“พิภพ” แฉแผน “แม้ว” ก่อเรื่องไม่หยุด หวังเป็นเงื่อนไขลี้ภัยการเมือง ลดความชอบธรรมการตัดสินคดีที่ดินรัชดา สะพัด “แม้ว” สั่งบิ๊ก ทรท.ออกพ้นกรุงเทพฯ ภายในศุกร์นี้ จับตาเหตุรุนแรงเสาร์-อาทิตย์ เชื่อ “ทักษิณ” มีเอี่ยวเหตุเขมรขู่บุกไทย หวังสร้างข่าวกลบความเพลี่ยงพล้ำของรัฐบาลน้องเขย ระบุอดีตนายกฯ ต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อลี้ภัยในอังกฤษ รวมทั้งลดความชอบธรรมการตัดสินคดีที่ดินรัชดาฯ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
เมื่อเวลา 21.55 น.วันที่ 16 ต.ค. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยที่เวทีทำเนียบรัฐบาล โดยได้ประกาศเรื่องการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้พิการ ซึ่งขณะนี้ผู้บาดเจ็บจำนวนมากยังไม่เข้าถึง ดังนั้นขอให้ส่งชื่อมาที่ตนในทำเนียบรัฐบาล หรือติดต่อที่กองทัพธรรมเพื่อรับเงินช่วยเหลือได้ทันที
อีกประเด็น คือ มีผู้บาดเจ็บที่มีบาดแผลที่กินเนื้อลงลึกไปเรื่อยๆ เพราะเกิดจากสารเคมีแก๊สน้ำตา บางคนออกจากโรงพยาบาลเร็วเกินไป แล้วแผลเริ่มกินลึก ตอนนี้มีแพทย์ รพ.พระมงกุฏ แผนกศัลยกรรม มาประจำตั้งแต่บ่ายโมงถึง 4 โมงเย็น ให้ผู้บาดเจ็บที่มีปัญหาเรื่องแผลมาล้างแผลที่เต็นท์พยายาลใกล้กองทัพธรรม ถ้าหมอพบว่าต้องส่งกลับ รพ.อีก หมอจะประสาน รพ.ให้รับไปรักษาให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นยังอยู่ในพระราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชีนาถ ทางโรงพยาบาลจะจัดการให้อย่างเต็มที่
ส่วนผู้ที่ไปต่างจังหวัดแล้ว ให้ส่งใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลมา จะส่งเงินไปให้ แต่ถ้าจำเป็นเดินทางมาที่กรุงเทพฯ ตามหมอนัด ก็จะมีค่าเดินทางและค่ากินอยู่ให้ทั้งหมด สำหรับ 5,000 บาท เราจะจ่ายเป็นเงินสดที่กองทัพธรรม แต่ถ้ามากกว่านั้นเราจะจ่ายเป็นเช็คเข้าบัญชี ขอให้ไปเปิดบัญชีออมทรัพย์ของธนาคารกสิกรไทย สาขาไหนก็ได้ จะได้เข้าบัญชีง่าย แต่ถ้ามีบัญชีธนาคารอื่นก็ได้ แต่จะใช้เวลาเคลียริ่งช้าหน่อย
นายพิภพ กล่าวต่อว่า หลังจากจ่ายให้ผู้บาเจ็บงวดแรกจะมีการจ่ายทับงวดที่ 2 อีก เนื่องจากมีเงินมากพอ เราจ่ายงวดแรกกรณีเสียอวัยวะ 80,000 บาท หลังจากนั้นแล้ว มีเงินเหลือเท่าไหร่จะนำมาคำนวณเพื่อจ่ายงวดสอง ทั้งนี้เพื่อให้เงินที่ได้รับบริจาคไปถึงผู้บาดเจ็บพิการและญาติผู้เสียชีวิตอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุด ไม่เก็บเงินไว้ ซึ่งขณะนี้ยังจ่ายไปน้อยมาก ขอให้ผู้ป่วยเข้าถึงตนโดยเร็ว โดยส่งชื่อ เบอร์โทรศัพท์มา ตนจะรีบติดต่อทันที
นายพิภพได้รายงานอาการผู้บาดเจ็บสาหัสว่า สำหรับนางรุ่งทิวา ธาตุนิยม ที่สูญเสียใบหน้าด้านซ้ายได้ย้ายไปรักษาตัวอยู่ที่ รพ.จุฬาฯ ขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว ส่วนนายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หรือ ตี๋ ที่ถูกระเบิดที่มือขวา หลอดลมฉีกขาด และปอดทะลุ ขณะนี้สามารถชูสองนิ้วได้แล้ว ส่วนแท็กซี่พันธมิตรฯ ที่ถูก นปก.ตีก็จะได้รับความช่วยเหลือด้วย
สำหรับยอดเงินบริจาคปิดยอดวันที่ 15 ตุลาคม 2551 มีทั้งสิ้น 22,072,762.15 บาท เป็นเงินบริจาคเพื่อผู้บาดเจ็บ 17,326,003.61 บาท เงินบริจาคสำหรับญาติผู้เสียชีวิต 4,746,758.54 บาท ส่วนรายรับที่นำเข้าบัญชีในวันที่ 16 ตุลาคม มีเงินสดจากการประมูลภาพต้นไม้ของนายเอกชัย ลวดสูงเนิน 1,900,000 บาท และมีเงินผู้บริจาครายย่อยทั้งในไทยและจากพันธมิตรในสหรัฐอเมริกา-แคนาดา และอังกฤษ อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้มีเช็คเงินสดจากการประมูลงานประติมากรรมจำนวน 3,633,333 บาท จากนายยศ เด่นไพศาล เช็คจากการประมูลภาพวาดของนายวสันต์ สิทธิเขตต์ 530,000 บาท และเช็คจากผู้บริจาครายอื่น รวมแล้วเช็คเข้าวันนี้ 4,453,333 บาท
หลังจากรายงานการช่วยเหลือแล้ว นายพิภพกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองตอนนี้ว่า จะมีความตึงเครียดไปถึงวันที่ 21 ต.ค.วันที่มีการตัดสินคดีที่ดินรัชดาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และจากการเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. ทำให้หลายฝ่ายที่เคยแทงกั๊กอยู่ต้องประกาศจุดยืนทางการเมืองว่าจะอยู่กับฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก จะอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณหรืออยู่ตรงข้าม
หลายฝ่ายประกาศออกมาแล้ว แม้แต่ ผบ.ทบ. ถึงมาช้าก็ดีกว่าไม่มาเลย เพราะสถานการณ์งวดเข้ามา และ พ.ต.ท.ทักษิณคงยอมไม่ได้ที่จะให้ศาลอ่านคำพิพากษาในสถานการณ์ที่ราบนรื่นปกติ การสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความไม่ปกติขึ้น กำลังถูกดำเนินกกรอยู่ แต่เราไม่กลัว เพราะว่าผู้ที่แสดงจุดยืนว่าจะปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และพร้อมให้การสนับสนุนพันธมิตร ตอนนี้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่า ใครที่จะมายืนตรงนี้บ้าง
นายพิภพ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ให้ผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคไทยรักไทย ออกจากรุงเทพฯ ในวันศุกร์นี้ ทำให้ตีความกันว่า วันเสาร์-อาทิตย์ จะเกิดอะไรขึ้น ตรงนี้ต้องฟังไว้ เพราะข้อมูลนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบซ้ำ แต่ให้รับรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่หยุดที่จะก่อสถานการณ์เพื่อให้เกิดความชอบธรรมในการลี้ภัย และให้ไม่ชอบธรรมในการตัดสินคดีความ
สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ยอมหยุด เพราะ 1.เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี 2.ต้องการล้มคดีโดยการแก้รัฐธรรมนูญ 3.ต้องการยึดอำนาจรัฐโดยพรรคตัวแทน ซึ่งเมื่อยึดแล้วจะทำอะไรก็ได้ แต่เขานึกไม่ถึงว่า เมื่อยึดอำนาจรัฐโดยพรรคพลังประชาชนแล้วพันธมิตรจะกลับมาแกร่งกว่าเดิม เขานึกไม่ถึง พันธมิตรมาขวางทางเขาในการยึดอำนาจรัฐ และไม่สะดวกในการแก้รับธรรมนูญ
“100 กว่าวันเราตรึงการแก้ไขรับธรรมนูญไว้ได้ แต่ตอนนี้จะเอาเข้าสภาอีก เลี่ยงไปว่าตั้ง ส.ส.ร 3 แต่จะซ่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 309 เอาไว้ เพื่อนำไปใช้ในอนาคตในการยกเลิกคดีความต่างๆ แม้นักกฎหมายจะตีความว่าทำไม่ได้ แต่อย่าลืมว่า ใครมีอำนาจแล้ว สามารถทำผิดเป็นถูก ถูกเป็นผิดได้”
นายพิภพ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ 4. ที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่หยุด เพราะรู้ว่าระบบการเลือกตั้งเข้าไปยึดอำนาจรัฐของไทยมีจุดอ่อน ตรงที่สามารถซื้อเสียงได้ เขามีรายได้ปีละ 1 หมื่นล้าน มีเงินเป็นแสนล้าน เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยที่เขาจะซื้อประเทศไทยอีกครั้งในวงเงินไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท
การยึดอำนาจรัฐโดยการเลือกตั้งที่มีจุดอ่อนทำให้การเมืองใหม่ของเราต้องมีออกแบบการเลือกตั้งใหม่ แต่นักวิชาการที่เอาแต่พร่ำปากว่า การเลือกตังเป็นหัวใจของประชาธิปไตยโดยไม่ดูเนื้อหาสาระของการเลือกตั้งในประเทศว่าเต็มไปด้วยการซื้อเสียง ไม่ได้ดูเนื้อหาสาระว่าประชาชนในชนบทรับฟังข้อมูลไม่รอบด้าน รัฐมีอำนาจก็ให้ข้อมูลด้านเดียวผ่านฟรีทีวีทำให้การตัดสินใจเลือกตั้งไม่ถูกต้อง
ที่สำคัญพรรคคู่แข่งไม่มีกำลัง ไม่แข็งแกร่งทางการเมืองพอที่จะล้มพรรคพลังประชาชนได้ พ.ต.ท.ทักษิณรู้จุดอ่อนตรงนี้ แต่ที่เราชุมนุมมา 100 กว่า เอเอสทีวีกระจายไปทั่ว ถ้าเขายุบสภาวันนี้ แล้วพันธมิตรกระจายตัวไปรรณรงค์ เสียงน่าจะสูสี พรรคพลังประชาชนไม่น่ากินขาด แต่เราไม่ต้องการให้เขายุบสภาพ ต้องลาออกหรือไล่ออก เพราะเป็นรัฐบาลฆาตกรแล้ว
“อีกอันที่ทักษิณยังสู้อยู่ เพราะรู้ว่ามีเวลา 5-10 ปี แต่คนที่เขาสู้อยู่อาจอยู่ได้ไม่ถึง เขาเชื่อย่างนี้ เขาจึงจัดเวลาที่เหลือยู่ 5 ปี นี้สู้ไม่ถอย นอกจากวันที่ 21 นี้จะถูกตัดสินให้ติดคุก อาจมีการทบทวนอีกครั้ง ที่สำคัญ ศาลตัดสินเอาโทษทักษิณ เอาโทษพจมานได้ แต่ไม่สามารถเอาเข้าคุกได้ เลยลอยตัวอยู่ที่ลอนแดน แต่คนที่อังกฤษบอกว่าจะต่อสู้ไม่ให้ทักษิณได้ลี้ภัยแน่ๆ”
นายพิภพกล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงสั่งลูกน้องทำงานให้เกิดวิกฤติโดยที่ตัวเองไม่รับผิดชอบใดๆ และ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการสร้างระบอบทักษิณต่อไปโดยพรรคตัวแทน เมื่อถูกยุบก็สร้างใหม่ สุดท้ายทักษิณจะสร้างสถานการณ์ไม่ยุดหย่อน เช่น อุดหนุน นปก. อุดหนุนเว็บไซต์หมิ่นสถาบันไม่จัดการ และสุดท้าย 7 ตุลา และหลังจากวันที่ 7 ต.ค. พ.ต.ท.ทักษิณรู้ว่าตัวเองเสียเปรียบ นายสมชายก็เสียเปรียบ ตอนนี้มีหลักฐานคนที่เกี่ยวข้อง จากการที่เขมรท้ารบนั้นมีการสร้างสถานการณ์ใหม่มากลบข่าวสถานการเก่าตลอด เป็นอย่างนี้มานาน เมื่อสมชาย นายสมัครเพลี่ยงพล่ำ พ.ต.ท.ทักษิณจะบงการเขาจะสร้างสถานการณ์ขึ้นมา กลบ
“แม้เขมรจะท้าทาย แต่เราเชื่อมั่นว่า ทหารจะป้องอธิปไตยเขาไว้ได้ แต่อย่ากลัวฝีมือฆาตกรที่ฆ่าประชาชนวันที่ 7 ต.ค. วันนี้เราถึงไปรณรงค์ที่สีลม ไม่ใช่เราไม่รักอธิปไตยของชาติ และไม่สู้เขมร เราต้องสู้กับเขมรแน่นอน แต่อย่าให้ศึกเขมรมากลบเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลา เป็นอันขาด” นายพิภพกล่าว