“พล.ต.จำลอง” ชี้ผู้นำเหล่าทัพแนะนายกฯ ลาออกทางทีวี ไม่ได้เป็นความเห็นส่วนตัว เพราะใส่เครื่องแบบและมากันทุกเหล่าทัพ ส่วนทหารจะทำอะไรต่อไม่สามารถบังคับหรือไปห้ามได้ ย้ำ “สมชาย”ไม่ควรแตะงานพระราชพิธี เหตุมือเปื้อน เผยพันธมิตรฯ พร้อมรื้อเวทีมัฆวานฯ เพื่อเปิดทางเสด็จวันปิยะฯ เริ่มเช้า 21 ต.ค.นี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 20 ต.ค. พลตรีจำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยบนเวทีในทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงบรรดานายทหารกับตำรวจทั้ง 4 เหล่าทัพที่ออกสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ว่า ผ่านมา 4 วันแล้ว ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเลย แต่ขอยืนยันว่าพันธมิตรไม่ได้เรียกร้องให้ทหารการทำการปฏิวัติ เขาจะทำอะไรหรือไม่ทำก็เรื่องของเขา เราบังคับให้ทำไม่ได้ หรือห้ามไม่ให้เขาทำไม่ได้ แต่เราคิดว่าใจเขากับใจเราน่าจะตรงกัน และต้องทำให้บ้านเมืองสงบสุขให้จงได้
วันนี้เราทราบกันดีว่า นายสมชาย วงสวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีนั้น เมินเฉยต่อคำเรียกร้องของกองทัพ และมีข่าวออกมาเนืองๆ ว่า ท่าทีของ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดานั้นเป็นความเห็นส่วนตัว ทั้งที่ไม่ได้เป็นความเห็นส่วนตัวเลย ความเห็นส่วนตัวน่าจะเป็นการพูดในงานเลี้ยงไม่ได้แต่งเครื่องแบบ และมีผู้สื่อข่าวไปถามมากกว่า แต่วันนั้นไปกันครบ และนั่งเรียงกันเป็นพระอันดับ พล.อ.อนุพงษ์ และ ผบ.เหล่าทัพ ตลอดจน ผบ.ตร.ต่างก็แต่งเครื่องแบบ เท่ากับว่าไปในนามกองทัพ อย่างนี้ ใครจะมาแก้ตัวว่าเป็นความเห็นส่วนตัวฟังไม่ขึ้น
“ยืนยันว่า นะครับว่าไม่ใช่ความเห็นส่วนตัว เป็นเรื่องที่ พล.อ.อนุพงษ์ ได้ไตร่ตรองรอบคอบแล้วว่าต้องพูดต้องทำแล้วก็ทำไป ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเราควบคุมพล.อ.อนุพงษ์ไม่ได้ ท่านจะทำหรือไม่ทำ หรือท่านจะพูดยังไงก็ได้ทั้งสิ้น แต่เมื่อท่านพูดไปแล้วท่านต้องรับผิดชอบ แต่ไปคิดเอาเองก็แล้วกันว่าท่านจะรับผิดชอบอย่างไรก็แล้วแต่ท่าน”
พล.ต.จำลองกล่าวต่อไปว่า เมื่อนายสมชายยืนยันว่าไม่ลาออก แต่บ้านเมืองก็ไม่ดีขึ้น ประเทศไม่แข็งแรงขึ้น รัฐบาลยิ่งอ่อนแอลง เพราะรัฐบาลที่แข็งแกร่งนั้นกองทัพต้องหนุนอย่างเต็มที่ ตำรวจ ตำรวจต้องทำงานให้ได้เต็มที่ แต่ตอนนี้ทหาร 3 เหล่าทัพเรียกร้องให้ทหารลาออก แล้วจะบอกว่าทหารหนุนเต็มที่ก็ไม่ได้ ส่วนตำรวจก็เป็นจำเลยคดีที่ร้ายแรงคือการเข่นฆ่าประชาชน มีชนักติดหลัง เมื่อเป็นเช่นนี้รัฐบาลก็อ่อนแอ เมื่อนายกน หรือรัฐมนตรีไปจังหวัดไหนก็เจอมือตบ เมื่อรัฐบาลอ่อนแอแล้ว วิกฤติของชาติก็หนักขึ้น เพราะรัฐบาลไม่มีเวลามาแก้ปัญหา พะวงอยู่กับเรื่องของการประคองตัวเองเท่านั้นปัญหาทางเศรษฐกิจกำลังรุมเร้าเข้ามา และมีคนพยากรณ์ว่าจะทรุดต่ำลงอีกกว่าเมื่อปี 2540 และการเจรจากับเขมร เมื่อรัฐบาลอ่อนแอไม่มีอำนาจต่อรองเราจึงแย่กว่าเขาทุกครั้ง ดังนั้นการที่เราเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกเพื่อนำไปสู่การเมืองใหม่จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
“ถ้ารัฐบาลทำตามเรา จะสามารถแก้ปัญหาได้ นี่รัฐบาลไม่ได้ทำจึงเกิดปัญหาหมักหมมขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วพวกเราก็บอกอยู่แล้วว่า ที่คุณสมชายอ้างโน่นอ้างนี้ ฟังไม่ขึ้นทั้งนั้น อย่างเมื่อคืนผมก็บอกว่า ที่อ้างว่ามีงานใหญ่ๆ รออยู่นั้น คนอื่นๆ ก็ทำได้ ไม่ต้องการแกหรอก เพราะแกไม่มีอำนาจอะไรวิเศษมาทำ แล้วยิ่งวันนี้ พวกเราบอกว่า งานใหญ่ๆ อย่างงานพระราชพิธีนั้นนายสมชายไม่ควรเอามือเข้าไปแตะ เพราะมือของคุณเปื้อน แล้วอย่างนี้ ยังไม่ฟังอีก ถ้าไม่ฟังเราก็เรียกร้องเรื่อยไป”
พลตรี จำลอง กล่าวว่า วันที่ 23 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นวันปิยะมหาราช ทางแกนนำประชุมกันแล้วมีมติที่จะรื้อเวทีถาวรที่สะพานมัฆวานและเต็นท์บริเวณนั้นออกให้หมด เพื่อเปิดเป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน โดยจะเริ่มลงแรงก่อนตั้งแต่เช้าวันที่ 21 ตุลาคม แม้ว่าการเปิดเส้นทางนี้จะทำให้เรามีความเสี่ยงแต่เราก็ต้องทำเพราะเรามาทำเพื่อ 3 สถาบันที่สำคัญที่สุดคือสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะฉะนั้นเสี่ยงก็ต้องเสี่ยง เปิดก็ต้องเปิด เริ่มตั้งแต่เช้าวันที่ 21 เป็นต้นไป
“ไม่มีใครมาบังคับเรา ไม่มีใครมากดดันเรา แต่เราเห็นว่า ในฐานะเราเป็นพสกนิกรที่จงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ เมื่อถึงวันสำคัญของชาติมาถึงคือวันปิยะมหาราช เราต้องเปิดเส้นทาง แม้จะเหนื่อยก็ต้องทำ แม้จะเสี่ยงก็ต้องสู้ เพราะเราคงเส้นคงวาเสมอ ไม่มีอะไรบิดเบือน ไม่มีอะไรซ่อนเร้น ทำเพื่อผลประโยชน์ของชาติโดยแท้”พล.ต.จำลองกล่าว