ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (28 ต.ค.) มีการประชุมร่วมกันของ 2 สภาเพื่อพิจารณาเรื่องด่วนเกี่ยวกับกรอบการเจรจาสำรวจ และจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชา ตลอดแนว ในกรอบของเจบีซี โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนเข้าสู่วาระการประชุม เกิดปัญหาการต่อเถียงและประท้วงระหว่าง ส.ส.พรรคพลังประชาชนและกลุ่ม 40 ส.ว. หลังจากนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ได้สอบถามถึงบันทึกรายงานการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในการรับทราบการแถลงนโยบายของรัฐบาลเมื่อวันที่7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยขอให้มีการบันทึกรายงานให้ครบถ้วนรวมถึงการที่ส.ส.รัฐบาลมีการลงมติแทนกันด้วย
ขณะที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน ขอหารือ ให้มีการตรวจสอบการที่สมาชิกรัฐสภานำบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมประชุมในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล ในวันที่7 ต.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นถึงระบบการรักษาความปลอดภัยของรัฐสภา ที่หย่อนยานมาก ต่อไปนี้ ขอให้ประธานกำชับให้ส.ส. และ ส.ว.เท่านั้นที่สามารถเข้า- ออก บริเวณชั้น2 อาคารรัฐสภา
ทำให้น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ลุกขึ้นตอบโต้ว่า สภาของผู้ทรงเกียรติ ควรพิจารณาในส่วนของตัวปัญหา การเกิดเหตุขึ้นมา ตนก็ได้ร้องเรียนไปเช่นกัน ขอให้ ประธาน บอก ส.ส. ที่มาล้อมตัวตนในวันนั้นเพราะสภาไม่ใช่ศาลเตี้ยจะตัดสินทุกอย่าง ด้วยตัวเอง และขอเรียนว่าตนไม่เคยพาผู้ติดตามเข้ามาในห้องประชุมสภาแม้แต่ครั้งเดียว แต่ในเหตุการณ์วันนั้น เมื่อตนถูกส.ส.รัฐบาลรุมล้อม ผู้ติดตามของตน จึงเข้ามาภายในห้องประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจาก น.ส.รสนา พูดเสร็จก็มีเสียงโห่ด้วยความ ไม่พอใจ จากบริเวณที่นั่ง ส.ส. พรรคพลังประชาชนทำให้นายชัย ประธานในที่ประชุม พยายามไกล่เกลี่ยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้คณะกรรมาธิการกิจการสภา ของทั้ง2 สภา ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงของทั้ง 2 กรณีแล้ว วันนี้ไม่ต้องพูดเรื่องเก่า ขอร้องให้ยุตก่อน เพื่อรอผลสอบสวนที่ออกมา แต่สมาชิกต่างส่งเสียงประท้วงกันอื้ออึง จนนายชัย ต้องออกปากวิงวอนว่า ขอความกรุณาสงสารผมที่นั่งอยู่ที่นี้บ้างเถิด
อย่างไรก็ตามช่วงระหว่างชุลมุนอยู่นั้น นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนได้ยินเสียงคุกคามมาจากส.ส.ที่นั่งด้านหลังว่าเ ดี๋ยวจะมาเตะส.ว.
ขณะที่น.ส.รสนา ก็ได้ยืนยันคำพูดของนายวรินทร์ ว่าได้ยินเช่นเดียวกัน พร้อม บอกว่า คนที่พูดคือนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคพลังประชาชน ทำให้นายชัย ไกล่เกลี่ยว่าเดี๋ยวตนจะแจ้งให้ตรวจสอบ แต่นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า การพูดในสภามีการถ่ายทอดเสียงออกไป ถ้ามีการพูดว่าเตะกันในสภา จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียมาก ซึ่งสภา ต้องเป็นแบบอย่างให้กับการประชุม ต้องเอาความจริงมาพูดกัน
นายชัย จึงได้กล่าวว่า ถ้าถามคงจะไม่มีใครรับ และเชื่อว่าคงไม่มีเหตุการณ์ อย่างนั้นเกิดขึ้น แต่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวยืนยันว่า ตนนั่งอยู่ข้าง น.ส.รสนา ได้ยินและเห็นพฤติกรรมของ ส.ส.คนดังกล่าว ที่พูดว่า เดี๋ยวจะเตะส.ว. ขอให้ประธานชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย เพราะ ส.ว. 150 คน เป็นผู้มีเกียรติ และยืนยันว่า นายการุณ เป็นคนพูด
ด้านนายการุณ ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า เนื่องจากมีผู้อภิปรายในการประชุมวันดังกล่าว แต่ น.ส.รสนา ลุกขึ้นมาพูดทะลุกลางปล้อง ตนพยายามใช้ความอดทน แต่ได้ยิน น.ส.รสนา บอกว่ามี ส.ส.มารุมล้อมตัวเองและมีการพูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว กรณีที่ว่ามีส.ส.เตะกันสภาได้พิจารณากันไปหรือไม่ ตนจึงได้พูดกับเพื่อนส.ส.ที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่ามายุ่งอะไรด้วย ตนพูดคุยกันในกลุ่ม ไม่ทราบว่า น.ส. รสนา แว่วเสียง หรือกลัวเงาตัวเองหรือเปล่า
ขณะที่นายสมชาย ได้ลุกขึ้นย้ำว่าตนได้ยินจริงๆว่า นายการุณพูด เดี๋ยวจะเตะส.ว. และ ส.ว.ที่ถูกคุกคามก็เป็นผู้หญิงด้วย พร้อมทั้งถามเพื่อนสมาชิก ส.ว.ที่นั่งอยู่ใกล้กันว่าใครได้ยินบ้าง ปรากฎว่ากลุ่มส.ว.ที่นั่งตรงนั้น ได้ยกมือขึ้นหลายสิบคน
ทำให้นายอดุลย์ ได้พยายามชี้แจงแทนนายการุณ โดยกล่าวว่า นายการุณ พูดจริงแต่พูดว่า ทำไมส.ว.ต้องมาพูดพาดพิงแบบนี้ น่าเตะจริงๆ ซึ่งเป็นการรำพึง รำพันออกมา แต่ไม่มีใครกล้าไปเตะกันในที่ประชุม ขณะที่นายสมชาย ได้ตะโกนด้วยเสียงดังว่า สภาไม่ปลอดภัยแล้ว
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า สภาถือเป็นสถาบันชั้นสูง ดังนั้นการจะพูดจาในที่ประชุม ควรต้องมีความระมัดระวัง ไม่ควรพูดจาข่มขู่ คุกคาม ในที่ประชุม ซึ่งถือเป็นหน้าที่ ของประธานในที่ประชุมที่จะต้องทำหน้าที่ควบคุมการประชุมให้อยู่ในสภาพ ที่เรียบร้อยไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
ทำให้นายชัย พูดตัดบทด้วยความไม่พอใจว่า ขอให้ที่ประชุมยุติในเรื่องนี้ คุณการุณก็เลิกใจร้อนได้แล้ว เพราะถ้าคุณใจร้อนแบบนี้สภาคงให้คุณร่วมประชุมด้วยต่อไปไม่ได้
แต่นายการุณ กลับลุกขึ้นกล่าวว่า ประธานวิปฝ่ายค้านพูดพาดพิงให้ประธานตำหนิตน เมื่อถูกพาดพิง ตนก็มีสิทธิพูด เพราะตนพูดอยู่ในหมู่เพื่อนพ้อง แต่มาถูกก้าวล่วง ขณะที่นายชัย พยายามให้นายการุณ นั่งลงพร้อมกับกล่าวว่า สภาจะมาเตะกันไม่ได้ ทำไมทำเรื่องเล็ก ๆน้อยๆให้เป็นเรื่องใหญ่กัน ทำให้นายการุณ ได้ขอชี้แจงอีกครั้งว่า หลายครั้ง หลายหนตนพูดถึงเรื่องคุณธรรม จริยธรรม แต่เพื่อเอาไว้เป็นเครื่องสอนใจตัวเอง ไม่ใช่เอามาสอน มาแทะเล็มคนอื่นอย่างนี้
หลังจากที่สมาชิกถกเถียงกันประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุด นายชัยได้ตัดบท ให้ยุติเรื่อง และเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนเข้าสู่วาระการประชุม เกิดปัญหาการต่อเถียงและประท้วงระหว่าง ส.ส.พรรคพลังประชาชนและกลุ่ม 40 ส.ว. หลังจากนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ได้สอบถามถึงบันทึกรายงานการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในการรับทราบการแถลงนโยบายของรัฐบาลเมื่อวันที่7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยขอให้มีการบันทึกรายงานให้ครบถ้วนรวมถึงการที่ส.ส.รัฐบาลมีการลงมติแทนกันด้วย
ขณะที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน ขอหารือ ให้มีการตรวจสอบการที่สมาชิกรัฐสภานำบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมประชุมในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล ในวันที่7 ต.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นถึงระบบการรักษาความปลอดภัยของรัฐสภา ที่หย่อนยานมาก ต่อไปนี้ ขอให้ประธานกำชับให้ส.ส. และ ส.ว.เท่านั้นที่สามารถเข้า- ออก บริเวณชั้น2 อาคารรัฐสภา
ทำให้น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ลุกขึ้นตอบโต้ว่า สภาของผู้ทรงเกียรติ ควรพิจารณาในส่วนของตัวปัญหา การเกิดเหตุขึ้นมา ตนก็ได้ร้องเรียนไปเช่นกัน ขอให้ ประธาน บอก ส.ส. ที่มาล้อมตัวตนในวันนั้นเพราะสภาไม่ใช่ศาลเตี้ยจะตัดสินทุกอย่าง ด้วยตัวเอง และขอเรียนว่าตนไม่เคยพาผู้ติดตามเข้ามาในห้องประชุมสภาแม้แต่ครั้งเดียว แต่ในเหตุการณ์วันนั้น เมื่อตนถูกส.ส.รัฐบาลรุมล้อม ผู้ติดตามของตน จึงเข้ามาภายในห้องประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจาก น.ส.รสนา พูดเสร็จก็มีเสียงโห่ด้วยความ ไม่พอใจ จากบริเวณที่นั่ง ส.ส. พรรคพลังประชาชนทำให้นายชัย ประธานในที่ประชุม พยายามไกล่เกลี่ยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้คณะกรรมาธิการกิจการสภา ของทั้ง2 สภา ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงของทั้ง 2 กรณีแล้ว วันนี้ไม่ต้องพูดเรื่องเก่า ขอร้องให้ยุตก่อน เพื่อรอผลสอบสวนที่ออกมา แต่สมาชิกต่างส่งเสียงประท้วงกันอื้ออึง จนนายชัย ต้องออกปากวิงวอนว่า ขอความกรุณาสงสารผมที่นั่งอยู่ที่นี้บ้างเถิด
อย่างไรก็ตามช่วงระหว่างชุลมุนอยู่นั้น นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนได้ยินเสียงคุกคามมาจากส.ส.ที่นั่งด้านหลังว่าเ ดี๋ยวจะมาเตะส.ว.
ขณะที่น.ส.รสนา ก็ได้ยืนยันคำพูดของนายวรินทร์ ว่าได้ยินเช่นเดียวกัน พร้อม บอกว่า คนที่พูดคือนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคพลังประชาชน ทำให้นายชัย ไกล่เกลี่ยว่าเดี๋ยวตนจะแจ้งให้ตรวจสอบ แต่นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า การพูดในสภามีการถ่ายทอดเสียงออกไป ถ้ามีการพูดว่าเตะกันในสภา จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียมาก ซึ่งสภา ต้องเป็นแบบอย่างให้กับการประชุม ต้องเอาความจริงมาพูดกัน
นายชัย จึงได้กล่าวว่า ถ้าถามคงจะไม่มีใครรับ และเชื่อว่าคงไม่มีเหตุการณ์ อย่างนั้นเกิดขึ้น แต่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวยืนยันว่า ตนนั่งอยู่ข้าง น.ส.รสนา ได้ยินและเห็นพฤติกรรมของ ส.ส.คนดังกล่าว ที่พูดว่า เดี๋ยวจะเตะส.ว. ขอให้ประธานชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย เพราะ ส.ว. 150 คน เป็นผู้มีเกียรติ และยืนยันว่า นายการุณ เป็นคนพูด
ด้านนายการุณ ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า เนื่องจากมีผู้อภิปรายในการประชุมวันดังกล่าว แต่ น.ส.รสนา ลุกขึ้นมาพูดทะลุกลางปล้อง ตนพยายามใช้ความอดทน แต่ได้ยิน น.ส.รสนา บอกว่ามี ส.ส.มารุมล้อมตัวเองและมีการพูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว กรณีที่ว่ามีส.ส.เตะกันสภาได้พิจารณากันไปหรือไม่ ตนจึงได้พูดกับเพื่อนส.ส.ที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่ามายุ่งอะไรด้วย ตนพูดคุยกันในกลุ่ม ไม่ทราบว่า น.ส. รสนา แว่วเสียง หรือกลัวเงาตัวเองหรือเปล่า
ขณะที่นายสมชาย ได้ลุกขึ้นย้ำว่าตนได้ยินจริงๆว่า นายการุณพูด เดี๋ยวจะเตะส.ว. และ ส.ว.ที่ถูกคุกคามก็เป็นผู้หญิงด้วย พร้อมทั้งถามเพื่อนสมาชิก ส.ว.ที่นั่งอยู่ใกล้กันว่าใครได้ยินบ้าง ปรากฎว่ากลุ่มส.ว.ที่นั่งตรงนั้น ได้ยกมือขึ้นหลายสิบคน
ทำให้นายอดุลย์ ได้พยายามชี้แจงแทนนายการุณ โดยกล่าวว่า นายการุณ พูดจริงแต่พูดว่า ทำไมส.ว.ต้องมาพูดพาดพิงแบบนี้ น่าเตะจริงๆ ซึ่งเป็นการรำพึง รำพันออกมา แต่ไม่มีใครกล้าไปเตะกันในที่ประชุม ขณะที่นายสมชาย ได้ตะโกนด้วยเสียงดังว่า สภาไม่ปลอดภัยแล้ว
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า สภาถือเป็นสถาบันชั้นสูง ดังนั้นการจะพูดจาในที่ประชุม ควรต้องมีความระมัดระวัง ไม่ควรพูดจาข่มขู่ คุกคาม ในที่ประชุม ซึ่งถือเป็นหน้าที่ ของประธานในที่ประชุมที่จะต้องทำหน้าที่ควบคุมการประชุมให้อยู่ในสภาพ ที่เรียบร้อยไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
ทำให้นายชัย พูดตัดบทด้วยความไม่พอใจว่า ขอให้ที่ประชุมยุติในเรื่องนี้ คุณการุณก็เลิกใจร้อนได้แล้ว เพราะถ้าคุณใจร้อนแบบนี้สภาคงให้คุณร่วมประชุมด้วยต่อไปไม่ได้
แต่นายการุณ กลับลุกขึ้นกล่าวว่า ประธานวิปฝ่ายค้านพูดพาดพิงให้ประธานตำหนิตน เมื่อถูกพาดพิง ตนก็มีสิทธิพูด เพราะตนพูดอยู่ในหมู่เพื่อนพ้อง แต่มาถูกก้าวล่วง ขณะที่นายชัย พยายามให้นายการุณ นั่งลงพร้อมกับกล่าวว่า สภาจะมาเตะกันไม่ได้ ทำไมทำเรื่องเล็ก ๆน้อยๆให้เป็นเรื่องใหญ่กัน ทำให้นายการุณ ได้ขอชี้แจงอีกครั้งว่า หลายครั้ง หลายหนตนพูดถึงเรื่องคุณธรรม จริยธรรม แต่เพื่อเอาไว้เป็นเครื่องสอนใจตัวเอง ไม่ใช่เอามาสอน มาแทะเล็มคนอื่นอย่างนี้
หลังจากที่สมาชิกถกเถียงกันประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุด นายชัยได้ตัดบท ให้ยุติเรื่อง และเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมต่อไป
