“สุริยะใส”ย้ำ “แม้ว” ติดคุก สร้างบรรทัดฐานจริยธรรมนักการเมือง จวกอดีตนายกฯ ไม่ยอมรับคำพิพากษา แฉยื่นขอลี้ภัยที่อังกฤษ 1 เดือนแล้ว แต่รัฐบาลผู้ดียังไม่อนุมัติ จึงปฏิเสธว่าไม่เคยขอ หวั่นฝ่ายสนับสนุน “ทักษิณ” บิดเบือนคำพิพากษาก่อเหตุปั่นป่วนกว่าเดิม แกนนำพันธมิตรฯ ถกจุดยืนวันนี้
เมื่อเวลา 19.15 น.วานนี้ (21 ต.ค.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีความผิดในคดีซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก โดยการจำคุก 2 ปีว่า การที่ศาลพิพากษาเช่นนี้ เป็นการตอกย้ำการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ตั้งแต่ปี 48 เป็นเรื่องของจริยธรรมในการใช้อำนาจและจะเป็นบรรทัดฐานในการวางหลักปฏิบัติ เพื่อแก้ปัญหาในจริยธรรมของนักการเมือง ซึ่งเป็นต้นตอของการคอร์รัปชั่นและการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง และอยากเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาสู้คดีและเคารพคำพิพากษาของศาล ตนอยากให้กลุ่มที่สนันสนุนอดีตนายกฯ ไม่ออกมาต่อต้านคำพิพากษาของศาลเพราะเมื่อไหร่ที่ออกมาปฏิเสธคำพิพากษาเท่ากับไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม เมื่อกระบวนการยุติธรรมถูกปฏิเสธ ถูกต่อต้านจากคนในสังคมความสมานฉันท์จะไม่เกิดขึ้น
“ผมคิดว่ารัฐบาลและ พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องไม่บิดเบือนข้อเท็จจริงของคำพิพากษาเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการลี้ภัย และอยากให้สื่อมวลชน สถาบันทางวิชาการ องค์กร ภาคส่วนต่างๆ ใช้คำพิพากษาเพื่ออธิบาย ขยายความ ให้คนทั้งประเทศได้เห็นข้อเท็จจริงว่าระบอบทักษิณได้สร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองและพันธมิตรฯไม่ได้มีอคติกับอดีตนายกฯ” นายสุริยะใสกล่าว
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณออกมาปฏิเสธคำพิพากษาและกล่าวทำนองว่ารู้คำพิพากษาล่วงหน้า ชี้ให้เห็นว่าเมื่อไหร่อดีตนายกฯไม่มั่นใจว่าจะชนะจะไม่ยอมขึ้นศาล จะใช้วิธีเดียวก็ คือ ซื้อศาล โดยการติดสินบน เมื่อติดสินบนไม่ได้ จึงต้องลี้ภัย ที่ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษ ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ยืนยันว่าอดีตนายกฯ ทำเรื่องขอลี้ภัยนานกว่า 1 เดือนแล้ว แต่รัฐบาลอังกฤษไม่อนุมัติ และโอกาสที่รัฐบาลอังกฤษจะให้ลี้ภัยเป็นเรื่องที่ยากมาก ยิ่งศาลตัดสินในวันนี้ ยิ่งเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น จึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ อัยการสูงสุด เร่งประสานงานกับประเทศอังกฤษเพื่อนำตัวพ.ต.ท.กลับมา หากพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมา รับโทษจำคุก 2 ปี ตนคิดว่าไม่ได้มากอะไรและเป็นจุดเริ่มต้นของความสมานฉันท์
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า จุดยืนของพันธมิตรฯ ยังคงเป็นการขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด คำพิพากษาครั้งนี้ถือว่าเป็นชัยชนะของคนไทยทั้งประเทศที่สร้างบรรทัดฐานที่ดีงามไว้ แต่เป้าหมายของพันธมิตรฯ คือการขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดที่ใช้ความรุนแรงกับประชาชน พันธมิตรฯ ก็จะเดินหน้าต่อไป และอยากเรียกร้องไปยังกลุ่ม นปก.อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริงและสร้างสถานการณ์ความรุนแรง สถานการณ์ขณะนี้น่าเป็นห่วงว่าจะมีการบิดเบือนคำพิพากษาของศาลและก่อความรุนแรงในจังหวัดต่างๆ อยากให้ฝ่ายความมั่นคงและทหารออกมาจับตาความเคลื่อนไหว ส่วนพันธมิตรฯ จะมีการประชุมแกนนำทั้งรุ่น 1 รุ่น 2 เป็นการภายในที่บ้านพระอาทิตย์เวลา 11.00 น.วันที่ 22 ต.ค. และจะมีการประกาศแถลงการณ์อีกครั้งในช่วงเย็นบนเวที
“การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาปฏิเสธคำพิพากษาของศาลอย่างทันควันเป็นการส่งสัญญาให้กับกลุ่มต่างๆ ที่สนับสนุนและเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ว่า จำเป็นต้องเคลื่อนไหวต่อไป พันธมิตรฯ เอง ก็จะจับตามองกลุ่มที่เคลื่อนไหว และผมเชื่อว่ามีความเป็นได้ที่จะก่อความรุนแรง” นายสุริยะใส กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการเรียกร้องรัฐบาลให้ดำเนินการต่อไปอย่างไรกับอดีตนายกฯ นายสุริยะใส กล่าวว่า พันธมิตรฯไม่ได้คาดหวังกับรัฐบาลอยู่แล้ว โดยเฉพาะความพยายามที่จะนำตัวอดีตนายกฯ กลับมาดำเนินคดีคงเป็นเรื่องที่ยากเพราะรัฐบาลละเลยมาตั้งแต่ต้น รัฐบาลชุดนี้จะต้องไม่หาวิธีใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ต่อการลี้ภัยของอดีตนายกฯ