xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.แฉพิรุธ พิธีกรรมสอดไส้ส่อโฆมะ จ่อยื่นศาล รธน.ฟัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สาทิตย์ วงศ์หนองเตย
ปชป.เตรียมยื่นศาล รธน.ตีความ หลังพบพิรุธ “เฉลิม และพวก” สอดไส้ร่วมกดบัตรแสดงตนให้ครบองค์ประชุม ทั้งที่ไม่ลงชื่อเข้าประชุม ส่อแถลงนโยบายโมฆะ ชี้ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ

วันนี้ (10 ต.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคได้มีการมอบหมายคณะบุคคลไปตรวจสอบการประชุมแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เพราะเราเริ่มเห็นความไม่ปกติในการประชุมดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการสั่งให้องค์ประชุม 2 ครั้งจึงครบองค์ประชุม และการตรวจสอบคนที่เข้าไปในห้องประชุมสภาฯ ในวันนั้น เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐสภาและสื่อมวลชนให้ข้อมูลกับพรรคอยู่ตลอดว่าน่าจะมีความผิดปกติเกิดขึ้น เนื่องจากการยืนยันตัวเลของค์ประชุมของรัฐสภาครั้งหลังสุดอยู่ที่จำนวน 320 คน ซึ่งมีสมาชิกเข้าประชุมเกินจำนวนกึ่งหนึ่งเพียง 9 คน และเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา พรรคได้มอบหมายให้ ส.ส.30 คนไปขอเจ้าหน้าที่รัฐสภาตรวจสอบการลงชื่อเข้าประชุมโดยตรง ซึ่งได้ข้อพิรุธและเป็นข้อเท็จจริงที่เชื่อได้ว่าถ้าเป็นจริงตามนั้น การแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาจะไม่ชอบและเป็นโมฆะ ซึ่งหมายความว่านายกฯ แถลงนโยบายต่อรัฐสภาโดยมิชอบ ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกฯได้

ทั้งนี้ จากการตรวจพบว่ามีสมาชิกรัฐสภาเซ็นชื่อเข้าประชุมจำนวน 258 คน จากนั้นได้มีการกดบัตรเพื่อยืนยันองค์ประชุม ซึ่งปกติผู้ที่มีสิทธิ์ยืนยันองค์ประชุมด้วยการกดบัตรต้องเซ็นชื่อเข้าร่วมประชุมและต้องอยู่ในที่ประชุม แต่พบว่ามี 3 คนที่ไม่ได้ลงชื่อเข้าประชุมแต่มีชื่อในการกดบัตรซึ่งถ้าไม่ลงชื่อเข้าประชุมก็เท่ากับว่าไม่อยู่ในที่ประชุม คือ 1.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข และส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน 2.นายมานิต นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชาชน และ 3.นายสฤษฏ์ อึ้งอภินันท์ ส.ส.เชียงราย พรรคพลังประชาชน และยังได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มอีกจากภาพการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ตลอดเวลาการแถลงนโยบาย รวมถึงสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่รัฐสภาหลายคนยืนยันกับ ส.ส.ของพรรคที่ไปตรวจสอบ พบว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้อยู่ที่ประชุมรัฐสภาตลอดการประชุม และในช่วงที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมรัฐสภา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นข้อพิรุธ ผิดพลาด ซึ่งนำไปสู่การพิสูจน์ต่อไป โดยจะมี ส.ส.ของพรรคไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิดในรัฐสภาด้วย

“ข้อเท็จจริงเหล่านี้เพียงพอที่จะยืนยันได้ว่า การแถลงนโยบายดังกล่าวมีปัญหาผิดพลาดในเรื่องความชอบขององค์ประชุม และความชอบในการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีแน่นอน ข้อเท็จจริงนี้สมควรที่นายกฯ ควรจะยุติการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งความรับผิดชอบที่เป็นคนสั่งการให้มีการใช้กำลัง ทำให้ผู้ชุมนุมบาดเจ็บและล้มตาย เป็นข้อกล่าวหาที่ใหญ่หลวงพอที่จะการยุติการปฏิบัติหน้าที่ แต่เมื่อมีข้อพิรุธในการประชุมเพิ่มเติม ขึ้นเช่นนี้ก็เป็นเรื่องชอบที่นายกฯ จะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ในขณะนี้

น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ ส.ส.ลพบุรี กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากพรรคให้ไปดูความถูกต้องขององค์ประชุม โดยไปขอข้อมูลจากฝ่ายบันทึกเทปการประชุม และทำหนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการ ขอตรวจสอบรายชื่อการลงทะเบียน และ ลายเซ็นว่า มีข้อผิดปกติหรือไม่อย่างไร ซึ่งมี ส.ส.อย่างน้อย 3 คน ที่ไม่ได้ลงชื่อเข้าร่วมประชุม แต่ใช้สิทธิในการโหวตในสภา และ ในส่วนของส.ว. ขณะนี้ได้เข้าไปตรวจสอบด้วย โดยอาจจะมีกรณีเดียวกันได้ เพราะบรรยากาศการประชุมวันนั้น ผู้ที่เข้าร่วมประชุมน้อยมากไม่น่าจะถึง 320 คน ทั้งนี้ ในส่วนของบันทึกการทะเบียนรายชื่อเข้าร่วมประชุม ถ้าใครมาก็จะลงชื่อ แต่หากใครไม่เข้าร่วมประชุมจะมีการขีดเส้นแดงหลังรายชื่อ และลงว่าลำดับไหนไม่มาประชุม ซึ่งรายชื่อทั้ง 3 คนดังกล่าว มีการขีดเส้นแดง

รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า หากตรวจสอบพบว่าองค์ประชุมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. มีปัญหาเรื่ององค์ประชุม พรรคประชาธิปัตย์จะทำหนังสือไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย การแถลงนโยบายดังกล่าวเป็นโมฆะหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น