ปัญหาความไม่เข้าใจกันก่อนหน้านี้ เพราะต่างคนต่างไม่ได้ฟังเหตุผลของอีกฝ่าย ตนจึงยืนยันในที่ประชุมว่า เป็นผู้มอบหมายให้นายนิคมเข้าไปร่วมประชุมแทน

เมื่อถามว่า ที่ประชุมได้หารือถึงจุดยืนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ประธานวุฒิสภากล่าวว่า รออยู่ ต้องรอให้ทางสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้เสร็จก่อน แต่จะไม่มีการหารือเรื่องนี้ในการประชุมวุฒิสภาสัปดาห์นี้ แต่ถ้าสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องนี้วุฒิสภาจึงจะหารือกัน

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์มีท่าทีจะเข้าประชุม 4 ฝ่าย ประกอบด้วยรัฐบาล ฝ่ายค้าน พปช. และกลุ่มพันธมิตรฯ ตามข้อเสนอของวงสานเสวนาเพื่อยุติความรุนแรงหรือไม่ นายประสพสุขกล่าวว่า เป็นเรื่องของ 4 ฝ่ายดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับวุฒิสภาแล้ว

ด้าน นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ทุกอย่างจบแล้ว ไม่มีอะไร เข้าใจกันหมด ส่วนใครจะตรวจสอบการทำหน้าที่ของตนก็เป็นเอกสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ไม่มีปัญหา ดีเสียอีกที่มีคนจับตามองตลอด ตนก็รู้สึกปลอดภัยด้วย

เมื่อถามว่าได้มีข้อเสนอและอะไรให้ประธานวุฒิสภา บ้างหรือไม่ รองประธานวุฒิสภากล่าวว่า คงดีขึ้นหลังเกิดกลุ่ม 24 ตุลาคม 51 ที่มี 64 ส.ว.ออกมาแสดงจุดยืน ทำให้ท่านชั่งใจมากขึ้น อย่างไรก็ตามถึงจะต่างคนต่างความคิด แต่จะทำอย่างไรให้ทำงานร่วมกันได้ต่อไป ทั้งนี้ในเดือน ม.ค.52 จะมีการจัดสัมมนาที่ต่างจังหวัด ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างดูสถานที่

นายนิคม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมวิปวุฒิได้มีมติทำหนังสือทักท้วงไปยังประธานวิปรัฐบาล เพื่อขอร้องในลักษณะขอความร่วมมือให้แจ้งแก่ ส.ส.ทุกคนช่วยรักษากฎ กติกา และมารยาทในการประชุมรัฐสภาด้วย จากกรณีที่มี ส.ส.บางคนกล่าวถ้อยคำไม่สุภาพกับ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เมื่อวันที่ 28 ต.ค. และขอร้องว่าอย่าให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นมาอีก เพราะเป็นภาพพจน์ที่ไม่ดีของรัฐสภา เพราะต่างฝ่ายต่างมีศักดิ์ศรี ทั้ง ส.ว.และ ส.ส. ต้องเคารพเกียรติซึ่งกันและกัน

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า บรรยากาศการประชุมวันนี้เป็นไปด้วยดี วันนี้นอกจากประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา แล้ว ยังมีกลุ่ม 40 ส.ว. กลุ่ม 24 ตุลาคม 51 และกลุ่มอึดอัดใจ มาร่วมประชุมด้วยอย่างพร้อมหน้า ตนเชื่อว่าหลังการพูดคุยวันนี้ทุกคนจะมีความเข้าใจกันมากขึ้น ซึ่งประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา ได้ยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละคนต่อไป และ ส.ว.ทุกคนก็มีความเข้าใจในการทำหน้าที่ของท่านแล้ว ทั้งนี้ประธานวุฒิสภาได้ยืนยันต่อที่ประชุมว่า จะเป็นประธานของ ส.ว.ทั้งหมด และบทบาทที่ผ่านมาไม่ได้มีแรงกดดันจากกลุ่ม 40 ส.ว. แต่ท่านตัดสินใจถอนตัวจากการประชุม 4 ฝ่ายเพราะเกิดเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งทางกลุ่ม 40 ส.ว.ได้ยืนยันว่า การแสดงความคิดเห็นที่ผ่านมา รวมถึงการทำหนังสือถึงประธานวุฒิสภา กรณีขอให้พิจารณาเรื่องการหารือ 4 ฝ่าย ทำโดยสุภาพ

นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการทำหน้าที่ของกลุ่ม 40 ส.ว. ในฐานะฝ่ายตรวจสอบรัฐบาลจะทำต่อไปอย่างเข้มแข็ง ซึ่งการตรวจสอบกรณี 7 ตุลาคม จะสรุปผลได้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งยืนยันว่าพบผู้กระทำผิดแน่นอน โดยรัฐบาลนั้นผิดแน่ ส่วนตัวบุคคลก็มีส่วนกระทำผิดด้วย และต้องถูกดำเนินคดีอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมในช่วงต้นเป็นไปอย่างชื่นมื่น เมื่อนายประสพสุขชี้แจงว่าเป็นผู้ลงนามมอบหมายให้นายนิคมเข้าไปเป็นคณะทำงานดำเนินการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 และนับตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม หลังนายนิคมเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมแล้วจะไม่มีตัวแทนจากวุฒิสภาเข้าร่วมอีก ต่อไปนี้ขอให้ทุกคนจับมือกันทำงานต่อไป

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการประชุมเริ่มตึงเครียดขึ้น เมื่อนายไพบูลย์ นิติตะวัน ได้สอบถามการที่วิปวุฒิสภาไปร่วมประชุมกับวิปรัฐบาล เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้วุฒิสภาถูกมองว่ายังเข้าไปร่วมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก ทำให้นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ชี้แจงว่า วันดังกล่าว ตนได้รับมอบหมายจากนายนิคมให้ไปเป็นตัวแทนเพื่อหารือเกี่ยวกับการประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่ 28 ตุลาคม เพื่อเสนอความเห็นให้มีการเลื่อนการประชุมเกี่ยวกับกรอบการเจรจาร่วมไทย-กัมพูชา ที่ถูกวาระการพิจารณาญัตติเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 2550 ฉบับ คปพร. แทรก เพื่อขอเลื่อนออกไป

ขณะที่นางจิราวรรณ จงสุทธนามณี วัฒนศิริธร ส.ว.เชียงราย ได้ชี้แจงด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ไม่อยากให้มองว่า ส.ว.อีกส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่ม 40 ส.ว.เป็นพวกของรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาตนแสดงจุดยืนชัดเจนในหลายเรื่องว่าไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล

ส่วนนางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็ร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่ม 40 ส.ว.มาตลอด แต่ช่วงหลังความเห็นในบางเรื่องแตกต่างกัน จึงขอแสดงจุดยืนว่าไม่ขอร่วมอยู่กับฝ่ายไหน

ในช่วงท้ายของการประชุม บรรยากาศยิ่งตึงเครียดมากขึ้น เมื่อนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้กล่าวว่า ต่อไปตนจะขอเสนอนับองค์ประชุมทุกๆ 15 นาที แต่ถูกคัดค้านจากที่ประชุมว่าไม่น่าเหมาะสม จะทำให้การทำงานของวุฒิสภาเกิดปัญหาได้ ทำให้นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ไกล่เกลี่ยว่า ถ้าอย่างนั้นขอให้การประชุมสัปดาห์นี้อย่าเพิ่งมีการนับองค์ประชุมแบบนั้น ซึ่งทุกคนเห็นพ้องต้องกันกับข้อเสนอของนายคำนูณ