“สมศักดิ์” ยังยืนหยัดตั้ง ส.ส.ร.3 เดินหน้าแก้ไข รธน.ฝ่ากระแสสังคม เชื่อยุบสภา-ลาออกไม่ใช่ทางออก ผวาพันธมิตรฯ ไม่เลิกชุมนุมแน่ ซื้อเวลา ปชช.วอนรอดูหน้าตา คกก.สอบเหตุสลายม็อบก่อนแล้วค่อยติง โกหกตัวเองยึดหลักสมานฉันท์แก้ปัญหา
วันนี้ (10 ต.ค.) นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตอบข้อถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ว่าจะอยู่ยาวแค่ไหนว่า รัฐบาลคงต้องปฏิบัติภารกิจไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่ารัฐบาลต้องลาออก หรือยุบสภา หรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย ส่วนพรรคชาติไทยเองมองเรื่องการเรียกร้องให้ยุบสภา และลาออก และการตั้ง ส.ส.ร.3 ตนคิดว่า แนวทางออกที่ดีที่สุดเรื่องการตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะนี้เชื่อว่าการยุบสภาหรือการลาออก ไม่น่าจะแก้ปัญหาได้ เพราะการยุบสภาบนกติกาเดิม กรอบรัฐธรรมนูญเดิมไม่ใช่แนวทางการแก้ปัญหาเลย ถ้ายุบสภาขณะนี้ก็ต้องใช้รัฐธรรมนูญเดิม การเลือกตั้งทุกคนคงคาดการณ์ได้ว่าพรรคไหนจะได้เสียงข้างมากเข้ามา จะฟอร์มรัฐบาลในรูปแบบไหน
เมื่อถามว่า กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งและการได้มาจะเลิกชุมนุมหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มันก็ไม่มีทางเลิกรา จึงบอกว่าไม่มีแนวทางจะแก้ปัญหาได้ เมื่อเลือกตั้งเข้ามาแล้วก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญ เพราะที่มาไม่มีฐานรากมาจากประชาชน จึงทำให้เกิดช่องโหว่ทำให้เกิดปัญหาวิกฤตในปัจจุบันนี้ พอแก้รัฐธรรมนูญเสร็จกระแสสังคมก็ต้องการกลับไปสู่การเลือกตั้งอีก จะเห็นว่าเลือกตั้งติดๆ กัน 2 ครั้งแน่ แต่ถ้าเราแก้รัฐธรรมนูญเสียให้เสร็จดำเนินการแก้มาตรา 291 และตั้ง ส.ส.ร.ให้เสร็จ กำหนดเงื่อนเวลา 120-180 วันแก้รัฐธรรมนูญให้จบเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านประกาศไม่ร่วมมือตั้ง ส.ส.ร. 3 จะเป็นปัญหาหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในขณะนี้สถานการณ์ยามนี้ทุกคนอาจคิดได้ แต่หลังจากดำเนินการไปแล้ว การตัดสินใจเปลี่ยนความคิดจากข้อมูลใหม่ ตนยังมีความมั่นใจว่าน่าจะเกิดความร่วมมือร่วมใจกัน เพราะฝ่ายค้านได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจน เมื่อตอนที่มีการเชิญทั้ง 4 ฝ่ายมาพบกันทั้ง ฝ่ายการเมือง ฝ่ายค้าน รัฐบาล และวุฒิสภา พปปะกันทุกฝ่าย ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์เองก็สนับสนุนแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ไปสู่การตั้ง ส.ส.ร. ปฏิรูปทางการเมืองใหม่ แต่เมื่อเหตุการณ์ 7 ต.ค. สถานการณ์มาอย่างหนึ่ง ข้อมูลมาอย่างหนึ่งจึงเปลี่ยนความคิด ขณะนี้ทางออกไม่มีทางใดดีกว่าทางนี้แล้วก็อาจจะทำให้ประชาธิปัตย์ต้องตัดสินใจใหม่ก็ได้
เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ย้ำจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราเคารพความคิดเห็นของกลุ่มพันธมิตรฯ เขาอาจมีความรู้สึกอย่างนั้นก็ได้ แต่คิดว่าสิ่งที่เราทำต้องการแก้ปัญหาเพื่อผ่าทางตันของสังคม ฉะนั้น การร่วมมือของทุกฝ่ายคิดว่า พันธมิตรฯ อย่าไปยึดติด แต่คิดว่าจะแก้ไขปัญหาประเทศ และยินดีเข้ามาร่วมทำงานกันทุกฝ่าย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว เป็นเรื่องของคนทั้งประเทศมาร่วมมือแก้ไขวิกฤต ที่เป็นอยู่ในขณะนี้และจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
เมื่อถามว่า ส.ส.ร.3 จะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่หลังจากเหตุการณ์ 7 ต.ค.มีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าวันนี้มัวแต่หยิบยกเหตุการณ์ขึ้นมาก็ไม่ต้องทำอะไรเลย เราจะหาทางออกให้บ้านเมืองได้อย่างไร คิดว่าเวลาต้องระดมความคิดเห็นกันและต้องทำคู่ขนานกันไป เหตุการณ์ 7 ต.ค.ใครถูกใครผิดวันนี้รัฐบาลพร้อมแล้วในการตั้งคณะกรรมการสะสางเรื่องนี้ ผิดคือผิด ถูกคือถูก ว่ากันไป ขณะเดียวกันการดำเนินการปฏิรูปการเมืองใหม่เพื่อแก้วิกฤติการเมืองต้องคู่ขนานกันไป คิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด เมื่อถามว่ากรรมการที่จะมาเป็นใครบ้าง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลกำลังทาบทามอยู่ วานนี้ตนเสนอ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ทุกคนก็เห็นว่าเป็นบุคคลที่สังคมให้ความเชื่อถือ กลุ่มภาคนักวิชาการเชี่ยวชาญวัตถุระเบิด กลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาการบาดเจ็บ อาการตายของคน ระดมเข้ามาเป็นคณะกรรมการกลางสอบสวน โดยไม่มีฝ่ายการเมืองเข้ามาน่าจะเป็นสำคัญ
เมื่อถามว่า มีการตีภาพเหตุการณ์ต่างๆ ไปในต่างประเทศจะแก้ภาพลักษณ์ประเทศในสายตาชาวโลกอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การแก้ภาพลักษณ์ของประเทศเราจะให้คนอื่นแก้ไม่ได้ต้องเป็นคนไทยด้วยกันแก้ภาพลักษณ์ด้วยการเรียกร้องความเชื่อมั่น สมานฉันท์ จริงๆ แล้วประเทศไทยยังมีเสน่ห์ วานนี้ รมต.เกษตรของมาเลเซียมาเยี่ยมเยือนยังได้พูดคุยกัน ระบุว่า เห็นภาพข่าวที่สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ออกไป และพอมาไทยได้พบเห็นจริง ท่านระบุว่ามันคนละเรื่อง ตนจึงฝากท่านไปว่า เมื่อกลับไปมาเลเซียขอให้นำภาพจริงๆ กลับไปบอกพี่น้องมาเลเซียว่ามาเที่ยวเมืองไทยวันนี้ความปลอดภัยยังมีอยู่ ไทยยังมีเสน่ห์ให้มาพักผ่อน ตักตวงประสบการณ์อีกมาก
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายไม่ยอมรับคณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทันตั้งเลยก็จะไม่รับแล้วหรือ เมื่อถามว่า การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอย่างนี้แสดงว่ารัฐบาลไม่รับผิดชอบอะไรเลย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบ ถ้าปัดจริงๆ รัฐบาลต้องไม่ทำอะไรเลย การตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงโดยใช้คนที่เป็นกลางมาทำหน้าที่สอบสวน โดยไม่มีฝ่ายรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง คือความรับผิดชอบของรัฐบาล เพราะต้องการให้ความจริงเรื่องนี้ปรากฏต่อสังคมไทยโดยเร็วที่สุด หากเราไปตั้งคณะกรรมการขึ้นมาโดยเป็นคนของรัฐบาลทั้งหมด แบบนี้ค่อยมาว่ารัฐบาลไม่จริงใจ ขอให้รอดูหน้าตาคนที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการเสียก่อน ต่อข้อถามว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมามักหายไปกับสายลมแทบทุกครั้ง เอาผิดใครไม่ได้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งหมดอยู่ที่ข้อเท้จจริง มันเป็นอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น การตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงคงไม่มีใครปกปิด เพราะคนที่ทำไม่ใช่ฝ่ายการเมือง เป็นฝ่ายที่สังคมให้การยอมรับ อย่าง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ตอบรับมาเป็นกรรมการก็เป็นความเชื่อมั่นอันหนึ่งแล้ว เพราะคนอย่างท่านไม่ใช่คนที่ปิดบัง หรือมีพฤติกรรมน่าเคลือบแคลง แน่นอนว่าถ้ามีคนผิดก็ต้องดำเนินการ ในแง่กฎหมายมันมีกระบวนการอยู่แล้ว