“สนธิ” สดุดี “พล.ต.จำลอง” เป็นผู้ใหญ่นักสู้ที่เอาธรรมนำหน้าและเสียสละ ยึดมั่นปกป้องสถาบันกษัตริย์ สมควรได้เหรียญตรา แต่กลับถูกยัดข้อหากบฏ แฉเบื้องหลังหมายจับมาจากนายตำรวจบางคนสนองตัณหานักการเมือง หวังได้ลาภลอยเป็น ผบ.ตร.เผยทั้ง 5 แกนนำรอผลอุทธรณ์หมายจับพรุ่งนี้ และรอพี่น้องต่างจังหวัดสมทบ ก่อนกำหนดท่าทีเคลื่อนไหว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
เวลา 20.55 น.วันนี้ (5 ต.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยได้เล่าถึงการพูดคุยทางโทรศัพท์กับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จ.ปทุมธานี ว่า พล.ต.จำลอง ได้เล่าให้ฟังว่า พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.ที่เคยเรียน ร.ร.ผู้นำกับ พล.ต.จำลอง ที่ จ.กาญจนบุรี ได้โทรศัพท์ไปหาและบอกว่า จะดูแล พล.ต.จำลอง ให้ดี ซึ่ง พล.ต.จำลอง ได้บอกกลับไปว่า ไม่ต้องเอาไปนั่งในห้องแอร์หรอก ให้จับนั่งในห้องขังเหมือนชาวบ้านทั่วไป ซึ่งแสดงว่า พล.ต.จำลอง ยังคงเป็น พล.ต.จำลอง เสมอต้นปลาย
“พี่ลองปีนี้ อายุ 73 ย่าง 74 ปี ถือเป็นพี่ชายคนโตของผม ถ้าเป็นญาติผู้ใหญ่ก็เป็นอา คือ เป็นน้องพ่อ พล.ต.จำลอง ที่ผมรู้จักตั้งแต่เป็นผู้ว่าฯ กทม.ตั้งแต่เป็น พ.อ.มาเป็น พล.ต.ไม่เคยเปลี่ยนแปลง สมถะยังไงก็สมถะยังงั้น ที่สำคัญจิตใจแกร่งดั่งเพชร และไม่ยอมแพ้กับความชั่วร้าย” นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ในการเดินขบวนแต่ละครั้ง พล.ต.จำลอง จะขออยู่ข้างหน้าเพื่อเป็นคนเจรจากับตำรวจ ซึ่งก็จะมีวิธีเจรจาอย่างนุ่มนวล และทำสำเร็จทุกครั้ง ไม่เคยที่จะทำไมได้ด้วยหลักสันติวิธี ทั้งนี้ พล.ต.จำลอง อึดอัดใจมานานเรื่องพฤษภาทมิฬ ที่มีคนกล่าวหาว่าเป็นคนพาคนไปตาย ทั้งที่ในข้อเท็จจริง เหตุการณ์ตอนที่ยิงประชาชนนั้น พล.ต.จำลอง ถูกจับติดคุกไปแล้ว
นายสนธิ กล่าวต่อว่า พล.ต.จำลอง เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ที่มีความอ่อนน้อมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทั้งที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ แต่เวลานัดแนะจะเป็นฝ่ายโทร.มาหาตนทุกครั้ง และจะถามก่อนว่าว่างหรือไม่ ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร บางครั้งเวลานัดเจอกันก็มารอก่อน นี่คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เวลาที่เอเอสทีวีเดือดร้อน ตนไม่เคยพูดสักคำ แต่ พล.ต.จำลอง เป็นนคนช่างสังเกต เมื่อรู้ว่าเงินเดือนออกช้า ก็อาสามาพูดให้เอง
“ผมถึงบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของพี่ลองผมพร้อมเอามาจูบ ด้วยความเคารพ มากกว่าหน้าขาวๆ ของ รัฐมนตรีพวกนั้น ขอประทานโทษ ส้นตีนของพี่ลองยังสะอาดกว่าจิตใจของพวกมันอีก”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า อยากให้พี่น้องหลับตาวาดภาพถึงญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ที่ใส่เสื้อกุยเฮง ใส่รองเท้าแตะ เดินอยู่ในซอย ใครเดือดร้อนช่วยเหลือ กินข้าวมื้อเดียว ไม่กินเนื้อสัตว์ เวลาผมยาวก็ให้ภรรยาตัดให้ คนที่เต็มไปด้วยความซื่อสัตย์อย่างนี้ แล้วพูดกับตนตลอดเวลาว่าการเมืองใหม่ต้องเอาสถาบันกษัตริย์เป็นตัวตั้ง เรื่องอื่นรอไว้ก่อน ต้องเอาสถาบันกษัตริย์ให้มั่นคงแข็งแรงก่อน เพราะถ้าสถาบันกษัตริย์มั่นคงแข็งแรงแล้ว เรื่องอื่นก็จะดีตามมาเอง เพราะสถาบันกษัตริย์ถูกรังแกมาตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ เมื่อปี 2544 ผ่านมา 7 ปีเต็มๆ ที่สถาบันกษัตริย์ถูกระบอบทักษิณ และบริวารจงใจทำให้สั่นคลอน และนั่นคือ ที่มาของการก่อตั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
นายสนธิ กล่าวต่อว่า พล.ต.จำลอง เป็นนักประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ใครไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดจะไม่รู้ ในแต่ละวันนั้น พล.ต.จำลอง จะโทร.มาตนหาไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้ง เพราะก่อนจะทำอะไรจะไม่ตัดสินใจคนเดียว ซึ่งเป็นไปได้อย่างไร คนที่เคยเป็นทหาร ตั้งเคยสั่งชี้เป็นชี้ตายในสมรภูมิ แต่จะทำอะไรต้องถามพวกเราตลอดเวลา จิตใจของ พล.ต.จำลอง เป็นประชาธิปไตยมากกว่าพวกนักการเมืองสถุลทั้งหลาย
“คนที่รักชาติ รักบ้านรักเมือง อายุ 73 ย่าง 74 ลูกก็ไม่มี มีแต่คุณงามความดีที่จะทำให้สังคม ลาภ ยศ ไม่ต้องการ เดินไปมา เดินมา เหมือนอาแปะ อาเจ๊ก จองพวกเรา ไปดูความสะดวกสบายของพี่น้อง อะไรติดขัดก็แก้ไข เรื่องห้องน้ำ เรื่องอาหารการกิน เรื่องเต็นท์ แล้วคนที่พูดตลอดว่าต้องเอาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไว้ก่อน แต่คนๆ นี้ถูกตั้งข้อหากบฏในราชอาณาจักร คนที่เป็นห่วงพี่น้องเรื่องห้องน้ำไม่พอ น้ำกินไม่พอ ห่วงคนที่มาร่วมชุมนุมจะได้รับบาดเจ็บ ต้องดูแลรักษาความปลอดภัยให้เขาให้ดี คนอย่างนี้แทนที่จะเสนอให้เหรียญตราให้ แต่พวกมันกลับยัดข้อหากบฏให้”
นายสนธิ กล่าวว่า การเสียสละของ พล.ต.จำลอง เป็นการเสียสละมากกว่าเรื่องอื่นใด สาเหตุที่ต้องไปเลือกตั้ง และไม่ไปไม่ได้ เพราะเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รางวัลแมกไซไซ และได้รางวัลบุคคลแห่งเอเชียมาก่อน ซึ่งเป็นการออกไปทั้งที่ต้องเสี่ยง ตนขอไปแทน ก็บอก ปล่อยคนแก่ไปเถอะ เหมือนกับไปรบ เวลาจะบุกโจมตีข้าศึก กลับเป็นคนแก่ที่ขออาสาบุกเข้าไปก่อน
“ไม่รู้ว่ารัฐบาลนายสมชาย ดูอยู่ไหม นายจงรักดูอยู่ไหม หลายๆ คนที่อยู่เบื้องหลังหมายจับดูอยู่หรือเปล่า ถ้ามีสมอง ก็จะเห็นว่าพี่ลองไม่ต่างจากพระ และมีวัตรปฏิบัติที่ดีกว่าพระหลายรูปเสียอีก พูดหยาบคายก็ไม่ยอม เวลามีปัญหาอะไรก็ขึ้นมาทันทีบอกพี่น้องให้อยู่ในความสงบ ให้มีสติ คนประเภทนี้เป็นคนมีธรรมในใจ เอาธรรมนำหน้า คนที่มาทำกับคนที่เอาธรรมนำหน้า ปฏิบัติธรรมมาหลายสิบปีแล้ว ลาภ ยศ สรรเสริญไม่เคยทำให้หวั่นไหว ไม่สนใจ ใครก็ตามมาทำคนที่มีธรรมนำหน้า มีธรรมในใจ จะต้องถึงกาลพินาศแน่นอน ทักษิณเองก็หนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น แล้วคนอย่างนายสมชาย นายจงรัก จะหนีกฎแห่งกรรมพ้นได้อย่างไร”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า คนอย่าง พล.ต.จำลอง เทิดทูนสถาบันกษัตริย์เหนือชีวิต เพราะเป็นทหารที่เรียนจบจากโรงเรียนนายร้อย จปร.ถูกสอนสั่งให้เทิดทูนบูชาสถาบันพระมหากษัตริย์เพราะฉะนั้นชีวิตนี้จนตายต้องปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งก็เช่นเดียวกับตนถึงจะเป็นลูกจีนแต่ก็มาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร เช่นเดียวกับลูกแขก ลูกฝรั่ง ลูกมุสลิม หรือใครก็ตาม ที่มาเกิดและทำมาหากินนำไทย ถือว่าทุกคนเป็นหนี้แผ่นดินไทย เป็นหนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้แน่นอน
หลังจากนั้น นายสนธิ ได้เปิดมวสิกวิดีโอเพลง “แสงดาวแห่งศรัทธา” ซึ่งเป็นเพลงที่ พล.ต.จำลองชื่นชอบ โดยเฉพาะท่อนที่มีเนื้อหาว่า ขอเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเข็ญ ซึ่งหมายถึงว่าความทุกข์ยากส่วนตัวเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเมื่อเทียบปับปัญหาของบ้านเมือง ทั้งนี้ พล.ต.จำลอง ถือเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเอาเยี่ยงอย่าง และต้องเอาไปสอนลูกสอนหลาน เป็นคนที่เอาธรรมนำหน้า มีธรรมในหัวใจ ไม่หลงใหลในลาภ ยศ สรรเสริญ ทุกอย่างเป็นเรื่อองของส่วนรวม ที่ออกมาสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเป็นคนที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดทางการเมืองและมาทรยศต่อบ้านเมือง จึงต้องลุกขึ้นสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายสนธิ กล่าวย้ำว่า ธรรมะไม่มีวันแพ้อธรรม แต่อาจใช้เวลาในการเอาชนะ เพราะอธรรมนั้น มีกิเลส ลาภ ยศ สรรเสริญเป็นตัวล่อ เหมือนตำรวจบางคนที่อยากเป็น ผบ.ตร.จึงเอาใจนายสมชายทุกประการ นั่นคือ อธรรม เพราะเห็นเพียงลาภยศ ที่อาจจะได้มาด้วยการสนองตัณหานักการเมือง ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ใส่ข้อหากบฏให้พวกเรา นอกจากนั้นแล้วยังไปข่มขู่ชาวบ้านที่ใช้มือตบ เป็นไปได้อย่างไร พล.ต.อ.ไปข่มขู่ชาวบ้าน ก็เพื่อให้นายสมชายเห็น เผื่อตัวเองจะได้ลาภลอย ได้เป็น ผบ.ตร.
“แต่ในทีสุดแล้วเขาต้องแพ้คนที่มีธรรม ต้องตกไปในห้วงเหวสลึก ลุกไม่ขึ้น ถูกสังคมสาปแช่ง และสาปแช่งตัวเองไม่พอ ยังสาปแช่งไปถึงลูกหลาน ถึงวงศ์ตระกูล”
นายสนธิ เปิดเผยอีกว่า มีการเตรียมการที่จะจับตน เพราะที่ที่พักอยู่นั้น อยู่ตรงกันข้ามบริษัทสามประสิทธิ์ ซึ่งมีเจ้าของเป็นพ่อตา พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย มีการเอารถตู้ไปแอบจอดข้างใน 2 คัน และมีตำรวจนอกเครื่องแบบ 10 กว่าคนคอยดักอยู่ ถ้าตนกลับไปก็จะเอาตำรวจ 10 กว่าคนนั้นมาอุ้ม แต่อยากจะบอกให้ได้ยินว่า ตนไม่กลัวการถูกจับ แต่ถ้าจับไป ขอให้เก็บตัวไว้ให้ได้ก็แล้วกัน หรือไม่ก็ฆ่าไปเลย
“ถ้าเราไม่กลัว ไม่ให้ความกลัวมาทำให้เรากลัว มันก็ไม่มีอะไรน่ากลัว ถ้าเราเอาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นตัวตั้ง แล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราก็ไม่มีอะไรน่ากลัว คนที่คอยขู่เข็ญ ข่มขู่โดยใช้อำนาจรัฐ พวกนี้เวลามันตกกระป๋อง ตกจากประวัติศาสตร์ ไม่อยู่ในอำนาจจะเป็นพวกที่ขี้ขลาดตาขาวที่สุด และเวลาที่จะตกเวที มันใกล้เข้ามาแล้ว อีกไม่กี่วันข้างหน้าเอง”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า วันพรุ่งนี้ เราจะรอคำสั่งศาลกรณีอุทธรณ์หมายจับ ขอให้พี่น้องฟัง 5 แกนนำก่อนที่จะทำอะไร และจะโทร.ถาม พล.ต.จำลอง ก่อน รวมทั้งจะรอพี่น้องที่มาจากต่างจังหวัด ที่จะมาถึงในช่วงดึกๆ คืนนี้ ไปจนถึงตอนเช้าและเย็นพรุ่งนี้ พวกเราจะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว จะไม่สยบต่อความชั่วร้าย ไม่ยอมต่อความไม่มีศีลธรรมจริยธรรมและไม่ชอบธรรมของรัฐบาลชุดนี้อีกต่อไป
“ขอให้รวบรวมจิตใจ ตั้งสติ อย่าให้เรื่องที่พี่ลอง คุณไชยวัฒน์ ถูกจับกุมต้องเสียเปล่า เราต้องเปลี่ยนความแค้นและน้ำตาให้เป็นพลัง พี่น้องต้องพูดกับตัวเองว่า กูจะไม่ยอมมึงอีกแล้ว และจะไม่มีวันยอมตลอดไป เรามาส่งพลังอันนี้ ให้พี่ลองได้ยิน ให้เทพเทวดา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินได้ยินถึงเจตนารมณ์ของเราที่จะเอาธรรมนำหน้า และสู้ให้ได้ชัยชนะ” นายสนธิ กล่าว