เมื่อเวลา14.00 น. วานนี้ (13 ต.ค.) ที่รัฐสภา กลุ่ม40 ส.ว. นำโดยน.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา แถลงภายหลังการหารือโดยนายประสาร กล่าวว่าสังคมไทยกำลังวิตกอย่างยิ่งต่อการเผชิญหน้าที่กำลังนำไปสู่ความรุนแรงจนสุดจะเยียวยา เห็นได้จากรัฐบาลกำลังใช้กลุ่มนปช. เข้ามามีส่วนร่วมในความขัดแย้ง คล้ายกรณี 6 ตุลาฯ19 ที่ใช้กลุ่มกระทิงแดง และนวพล เข้ามาปฏิบัติการความรุนแรง ที่ทำให้เกิดการนองเลือด
ดังนั้นกลุ่ม40 ส.ว. จึงมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบกรณีความรุนแรง 7ตุลาฯ โดยมีน.ส.รสนา เป็นประธานฯ นพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธานที่ปรึกษาฯ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นรองประธานที่ปรึกษาฯ นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ เป็นเลขานุการฯ รวมทั้งจะเชิญบุคคลที่สังคมให้ความเชื่อถือ เข้ามาร่วมด้วย
นายประสาร กล่าวด้วยว่า กลุ่ม 40 ส.ว. เห็นว่า การเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 50 โดยรัฐบาล และ คปพร. โดยเฉพาะฉบับของ คปพร. ถือเป็นชนวนเหตุแห่งปัญหาทั้งปวง และการเสนอ ส.ส.ร.3 เป็นหลุมพรางเพื่อให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามแนวทางของรัฐบาล ทั้งที่รัฐบาลได้ขาดความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นต้นเหตุความรุนแรง เมื่อวันที่ 7 ต.ค. นอกจากนี้ทางกลุ่ม 40 ส.ว.จะติดตามตรวจสอบการประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่อาจมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้การแถลงนโยบายของรัฐบาลไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และคำสั่งใดๆ ที่เกิดขึ้นโดย ครม. เช่น คำสั่งแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงที่ผ่านมาจะเป็นโมฆะไปด้วย อย่างไรก็ตามเห็นว่ารัฐบาลจะต้องยุติความรุนแรงทันที ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ 7 ต.ค. ด้วยการลงโทษผู้สั่งการและผู้ปฏิบัติการ พร้อมทั้งเยียวยา ผู้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง รวมทั้งต้องเลิกล้มความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
น.ส.รสนา กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องจับตารัฐบาลชุดนี้ เพราะกลุ่ม 40 ส.ว.เห็นว่าไม่มีความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไป หรือจะมาตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ 7 ต.ค. หรือการจะตั้ง ส.ส.ร. 3 เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อถามว่าทางรัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการที่มีอดีตรองประธานศาลฎีกา เป็นประธานสอบสวนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. น.ส.รสนา กล่าวว่า ไม่ขอออกความเห็นเรื่องตัวบุคคล แต่เห็นว่าตั้งพล.ต.อ. อำนวย เพชรศิริ ส.ว.สรรหา เข้าไปเป็นกรรมการชุดดังกล่าวด้วยนั้น ไม่ควรตั้ง เพราะไม่เหมาะสม แต่ความจริงรัฐบาลในฐานะเป็นผู้ก่อการคงถูกตั้งคำถามเรื่องความชอบธรรมว่า ทำผิดเองแล้วตั้งกรรมการสอบตัวเอง รู้สึกเป็นห่วงกรณีที่มี ส.ส.พลังประชาชน ไปขึ้นเวที นปช. เพราะเกรงว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ โดยเฉพาะยังมีการฝึกอาวุธให้กลุ่มประชาชนเหล่านี้ รัฐบาลต้องหยุดยั้งความรุนแรงไม่ใช้กลุ่มประชาชนเหล่านี้เป็นเครื่องมือ ทำให้ประชาชน 2 ฝ่าย ประทะเพราะเหตุการณ์กำลังซ้ำรอย 6 ตุลา 19
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านได้ถอนตัวจากแนวทางแก้ปัญหาชาติโดย 4 ฝ่ายแล้ว วุฒิสภา ควรพิจารณอย่างไร น.ส.รสนา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประธานวุฒิสภา กลุ่ม 40 ส.ว. มองว่านายกรัฐมนตรี และรัฐบาล หมดความชอบธรรมที่จะดำเนินการใดๆ แล้ว การที่รัฐบาลลุกลี้ลุกลนว่าจะลาออกหลังมีการตั้ง ส.ส.ร. 3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว เป็นการอำพรางหวังจะแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อปลดล็อกการยุบพรรค และคดีของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ขอร้องนายกฯว่า อย่าเอาประเทศชาติเป็นตัวประกัน อย่ามาข่มขู่อย่างนี้ เพราะประเทศชาติไม่ใช่ของใคร ตอนนี้มันเป็นวิกฤติการณ์ ไม่ใช่การหาแนวทางการแก้ปัญหาแล้ว ข้อเสนอแบบนี้ไม่ใช่หวังดีต่อประเทศ แต่อาศัยความวุ่นวายของประเทศแก้ปัญหาให้ตัวเอง ขอให้สังคมช่วยจับตามอง ซึ่ง กลุ่ม 40 ส.ว.จะช่วยกันจับตามอง
น.ส. สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กล่าวว่า ขณะนี้มีเสียงเรียกร้องทหารว่า ทำไมถึงเงียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนในฐานะเป็นคนเพชรบุรี และอยู่อำเภอเดียวกันกับ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ขอกราบวิงวอนให้ท่านแสดงจุดยืนที่ชัดเจนมากกว่านี้ เพื่อให้ประชาชนได้สบายใจ ไม่ใช่ตนไปกดดันพล.อ.อนุพงษ์ เพื่อให้ทหารออกมาปฏิวัติ แต่ทหารต้องพิจารณาดูว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ควรแสดงบทบาท และจุดยืนที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุข รอมชอม สันติได้อย่างไร
ดังนั้นกลุ่ม40 ส.ว. จึงมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบกรณีความรุนแรง 7ตุลาฯ โดยมีน.ส.รสนา เป็นประธานฯ นพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธานที่ปรึกษาฯ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นรองประธานที่ปรึกษาฯ นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ เป็นเลขานุการฯ รวมทั้งจะเชิญบุคคลที่สังคมให้ความเชื่อถือ เข้ามาร่วมด้วย
นายประสาร กล่าวด้วยว่า กลุ่ม 40 ส.ว. เห็นว่า การเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 50 โดยรัฐบาล และ คปพร. โดยเฉพาะฉบับของ คปพร. ถือเป็นชนวนเหตุแห่งปัญหาทั้งปวง และการเสนอ ส.ส.ร.3 เป็นหลุมพรางเพื่อให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามแนวทางของรัฐบาล ทั้งที่รัฐบาลได้ขาดความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นต้นเหตุความรุนแรง เมื่อวันที่ 7 ต.ค. นอกจากนี้ทางกลุ่ม 40 ส.ว.จะติดตามตรวจสอบการประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่อาจมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้การแถลงนโยบายของรัฐบาลไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และคำสั่งใดๆ ที่เกิดขึ้นโดย ครม. เช่น คำสั่งแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงที่ผ่านมาจะเป็นโมฆะไปด้วย อย่างไรก็ตามเห็นว่ารัฐบาลจะต้องยุติความรุนแรงทันที ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ 7 ต.ค. ด้วยการลงโทษผู้สั่งการและผู้ปฏิบัติการ พร้อมทั้งเยียวยา ผู้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง รวมทั้งต้องเลิกล้มความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
น.ส.รสนา กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องจับตารัฐบาลชุดนี้ เพราะกลุ่ม 40 ส.ว.เห็นว่าไม่มีความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไป หรือจะมาตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ 7 ต.ค. หรือการจะตั้ง ส.ส.ร. 3 เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อถามว่าทางรัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการที่มีอดีตรองประธานศาลฎีกา เป็นประธานสอบสวนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. น.ส.รสนา กล่าวว่า ไม่ขอออกความเห็นเรื่องตัวบุคคล แต่เห็นว่าตั้งพล.ต.อ. อำนวย เพชรศิริ ส.ว.สรรหา เข้าไปเป็นกรรมการชุดดังกล่าวด้วยนั้น ไม่ควรตั้ง เพราะไม่เหมาะสม แต่ความจริงรัฐบาลในฐานะเป็นผู้ก่อการคงถูกตั้งคำถามเรื่องความชอบธรรมว่า ทำผิดเองแล้วตั้งกรรมการสอบตัวเอง รู้สึกเป็นห่วงกรณีที่มี ส.ส.พลังประชาชน ไปขึ้นเวที นปช. เพราะเกรงว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ โดยเฉพาะยังมีการฝึกอาวุธให้กลุ่มประชาชนเหล่านี้ รัฐบาลต้องหยุดยั้งความรุนแรงไม่ใช้กลุ่มประชาชนเหล่านี้เป็นเครื่องมือ ทำให้ประชาชน 2 ฝ่าย ประทะเพราะเหตุการณ์กำลังซ้ำรอย 6 ตุลา 19
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านได้ถอนตัวจากแนวทางแก้ปัญหาชาติโดย 4 ฝ่ายแล้ว วุฒิสภา ควรพิจารณอย่างไร น.ส.รสนา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประธานวุฒิสภา กลุ่ม 40 ส.ว. มองว่านายกรัฐมนตรี และรัฐบาล หมดความชอบธรรมที่จะดำเนินการใดๆ แล้ว การที่รัฐบาลลุกลี้ลุกลนว่าจะลาออกหลังมีการตั้ง ส.ส.ร. 3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว เป็นการอำพรางหวังจะแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อปลดล็อกการยุบพรรค และคดีของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ขอร้องนายกฯว่า อย่าเอาประเทศชาติเป็นตัวประกัน อย่ามาข่มขู่อย่างนี้ เพราะประเทศชาติไม่ใช่ของใคร ตอนนี้มันเป็นวิกฤติการณ์ ไม่ใช่การหาแนวทางการแก้ปัญหาแล้ว ข้อเสนอแบบนี้ไม่ใช่หวังดีต่อประเทศ แต่อาศัยความวุ่นวายของประเทศแก้ปัญหาให้ตัวเอง ขอให้สังคมช่วยจับตามอง ซึ่ง กลุ่ม 40 ส.ว.จะช่วยกันจับตามอง
น.ส. สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กล่าวว่า ขณะนี้มีเสียงเรียกร้องทหารว่า ทำไมถึงเงียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนในฐานะเป็นคนเพชรบุรี และอยู่อำเภอเดียวกันกับ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ขอกราบวิงวอนให้ท่านแสดงจุดยืนที่ชัดเจนมากกว่านี้ เพื่อให้ประชาชนได้สบายใจ ไม่ใช่ตนไปกดดันพล.อ.อนุพงษ์ เพื่อให้ทหารออกมาปฏิวัติ แต่ทหารต้องพิจารณาดูว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ควรแสดงบทบาท และจุดยืนที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุข รอมชอม สันติได้อย่างไร